Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga |
๒. ทุติยปาราชิกํ
2. Dutiyapārājikaṃ
๘๔. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฎ ปพฺพเตฯ เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา สนฺทิฎฺฐา สมฺภตฺตา ภิกฺขู อิสิคิลิปเสฺส ติณกุฎิโย กริตฺวา วสฺสํ อุปคจฺฉิํสุฯ อายสฺมาปิ ธนิโย กุมฺภการปุโตฺต ติณกุฎิกํ กริตฺวา วสฺสํ อุปคจฺฉิฯ อถ โข เต ภิกฺขู วสฺสํวุฎฺฐา เตมาสจฺจเยน ติณกุฎิโย ภินฺทิตฺวา ติณญฺจ กฎฺฐญฺจ ปฎิสาเมตฺวา ชนปทจาริกํ ปกฺกมิํสุฯ อายสฺมา ปน ธนิโย กุมฺภการปุโตฺต ตเตฺถว วสฺสํ วสิ, ตตฺถ เหมนฺตํ, ตตฺถ คิมฺหํฯ อถ โข อายสฺมโต ธนิยสฺส กุมฺภการปุตฺตสฺส คามํ ปิณฺฑาย ปวิฎฺฐสฺส ติณหาริโย กฎฺฐหาริโย ติณกุฎิกํ ภินฺทิตฺวา ติณญฺจ กฎฺฐญฺจ อาทาย อคมํสุฯ ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา ธนิโย กุมฺภการปุโตฺต ติณญฺจ กฎฺฐญฺจ สํกฑฺฒิตฺวา ติณกุฎิกํ อกาสิฯ ทุติยมฺปิ โข อายสฺมโต ธนิยสฺส กุมฺภการปุตฺตสฺส คามํ ปิณฺฑาย ปวิฎฺฐสฺส ติณหาริโย กฎฺฐหาริโย ติณกุฎิกํ ภินฺทิตฺวา ติณญฺจ กฎฺฐญฺจ อาทาย อคมํสุฯ ตติยมฺปิ โข อายสฺมา ธนิโย กุมฺภการปุโตฺต ติณญฺจ กฎฺฐญฺจ สํกฑฺฒิตฺวา ติณกุฎิกํ อกาสิฯ ตติยมฺปิ โข อายสฺมโต ธนิยสฺส กุมฺภการปุตฺตสฺส คามํ ปิณฺฑาย ปวิฎฺฐสฺส ติณหาริโย กฎฺฐหาริโย ติณกุฎิกํ ภินฺทิตฺวา ติณญฺจ กฎฺฐญฺจ อาทาย อคมํสุฯ
84. Tena samayena buddho bhagavā rājagahe viharati gijjhakūṭe pabbate. Tena kho pana samayena sambahulā sandiṭṭhā sambhattā bhikkhū isigilipasse tiṇakuṭiyo karitvā vassaṃ upagacchiṃsu. Āyasmāpi dhaniyo kumbhakāraputto tiṇakuṭikaṃ karitvā vassaṃ upagacchi. Atha kho te bhikkhū vassaṃvuṭṭhā temāsaccayena tiṇakuṭiyo bhinditvā tiṇañca kaṭṭhañca paṭisāmetvā janapadacārikaṃ pakkamiṃsu. Āyasmā pana dhaniyo kumbhakāraputto tattheva vassaṃ vasi, tattha hemantaṃ, tattha gimhaṃ. Atha kho āyasmato dhaniyassa kumbhakāraputtassa gāmaṃ piṇḍāya paviṭṭhassa tiṇahāriyo kaṭṭhahāriyo tiṇakuṭikaṃ bhinditvā tiṇañca kaṭṭhañca ādāya agamaṃsu. Dutiyampi kho āyasmā dhaniyo kumbhakāraputto tiṇañca kaṭṭhañca saṃkaḍḍhitvā tiṇakuṭikaṃ akāsi. Dutiyampi kho āyasmato dhaniyassa kumbhakāraputtassa gāmaṃ piṇḍāya paviṭṭhassa tiṇahāriyo kaṭṭhahāriyo tiṇakuṭikaṃ bhinditvā tiṇañca kaṭṭhañca ādāya agamaṃsu. Tatiyampi kho āyasmā dhaniyo kumbhakāraputto tiṇañca kaṭṭhañca saṃkaḍḍhitvā tiṇakuṭikaṃ akāsi. Tatiyampi kho āyasmato dhaniyassa kumbhakāraputtassa gāmaṃ piṇḍāya paviṭṭhassa tiṇahāriyo kaṭṭhahāriyo tiṇakuṭikaṃ bhinditvā tiṇañca kaṭṭhañca ādāya agamaṃsu.
อถ โข อายสฺมโต ธนิยสฺส กุมฺภการปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยาวตติยกํ โข เม คามํ ปิณฺฑาย ปวิฎฺฐสฺส ติณหาริโย กฎฺฐหาริโย ติณกุฎิกํ ภินฺทิตฺวา ติณญฺจ กฎฺฐญฺจ อาทาย อคมํสุฯ อหํ โข ปน สุสิกฺขิโต อนวโย สเก อาจริยเก กุมฺภการกเมฺม ปริโยทาตสิโปฺป ฯ ยํนูนาหํ สามํ จิกฺขลฺลํ มทฺทิตฺวา สพฺพมตฺติกามยํ กุฎิกํ กเรยฺย’’นฺติ! อถ โข อายสฺมา ธนิโย กุมฺภการปุโตฺต สามํ จิกฺขลฺลํ มทฺทิตฺวา สพฺพมตฺติกามยํ กุฎิกํ กริตฺวา ติณญฺจ กฎฺฐญฺจ โคมยญฺจ สํกฑฺฒิตฺวา ตํ กุฎิกํ ปจิฯ สา อโหสิ กุฎิกา อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา โลหิติกา 1, เสยฺยถาปิ อินฺทโคปโกฯ เสยฺยถาปิ นาม กิงฺกณิกสโทฺท 2 เอวเมวํ ตสฺสา กุฎิกาย สโทฺท อโหสิฯ
Atha kho āyasmato dhaniyassa kumbhakāraputtassa etadahosi – ‘‘yāvatatiyakaṃ kho me gāmaṃ piṇḍāya paviṭṭhassa tiṇahāriyo kaṭṭhahāriyo tiṇakuṭikaṃ bhinditvā tiṇañca kaṭṭhañca ādāya agamaṃsu. Ahaṃ kho pana susikkhito anavayo sake ācariyake kumbhakārakamme pariyodātasippo . Yaṃnūnāhaṃ sāmaṃ cikkhallaṃ madditvā sabbamattikāmayaṃ kuṭikaṃ kareyya’’nti! Atha kho āyasmā dhaniyo kumbhakāraputto sāmaṃ cikkhallaṃ madditvā sabbamattikāmayaṃ kuṭikaṃ karitvā tiṇañca kaṭṭhañca gomayañca saṃkaḍḍhitvā taṃ kuṭikaṃ paci. Sā ahosi kuṭikā abhirūpā dassanīyā pāsādikā lohitikā 3, seyyathāpi indagopako. Seyyathāpi nāma kiṅkaṇikasaddo 4 evamevaṃ tassā kuṭikāya saddo ahosi.
๘๕. อถ โข ภควา สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ คิชฺฌกูฎา ปพฺพตา โอโรหโนฺต อทฺทส ตํ กุฎิกํ อภิรูปํ ทสฺสนียํ ปาสาทิกํ โลหิติกํฯ ทิสฺวาน ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘กิํ เอตํ, ภิกฺขเว, อภิรูปํ ทสฺสนียํ ปาสาทิกํ โลหิติกํ, เสยฺยถาปิ อินฺทโคปโก’’ติ? อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา – ‘‘อนนุจฺฉวิกํ, ภิกฺขเว, ตสฺส โมฆปุริสสฺส อนนุโลมิกํ อปฺปติรูปํ อสฺสามณกํ อกปฺปิยํ อกรณียํฯ กถญฺหิ นาม โส, ภิกฺขเว, โมฆปุริโส สพฺพมตฺติกามยํ กุฎิกํ กริสฺสติ! น หิ นาม, ภิกฺขเว, ตสฺส โมฆปุริสสฺส ปาเณสุ อนุทฺทยา อนุกมฺปา อวิเหสา ภวิสฺสติ! คจฺฉเถตํ, ภิกฺขเว, กุฎิกํ ภินฺทถฯ มา ปจฺฉิมา ชนตา ปาเณสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชิฯ น จ, ภิกฺขเว, สพฺพมตฺติกามยา กุฎิกา กาตพฺพาฯ โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ, โข เต ภิกฺขู ภควโต ปฎิสฺสุณิตฺวา เยน สา กุฎิกา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ กุฎิกํ ภินฺทิํสุฯ อถ โข อายสฺมา ธนิโย กุมฺภการปุโตฺต เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘กิสฺส เม ตุเมฺห, อาวุโส, กุฎิกํ ภินฺทถา’’ติ? ‘‘ภควา, อาวุโส, เภทาเปตี’’ติฯ ‘‘ภินฺทถาวุโส, สเจ ธมฺมสฺสามี เภทาเปตี’’ติฯ
85. Atha kho bhagavā sambahulehi bhikkhūhi saddhiṃ gijjhakūṭā pabbatā orohanto addasa taṃ kuṭikaṃ abhirūpaṃ dassanīyaṃ pāsādikaṃ lohitikaṃ. Disvāna bhikkhū āmantesi – ‘‘kiṃ etaṃ, bhikkhave, abhirūpaṃ dassanīyaṃ pāsādikaṃ lohitikaṃ, seyyathāpi indagopako’’ti? Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Vigarahi buddho bhagavā – ‘‘ananucchavikaṃ, bhikkhave, tassa moghapurisassa ananulomikaṃ appatirūpaṃ assāmaṇakaṃ akappiyaṃ akaraṇīyaṃ. Kathañhi nāma so, bhikkhave, moghapuriso sabbamattikāmayaṃ kuṭikaṃ karissati! Na hi nāma, bhikkhave, tassa moghapurisassa pāṇesu anuddayā anukampā avihesā bhavissati! Gacchathetaṃ, bhikkhave, kuṭikaṃ bhindatha. Mā pacchimā janatā pāṇesu pātabyataṃ āpajji. Na ca, bhikkhave, sabbamattikāmayā kuṭikā kātabbā. Yo kareyya, āpatti dukkaṭassā’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti, kho te bhikkhū bhagavato paṭissuṇitvā yena sā kuṭikā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā taṃ kuṭikaṃ bhindiṃsu. Atha kho āyasmā dhaniyo kumbhakāraputto te bhikkhū etadavoca – ‘‘kissa me tumhe, āvuso, kuṭikaṃ bhindathā’’ti? ‘‘Bhagavā, āvuso, bhedāpetī’’ti. ‘‘Bhindathāvuso, sace dhammassāmī bhedāpetī’’ti.
๘๖. อถ โข อายสฺมโต ธนิยสฺส กุมฺภการปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยาวตติยกํ โข เม คามํ ปิณฺฑาย ปวิฎฺฐสฺส ติณหาริโย กฎฺฐหาริโย ติณกุฎิกํ ภินฺทิตฺวา ติณญฺจ กฎฺฐญฺจ อาทาย อคมํสุฯ ยาปิ มยา สพฺพมตฺติกามยา กุฎิกา กตา สาปิ ภควตา เภทาปิตาฯ อตฺถิ จ เม ทารุคเห คณโก สนฺทิโฎฺฐฯ ยํนูนาหํ ทารุคเห คณกํ ทารูนิ ยาจิตฺวา ทารุกุฎิกํ กเรยฺย’’นฺติฯ อถ โข อายสฺมา ธนิโย กุมฺภการปุโตฺต เยน ทารุคเห คณโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ทารุคเห คณกํ เอตทโวจ – ‘‘ยาวตติยกํ โข เม, อาวุโส, คามํ ปิณฺฑาย ปวิฎฺฐสฺส ติณหาริโย กฎฺฐหาริโย ติณกุฎิกํ ภินฺทิตฺวา ติณญฺจ กฎฺฐญฺจ อาทาย อคมํสุฯ ยาปิ มยา สพฺพมตฺติกามยา กุฎิกา กตา สาปิ ภควตา เภทาปิตา ฯ เทหิ เม, อาวุโส, ทารูนิฯ อิจฺฉามิ ทารุกุฎิกํ 5 กาตุ’’นฺติฯ ‘‘นตฺถิ, ภเนฺต, ตาทิสานิ ทารูนิ ยานาหํ อยฺยสฺส ทเทยฺยํฯ อตฺถิ , ภเนฺต, เทวคหทารูนิ นครปฎิสงฺขาริกานิ อาปทตฺถาย นิกฺขิตฺตานิฯ สเจ ตานิ ทารูนิ ราชา ทาเปติ หราเปถ, ภเนฺต’’ติฯ ‘‘ทินฺนานิ, อาวุโส, รญฺญา’’ติฯ อถ โข ทารุคเห คณกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม โข สมณา สกฺยปุตฺติยา ธมฺมจาริโน สมจาริโน 6 พฺรหฺมจาริโน สจฺจวาทิโน สีลวโนฺต กลฺยาณธมฺมาฯ ราชาปิเมสํ อภิปฺปสโนฺนฯ นารหติ อทินฺนํ ทินฺนนฺติ วตฺตุ’’นฺติฯ อถ โข ทารุคเห คณโก อายสฺมนฺตํ ธนิยํ กุมฺภการปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘หราเปถ, ภเนฺต’’ติฯ อถ โข อายสฺมา ธนิโย กุมฺภการปุโตฺต ตานิ ทารูนิ ขณฺฑาขณฺฑิกํ เฉทาเปตฺวา สกเฎหิ นิพฺพาหาเปตฺวา ทารุกุฎิกํ อกาสิฯ
86. Atha kho āyasmato dhaniyassa kumbhakāraputtassa etadahosi – ‘‘yāvatatiyakaṃ kho me gāmaṃ piṇḍāya paviṭṭhassa tiṇahāriyo kaṭṭhahāriyo tiṇakuṭikaṃ bhinditvā tiṇañca kaṭṭhañca ādāya agamaṃsu. Yāpi mayā sabbamattikāmayā kuṭikā katā sāpi bhagavatā bhedāpitā. Atthi ca me dārugahe gaṇako sandiṭṭho. Yaṃnūnāhaṃ dārugahe gaṇakaṃ dārūni yācitvā dārukuṭikaṃ kareyya’’nti. Atha kho āyasmā dhaniyo kumbhakāraputto yena dārugahe gaṇako tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā dārugahe gaṇakaṃ etadavoca – ‘‘yāvatatiyakaṃ kho me, āvuso, gāmaṃ piṇḍāya paviṭṭhassa tiṇahāriyo kaṭṭhahāriyo tiṇakuṭikaṃ bhinditvā tiṇañca kaṭṭhañca ādāya agamaṃsu. Yāpi mayā sabbamattikāmayā kuṭikā katā sāpi bhagavatā bhedāpitā . Dehi me, āvuso, dārūni. Icchāmi dārukuṭikaṃ 7 kātu’’nti. ‘‘Natthi, bhante, tādisāni dārūni yānāhaṃ ayyassa dadeyyaṃ. Atthi , bhante, devagahadārūni nagarapaṭisaṅkhārikāni āpadatthāya nikkhittāni. Sace tāni dārūni rājā dāpeti harāpetha, bhante’’ti. ‘‘Dinnāni, āvuso, raññā’’ti. Atha kho dārugahe gaṇakassa etadahosi – ‘‘ime kho samaṇā sakyaputtiyā dhammacārino samacārino 8 brahmacārino saccavādino sīlavanto kalyāṇadhammā. Rājāpimesaṃ abhippasanno. Nārahati adinnaṃ dinnanti vattu’’nti. Atha kho dārugahe gaṇako āyasmantaṃ dhaniyaṃ kumbhakāraputtaṃ etadavoca – ‘‘harāpetha, bhante’’ti. Atha kho āyasmā dhaniyo kumbhakāraputto tāni dārūni khaṇḍākhaṇḍikaṃ chedāpetvā sakaṭehi nibbāhāpetvā dārukuṭikaṃ akāsi.
