Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ภิกฺขุนีวิภงฺค • Bhikkhunīvibhaṅga |
๒. ทุติยปาราชิกํ
2. Dutiyapārājikaṃ
๖๖๔. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน สุนฺทรีนนฺทา ภิกฺขุนี สาเฬฺหน มิคารนตฺตุนา คพฺภินี โหติ ฯ ยาว คโพฺภ ตรุโณ อโหสิ ตาว ฉาเทสิฯ ปริปเกฺก คเพฺภ วิพฺภมิตฺวา วิชายิฯ ภิกฺขุนิโย ถุลฺลนนฺทํ ภิกฺขุนิํ เอตทโวจุํ – ‘‘สุนฺทรีนนฺทา โข, อเยฺย, อจิรวิพฺภนฺตา วิชาตาฯ กจฺจิ โน สา ภิกฺขุนีเยว สมานา คพฺภินี’’ติ? ‘‘เอวํ, อเยฺย’’ติฯ ‘‘กิสฺส ปน ตฺวํ, อเยฺย, ชานํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺนํ ภิกฺขุนิํ เนวตฺตนา ปฎิโจเทสิ น คณสฺส อาโรเจสี’’ติ? ‘‘โย เอติสฺสา อวโณฺณ มเยฺหโส อวโณฺณ, ยา เอติสฺสา อกิตฺติ มเยฺหสา อกิตฺติ, โย เอติสฺสา อยโส มเยฺหโส อยโส, โย เอติสฺสา อลาโภ มเยฺหโส อลาโภฯ กฺยาหํ, อเยฺย, อตฺตโน อวณฺณํ อตฺตโน อกิตฺติํ อตฺตโน อยสํ อตฺตโน อลาภํ ปเรสํ อาโรเจสฺสามี’’ติ? ยา ตา ภิกฺขุนิโย อปฺปิจฺฉา…เป.… ตา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อยฺยา ถุลฺลนนฺทา ชานํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺนํ ภิกฺขุนิํ เนวตฺตนา ปฎิโจเทสฺสติ น คณสฺส อาโรเจสฺสตี’’ติ! อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ภิกฺขู 1 ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ภิกฺขู ปฎิปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ถุลฺลนนฺทา ภิกฺขุนี ชานํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺนํ ภิกฺขุนิํ เนวตฺตนา ปฎิโจเทติ 2 น คณสฺส อาโรเจตี’’ติ 3? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม, ภิกฺขเว, ถุลฺลนนฺทา ภิกฺขุนี ชานํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺนํ ภิกฺขุนิํ เนวตฺตนา ปฎิโจเทสฺสติ น คณสฺส อาโรเจสฺสติ! เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิโย อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิสนฺตุ –
664. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena sundarīnandā bhikkhunī sāḷhena migāranattunā gabbhinī hoti . Yāva gabbho taruṇo ahosi tāva chādesi. Paripakke gabbhe vibbhamitvā vijāyi. Bhikkhuniyo thullanandaṃ bhikkhuniṃ etadavocuṃ – ‘‘sundarīnandā kho, ayye, aciravibbhantā vijātā. Kacci no sā bhikkhunīyeva samānā gabbhinī’’ti? ‘‘Evaṃ, ayye’’ti. ‘‘Kissa pana tvaṃ, ayye, jānaṃ pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannaṃ bhikkhuniṃ nevattanā paṭicodesi na gaṇassa ārocesī’’ti? ‘‘Yo etissā avaṇṇo mayheso avaṇṇo, yā etissā akitti mayhesā akitti, yo etissā ayaso mayheso ayaso, yo etissā alābho mayheso alābho. Kyāhaṃ, ayye, attano avaṇṇaṃ attano akittiṃ attano ayasaṃ attano alābhaṃ paresaṃ ārocessāmī’’ti? Yā tā bhikkhuniyo appicchā…pe… tā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma ayyā thullanandā jānaṃ pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannaṃ bhikkhuniṃ nevattanā paṭicodessati na gaṇassa ārocessatī’’ti! Atha kho tā bhikkhuniyo bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesuṃ. Bhikkhū 4 bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā bhikkhū paṭipucchi – ‘‘saccaṃ kira, bhikkhave, thullanandā bhikkhunī jānaṃ pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannaṃ bhikkhuniṃ nevattanā paṭicodeti 5 na gaṇassa ārocetī’’ti 6? