Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๑๐. ทุติยปาปณิกสุตฺตํ
10. Dutiyapāpaṇikasuttaṃ
๒๐. ‘‘ตีหิ , ภิกฺขเว, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ปาปณิโก นจิรเสฺสว มหตฺตํ เวปุลฺลตฺตํ 1 ปาปุณาติ โภเคสุฯ กตเมหิ ตีหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ปาปณิโก จกฺขุมา จ โหติ วิธุโร จ นิสฺสยสมฺปโนฺน จฯ กถญฺจ, ภิกฺขเว, ปาปณิโก จกฺขุมา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ปาปณิโก ปณิยํ ชานาติ – ‘อิทํ ปณิยํ เอวํ กีตํ, เอวํ วิกฺกยมานํ 2, เอตฺตกํ มูลํ ภวิสฺสติ, เอตฺตโก อุทโย’ติ 3ฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปาปณิโก จกฺขุมา โหติฯ
20. ‘‘Tīhi , bhikkhave, aṅgehi samannāgato pāpaṇiko nacirasseva mahattaṃ vepullattaṃ 4 pāpuṇāti bhogesu. Katamehi tīhi? Idha, bhikkhave, pāpaṇiko cakkhumā ca hoti vidhuro ca nissayasampanno ca. Kathañca, bhikkhave, pāpaṇiko cakkhumā hoti? Idha, bhikkhave, pāpaṇiko paṇiyaṃ jānāti – ‘idaṃ paṇiyaṃ evaṃ kītaṃ, evaṃ vikkayamānaṃ 5, ettakaṃ mūlaṃ bhavissati, ettako udayo’ti 6. Evaṃ kho, bhikkhave, pāpaṇiko cakkhumā hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ปาปณิโก วิธุโร โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ปาปณิโก กุสโล โหติ ปณิยํ เกตุญฺจ วิเกฺกตุญฺจฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปาปณิโก วิธุโร โหติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, pāpaṇiko vidhuro hoti? Idha, bhikkhave, pāpaṇiko kusalo hoti paṇiyaṃ ketuñca vikketuñca. Evaṃ kho, bhikkhave, pāpaṇiko vidhuro hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ปาปณิโก นิสฺสยสมฺปโนฺน โหติ? อิธ ภิกฺขเว , ปาปณิกํ เย เต คหปตี วา คหปติปุตฺตา วา อฑฺฒา มหทฺธนา มหาโภคา เต เอวํ ชานนฺติ – ‘อยํ โข ภวํ ปาปณิโก จกฺขุมา วิธุโร จ ปฎิพโล ปุตฺตทารญฺจ โปเสตุํ, อมฺหากญฺจ กาเลน กาลํ อนุปฺปทาตุ’นฺติฯ เต นํ โภเคหิ นิปตนฺติ – ‘อิโต, สมฺม ปาปณิก, โภเค กริตฺวา 7 ปุตฺตทารญฺจ โปเสหิ, อมฺหากญฺจ กาเลน กาลํ อนุปฺปเทหี’ติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปาปณิโก นิสฺสยสมฺปโนฺน โหติฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ปาปณิโก นจิรเสฺสว มหตฺตํ เวปุลฺลตฺตํ ปาปุณาติ โภเคสุฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, pāpaṇiko nissayasampanno hoti? Idha bhikkhave , pāpaṇikaṃ ye te gahapatī vā gahapatiputtā vā aḍḍhā mahaddhanā mahābhogā te evaṃ jānanti – ‘ayaṃ kho bhavaṃ pāpaṇiko cakkhumā vidhuro ca paṭibalo puttadārañca posetuṃ, amhākañca kālena kālaṃ anuppadātu’nti. Te naṃ bhogehi nipatanti – ‘ito, samma pāpaṇika, bhoge karitvā 8 puttadārañca posehi, amhākañca kālena kālaṃ anuppadehī’ti. Evaṃ kho, bhikkhave, pāpaṇiko nissayasampanno hoti. Imehi kho, bhikkhave, tīhi aṅgehi samannāgato pāpaṇiko nacirasseva mahattaṃ vepullattaṃ pāpuṇāti bhogesu.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ นจิรเสฺสว มหตฺตํ เวปุลฺลตฺตํ ปาปุณาติ กุสเลสุ ธเมฺมสุฯ กตเมหิ ตีหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุมา จ โหติ วิธุโร จ นิสฺสยสมฺปโนฺน จฯ กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุมา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุมา โหติฯ
‘‘Evamevaṃ kho, bhikkhave, tīhi dhammehi samannāgato bhikkhu nacirasseva mahattaṃ vepullattaṃ pāpuṇāti kusalesu dhammesu. Katamehi tīhi? Idha, bhikkhave, bhikkhu cakkhumā ca hoti vidhuro ca nissayasampanno ca. Kathañca, bhikkhave, bhikkhu cakkhumā hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu ‘idaṃ dukkha’nti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘ayaṃ dukkhasamudayo’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘ayaṃ dukkhanirodho’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’ti yathābhūtaṃ pajānāti. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu cakkhumā hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิธุโร โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธเมฺมสุฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิธุโร โหติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu vidhuro hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu āraddhavīriyo viharati akusalānaṃ dhammānaṃ pahānāya, kusalānaṃ dhammānaṃ upasampadāya, thāmavā daḷhaparakkamo anikkhittadhuro kusalesu dhammesu. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu vidhuro hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นิสฺสยสมฺปโนฺน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ภิกฺขู พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปริปญฺหติ – ‘อิทํ, ภเนฺต, กถํ, อิมสฺส โก อโตฺถ’ติ? ตสฺส เต อายสฺมโนฺต อวิวฎเญฺจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตญฺจ อุตฺตานีกโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาฐานิเยสุ ธเมฺมสุ กงฺขํ ปฎิวิโนเทนฺติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นิสฺสยสมฺปโนฺน โหติฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ นจิรเสฺสว มหตฺตํ เวปุลฺลตฺตํ ปาปุณาติ กุสเลสุ ธเมฺมสู’’ติฯ ทสมํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu nissayasampanno hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu ye te bhikkhū bahussutā āgatāgamā dhammadharā vinayadharā mātikādharā te kālena kālaṃ upasaṅkamitvā paripucchati paripañhati – ‘idaṃ, bhante, kathaṃ, imassa ko attho’ti? Tassa te āyasmanto avivaṭañceva vivaranti, anuttānīkatañca uttānīkaronti, anekavihitesu ca kaṅkhāṭhāniyesu dhammesu kaṅkhaṃ paṭivinodenti. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu nissayasampanno hoti. Imehi kho, bhikkhave, tīhi dhammehi samannāgato bhikkhu nacirasseva mahattaṃ vepullattaṃ pāpuṇāti kusalesu dhammesū’’ti. Dasamaṃ.
รถการวโคฺค ทุติโยฯ
Rathakāravaggo dutiyo.
ปฐมภาณวาโร นิฎฺฐิโตฯ
Paṭhamabhāṇavāro niṭṭhito.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
อปณฺณกตฺตา เทโว จ, ทุเว ปาปณิเกน จาติฯ
Apaṇṇakattā devo ca, duve pāpaṇikena cāti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. ทุติยปาปณิกสุตฺตวณฺณนา • 10. Dutiyapāpaṇikasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑๐. ทุติยปาปณิกสุตฺตวณฺณนา • 10. Dutiyapāpaṇikasuttavaṇṇanā