๘๗. อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามโตฺต ราชคเห กมฺมเนฺต อนุสญฺญายมาโน เยน ทารุคเห คณโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ทารุคเห คณกํ เอตทโวจ – ‘‘ยานิ ตานิ, ภเณ, เทวคหทารูนิ นครปฎิสงฺขาริกานิ อาปทตฺถาย นิกฺขิตฺตานิ กหํ ตานิ ทารูนี’’ติ? ‘‘ตานิ, สามิ, ทารูนิ เทเวน อยฺยสฺส ธนิยสฺส กุมฺภการปุตฺตสฺส ทินฺนานี’’ติฯ อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามโตฺต อนตฺตมโน อโหสิ – ‘‘กถญฺหิ นาม เทโว เทวคหทารูนิ นครปฎิสงฺขาริกานิ อาปทตฺถาย นิกฺขิตฺตานิ ธนิยสฺส กุมฺภการปุตฺตสฺส ทสฺสตี’’ติ! อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามโตฺต เยน ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ มาคธํ เสนิยํ พิมฺพิสารํ เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร, เทเวน 9 เทวคหทารูนิ นครปฎิสงฺขาริกานิ อาปทตฺถาย นิกฺขิตฺตานิ ธนิยสฺส กุมฺภการปุตฺตสฺส ทินฺนานี’’ติ? ‘‘โก เอวมาหา’’ติ? ‘‘ทารุคเห คณโก, เทวา’’ติฯ ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, ทารุคเห คณกํ อาณาเปหี’’ติฯ อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามโตฺต ทารุคเห คณกํ พนฺธํ 10 อาณาเปสิฯ อทฺทส โข อายสฺมา ธนิโย กุมฺภการปุโตฺต ทารุคเห คณกํ พนฺธํ นิยฺยมานํฯ ทิสฺวาน ทารุคเห คณกํ เอตทโวจ – ‘‘กิสฺส ตฺวํ, อาวุโส, พโนฺธ นิยฺยาสี’’ติ? ‘‘เตสํ, ภเนฺต, ทารูนํ กิจฺจา’’ติฯ ‘‘คจฺฉาวุโส, อหมฺปิ อาคจฺฉามี’’ติฯ ‘‘เอยฺยาสิ, ภเนฺต, ปุราหํ หญฺญามี’’ติฯ
87. Atha kho vassakāro brāhmaṇo magadhamahāmatto rājagahe kammante anusaññāyamāno yena dārugahe gaṇako tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā dārugahe gaṇakaṃ etadavoca – ‘‘yāni tāni, bhaṇe, devagahadārūni nagarapaṭisaṅkhārikāni āpadatthāya nikkhittāni kahaṃ tāni dārūnī’’ti? ‘‘Tāni, sāmi, dārūni devena ayyassa dhaniyassa kumbhakāraputtassa dinnānī’’ti. Atha kho vassakāro brāhmaṇo magadhamahāmatto anattamano ahosi – ‘‘kathañhi nāma devo devagahadārūni nagarapaṭisaṅkhārikāni āpadatthāya nikkhittāni dhaniyassa kumbhakāraputtassa dassatī’’ti! Atha kho vassakāro brāhmaṇo magadhamahāmatto yena rājā māgadho seniyo bimbisāro tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā rājānaṃ māgadhaṃ seniyaṃ bimbisāraṃ etadavoca – ‘‘saccaṃ kira, devena 11 devagahadārūni nagarapaṭisaṅkhārikāni āpadatthāya nikkhittāni dhaniyassa kumbhakāraputtassa dinnānī’’ti? ‘‘Ko evamāhā’’ti? ‘‘Dārugahe gaṇako, devā’’ti. ‘‘Tena hi, brāhmaṇa, dārugahe gaṇakaṃ āṇāpehī’’ti. Atha kho vassakāro brāhmaṇo magadhamahāmatto dārugahe gaṇakaṃ bandhaṃ 12 āṇāpesi. Addasa kho āyasmā dhaniyo kumbhakāraputto dārugahe gaṇakaṃ bandhaṃ niyyamānaṃ. Disvāna dārugahe gaṇakaṃ etadavoca – ‘‘kissa tvaṃ, āvuso, bandho niyyāsī’’ti? ‘‘Tesaṃ, bhante, dārūnaṃ kiccā’’ti. ‘‘Gacchāvuso, ahampi āgacchāmī’’ti. ‘‘Eyyāsi, bhante, purāhaṃ haññāmī’’ti.
๘๘. อถ โข อายสฺมา ธนิโย กุมฺภการปุโตฺต เยน รโญฺญ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เยนายสฺมา ธนิโย กุมฺภการปุโตฺต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ธนิยํ กุมฺภการปุตฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อายสฺมนฺตํ ธนิยํ กุมฺภการปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร มยา, ภเนฺต, เทวคหทารูนิ นครปฎิสงฺขาริกานิ อาปทตฺถาย นิกฺขิตฺตานิ อยฺยสฺส ทินฺนานี’’ติ? ‘‘เอวํ, มหาราชา’’ติฯ ‘‘มยํ โข, ภเนฺต, ราชาโน นาม พหุกิจฺจา พหุกรณียา, ทตฺวาปิ น สเรยฺยาม; อิงฺฆ, ภเนฺต, สราเปหี’’ติฯ ‘‘สรสิ ตฺวํ, มหาราช, ปฐมาภิสิโตฺต เอวรูปิํ วาจํ ภาสิตา – ‘‘ทินฺนเญฺญว สมณพฺราหฺมณานํ ติณกโฎฺฐทกํ ปริภุญฺชนฺตู’’ติฯ ‘‘สรามหํ, ภเนฺตฯ สนฺติ, ภเนฺต, สมณพฺราหฺมณา ลชฺชิโน กุกฺกุจฺจกา สิกฺขากามาฯ เตสํ อปฺปมตฺตเกปิ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺชติฯ เตสํ มยา สนฺธาย ภาสิตํ, ตญฺจ โข อรเญฺญ อปริคฺคหิตํฯ โส ตฺวํ, ภเนฺต, เตน เลเสน ทารูนิ อทินฺนํ หริตุํ มญฺญสิ! กถญฺหิ นาม มาทิโส สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา วิชิเต วสนฺตํ หเนยฺย วา พเนฺธยฺย วา ปพฺพาเชยฺย วา! คจฺฉ, ภเนฺต, โลเมน ตฺวํ มุโตฺตสิฯ มาสฺสุ ปุนปิ เอวรูปํ อกาสี’’ติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘อลชฺชิโน อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา ทุสฺสีลา มุสาวาทิโนฯ อิเม หิ นาม ธมฺมจาริโน สมจาริโน พฺราหฺมจาริโน สจฺจวาทิโน สีลวโนฺต กลฺยาณธมฺมา ปฎิชานิสฺสนฺติ! นตฺถิ อิเมสํ สามญฺญํ, นตฺถิ อิเมสํ พฺรหฺมญฺญํฯ นฎฺฐํ อิเมสํ สามญฺญํ, นฎฺฐํ อิเมสํ พฺรหฺมญฺญํฯ กุโต อิเมสํ สามญฺญํ, กุโต อิเมสํ พฺรหฺมญฺญํ! อปคตา อิเม สามญฺญา, อปคตา อิเม พฺรหฺมญฺญาฯ ราชานมฺปิ อิเม วเญฺจนฺติ, กิํ ปนเญฺญ มนุเสฺส’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา สนฺตุฎฺฐา ลชฺชิโน กุกฺกุจฺจกา สิกฺขากามา เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา ธนิโย กุมฺภการปุโตฺต รโญฺญ ทารูนิ อทินฺนํ อาทิยิสฺสตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ ธนิยํ กุมฺภการปุตฺตํ อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา อายสฺมนฺตํ ธนิยํ กุมฺภการปุตฺตํ ปฎิปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ธนิย, รโญฺญ ทารูนิ อทินฺนํ อาทิยี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา – ‘‘อนนุจฺฉวิกํ, โมฆปุริส, อนนุโลมิกํ อปฺปติรูปํ อสฺสามณกํ อกปฺปิยํ อกรณียํฯ กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส , รโญฺญ ทารูนิ อทินฺนํ อาทิยิสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย ปสนฺนานํ วา ภิโยฺยภาวาย; อถเขฺวตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานเญฺจว อปฺปสาทาย ปสนฺนานญฺจ เอกจฺจานํ อญฺญถตฺตายา’’ติฯ
88. Atha kho āyasmā dhaniyo kumbhakāraputto yena rañño māgadhassa seniyassa bimbisārassa nivesanaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Atha kho rājā māgadho seniyo bimbisāro yenāyasmā dhaniyo kumbhakāraputto tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ dhaniyaṃ kumbhakāraputtaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho rājā māgadho seniyo bimbisāro āyasmantaṃ dhaniyaṃ kumbhakāraputtaṃ etadavoca – ‘‘saccaṃ kira mayā, bhante, devagahadārūni nagarapaṭisaṅkhārikāni āpadatthāya nikkhittāni ayyassa dinnānī’’ti? ‘‘Evaṃ, mahārājā’’ti. ‘‘Mayaṃ kho, bhante, rājāno nāma bahukiccā bahukaraṇīyā, datvāpi na sareyyāma; iṅgha, bhante, sarāpehī’’ti. ‘‘Sarasi tvaṃ, mahārāja, paṭhamābhisitto evarūpiṃ vācaṃ bhāsitā – ‘‘dinnaññeva samaṇabrāhmaṇānaṃ tiṇakaṭṭhodakaṃ paribhuñjantū’’ti. ‘‘Sarāmahaṃ, bhante. Santi, bhante, samaṇabrāhmaṇā lajjino kukkuccakā sikkhākāmā. Tesaṃ appamattakepi kukkuccaṃ uppajjati. Tesaṃ mayā sandhāya bhāsitaṃ, tañca kho araññe apariggahitaṃ. So tvaṃ, bhante, tena lesena dārūni adinnaṃ harituṃ maññasi! Kathañhi nāma mādiso samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā vijite vasantaṃ haneyya vā bandheyya vā pabbājeyya vā! Gaccha, bhante, lomena tvaṃ muttosi. Māssu punapi evarūpaṃ akāsī’’ti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘alajjino ime samaṇā sakyaputtiyā dussīlā musāvādino. Ime hi nāma dhammacārino samacārino brāhmacārino saccavādino sīlavanto kalyāṇadhammā paṭijānissanti! Natthi imesaṃ sāmaññaṃ, natthi imesaṃ brahmaññaṃ. Naṭṭhaṃ imesaṃ sāmaññaṃ, naṭṭhaṃ imesaṃ brahmaññaṃ. Kuto imesaṃ sāmaññaṃ, kuto imesaṃ brahmaññaṃ! Apagatā ime sāmaññā, apagatā ime brahmaññā. Rājānampi ime vañcenti, kiṃ panaññe manusse’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā santuṭṭhā lajjino kukkuccakā sikkhākāmā te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā dhaniyo kumbhakāraputto rañño dārūni adinnaṃ ādiyissatī’’ti! Atha kho te bhikkhū āyasmantaṃ dhaniyaṃ kumbhakāraputtaṃ anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā āyasmantaṃ dhaniyaṃ kumbhakāraputtaṃ paṭipucchi – ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, dhaniya, rañño dārūni adinnaṃ ādiyī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā – ‘‘ananucchavikaṃ, moghapurisa, ananulomikaṃ appatirūpaṃ assāmaṇakaṃ akappiyaṃ akaraṇīyaṃ. Kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa , rañño dārūni adinnaṃ ādiyissasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya pasannānaṃ vā bhiyyobhāvāya; athakhvetaṃ, moghapurisa, appasannānañceva appasādāya pasannānañca ekaccānaṃ aññathattāyā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ปุราณโวหาริโก มหามโตฺต ภิกฺขูสุ ปพฺพชิโต ภควโต อวิทูเร นิสิโนฺน โหติฯ อถ โข ภควา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘กิตฺตเกน โข ภิกฺขุ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร โจรํ คเหตฺวา หนติ วา พนฺธติ วา ปพฺพาเชติ วา’’ติ? ‘‘ปาเทน วา, ภควา, ปาทารเหน วา’’ติ 13ฯ เตน โข ปน สมเยน ราชคเห ปญฺจมาสโก ปาโท โหติฯ อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ ธนิยํ กุมฺภการปุตฺตํ อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ทุพฺภรตาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
Tena kho pana samayena aññataro purāṇavohāriko mahāmatto bhikkhūsu pabbajito bhagavato avidūre nisinno hoti. Atha kho bhagavā taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘kittakena kho bhikkhu rājā māgadho seniyo bimbisāro coraṃ gahetvā hanati vā bandhati vā pabbājeti vā’’ti? ‘‘Pādena vā, bhagavā, pādārahena vā’’ti 14. Tena kho pana samayena rājagahe pañcamāsako pādo hoti. Atha kho bhagavā āyasmantaṃ dhaniyaṃ kumbhakāraputtaṃ anekapariyāyena vigarahitvā dubbharatāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๘๙. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิเยยฺย, ยถารูเป อทินฺนาทาเน ราชาโน โจรํ คเหตฺวา หเนยฺยุํ วา พเนฺธยฺยุํ วา ปพฺพาเชยฺยุํ วา – ‘โจโรสิ พาโลสิ มูโฬฺหสิ เถโนสี’ติ, ตถารูปํ ภิกฺขุ อทินฺนํ อาทิยมาโน อยมฺปิ ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติฯ
89.‘‘Yo pana bhikkhu adinnaṃ theyyasaṅkhātaṃ ādiyeyya, yathārūpe adinnādāne rājāno coraṃ gahetvā haneyyuṃ vā bandheyyuṃ vā pabbājeyyuṃ vā – ‘corosi bālosi mūḷhosi thenosī’ti, tathārūpaṃ bhikkhu adinnaṃ ādiyamāno ayampi pārājiko hoti asaṃvāso’’ti.
เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ
Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.
๙๐. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู รชกตฺถรณํ คนฺตฺวา รชกภณฺฑิกํ อวหริตฺวา อารามํ หริตฺวา ภาเชสุํฯ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘มหาปุญฺญตฺถ ตุเมฺห, อาวุโสฯ พหุํ ตุมฺหากํ จีวรํ อุปฺปนฺน’’นฺติฯ ‘‘กุโต อาวุโส, อมฺหากํ ปุญฺญํ, อิทานิ มยํ รชกตฺถรณํ คนฺตฺวา รชกภณฺฑิกํ อวหริมฺหา’’ติฯ ‘‘นนุ, อาวุโส, ภควตา สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํฯ กิสฺส ตุเมฺห, อาวุโส, รชกภณฺฑิกํ อวหริตฺถา’’ติ ? ‘‘สจฺจํ, อาวุโส, ภควตา สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํฯ ตญฺจ โข คาเม, โน อรเญฺญ’’ติฯ ‘‘นนุ, อาวุโส, ตเถเวตํ โหติฯ อนนุจฺฉวิกํ, อาวุโส, อนนุโลมิกํ อปฺปติรูปํ อสฺสามณกํ อกปฺปิยํ อกรณียํฯ กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, อาวุโส, รชกภณฺฑิกํ อวหริสฺสถ! เนตํ, อาวุโส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย ปสนฺนานํ วา ภิโยฺยภาวาย; อถเขฺวตํ, อาวุโส, อปฺปสนฺนานเญฺจว อปฺปสาทาย ปสนฺนานญฺจ เอกจฺจานํ อญฺญถตฺตายา’’ติฯ อถ โข เต ภิกฺขู ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู ปฎิปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, รชกตฺถรณํ คนฺตฺวา รชกภณฺฑิกํ อวหริตฺถา’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา – ‘‘อนนุจฺฉวิกํ, โมฆปุริสา, อนนุโลมิกํ อปฺปฎิรูปํ อสฺสามณกํ อกปฺปิยํ อกรณียํฯ กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, รชกภณฺฑิกํ อวหริสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย ปสนฺนานํ วา ภิโยฺยภาวาย; อถ เขฺวตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานเญฺจว อปฺปสาทาย ปสนฺนานญฺจ เอกจฺจานํ อญฺญถตฺตายา’’ติฯ อถ โข ภควา ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ทุพฺภรตาย…เป.… วีริยารมฺภสฺส วณฺณํ ภาสิตฺวา ภิกฺขูนํ ตทนุจฺฉวิกํ ตทนุโลมิกํ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ…เป.… ‘‘เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
90. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū rajakattharaṇaṃ gantvā rajakabhaṇḍikaṃ avaharitvā ārāmaṃ haritvā bhājesuṃ. Bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘mahāpuññattha tumhe, āvuso. Bahuṃ tumhākaṃ cīvaraṃ uppanna’’nti. ‘‘Kuto āvuso, amhākaṃ puññaṃ, idāni mayaṃ rajakattharaṇaṃ gantvā rajakabhaṇḍikaṃ avaharimhā’’ti. ‘‘Nanu, āvuso, bhagavatā sikkhāpadaṃ paññattaṃ. Kissa tumhe, āvuso, rajakabhaṇḍikaṃ avaharitthā’’ti ? ‘‘Saccaṃ, āvuso, bhagavatā sikkhāpadaṃ paññattaṃ. Tañca kho gāme, no araññe’’ti. ‘‘Nanu, āvuso, tathevetaṃ hoti. Ananucchavikaṃ, āvuso, ananulomikaṃ appatirūpaṃ assāmaṇakaṃ akappiyaṃ akaraṇīyaṃ. Kathañhi nāma tumhe, āvuso, rajakabhaṇḍikaṃ avaharissatha! Netaṃ, āvuso, appasannānaṃ vā pasādāya pasannānaṃ vā bhiyyobhāvāya; athakhvetaṃ, āvuso, appasannānañceva appasādāya pasannānañca ekaccānaṃ aññathattāyā’’ti. Atha kho te bhikkhū chabbaggiye bhikkhū anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā chabbaggiye bhikkhū paṭipucchi – ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, rajakattharaṇaṃ gantvā rajakabhaṇḍikaṃ avaharitthā’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā – ‘‘ananucchavikaṃ, moghapurisā, ananulomikaṃ appaṭirūpaṃ assāmaṇakaṃ akappiyaṃ akaraṇīyaṃ. Kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, rajakabhaṇḍikaṃ avaharissatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya pasannānaṃ vā bhiyyobhāvāya; atha khvetaṃ, moghapurisā, appasannānañceva appasādāya pasannānañca ekaccānaṃ aññathattāyā’’ti. Atha kho bhagavā chabbaggiye bhikkhū anekapariyāyena vigarahitvā dubbharatāya…pe… vīriyārambhassa vaṇṇaṃ bhāsitvā bhikkhūnaṃ tadanucchavikaṃ tadanulomikaṃ dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi…pe… ‘‘evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๙๑. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ คามา วา อรญฺญา วา อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิเยยฺย, ยถารูเป อทินฺนาทาเน ราชาโน โจรํ คเหตฺวา หเนยฺยุํ วา พเนฺธยฺยุํ วา ปพฺพาเชยฺยุํ วา – ‘โจโรสิ พาโลสิ มูโฬฺหสิ เถโนสี’ติ, ตถารูปํ ภิกฺขุ อทินฺนํ อาทิยมาโน อยมฺปิ ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติฯ
91.‘‘Yo pana bhikkhu gāmā vā araññā vā adinnaṃ theyyasaṅkhātaṃ ādiyeyya, yathārūpe adinnādāne rājāno coraṃ gahetvā haneyyuṃ vā bandheyyuṃ vā pabbājeyyuṃ vā – ‘corosi bālosi mūḷhosi thenosī’ti, tathārūpaṃ bhikkhu adinnaṃ ādiyamāno ayampi pārājiko hoti asaṃvāso’’ti.
๙๒. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ
92.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.
คาโม นาม เอกกุฎิโกปิ คาโม, ทฺวิกุฎิโกปิ คาโม, ติกุฎิโกปิ คาโม, จตุกุฎิโกปิ คาโม, สมนุโสฺสปิ คาโม, อมนุโสฺสปิ คาโม, ปริกฺขิโตฺตปิ คาโม, อปริกฺขิโตฺตปิ คาโม, โคนิสาทินิวิโฎฺฐปิ คาโม, โยปิ สโตฺถ อติเรกจตุมาสนิวิโฎฺฐ โสปิ วุจฺจติ คาโมฯ
Gāmo nāma ekakuṭikopi gāmo, dvikuṭikopi gāmo, tikuṭikopi gāmo, catukuṭikopi gāmo, samanussopi gāmo, amanussopi gāmo, parikkhittopi gāmo, aparikkhittopi gāmo, gonisādiniviṭṭhopi gāmo, yopi sattho atirekacatumāsaniviṭṭho sopi vuccati gāmo.
คามูปจาโร นาม ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อินฺทขีเล 15 ฐิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาโต, อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ฆรูปจาเร ฐิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาโตฯ
Gāmūpacāro nāma parikkhittassa gāmassa indakhīle 16 ṭhitassa majjhimassa purisassa leḍḍupāto, aparikkhittassa gāmassa gharūpacāre ṭhitassa majjhimassa purisassa leḍḍupāto.
อรญฺญํ นาม ฐเปตฺวา คามญฺจ คามูปจารญฺจ อวเสสํ อรญฺญํ นามฯ
Araññaṃ nāma ṭhapetvā gāmañca gāmūpacārañca avasesaṃ araññaṃ nāma.
อทินฺนํ นามํ ยํ อทินฺนํ อนิสฺสฎฺฐํ อปริจฺจตฺตํ รกฺขิตํ โคปิตํ มมายิตํ ปรปริคฺคหิตํฯ เอตํ อทินฺนํ นามฯ
Adinnaṃ nāmaṃ yaṃ adinnaṃ anissaṭṭhaṃ apariccattaṃ rakkhitaṃ gopitaṃ mamāyitaṃ parapariggahitaṃ. Etaṃ adinnaṃ nāma.
เถยฺยสงฺขาตนฺติ เถยฺยจิโตฺต อวหรณจิโตฺตฯ
Theyyasaṅkhātanti theyyacitto avaharaṇacitto.
อาทิเยยฺยาติ อาทิเยยฺย หเรยฺย อวหเรยฺย อิริยาปถํ วิโกเปยฺย ฐานา จาเวยฺย สเงฺกตํ วีตินาเมยฺยฯ
Ādiyeyyāti ādiyeyya hareyya avahareyya iriyāpathaṃ vikopeyya ṭhānā cāveyya saṅketaṃ vītināmeyya.
ยถารูปํ นาม ปาทํ วา ปาทารหํ วา อติเรกปาทํ วาฯ
Yathārūpaṃ nāma pādaṃ vā pādārahaṃ vā atirekapādaṃ vā.
ราชาโน นาม ปถพฺยาราชา ปเทสราชา มณฺฑลิกา อนฺตรโภคิกา อกฺขทสฺสา มหามตฺตา, เย วา ปน เฉชฺชเภชฺชํ กโรนฺตา อนุสาสนฺติฯ เอเต ราชาโน นามฯ
Rājāno nāma pathabyārājā padesarājā maṇḍalikā antarabhogikā akkhadassā mahāmattā, ye vā pana chejjabhejjaṃ karontā anusāsanti. Ete rājāno nāma.
โจโร นาม โย ปญฺจมาสกํ วา อติเรกปญฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยติฯ เอโส โจโร นามฯ
Coro nāma yo pañcamāsakaṃ vā atirekapañcamāsakaṃ vā agghanakaṃ adinnaṃ theyyasaṅkhātaṃ ādiyati. Eso coro nāma.
หเนยฺยุํ วาติ หเตฺถน วา ปาเทน วา กสาย วา เวเตฺตน วา อฑฺฒทณฺฑเกน วา เฉชฺชาย วา หเนยฺยุํฯ
Haneyyuṃ vāti hatthena vā pādena vā kasāya vā vettena vā aḍḍhadaṇḍakena vā chejjāya vā haneyyuṃ.
พเนฺธยฺยุํ วาติ รชฺชุพนฺธเนน วา อนฺทุพนฺธเนน วา สงฺขลิกพนฺธเนน วา ฆรพนฺธเนน วา นครพนฺธเนน วา คามพนฺธเนน วา นิคมพนฺธเนน วา พเนฺธยฺยุํ, ปุริสคุตฺติํ วา กเรยฺยุํฯ
Bandheyyuṃ vāti rajjubandhanena vā andubandhanena vā saṅkhalikabandhanena vā gharabandhanena vā nagarabandhanena vā gāmabandhanena vā nigamabandhanena vā bandheyyuṃ, purisaguttiṃ vā kareyyuṃ.
ปพฺพาเชยฺยุํ วาติ คามา วา นิคมา วา นครา วา ชนปทา วา ชนปทปเทสา วา ปพฺพาเชยฺยุํฯ
Pabbājeyyuṃ vāti gāmā vā nigamā vā nagarā vā janapadā vā janapadapadesā vā pabbājeyyuṃ.
โจโรสิ พาโลสิ มูโฬฺหสิ เถโนสีติ ปริภาโส เอโสฯ
Corosi bālosi mūḷhosi thenosīti paribhāso eso.