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma, bhikkhave, thullanandā bhikkhunī jānaṃ pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannaṃ bhikkhuniṃ nevattanā paṭicodessati na gaṇassa ārocessati! Netaṃ, bhikkhave, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, bhikkhuniyo imaṃ sikkhāpadaṃ uddisantu –
๖๖๕. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ชานํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺนํ ภิกฺขุนิํ เนวตฺตนา ปฎิโจเทยฺย น คณสฺส อาโรเจยฺย, ยทา จ สา ฐิตา วา อสฺส จุตา วา นาสิตา วา อวสฺสฎา วา, สา ปจฺฉา เอวํ วเทยฺย – ‘ปุเพฺพวาหํ, อเยฺย, อญฺญาสิํ เอตํ ภิกฺขุนิํ เอวรูปา จ เอวรูปา จ สา ภคินีติ , โน จ โข อตฺตนา ปฎิโจเทสฺสํ น คณสฺส อาโรเจสฺส’นฺติ, อยมฺปิ ปาราชิกา โหติ อสํวาสา วชฺชปฺปฎิจฺฉาทิกา’’ติฯ
665.‘‘Yā pana bhikkhunī jānaṃ pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannaṃ bhikkhuniṃ nevattanā paṭicodeyya na gaṇassa āroceyya, yadā ca sā ṭhitā vā assa cutā vā nāsitā vā avassaṭā vā, sā pacchā evaṃ vadeyya – ‘pubbevāhaṃ, ayye, aññāsiṃ etaṃ bhikkhuniṃ evarūpā ca evarūpā ca sā bhaginīti, no ca kho attanā paṭicodessaṃ na gaṇassa ārocessa’nti, ayampi pārājikā hoti asaṃvāsā vajjappaṭicchādikā’’ti.
๖๖๖. ยา ปนาติ ยา ยาทิสา…เป.… ภิกฺขุนีติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปตา ภิกฺขุนีติฯ
666.Yā panāti yā yādisā…pe… bhikkhunīti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippetā bhikkhunīti.
ชานาติ นาม สามํ วา ชานาติ, อเญฺญ วา ตสฺสา อาโรเจนฺติ, สา วา อาโรเจติฯ
Jānāti nāma sāmaṃ vā jānāti, aññe vā tassā ārocenti, sā vā āroceti.
ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺนนฺติ อฎฺฐนฺนํ ปาราชิกานํ อญฺญตรํ ปาราชิกํ อชฺฌาปนฺนํฯ
Pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannanti aṭṭhannaṃ pārājikānaṃ aññataraṃ pārājikaṃ ajjhāpannaṃ.
เนวตฺตนา ปฎิโจเทยฺยาติ น สยํ โจเทยฺยฯ
Nevattanāpaṭicodeyyāti na sayaṃ codeyya.
น คณสฺส อาโรเจยฺยาติ น อญฺญาสํ ภิกฺขุนีนํ อาโรเจยฺยฯ
Na gaṇassa āroceyyāti na aññāsaṃ bhikkhunīnaṃ āroceyya.
ยทา จ สา ฐิตา วา อสฺส จุตา วาติ ฐิตา นาม สลิเงฺค ฐิตา วุจฺจติฯ จุตา นาม กาลงฺกตา วุจฺจติฯ นาสิตา นาม สยํ วา วิพฺภนฺตา โหติ อเญฺญหิ วา นาสิตาฯ อวสฺสฎา นาม ติตฺถายตนํ สงฺกนฺตา วุจฺจติฯ สา ปจฺฉา เอวํ วเทยฺย – ‘‘ปุเพฺพวาหํ, อเยฺย, อญฺญาสิํ เอตํ ภิกฺขุนิํ เอวรูปา จ เอวรูปา จ สา ภคินี’’ติฯ
Yadāca sā ṭhitā vā assa cutā vāti ṭhitā nāma saliṅge ṭhitā vuccati. Cutā nāma kālaṅkatā vuccati. Nāsitā nāma sayaṃ vā vibbhantā hoti aññehi vā nāsitā. Avassaṭā nāma titthāyatanaṃ saṅkantā vuccati. Sā pacchā evaṃ vadeyya – ‘‘pubbevāhaṃ, ayye, aññāsiṃ etaṃ bhikkhuniṃ evarūpā ca evarūpā ca sā bhaginī’’ti.