ตถารูปํ นาม ปาทํ วา ปาทารหํ วา อติเรกปาทํ วาฯ
Tathārūpaṃ nāma pādaṃ vā pādārahaṃ vā atirekapādaṃ vā.
อาทิยมาโนติ อาทิยมาโน หรมาโน อวหรมาโน อิริยาปถํ วิโกปยมาโน ฐานา จาวยมาโน สเงฺกตํ วีตินามยมาโนฯ
Ādiyamānoti ādiyamāno haramāno avaharamāno iriyāpathaṃ vikopayamāno ṭhānā cāvayamāno saṅketaṃ vītināmayamāno.
อยมฺปีติ ปุริมํ อุปาทาย วุจฺจติฯ
Ayampīti purimaṃ upādāya vuccati.
อสํวาโสติ สํวาโส นาม เอกกมฺมํ เอกุเทฺทโส สมสิกฺขตาฯ เอโส สํวาโส นามฯ โส เตน สทฺธิํ นตฺถิฯ เตน วุจฺจติ – ‘อสํวาโส’ติฯ
Asaṃvāsoti saṃvāso nāma ekakammaṃ ekuddeso samasikkhatā. Eso saṃvāso nāma. So tena saddhiṃ natthi. Tena vuccati – ‘asaṃvāso’ti.
๙๓. ภูมฎฺฐํ ถลฎฺฐํ อากาสฎฺฐํ เวหาสฎฺฐํ อุทกฎฺฐํ นาวฎฺฐํ ยานฎฺฐํ ภารฎฺฐํ อารามฎฺฐํ วิหารฎฺฐํ เขตฺตฎฺฐํ วตฺถุฎฺฐํ คามฎฺฐํ อรญฺญฎฺฐํ อุทกํ ทนฺตโปณํ 21 วนปฺปติ หรณกํ อุปนิธิ สุงฺกฆาตํ ปาโณ อปทํ ทฺวิปทํ จตุปฺปทํ พหุปฺปทํ โอจรโก โอณิรโกฺข สํวิทาวหาโร สเงฺกตกมฺมํ นิมิตฺตกมฺมนฺติฯ
93. Bhūmaṭṭhaṃ thalaṭṭhaṃ ākāsaṭṭhaṃ vehāsaṭṭhaṃ udakaṭṭhaṃ nāvaṭṭhaṃ yānaṭṭhaṃ bhāraṭṭhaṃ ārāmaṭṭhaṃ vihāraṭṭhaṃ khettaṭṭhaṃ vatthuṭṭhaṃ gāmaṭṭhaṃ araññaṭṭhaṃ udakaṃ dantapoṇaṃ 22 vanappati haraṇakaṃ upanidhi suṅkaghātaṃ pāṇo apadaṃ dvipadaṃ catuppadaṃ bahuppadaṃ ocarako oṇirakkho saṃvidāvahāro saṅketakammaṃ nimittakammanti.
๙๔. ภูมฎฺฐํ นาม ภณฺฑํ ภูมิยํ นิกฺขิตฺตํ โหติ นิขาตํ ปฎิจฺฉนฺนํฯ ภูมฎฺฐํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามีติ เถยฺยจิโตฺต ทุติยํ วา ปริเยสติ กุทาลํ วา ปิฎกํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ตตฺถ ชาตกํ กฎฺฐํ วา ลตํ วา ฉินฺทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ตตฺถ ปํสุํ ขณติ วา พฺยูหติ 23 วา อุทฺธรติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กุมฺภิํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ อตฺตโน ภาชนํ ปเวเสตฺวา ปญฺจมาสกํ วา อติเรกปญฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ อตฺตโน ภาชนคตํ วา กโรติ มุฎฺฐิํ วา ฉินฺทติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ สุตฺตารุฬฺหํ ภณฺฑํ ปามงฺคํ วา กณฺฐสุตฺตกํ วา กฎิสุตฺตกํ วา สาฎกํ วา เวฐนํ วา เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ โกฎิยํ คเหตฺวา อุจฺจาเรติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฆํสโนฺต นีหรติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ อนฺตมโส เกสคฺคมตฺตมฺปิ กุมฺภิมุขา โมเจติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ สปฺปิํ วา เตลํ วา มธุํ วา ผาณิตํ วา ปญฺจมาสกํ วา อติเรกปญฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ เถยฺยจิโตฺต เอเกน ปโยเคน ปิวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ตเตฺถว ภินฺทติ วา ฉเฑฺฑติ วา ฌาเปติ วา อปริโภคํ วา กโรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
94.Bhūmaṭṭhaṃ nāma bhaṇḍaṃ bhūmiyaṃ nikkhittaṃ hoti nikhātaṃ paṭicchannaṃ. Bhūmaṭṭhaṃ bhaṇḍaṃ avaharissāmīti theyyacitto dutiyaṃ vā pariyesati kudālaṃ vā piṭakaṃ vā pariyesati gacchati vā, āpatti dukkaṭassa. Tattha jātakaṃ kaṭṭhaṃ vā lataṃ vā chindati, āpatti dukkaṭassa. Tattha paṃsuṃ khaṇati vā byūhati 24 vā uddharati vā, āpatti dukkaṭassa. Kumbhiṃ āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa. Attano bhājanaṃ pavesetvā pañcamāsakaṃ vā atirekapañcamāsakaṃ vā agghanakaṃ theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Attano bhājanagataṃ vā karoti muṭṭhiṃ vā chindati, āpatti pārājikassa. Suttāruḷhaṃ bhaṇḍaṃ pāmaṅgaṃ vā kaṇṭhasuttakaṃ vā kaṭisuttakaṃ vā sāṭakaṃ vā veṭhanaṃ vā theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Koṭiyaṃ gahetvā uccāreti, āpatti thullaccayassa. Ghaṃsanto nīharati, āpatti thullaccayassa. Antamaso kesaggamattampi kumbhimukhā moceti, āpatti pārājikassa. Sappiṃ vā telaṃ vā madhuṃ vā phāṇitaṃ vā pañcamāsakaṃ vā atirekapañcamāsakaṃ vā agghanakaṃ theyyacitto ekena payogena pivati, āpatti pārājikassa. Tattheva bhindati vā chaḍḍeti vā jhāpeti vā aparibhogaṃ vā karoti, āpatti dukkaṭassa.
๙๕. ถลฎฺฐํ นาม ภณฺฑํ ถเล นิกฺขิตฺตํ โหติฯ ถลฎฺฐํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามีติ เถยฺยจิโตฺต ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
95.Thalaṭṭhaṃ nāma bhaṇḍaṃ thale nikkhittaṃ hoti. Thalaṭṭhaṃ bhaṇḍaṃ avaharissāmīti theyyacitto dutiyaṃ vā pariyesati gacchati vā, āpatti dukkaṭassa. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa.
๙๖. อากาสฎฺฐํ นาม ภณฺฑํ อากาสคตํ โหติฯ โมโร วา กปิญฺชโร วา ติตฺติโร วา วฎฺฎโก วา, สาฎกํ วา เวฐนํ วา หิรญฺญํ วา สุวณฺณํ วา ฉิชฺชมานํ ปตติฯ อากาสฎฺฐํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามีติ เถยฺยจิโตฺต ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺส ฯ คมนํ อุปจฺฉินฺทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
96.Ākāsaṭṭhaṃ nāma bhaṇḍaṃ ākāsagataṃ hoti. Moro vā kapiñjaro vā tittiro vā vaṭṭako vā, sāṭakaṃ vā veṭhanaṃ vā hiraññaṃ vā suvaṇṇaṃ vā chijjamānaṃ patati. Ākāsaṭṭhaṃ bhaṇḍaṃ avaharissāmīti theyyacitto dutiyaṃ vā pariyesati gacchati vā, āpatti dukkaṭassa . Gamanaṃ upacchindati, āpatti dukkaṭassa. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa.
๙๗. เวหาสฎฺฐํ นาม ภณฺฑํ เวหาสคตํ โหติฯ มเญฺจ วา ปีเฐ วา จีวรวํเส วา จีวรรชฺชุยา วา ภิตฺติขิเล วา นาคทเนฺต วา รุเกฺข วา ลคฺคิตํ โหติ, อนฺตมโส ปตฺตาธารเกปิฯ เวหาสฎฺฐํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามีติ เถยฺยจิโตฺต ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
97.Vehāsaṭṭhaṃ nāma bhaṇḍaṃ vehāsagataṃ hoti. Mañce vā pīṭhe vā cīvaravaṃse vā cīvararajjuyā vā bhittikhile vā nāgadante vā rukkhe vā laggitaṃ hoti, antamaso pattādhārakepi. Vehāsaṭṭhaṃ bhaṇḍaṃ avaharissāmīti theyyacitto dutiyaṃ vā pariyesati gacchati vā, āpatti dukkaṭassa. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa.
๙๘. อุทกฎฺฐํ นาม ภณฺฑํ อุทเก นิกฺขิตฺตํ โหติฯ อุทกฎฺฐํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามีติ เถยฺยจิโตฺต ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นิมุชฺชติ วา อุมฺมุชฺชติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ตตฺถ ชาตกํ อุปฺปลํ วา ปทุมํ วา ปุณฺฑรีกํ วา ภิสํ วา มจฺฉํ วา กจฺฉปํ วา ปญฺจมาสกํ วา อติเรกปญฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
98.Udakaṭṭhaṃ nāma bhaṇḍaṃ udake nikkhittaṃ hoti. Udakaṭṭhaṃ bhaṇḍaṃ avaharissāmīti theyyacitto dutiyaṃ vā pariyesati gacchati vā, āpatti dukkaṭassa. Nimujjati vā ummujjati vā, āpatti dukkaṭassa. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa. Tattha jātakaṃ uppalaṃ vā padumaṃ vā puṇḍarīkaṃ vā bhisaṃ vā macchaṃ vā kacchapaṃ vā pañcamāsakaṃ vā atirekapañcamāsakaṃ vā agghanakaṃ theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa.
๙๙. นาวา นาม ยาย ตรติฯ นาวฎฺฐํ นาม ภณฺฑํ นาวาย นิกฺขิตฺตํ โหติฯ ‘‘นาวฎฺฐํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามี’’ติ เถยฺยจิโตฺต ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ นาวํ อวหริสฺสามีติ เถยฺยจิโตฺต ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ พนฺธนํ โมเจติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ พนฺธนํ โมเจตฺวา อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ อุทฺธํ วา อโธ วา ติริยํ วา อนฺตมโส เกสคฺคมตฺตมฺปิ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
99.Nāvā nāma yāya tarati. Nāvaṭṭhaṃ nāma bhaṇḍaṃ nāvāya nikkhittaṃ hoti. ‘‘Nāvaṭṭhaṃ bhaṇḍaṃ avaharissāmī’’ti theyyacitto dutiyaṃ vā pariyesati gacchati vā, āpatti dukkaṭassa. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa. Nāvaṃ avaharissāmīti theyyacitto dutiyaṃ vā pariyesati gacchati vā, āpatti dukkaṭassa. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Bandhanaṃ moceti, āpatti dukkaṭassa. Bandhanaṃ mocetvā āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Uddhaṃ vā adho vā tiriyaṃ vā antamaso kesaggamattampi saṅkāmeti, āpatti pārājikassa.
๑๐๐. ยานํ นาม วยฺหํ รโถ สกฎํ สนฺทมานิกาฯ ยานฎฺฐํ นาม ภณฺฑํ ยาเน นิกฺขิตฺตํ โหติฯ ยานฎฺฐํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามีติ เถยฺยจิโตฺต ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ยานํ อวหริสฺสามีติ เถยฺยจิโตฺต ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
100.Yānaṃ nāma vayhaṃ ratho sakaṭaṃ sandamānikā. Yānaṭṭhaṃ nāma bhaṇḍaṃ yāne nikkhittaṃ hoti. Yānaṭṭhaṃ bhaṇḍaṃ avaharissāmīti theyyacitto dutiyaṃ vā pariyesati gacchati vā, āpatti dukkaṭassa. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa. Yānaṃ avaharissāmīti theyyacitto dutiyaṃ vā pariyesati gacchati vā, āpatti dukkaṭassa. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa.
๑๐๑. ภาโร นาม สีสภาโร ขนฺธภาโร กฎิภาโร โอลมฺพโกฯ สีเส ภารํ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ขนฺธํ โอโรเปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ขเนฺธ ภารํ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ กฎิํ โอโรเปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ กฎิยา ภารํ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ หเตฺถน คณฺหาติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ หเตฺถ ภารํ เถยฺยจิโตฺต ภูมิยํ นิกฺขิปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ เถยฺยจิโตฺต ภูมิโต คณฺหาติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
101.Bhāro nāma sīsabhāro khandhabhāro kaṭibhāro olambako. Sīse bhāraṃ theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Khandhaṃ oropeti, āpatti pārājikassa. Khandhe bhāraṃ theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Kaṭiṃ oropeti, āpatti pārājikassa. Kaṭiyā bhāraṃ theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Hatthena gaṇhāti, āpatti pārājikassa. Hatthe bhāraṃ theyyacitto bhūmiyaṃ nikkhipati, āpatti pārājikassa. Theyyacitto bhūmito gaṇhāti, āpatti pārājikassa.
๑๐๒. อาราโม นาม ปุปฺผาราโม ผลาราโมฯ อารามฎฺฐํ นาม ภณฺฑํ อาราเม จตูหิ ฐาเนหิ นิกฺขิตฺตํ โหติ – ภูมฎฺฐํ ถลฎฺฐํ, อากาสฎฺฐํ, เวหาสฎฺฐํฯ อารามฎฺฐํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามีติ เถยฺยจิโตฺต ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ตตฺถ ชาตกํ มูลํ วา ตจํ วา ปตฺตํ วา ปุปฺผํ วา ผลํ วา ปญฺจมาสกํ วา อติเรกปญฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ อารามํ อภิยุญฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ สามิกสฺส วิมติํ อุปฺปาเทติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ สามิโก น มยฺหํ ภวิสฺสตีติ ธุรํ นิกฺขิปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ธมฺมํ จรโนฺต สามิกํ ปราเชติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ธมฺมํ จรโนฺต ปรชฺชติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ
102.Ārāmo nāma pupphārāmo phalārāmo. Ārāmaṭṭhaṃ nāma bhaṇḍaṃ ārāme catūhi ṭhānehi nikkhittaṃ hoti – bhūmaṭṭhaṃ thalaṭṭhaṃ, ākāsaṭṭhaṃ, vehāsaṭṭhaṃ. Ārāmaṭṭhaṃ bhaṇḍaṃ avaharissāmīti theyyacitto dutiyaṃ vā pariyesati gacchati vā, āpatti dukkaṭassa. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa. Tattha jātakaṃ mūlaṃ vā tacaṃ vā pattaṃ vā pupphaṃ vā phalaṃ vā pañcamāsakaṃ vā atirekapañcamāsakaṃ vā agghanakaṃ theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa. Ārāmaṃ abhiyuñjati, āpatti dukkaṭassa. Sāmikassa vimatiṃ uppādeti, āpatti thullaccayassa. Sāmiko na mayhaṃ bhavissatīti dhuraṃ nikkhipati, āpatti pārājikassa. Dhammaṃ caranto sāmikaṃ parājeti, āpatti pārājikassa. Dhammaṃ caranto parajjati, āpatti thullaccayassa.
๑๐๓. วิหารฎฺฐํ นาม ภณฺฑํ วิหาเร จตูหิ ฐาเนหิ นิกฺขิตฺตํ โหติ – ภูมฎฺฐํ, ถลฎฺฐํ, อากาสฎฺฐํ, เวหาสฎฺฐํฯ วิหารฎฺฐํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามีติ เถยฺยจิโตฺต ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ วิหารํ อภิยุญฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ สามิกสฺส วิมติํ อุปฺปาเทติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ สามิโก น มยฺหํ ภวิสฺสตีติ ธุรํ นิกฺขิปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ธมฺมํ จรโนฺต สามิกํ ปราเชติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ธมฺมํ จรโนฺต ปรชฺชติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ
103.Vihāraṭṭhaṃ nāma bhaṇḍaṃ vihāre catūhi ṭhānehi nikkhittaṃ hoti – bhūmaṭṭhaṃ, thalaṭṭhaṃ, ākāsaṭṭhaṃ, vehāsaṭṭhaṃ. Vihāraṭṭhaṃ bhaṇḍaṃ avaharissāmīti theyyacitto dutiyaṃ vā pariyesati gacchati vā, āpatti dukkaṭassa. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa. Vihāraṃ abhiyuñjati, āpatti dukkaṭassa. Sāmikassa vimatiṃ uppādeti, āpatti thullaccayassa. Sāmiko na mayhaṃ bhavissatīti dhuraṃ nikkhipati, āpatti pārājikassa. Dhammaṃ caranto sāmikaṃ parājeti, āpatti pārājikassa. Dhammaṃ caranto parajjati, āpatti thullaccayassa.
๑๐๔. เขตฺตํ นาม ยตฺถ ปุพฺพณฺณํ วา อปรณฺณํ วา ชายติฯ เขตฺตฎฺฐํ นาม ภณฺฑํ เขเตฺต จตูหิ ฐาเนหิ นิกฺขิตฺตํ โหติ – ภูมฎฺฐํ, ถลฎฺฐํ, อากาสฎฺฐํ, เวหาสฎฺฐํฯ เขตฺตฎฺฐํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามีติ เถยฺยจิโตฺต ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ, ทุกฺกฎสฺสฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ตตฺถ ชาตกํ ปุพฺพณฺณํ วา อปรณฺณํ วา ปญฺจมาสกํ วา อติเรกปญฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ เขตฺตํ อภิยุญฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ สามิกสฺส วิมติํ อุปฺปาเทติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ สามิโก น มยฺหํ ภวิสฺสตีติ ธุรํ นิกฺขิปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ธมฺมํ จรโนฺต สามิกํ ปราเชติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ธมฺมํ จรโนฺต ปรชฺชติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ขิลํ วา รชฺชุํ วา วติํ วา มริยาทํ วา สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ เอกํ ปโยคํ อนาคเต, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ตสฺมิํ ปโยเค อาคเต, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
104.Khettaṃ nāma yattha pubbaṇṇaṃ vā aparaṇṇaṃ vā jāyati. Khettaṭṭhaṃ nāma bhaṇḍaṃ khette catūhi ṭhānehi nikkhittaṃ hoti – bhūmaṭṭhaṃ, thalaṭṭhaṃ, ākāsaṭṭhaṃ, vehāsaṭṭhaṃ. Khettaṭṭhaṃ bhaṇḍaṃ avaharissāmīti theyyacitto dutiyaṃ vā pariyesati gacchati vā, āpatti, dukkaṭassa. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa. Tattha jātakaṃ pubbaṇṇaṃ vā aparaṇṇaṃ vā pañcamāsakaṃ vā atirekapañcamāsakaṃ vā agghanakaṃ theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa. Khettaṃ abhiyuñjati, āpatti dukkaṭassa. Sāmikassa vimatiṃ uppādeti, āpatti thullaccayassa. Sāmiko na mayhaṃ bhavissatīti dhuraṃ nikkhipati, āpatti pārājikassa. Dhammaṃ caranto sāmikaṃ parājeti, āpatti pārājikassa. Dhammaṃ caranto parajjati, āpatti thullaccayassa. Khilaṃ vā rajjuṃ vā vatiṃ vā mariyādaṃ vā saṅkāmeti, āpatti dukkaṭassa. Ekaṃ payogaṃ anāgate, āpatti thullaccayassa. Tasmiṃ payoge āgate, āpatti pārājikassa.
๑๐๕. วตฺถุ นาม อารามวตฺถุ วิหารวตฺถุฯ วตฺถุฎฺฐํ นาม ภณฺฑํ วตฺถุสฺมิํ จตูหิ ฐาเนหิ นิกฺขิตฺตํ โหติ – ภูมฎฺฐํ, ถลฎฺฐํ, อากาสฎฺฐํ, เวหาสฎฺฐํฯ วตฺถุฎฺฐํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามีติ เถยฺยจิโตฺต ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ วตฺถุํ อภิยุญฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ สามิกสฺส วิมติํ อุปฺปาเทติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ สามิโก น มยฺหํ ภวิสฺสตีติ ธุรํ นิกฺขิปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ธมฺมํ จรโนฺต สามิกํ ปราเชติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ธมฺมํ จรโนฺต ปรชฺชติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ขีลํ วา รชฺชุํ วา วติํ วา ปาการํ วา สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ เอกํ ปโยคํ อนาคเต อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ตสฺมิํ ปโยเค อาคเต อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
105.Vatthu nāma ārāmavatthu vihāravatthu. Vatthuṭṭhaṃ nāma bhaṇḍaṃ vatthusmiṃ catūhi ṭhānehi nikkhittaṃ hoti – bhūmaṭṭhaṃ, thalaṭṭhaṃ, ākāsaṭṭhaṃ, vehāsaṭṭhaṃ. Vatthuṭṭhaṃ bhaṇḍaṃ avaharissāmīti theyyacitto dutiyaṃ vā pariyesati gacchati vā, āpatti dukkaṭassa. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa. Vatthuṃ abhiyuñjati, āpatti dukkaṭassa. Sāmikassa vimatiṃ uppādeti, āpatti thullaccayassa. Sāmiko na mayhaṃ bhavissatīti dhuraṃ nikkhipati, āpatti pārājikassa. Dhammaṃ caranto sāmikaṃ parājeti, āpatti pārājikassa. Dhammaṃ caranto parajjati, āpatti thullaccayassa. Khīlaṃ vā rajjuṃ vā vatiṃ vā pākāraṃ vā saṅkāmeti, āpatti dukkaṭassa. Ekaṃ payogaṃ anāgate āpatti thullaccayassa. Tasmiṃ payoge āgate āpatti pārājikassa.
๑๐๖. คามฎฺฐํ นาม ภณฺฑํ คาเม จตูหิ ฐาเนหิ นิกฺขิตฺตํ โหติ – ภูมฎฺฐํ, ถลฎฺฐํ, อากาสฎฺฐํ, เวหาสฎฺฐํฯ คามฎฺฐํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามีติ เถยฺยจิโตฺต ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
106.Gāmaṭṭhaṃ nāma bhaṇḍaṃ gāme catūhi ṭhānehi nikkhittaṃ hoti – bhūmaṭṭhaṃ, thalaṭṭhaṃ, ākāsaṭṭhaṃ, vehāsaṭṭhaṃ. Gāmaṭṭhaṃ bhaṇḍaṃ avaharissāmīti theyyacitto dutiyaṃ vā pariyesati gacchati vā, āpatti dukkaṭassa. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa.
๑๐๗. อรญฺญํ นาม ยํ มนุสฺสานํ ปริคฺคหิตํ โหติ, ตํ อรญฺญํฯ อรญฺญฎฺฐํ นาม ภณฺฑํ อรเญฺญ จตูหิ ฐาเนหิ นิกฺขิตฺตํ โหติ – ภูมฎฺฐํ, ถลฎฺฐํ, อากาสฎฺฐํ, เวหาสฎฺฐํฯ อรญฺญฎฺฐํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามีติ เถยฺยจิโตฺต ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ตตฺถ ชาตกํ กฎฺฐํ วา ลตํ วา ติณํ วา ปญฺจมาสกํ วา อติเรกปญฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
107.Araññaṃ nāma yaṃ manussānaṃ pariggahitaṃ hoti, taṃ araññaṃ. Araññaṭṭhaṃ nāma bhaṇḍaṃ araññe catūhi ṭhānehi nikkhittaṃ hoti – bhūmaṭṭhaṃ, thalaṭṭhaṃ, ākāsaṭṭhaṃ, vehāsaṭṭhaṃ. Araññaṭṭhaṃ bhaṇḍaṃ avaharissāmīti theyyacitto dutiyaṃ vā pariyesati gacchati vā, āpatti dukkaṭassa. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa. Tattha jātakaṃ kaṭṭhaṃ vā lataṃ vā tiṇaṃ vā pañcamāsakaṃ vā atirekapañcamāsakaṃ vā agghanakaṃ theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa.
๑๐๘. อุทกํ นาม ภาชนคตํ วา โหติ โปกฺขรณิยา วา ตฬาเก วาฯ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส ฯ อตฺตโน ภาชนํ ปเวเสตฺวา ปญฺจมาสกํ วา อติเรกปญฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ อุทกํ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ อตฺตโน ภาชนคตํ กโรติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ มริยาทํ ภินฺทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ มริยาทํ ภินฺทิตฺวา ปญฺจมาสกํ วา อติเรกปญฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ อุทกํ นิกฺขาเมติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ อติเรกมาสกํ วา อูนปญฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ อุทกํ นิกฺขาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ มาสกํ วา อูนมาสกํ วา อคฺฆนกํ อุทกํ นิกฺขาเมติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
108.Udakaṃ nāma bhājanagataṃ vā hoti pokkharaṇiyā vā taḷāke vā. Theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa . Attano bhājanaṃ pavesetvā pañcamāsakaṃ vā atirekapañcamāsakaṃ vā agghanakaṃ udakaṃ theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Attano bhājanagataṃ karoti, āpatti pārājikassa. Mariyādaṃ bhindati, āpatti dukkaṭassa. Mariyādaṃ bhinditvā pañcamāsakaṃ vā atirekapañcamāsakaṃ vā agghanakaṃ udakaṃ nikkhāmeti, āpatti pārājikassa. Atirekamāsakaṃ vā ūnapañcamāsakaṃ vā agghanakaṃ udakaṃ nikkhāmeti, āpatti thullaccayassa. Māsakaṃ vā ūnamāsakaṃ vā agghanakaṃ udakaṃ nikkhāmeti, āpatti dukkaṭassa.
๑๐๙. ทนฺตโปณํ นาม ฉินฺนํ วา อจฺฉินฺนํ วาฯ ปญฺจมาสกํ วา อติเรกปญฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
109.Dantapoṇaṃ nāma chinnaṃ vā acchinnaṃ vā. Pañcamāsakaṃ vā atirekapañcamāsakaṃ vā agghanakaṃ theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa.
๑๑๐. วนปฺปติ นาม โย มนุสฺสานํ ปริคฺคหิโต โหติ รุโกฺข ปริโภโคฯ เถยฺยจิโตฺต ฉินฺทติ, ปหาเร ปหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ เอกํ ปหารํ อนาคเต, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ตสฺมิํ ปหาเร อาคเต, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
110.Vanappati nāma yo manussānaṃ pariggahito hoti rukkho paribhogo. Theyyacitto chindati, pahāre pahāre āpatti dukkaṭassa. Ekaṃ pahāraṃ anāgate, āpatti thullaccayassa. Tasmiṃ pahāre āgate, āpatti pārājikassa.
๑๑๑. หรณกํ นาม อญฺญสฺส หรณกํ ภณฺฑํฯ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ สหภณฺฑหารกํ ปทสา เนสฺสามีติ ปฐมํ ปาทํ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ทุติยํ ปาทํ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ปติตํ ภณฺฑํ คเหสฺสามีติ ปาตาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปติตํ ภณฺฑํ ปญฺจมาสกํ วา อติเรกปญฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
111.Haraṇakaṃ nāma aññassa haraṇakaṃ bhaṇḍaṃ. Theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa. Sahabhaṇḍahārakaṃ padasā nessāmīti paṭhamaṃ pādaṃ saṅkāmeti, āpatti thullaccayassa. Dutiyaṃ pādaṃ saṅkāmeti, āpatti pārājikassa. Patitaṃ bhaṇḍaṃ gahessāmīti pātāpeti, āpatti dukkaṭassa. Patitaṃ bhaṇḍaṃ pañcamāsakaṃ vā atirekapañcamāsakaṃ vā agghanakaṃ theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa.