โน จ โข อตฺตนา ปฎิโจเทสฺสนฺติ สยํ วา น โจเทสฺสํฯ
No ca kho attanā paṭicodessanti sayaṃ vā na codessaṃ.
น คณสฺส อาโรเจสฺสนฺติ น อญฺญาสํ ภิกฺขุนีนํ อาโรเจสฺสํฯ
Na gaṇassa ārocessanti na aññāsaṃ bhikkhunīnaṃ ārocessaṃ.
อยมฺปีติ ปุริมาโย อุปาทาย วุจฺจติฯ
Ayampīti purimāyo upādāya vuccati.
ปาราชิกา โหตีติ เสยฺยถาปิ นาม ปณฺฑุปลาโส พนฺธนา ปมุโตฺต อภโพฺพ หริตตฺถาย, เอวเมว ภิกฺขุนี ชานํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺนํ ภิกฺขุนิํ เนวตฺตนา ปฎิโจเทสฺสามิ น คณสฺส อาโรเจสฺสามีติ ธุรํ นิกฺขิตฺตมเตฺต อสฺสมณี โหติ อสกฺยธีตาฯ เตน วุจฺจติ ปาราชิกา โหตีติฯ
Pārājikā hotīti seyyathāpi nāma paṇḍupalāso bandhanā pamutto abhabbo haritatthāya, evameva bhikkhunī jānaṃ pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannaṃ bhikkhuniṃ nevattanā paṭicodessāmi na gaṇassa ārocessāmīti dhuraṃ nikkhittamatte assamaṇī hoti asakyadhītā. Tena vuccati pārājikā hotīti.
อสํวาสาติ สํวาโส นาม เอกกมฺมํ เอกุเทฺทโส สมสิกฺขตาฯ เอโส สํวาโส นามฯ โส ตาย สทฺธิํ นตฺถิฯ เตน วุจฺจติ อสํวาสาติฯ
Asaṃvāsāti saṃvāso nāma ekakammaṃ ekuddeso samasikkhatā. Eso saṃvāso nāma. So tāya saddhiṃ natthi. Tena vuccati asaṃvāsāti.
๖๖๗. อนาปตฺติ ‘‘สงฺฆสฺส ภณฺฑนํ วา กลโห วา วิคฺคโห วา วิวาโท วา ภวิสฺสตี’’ติ นาโรเจติ, ‘‘สงฺฆเภโท วา สงฺฆราชิ วา ภวิสฺสตี’’ติ นาโรเจติ, ‘‘อยํ กกฺขฬา ผรุสา ชีวิตนฺตรายํ วา พฺรหฺมจริยนฺตรายํ วา กริสฺสตี’’ติ นาโรเจติ, อญฺญา ปติรูปา ภิกฺขุนิโย อปสฺสนฺตี นาโรเจติ, นจฺฉาเทตุกามา นาโรเจติ, ปญฺญายิสฺสติ สเกน กเมฺมนาติ นาโรเจติ, อุมฺมตฺติกาย…เป.… อาทิกมฺมิกายาติฯ
667. Anāpatti ‘‘saṅghassa bhaṇḍanaṃ vā kalaho vā viggaho vā vivādo vā bhavissatī’’ti nāroceti, ‘‘saṅghabhedo vā saṅgharāji vā bhavissatī’’ti nāroceti, ‘‘ayaṃ kakkhaḷā pharusā jīvitantarāyaṃ vā brahmacariyantarāyaṃ vā karissatī’’ti nāroceti, aññā patirūpā bhikkhuniyo apassantī nāroceti, nacchādetukāmā nāroceti, paññāyissati sakena kammenāti nāroceti, ummattikāya…pe… ādikammikāyāti.
ทุติยปาราชิกํ สมตฺตํฯ
Dutiyapārājikaṃ samattaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / ภิกฺขุนีวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Bhikkhunīvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๒. ทุติยปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Dutiyapārājikasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๒. ทุติยปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Dutiyapārājikasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๒. ทุติยปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Dutiyapārājikasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๒. วชฺชปฎิจฺฉาทิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Vajjapaṭicchādikasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒. ทุติยปาราชิกสิกฺขาปทํ • 2. Dutiyapārājikasikkhāpadaṃ