๑๑๒. อุปนิธิ นาม อุปนิกฺขิตฺตํ ภณฺฑํฯ เทหิ เม ภณฺฑนฺติ วุจฺจมาโน นาหํ คณฺหามีติ ภณติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ สามิกสฺส วิมติํ อุปฺปาเทติ , อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส ฯ สามิโก น มยฺหํ ทสฺสตีติ ธุรํ นิกฺขิปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ธมฺมํ จรโนฺต สามิกํ ปราเชติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ธมฺมํ จรโนฺต ปรชฺชติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ
112.Upanidhi nāma upanikkhittaṃ bhaṇḍaṃ. Dehi me bhaṇḍanti vuccamāno nāhaṃ gaṇhāmīti bhaṇati, āpatti dukkaṭassa. Sāmikassa vimatiṃ uppādeti , āpatti thullaccayassa . Sāmiko na mayhaṃ dassatīti dhuraṃ nikkhipati, āpatti pārājikassa. Dhammaṃ caranto sāmikaṃ parājeti, āpatti pārājikassa. Dhammaṃ caranto parajjati, āpatti thullaccayassa.
๑๑๓. สุงฺกฆาตํ นาม รญฺญา ฐปิตํ โหติ ปพฺพตขเณฺฑ วา นทีติเตฺถ วา คามทฺวาเร วา – ‘อตฺร ปวิฎฺฐสฺส สุงฺกํ คณฺหนฺตู’ติฯ ตตฺร ปวิสิตฺวา ราชคฺคํ 25 ภณฺฑํ ปญฺจมาสกํ วา อติเรกปญฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ปฐมํ ปาทํ สุงฺกฆาตํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ทุติยํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ อโนฺตสุงฺกฆาเต ฐิโต พหิสุงฺกฆาตํ ปาเตติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ สุงฺกํ ปริหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
113.Suṅkaghātaṃ nāma raññā ṭhapitaṃ hoti pabbatakhaṇḍe vā nadītitthe vā gāmadvāre vā – ‘atra paviṭṭhassa suṅkaṃ gaṇhantū’ti. Tatra pavisitvā rājaggaṃ 26 bhaṇḍaṃ pañcamāsakaṃ vā atirekapañcamāsakaṃ vā agghanakaṃ theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Paṭhamaṃ pādaṃ suṅkaghātaṃ atikkāmeti, āpatti thullaccayassa. Dutiyaṃ pādaṃ atikkāmeti, āpatti pārājikassa. Antosuṅkaghāte ṭhito bahisuṅkaghātaṃ pāteti, āpatti pārājikassa. Suṅkaṃ pariharati, āpatti dukkaṭassa.
๑๑๔. ปาโณ นาม มนุสฺสปาโณ วุจฺจติฯ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ปทสา เนสฺสามีติ ปฐมํ ปาทํ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ทุติยํ ปาทํ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
114.Pāṇo nāma manussapāṇo vuccati. Theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa. Padasā nessāmīti paṭhamaṃ pādaṃ saṅkāmeti, āpatti thullaccayassa. Dutiyaṃ pādaṃ saṅkāmeti, āpatti pārājikassa.
อปทํ นาม อหิ มจฺฉาฯ ปญฺจมาสกํ วา อติเรกปญฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
Apadaṃ nāma ahi macchā. Pañcamāsakaṃ vā atirekapañcamāsakaṃ vā agghanakaṃ theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa.
๑๑๕. ทฺวิปทํ นาม มนุสฺสา, ปกฺขชาตาฯ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ปทสา เนสฺสามีติ ปฐมํ ปาทํ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ทุติยํ ปาทํ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
115.Dvipadaṃ nāma manussā, pakkhajātā. Theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa. Padasā nessāmīti paṭhamaṃ pādaṃ saṅkāmeti, āpatti thullaccayassa. Dutiyaṃ pādaṃ saṅkāmeti, āpatti pārājikassa.
๑๑๖. จตุปฺปทํ นาม – หตฺถี อสฺสา โอฎฺฐา โคณา คทฺรภา ปสุกาฯ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ปทสา เนสฺสามีติ ปฐมํ ปาทํ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ทุติยํ ปาทํ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ตติยํ ปาทํ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ จตุตฺถํ ปาทํ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
116.Catuppadaṃ nāma – hatthī assā oṭṭhā goṇā gadrabhā pasukā. Theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa. Padasā nessāmīti paṭhamaṃ pādaṃ saṅkāmeti, āpatti thullaccayassa. Dutiyaṃ pādaṃ saṅkāmeti, āpatti thullaccayassa. Tatiyaṃ pādaṃ saṅkāmeti, āpatti thullaccayassa. Catutthaṃ pādaṃ saṅkāmeti, āpatti pārājikassa.
๑๑๗. พหุปฺปทํ นาม – วิจฺฉิกา สตปที อุจฺจาลิงฺคปาณกาฯ ปญฺจมาสกํ วา อติเรกปญฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ ปทสา เนสฺสามีติ สงฺกาเมติ, ปเท ปเท อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ปจฺฉิมํ ปาทํ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
117.Bahuppadaṃ nāma – vicchikā satapadī uccāliṅgapāṇakā. Pañcamāsakaṃ vā atirekapañcamāsakaṃ vā agghanakaṃ theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa. Padasā nessāmīti saṅkāmeti, pade pade āpatti thullaccayassa. Pacchimaṃ pādaṃ saṅkāmeti, āpatti pārājikassa.
๑๑๘. โอจรโก นาม ภณฺฑํ โอจริตฺวา อาจิกฺขติ – ‘‘อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ โส ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, อาปตฺติ อุภินฺนํ ปาราชิกสฺสฯ
118.Ocarako nāma bhaṇḍaṃ ocaritvā ācikkhati – ‘‘itthannāmaṃ bhaṇḍaṃ avaharā’’ti, āpatti dukkaṭassa. So taṃ bhaṇḍaṃ avaharati, āpatti ubhinnaṃ pārājikassa.
โอณิรโกฺข นาม อาหฎํ ภณฺฑํ โคเปโนฺต ปญฺจมาสกํ วา อติเรกปญฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ เถยฺยจิโตฺต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
Oṇirakkho nāma āhaṭaṃ bhaṇḍaṃ gopento pañcamāsakaṃ vā atirekapañcamāsakaṃ vā agghanakaṃ theyyacitto āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa.
สํวิทาวหาโร นาม สมฺพหุลา สํวิทหิตฺวา เอโก ภณฺฑํ อวหรติ, อาปตฺติ สเพฺพสํ ปาราชิกสฺสฯ
Saṃvidāvahāro nāma sambahulā saṃvidahitvā eko bhaṇḍaṃ avaharati, āpatti sabbesaṃ pārājikassa.
๑๑๙. สเงฺกตกมฺมํ นาม สเงฺกตํ กโรติ – ‘‘ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา รตฺติํ วา ทิวา วา เตน สเงฺกเตน ตํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ เตน สเงฺกเตน ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, อาปตฺติ อุภินฺนํ ปาราชิกสฺสฯ ตํ สเงฺกตํ ปุเร วา ปจฺฉา วา ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, มูลฎฺฐสฺส อนาปตฺติฯ อวหารกสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
119.Saṅketakammaṃ nāma saṅketaṃ karoti – ‘‘purebhattaṃ vā pacchābhattaṃ vā rattiṃ vā divā vā tena saṅketena taṃ bhaṇḍaṃ avaharā’’ti, āpatti dukkaṭassa. Tena saṅketena taṃ bhaṇḍaṃ avaharati, āpatti ubhinnaṃ pārājikassa. Taṃ saṅketaṃ pure vā pacchā vā taṃ bhaṇḍaṃ avaharati, mūlaṭṭhassa anāpatti. Avahārakassa āpatti pārājikassa.
๑๒๐. นิมิตฺตกมฺมํ นาม นิมิตฺตํ กโรติฯ อกฺขิํ วา นิขณิสฺสามิ ภมุกํ วา อุกฺขิปิสฺสามิ สีสํ วา อุกฺขิปิสฺสามิ, เตน นิมิเตฺตน ตํ ภณฺฑํ อวหราติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ เตน นิมิเตฺตน ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, อาปตฺติ อุภินฺนํ ปาราชิกสฺสฯ ตํ นิมิตฺตํ ปุเร วา ปจฺฉา วา ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, มูลฎฺฐสฺส อนาปตฺติฯ อวหารกสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
120.Nimittakammaṃ nāma nimittaṃ karoti. Akkhiṃ vā nikhaṇissāmi bhamukaṃ vā ukkhipissāmi sīsaṃ vā ukkhipissāmi, tena nimittena taṃ bhaṇḍaṃ avaharāti, āpatti dukkaṭassa. Tena nimittena taṃ bhaṇḍaṃ avaharati, āpatti ubhinnaṃ pārājikassa. Taṃ nimittaṃ pure vā pacchā vā taṃ bhaṇḍaṃ avaharati, mūlaṭṭhassa anāpatti. Avahārakassa āpatti pārājikassa.
๑๒๑. ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปติ – ‘‘อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ โส ตํ มญฺญมาโน ตํ อวหรติ, อาปตฺติ อุภินฺนํ ปาราชิกสฺสฯ
121. Bhikkhu bhikkhuṃ āṇāpeti – ‘‘itthannāmaṃ bhaṇḍaṃ avaharā’’ti, āpatti dukkaṭassa. So taṃ maññamāno taṃ avaharati, āpatti ubhinnaṃ pārājikassa.
ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปติ – ‘‘อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ โส ตํ มญฺญมาโน อญฺญํ อวหรติ, มูลฎฺฐสฺส อนาปตฺติฯ อวหารกสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
Bhikkhu bhikkhuṃ āṇāpeti – ‘‘itthannāmaṃ bhaṇḍaṃ avaharā’’ti, āpatti dukkaṭassa. So taṃ maññamāno aññaṃ avaharati, mūlaṭṭhassa anāpatti. Avahārakassa āpatti pārājikassa.
ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปติ – ‘‘อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ โส อญฺญํ มญฺญมาโน ตํ อวหรติ, อาปตฺติ อุภินฺนํ ปาราชิกสฺสฯ
Bhikkhu bhikkhuṃ āṇāpeti – ‘‘itthannāmaṃ bhaṇḍaṃ avaharā’’ti, āpatti dukkaṭassa. So aññaṃ maññamāno taṃ avaharati, āpatti ubhinnaṃ pārājikassa.
ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปติ – ‘‘อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ โส อญฺญํ มญฺญมาโน อญฺญํ อวหรติ, มูลฎฺฐสฺส อนาปตฺติฯ อวหารกสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
Bhikkhu bhikkhuṃ āṇāpeti – ‘‘itthannāmaṃ bhaṇḍaṃ avaharā’’ti, āpatti dukkaṭassa. So aññaṃ maññamāno aññaṃ avaharati, mūlaṭṭhassa anāpatti. Avahārakassa āpatti pārājikassa.
ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปติ – ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส ปาวท – ‘อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส ปาวทตุ – อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรตู’’’ติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ โส อิตรสฺส อาโรเจติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อวหารโก ปฎิคฺคณฺหาติ, มูลฎฺฐสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ โส ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, อาปตฺติ สเพฺพสํ ปาราชิกสฺสฯ
Bhikkhu bhikkhuṃ āṇāpeti – ‘‘itthannāmassa pāvada – ‘itthannāmo itthannāmassa pāvadatu – itthannāmo itthannāmaṃ bhaṇḍaṃ avaharatū’’’ti, āpatti dukkaṭassa. So itarassa āroceti, āpatti dukkaṭassa. Avahārako paṭiggaṇhāti, mūlaṭṭhassa āpatti thullaccayassa. So taṃ bhaṇḍaṃ avaharati, āpatti sabbesaṃ pārājikassa.
ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปติ – ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส ปาวท – ‘อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส ปาวทตุ – อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรตู’’’ติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ โส อญฺญํ อาณาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อวหารโก ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ โส ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, มูลฎฺฐสฺส อนาปตฺติฯ อาณาปกสฺส จ อวหารกสฺส จ อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
Bhikkhu bhikkhuṃ āṇāpeti – ‘‘itthannāmassa pāvada – ‘itthannāmo itthannāmassa pāvadatu – itthannāmo itthannāmaṃ bhaṇḍaṃ avaharatū’’’ti, āpatti dukkaṭassa. So aññaṃ āṇāpeti, āpatti dukkaṭassa. Avahārako paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassa. So taṃ bhaṇḍaṃ avaharati, mūlaṭṭhassa anāpatti. Āṇāpakassa ca avahārakassa ca āpatti pārājikassa.
ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปติ – ‘‘อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ โส คนฺตฺวา ปุน ปจฺจาคจฺฉติ – ‘‘นาหํ สโกฺกมิ ตํ ภณฺฑํ อวหริตุ’’นฺติฯ โส ปุน อาณาเปติ – ‘‘ยทา สโกฺกสิ ตทา ตํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ โส ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, อาปตฺติ อุภินฺนํ ปาราชิกสฺสฯ
Bhikkhu bhikkhuṃ āṇāpeti – ‘‘itthannāmaṃ bhaṇḍaṃ avaharā’’ti, āpatti dukkaṭassa. So gantvā puna paccāgacchati – ‘‘nāhaṃ sakkomi taṃ bhaṇḍaṃ avaharitu’’nti. So puna āṇāpeti – ‘‘yadā sakkosi tadā taṃ bhaṇḍaṃ avaharā’’ti, āpatti dukkaṭassa. So taṃ bhaṇḍaṃ avaharati, āpatti ubhinnaṃ pārājikassa.
ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปติ – ‘‘อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ โส อาณาเปตฺวา วิปฺปฎิสารี น สาเวติ – ‘‘มา อวหรี’’ติฯ โส ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, อาปตฺติ อุภินฺนํ ปาราชิกสฺสฯ
Bhikkhu bhikkhuṃ āṇāpeti – ‘‘itthannāmaṃ bhaṇḍaṃ avaharā’’ti, āpatti dukkaṭassa. So āṇāpetvā vippaṭisārī na sāveti – ‘‘mā avaharī’’ti. So taṃ bhaṇḍaṃ avaharati, āpatti ubhinnaṃ pārājikassa.
ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปติ – ‘‘อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ โส อาณาเปตฺวา วิปฺปฎิสารี สาเวติ – ‘‘มา อวหรี’’ติฯ โส ‘‘อาณโตฺต อหํ ตยา’’ติ, ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, มูลฎฺฐสฺส อนาปตฺติฯ อวหารกสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
Bhikkhu bhikkhuṃ āṇāpeti – ‘‘itthannāmaṃ bhaṇḍaṃ avaharā’’ti, āpatti dukkaṭassa. So āṇāpetvā vippaṭisārī sāveti – ‘‘mā avaharī’’ti. So ‘‘āṇatto ahaṃ tayā’’ti, taṃ bhaṇḍaṃ avaharati, mūlaṭṭhassa anāpatti. Avahārakassa āpatti pārājikassa.
ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปติ – ‘‘อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ โส อาณาเปตฺวา วิปฺปฎิสารี สาเวติ – ‘‘มา อวหรี’’ติฯ โส ‘‘สาธู’’ติ 27? โอรมติ, อุภินฺนํ อนาปตฺติฯ
Bhikkhu bhikkhuṃ āṇāpeti – ‘‘itthannāmaṃ bhaṇḍaṃ avaharā’’ti, āpatti dukkaṭassa. So āṇāpetvā vippaṭisārī sāveti – ‘‘mā avaharī’’ti. So ‘‘sādhū’’ti 28? Oramati, ubhinnaṃ anāpatti.
๑๒๒. ปญฺจหิ อากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺส – ปรปริคฺคหิตญฺจ โหติ, ปรปริคฺคหิตสญฺญี จ, ครุโก จ โหติ ปริกฺขาโร, ปญฺจมาสโก วา อติเรกปญฺจมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตญฺจ ปจฺจุปฎฺฐิตํ โหติฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
122. Pañcahi ākārehi adinnaṃ ādiyantassa āpatti pārājikassa – parapariggahitañca hoti, parapariggahitasaññī ca, garuko ca hoti parikkhāro, pañcamāsako vā atirekapañcamāsako vā, theyyacittañca paccupaṭṭhitaṃ hoti. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa.
๑๒๓. ปญฺจหิ อากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส – ปรปริคฺคหิตญฺจ โหติ, ปรปริคฺคหิตสญฺญี จ, ลหุโก จ โหติ ปริกฺขาโร, อติเรกมาสโก วา อูนปญฺจมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตญฺจ ปจฺจุปฎฺฐิตํ โหติฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ
123. Pañcahi ākārehi adinnaṃ ādiyantassa āpatti thullaccayassa – parapariggahitañca hoti, parapariggahitasaññī ca, lahuko ca hoti parikkhāro, atirekamāsako vā ūnapañcamāsako vā, theyyacittañca paccupaṭṭhitaṃ hoti. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti dukkaṭassa. Ṭhānā cāveti, āpatti thullaccayassa.
๑๒๔. ปญฺจหิ อากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปรปริคฺคหิตญฺจ โหติ, ปรปริคฺคหิตสญฺญี จ, ลหุโก จ โหติ ปริกฺขาโร, มาสโก วา อูนมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตญฺจ ปจฺจุปฎฺฐิตํ โหติฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
124. Pañcahi ākārehi adinnaṃ ādiyantassa āpatti dukkaṭassa. Parapariggahitañca hoti, parapariggahitasaññī ca, lahuko ca hoti parikkhāro, māsako vā ūnamāsako vā, theyyacittañca paccupaṭṭhitaṃ hoti. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti dukkaṭassa. Ṭhānā cāveti, āpatti dukkaṭassa.
๑๒๕. ฉหิ อากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ น จ สกสญฺญี, น จ วิสฺสาสคฺคาหี, น จ ตาวกาลิกํ, ครุโก จ โหติ ปริกฺขาโร, ปญฺจมาสโก วา อติเรกปญฺจมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตญฺจ ปจฺจุปฎฺฐิตํ โหติฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ
125. Chahi ākārehi adinnaṃ ādiyantassa āpatti pārājikassa. Na ca sakasaññī, na ca vissāsaggāhī, na ca tāvakālikaṃ, garuko ca hoti parikkhāro, pañcamāsako vā atirekapañcamāsako vā, theyyacittañca paccupaṭṭhitaṃ hoti. Āmasati, āpatti dukkaṭasa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassa.
๑๒๖. ฉหิ อากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ น จ สกสญฺญี, น จ วิสฺสาสคฺคาหี, น จ ตาวกาลิกํ, ลหุโก จ โหติ ปริกฺขาโร อติเรกมาสโก วา อูนปญฺจมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตญฺจ ปจฺจุปฎฺฐิตํ โหติฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ
126. Chahi ākārehi adinnaṃ ādiyantassa āpatti thullaccayassa. Na ca sakasaññī, na ca vissāsaggāhī, na ca tāvakālikaṃ, lahuko ca hoti parikkhāro atirekamāsako vā ūnapañcamāsako vā, theyyacittañca paccupaṭṭhitaṃ hoti. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti dukkaṭassa. Ṭhānā cāveti, āpatti thullaccayassa.
๑๒๗. ฉหิ อากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ น จ สกสญฺญี, น จ วิสฺสาสคฺคาหี, น จ ตาวกาลิกํ, ลหุโก จ โหติ ปริกฺขาโร, มาสโก วา อูนมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตญฺจ ปจฺจุปฎฺฐิตํ โหติฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
127. Chahi ākārehi adinnaṃ ādiyantassa āpatti dukkaṭassa. Na ca sakasaññī, na ca vissāsaggāhī, na ca tāvakālikaṃ, lahuko ca hoti parikkhāro, māsako vā ūnamāsako vā, theyyacittañca paccupaṭṭhitaṃ hoti. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti dukkaṭassa. Ṭhānā cāveti, āpatti dukkaṭassa.
๑๒๘. ปญฺจหิ อากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ น จ ปรปริคฺคหิตํ โหติ, ปรปริคฺคหิตสญฺญี จ, ครุโก จ โหติ ปริกฺขาโร, ปญฺจมาสโก วา อติเรกปญฺจมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตญฺจ ปจฺจุปฎฺฐิตํ โหติฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
128. Pañcahi ākārehi adinnaṃ ādiyantassa āpatti dukkaṭassa. Na ca parapariggahitaṃ hoti, parapariggahitasaññī ca, garuko ca hoti parikkhāro, pañcamāsako vā atirekapañcamāsako vā, theyyacittañca paccupaṭṭhitaṃ hoti. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti dukkaṭassa. Ṭhānā cāveti, āpatti dukkaṭassa.
๑๒๙. ปญฺจหิ อากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ น จ ปรปริคฺคหิตํ โหติ, ปรปริคฺคหิตสญฺญี จ, ลหุโก จ โหติ ปริกฺขาโร, อติเรกมาสโก วา อูนปญฺจมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตญฺจ ปจฺจุปฎฺฐิตํ โหติฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
129. Pañcahi ākārehi adinnaṃ ādiyantassa āpatti dukkaṭassa. Na ca parapariggahitaṃ hoti, parapariggahitasaññī ca, lahuko ca hoti parikkhāro, atirekamāsako vā ūnapañcamāsako vā, theyyacittañca paccupaṭṭhitaṃ hoti. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti dukkaṭassa. Ṭhānā cāveti, āpatti dukkaṭassa.
๑๓๐. ปญฺจหิ อากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ น จ ปรปริคฺคหิตํ โหติ, ปรปริคฺคหิตสญฺญี จ, ลหุโก จ โหติ ปริกฺขาโร, มาสโก วา อูนมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตญฺจ ปจฺจุปฎฺฐิตํ โหติฯ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
130. Pañcahi ākārehi adinnaṃ ādiyantassa āpatti dukkaṭassa. Na ca parapariggahitaṃ hoti, parapariggahitasaññī ca, lahuko ca hoti parikkhāro, māsako vā ūnamāsako vā, theyyacittañca paccupaṭṭhitaṃ hoti. Āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti dukkaṭassa. Ṭhānā cāveti, āpatti dukkaṭassa.
๑๓๑. อนาปตฺติ สสญฺญิสฺส, วิสฺสาสคฺคาเห, ตาวกาลิเก, เปตปริคฺคเห, ติรจฺฉานคตปริคฺคเห, ปํสุกูลสญฺญิสฺส, อุมฺมตฺตกสฺส, (ขิตฺตจิตฺตสฺส เวทนาฎฺฎสฺส) 29 อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
131. Anāpatti sasaññissa, vissāsaggāhe, tāvakālike, petapariggahe, tiracchānagatapariggahe, paṃsukūlasaññissa, ummattakassa, (khittacittassa vedanāṭṭassa) 30 ādikammikassāti.
อทินฺนาทานมฺหิ ปฐมภาณวาโร นิฎฺฐิโตฯ
Adinnādānamhi paṭhamabhāṇavāro niṭṭhito.
วินีตวตฺถุอุทฺทานคาถา
Vinītavatthuuddānagāthā
รชเกหิ ปญฺจ อกฺขาตา, จตุโร อตฺถรเณหิ จ;
Rajakehi pañca akkhātā, caturo attharaṇehi ca;
อนฺธกาเรน เว ปญฺจ, ปญฺจ หารณเกน จฯ
Andhakārena ve pañca, pañca hāraṇakena ca.
นิรุตฺติยา ปญฺจ อกฺขาตา, วาเตหิ อปเร ทุเว;
Niruttiyā pañca akkhātā, vātehi apare duve;
วิฆาเสหิ ปญฺจ อกฺขาตา, ปญฺจ เจว อมูลกา;
Vighāsehi pañca akkhātā, pañca ceva amūlakā;
ฉปริกฺขารถวิกา , ภิสิวํสา น นิกฺขเม;
Chaparikkhārathavikā , bhisivaṃsā na nikkhame;
ขาทนียญฺจ วิสฺสาสํ, สสญฺญายปเร ทุเวฯ
Khādanīyañca vissāsaṃ, sasaññāyapare duve.
สตฺต นาวหรามาติ, สตฺต เจว อวาหรุํ;
Satta nāvaharāmāti, satta ceva avāharuṃ;
สงฺฆสฺส อวหรุํ สตฺต, ปุเปฺผหิ อปเร ทุเวฯ
Saṅghassa avaharuṃ satta, pupphehi apare duve.
ตโย จ วุตฺตวาทิโน, มณิ ตีณิ อติกฺกเม;
Tayo ca vuttavādino, maṇi tīṇi atikkame;
สูกรา จ มิคา มจฺฉา, ยานญฺจาปิ ปวตฺตยิฯ
Sūkarā ca migā macchā, yānañcāpi pavattayi.
ทุเว เปสี ทุเว ทารู, ปํสุกูลํ ทุเว ทกา;
Duve pesī duve dārū, paṃsukūlaṃ duve dakā;
อนุปุพฺพวิธาเนน , ตทโญฺญ น ปริปูรยิฯ
Anupubbavidhānena , tadañño na paripūrayi.
สาวตฺถิยา จตุโร มุฎฺฐี, เทฺว วิฆาสา ทุเว ติณา;
Sāvatthiyā caturo muṭṭhī, dve vighāsā duve tiṇā;
สงฺฆสฺส ภาชยุํ สตฺต, สตฺต เจว อสฺสามิกาฯ
Saṅghassa bhājayuṃ satta, satta ceva assāmikā.
ทารุทกา มตฺติกา เทฺว ติณานิ;
Dārudakā mattikā dve tiṇāni;
สงฺฆสฺส สตฺต อวหาสิ เสยฺยํ;
Saṅghassa satta avahāsi seyyaṃ;
สสฺสามิกํ น จาปิ นีหเรยฺย;
Sassāmikaṃ na cāpi nīhareyya;
หเรยฺย สสฺสามิกํ ตาวกาลิกํฯ
Hareyya sassāmikaṃ tāvakālikaṃ.
จมฺปา ราชคเห เจว, เวสาลิยา จ อชฺชุโก;
Campā rājagahe ceva, vesāliyā ca ajjuko;
พาราณสี จ โกสมฺพี, สาคลา ทฬฺหิเกน จาติฯ
Bārāṇasī ca kosambī, sāgalā daḷhikena cāti.
วินีตวตฺถุ
Vinītavatthu
๑๓๒. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู รชกตฺถรณํ คนฺตฺวา รชกภณฺฑิกํ อวหริํสุฯ เตสํ กุกฺกุจฺจํ อโหสิ – ‘‘ภควตา สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํฯ กจฺจิ นุ โข มยํ ปาราชิกํ อาปตฺติํ อาปนฺนา’’ติ ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อาปตฺติํ ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อาปนฺนา ปาราชิก’’นฺติฯ
132. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū rajakattharaṇaṃ gantvā rajakabhaṇḍikaṃ avahariṃsu. Tesaṃ kukkuccaṃ ahosi – ‘‘bhagavatā sikkhāpadaṃ paññattaṃ. Kacci nu kho mayaṃ pārājikaṃ āpattiṃ āpannā’’ti . Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Āpattiṃ tumhe, bhikkhave, āpannā pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ รชกตฺถรณํ คนฺตฺวา มหคฺฆํ ทุสฺสํ ปสฺสิตฺวา เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ – ‘‘ภควตา สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ, กจฺจิ นุ โข อหํ ปาราชิกํ อาปตฺติํ อาปโนฺน’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, จิตฺตุปฺปาเท’’ติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu rajakattharaṇaṃ gantvā mahagghaṃ dussaṃ passitvā theyyacittaṃ uppādesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi – ‘‘bhagavatā sikkhāpadaṃ paññattaṃ, kacci nu kho ahaṃ pārājikaṃ āpattiṃ āpanno’’ti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesi. ‘‘Anāpatti, bhikkhu, cittuppāde’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ รชกตฺถรณํ คนฺตฺวา มหคฺฆํ ทุสฺสํ ปสฺสิตฺวา เถยฺยจิโตฺต อามสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu rajakattharaṇaṃ gantvā mahagghaṃ dussaṃ passitvā theyyacitto āmasi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Āpatti dukkaṭassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ รชกตฺถรณํ คนฺตฺวา มหคฺฆํ ทุสฺสํ ปสฺสิตฺวา เถยฺยจิโตฺต ผนฺทาเปสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu rajakattharaṇaṃ gantvā mahagghaṃ dussaṃ passitvā theyyacitto phandāpesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Āpatti thullaccayassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ รชกตฺถรณํ คนฺตฺวา มหคฺฆํ ทุสฺสํ ปสฺสิตฺวา เถยฺยจิโตฺต ฐานา จาเวสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu rajakattharaṇaṃ gantvā mahagghaṃ dussaṃ passitvā theyyacitto ṭhānā cāvesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
๑๓๓. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ปิณฺฑจาริโก ภิกฺขุ มหคฺฆํ อุตฺตรตฺถรณํ ปสฺสิตฺวา เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทสิ…เป.… เถยฺยจิโตฺต อามสิ…เป.… เถยฺยจิโตฺต ผนฺทาเปสิ…เป.… เถยฺยจิโตฺต ฐานา จาเวสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
133. Tena kho pana samayena aññataro piṇḍacāriko bhikkhu mahagghaṃ uttarattharaṇaṃ passitvā theyyacittaṃ uppādesi…pe… theyyacitto āmasi…pe… theyyacitto phandāpesi…pe… theyyacitto ṭhānā cāvesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
๑๓๔. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ทิวา ภณฺฑํ ปสฺสิตฺวา นิมิตฺตํ อกาสิ – ‘รตฺติํ อวหริสฺสามี’ติฯ โส ตํ มญฺญมาโน ตํ อวหริ…เป.… ตํ มญฺญมาโน อญฺญํ อวหริ…เป.… อญฺญํ มญฺญมาโน ตํ อวหริ…เป.… อญฺญํ มญฺญมาโน อญฺญํ อวหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติ ฯ
134. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu divā bhaṇḍaṃ passitvā nimittaṃ akāsi – ‘rattiṃ avaharissāmī’ti. So taṃ maññamāno taṃ avahari…pe… taṃ maññamāno aññaṃ avahari…pe… aññaṃ maññamāno taṃ avahari…pe… aññaṃ maññamāno aññaṃ avahari. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti .
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ทิวา ภณฺฑํ ปสฺสิตฺวา นิมิตฺตํ อกาสิ – ‘‘รตฺติํ อวหริสฺสามี’’ติฯ โส ตํ มญฺญมาโน อตฺตโน ภณฺฑํ อวหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu divā bhaṇḍaṃ passitvā nimittaṃ akāsi – ‘‘rattiṃ avaharissāmī’’ti. So taṃ maññamāno attano bhaṇḍaṃ avahari. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Āpatti dukkaṭassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ อญฺญสฺส ภณฺฑํ หรโนฺต สีเส ภารํ เถยฺยจิโตฺต อามสิ…เป.… เถยฺยจิโตฺต ผนฺทาเปสิ…เป.… เถยฺยจิโตฺต ขนฺธํ โอโรเปสิ…เป.… ขเนฺธ ภารํ เถยฺยจิโตฺต อามสิ…เป.… เถยฺยจิโตฺต ผนฺทาเปสิ…เป.… เถยฺยจิโตฺต กฎิํ โอโรเปสิ…เป.… กฎิยา ภารํ เถยฺยจิโตฺต อามสิ…เป.… เถยฺยจิโตฺต ผนฺทาเปสิ…เป.… เถยฺยจิโตฺต หเตฺถน อคฺคเหสิ…เป.… หเตฺถ ภารํ เถยฺยจิโตฺต ภูมิยํ นิกฺขิปิ…เป.… เถยฺยจิโตฺต ภูมิโต อคฺคเหสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu aññassa bhaṇḍaṃ haranto sīse bhāraṃ theyyacitto āmasi…pe… theyyacitto phandāpesi…pe… theyyacitto khandhaṃ oropesi…pe… khandhe bhāraṃ theyyacitto āmasi…pe… theyyacitto phandāpesi…pe… theyyacitto kaṭiṃ oropesi…pe… kaṭiyā bhāraṃ theyyacitto āmasi…pe… theyyacitto phandāpesi…pe… theyyacitto hatthena aggahesi…pe… hatthe bhāraṃ theyyacitto bhūmiyaṃ nikkhipi…pe… theyyacitto bhūmito aggahesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
๑๓๕. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ อโชฺฌกาเส จีวรํ ปตฺถริตฺวา วิหารํ ปาวิสิฯ อญฺญตโร ภิกฺขุ – ‘มายิทํ จีวรํ นสฺสี’ติ, ปฎิสาเมสิฯ โส นิกฺขมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ ปุจฺฉิ – ‘‘อาวุโส, มยฺหํ จีวรํ เกน อวหฎ’’นฺติ ? โส เอวมาห – ‘‘มยา อวหฎ’’นฺติฯ ‘‘โส ตํ อาทิยิ, อสฺสมโณสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.…ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ‘‘กิํจิโตฺต ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ? ‘‘นิรุตฺติปโถ อหํ, ภควา’’ติฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, นิรุตฺติปเถ’’ติฯ
135. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu ajjhokāse cīvaraṃ pattharitvā vihāraṃ pāvisi. Aññataro bhikkhu – ‘māyidaṃ cīvaraṃ nassī’ti, paṭisāmesi. So nikkhamitvā taṃ bhikkhuṃ pucchi – ‘‘āvuso, mayhaṃ cīvaraṃ kena avahaṭa’’nti ? So evamāha – ‘‘mayā avahaṭa’’nti. ‘‘So taṃ ādiyi, assamaṇosi tva’’nti. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe…. Bhagavato etamatthaṃ ārocesi. ‘‘Kiṃcitto tvaṃ, bhikkhū’’ti? ‘‘Niruttipatho ahaṃ, bhagavā’’ti. ‘‘Anāpatti, bhikkhu, niruttipathe’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ปีเฐ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวาฯ ปีเฐ นิสีทนํ นิกฺขิปิตฺวา… เหฎฺฐาปีเฐ ปตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา วิหารํ ปาวิสิฯ อญฺญตโร ภิกฺขุ – ‘‘มายํ ปโตฺต นสฺสี’’ติ ปฎิสาเมสิฯ โส นิกฺขมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ ปุจฺฉิ – ‘‘อาวุโส, มยฺหํ ปโตฺต เกน อวหโฎ’’ติ? โส เอวมาห – ‘‘มยา อวหโฎ’’ติฯ ‘‘โส ตํ อาทิยิ, อสฺสมโณสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, นิรุตฺติปเถ’’ติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu pīṭhe cīvaraṃ nikkhipitvā. Pīṭhe nisīdanaṃ nikkhipitvā… heṭṭhāpīṭhe pattaṃ nikkhipitvā vihāraṃ pāvisi. Aññataro bhikkhu – ‘‘māyaṃ patto nassī’’ti paṭisāmesi. So nikkhamitvā taṃ bhikkhuṃ pucchi – ‘‘āvuso, mayhaṃ patto kena avahaṭo’’ti? So evamāha – ‘‘mayā avahaṭo’’ti. ‘‘So taṃ ādiyi, assamaṇosi tva’’nti. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, niruttipathe’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรา ภิกฺขุนี วติยา จีวรํ ปตฺถริตฺวา วิหารํ ปาวิสิฯ อญฺญตรา ภิกฺขุนี – ‘มายิทํ จีวรํ นสฺสี’ติ ปฎิสาเมสิฯ สา นิกฺขมิตฺวา ตํ ภิกฺขุนิํ ปุจฺฉิ – ‘‘อเยฺย, มยฺหํ จีวรํ เกน อวหฎ’’นฺติ? สา เอวมาห – ‘‘มยา อวหฎ’’นฺติฯ ‘‘สา ตํ อาทิยิ, อสฺสมณีสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺสา กุกฺกุจฺจํ อโหสิฯ อถ โข สา ภิกฺขุนี ภิกฺขุนีนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ภิกฺขุนิโย ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, นิรุตฺติปเถ’’ติฯ
Tena kho pana samayena aññatarā bhikkhunī vatiyā cīvaraṃ pattharitvā vihāraṃ pāvisi. Aññatarā bhikkhunī – ‘māyidaṃ cīvaraṃ nassī’ti paṭisāmesi. Sā nikkhamitvā taṃ bhikkhuniṃ pucchi – ‘‘ayye, mayhaṃ cīvaraṃ kena avahaṭa’’nti? Sā evamāha – ‘‘mayā avahaṭa’’nti. ‘‘Sā taṃ ādiyi, assamaṇīsi tva’’nti. Tassā kukkuccaṃ ahosi. Atha kho sā bhikkhunī bhikkhunīnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Bhikkhuniyo bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesuṃ. Bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhave, niruttipathe’’ti.
๑๓๖. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ วาตมณฺฑลิกาย อุกฺขิตฺตํ สาฎกํ ปสฺสิตฺวา สามิกานํ ทสฺสามีติ, อคฺคเหสิฯ สามิกา ตํ ภิกฺขุํ โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมโณสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘กิํจิโตฺต ตฺวํ ภิกฺขู’’ติ? ‘‘อเถยฺยจิโตฺต อหํ, ภควา’’ติฯ อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, อเถยฺยจิตฺตสฺสา’’ติฯ
136. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu vātamaṇḍalikāya ukkhittaṃ sāṭakaṃ passitvā sāmikānaṃ dassāmīti, aggahesi. Sāmikā taṃ bhikkhuṃ codesuṃ – ‘‘assamaṇosi tva’’nti. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘kiṃcitto tvaṃ bhikkhū’’ti? ‘‘Atheyyacitto ahaṃ, bhagavā’’ti. Anāpatti, bhikkhu, atheyyacittassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ วาตมณฺฑลิกาย อุกฺขิตฺตํ เวฐนํ ปสฺสิตฺวา ‘ปุเร สามิกา ปสฺสนฺตี’ติ เถยฺยจิโตฺต อคฺคเหสิฯ สามิกา ตํ ภิกฺขุํ โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมโณสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu vātamaṇḍalikāya ukkhittaṃ veṭhanaṃ passitvā ‘pure sāmikā passantī’ti theyyacitto aggahesi. Sāmikā taṃ bhikkhuṃ codesuṃ – ‘‘assamaṇosi tva’’nti. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
๑๓๗. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สุสานํ คนฺตฺวา อภิเนฺน สรีเร ปํสุกูลํ อคฺคเหสิฯ ตสฺมิญฺจ สรีเร เปโต อธิวโตฺถ โหติ ฯ อถ โข โส เปโต ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘มา, ภเนฺต, มยฺหํ สาฎกํ อคฺคเหสี’’ติฯ โส ภิกฺขุ อนาทิยโนฺต อคมาสิ ฯ อถ โข ตํ สรีรํ อุฎฺฐหิตฺวา ตสฺส ภิกฺขุโน ปิฎฺฐิโต ปิฎฺฐิโต อนุพนฺธิฯ อถ โข โส ภิกฺขุ วิหารํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ถเกสิฯ อถ โข ตํ สรีรํ ตเตฺถว ปริปติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ น จ, ภิกฺขเว, อภิเนฺน สรีเร ปํสุกูลํ คเหตพฺพํฯ โส คเณฺหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
137. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu susānaṃ gantvā abhinne sarīre paṃsukūlaṃ aggahesi. Tasmiñca sarīre peto adhivattho hoti . Atha kho so peto taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘mā, bhante, mayhaṃ sāṭakaṃ aggahesī’’ti. So bhikkhu anādiyanto agamāsi . Atha kho taṃ sarīraṃ uṭṭhahitvā tassa bhikkhuno piṭṭhito piṭṭhito anubandhi. Atha kho so bhikkhu vihāraṃ pavisitvā dvāraṃ thakesi. Atha kho taṃ sarīraṃ tattheva paripati. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Na ca, bhikkhave, abhinne sarīre paṃsukūlaṃ gahetabbaṃ. So gaṇheyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.
๑๓๘. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สงฺฆสฺส จีวเร ภาชียมาเน เถยฺยจิโตฺต กุสํ สงฺกาเมตฺวา จีวรํ อคฺคเหสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
138. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu saṅghassa cīvare bhājīyamāne theyyacitto kusaṃ saṅkāmetvā cīvaraṃ aggahesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
๑๓๙. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อานโนฺท ชนฺตาฆเร อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรวาสกํ อตฺตโน มญฺญมาโน นิวาเสสิฯ อถ โข โส ภิกฺขุ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘กิสฺส เม ตฺวํ, อาวุโส อานนฺท, อนฺตรวาสกํ นิวาเสสี’’ติ? ‘‘สกสญฺญี อหํ, อาวุโส’’ติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, สกสญฺญิสฺสา’’ติฯ
139. Tena kho pana samayena āyasmā ānando jantāghare aññatarassa bhikkhuno antaravāsakaṃ attano maññamāno nivāsesi. Atha kho so bhikkhu āyasmantaṃ ānandaṃ etadavoca – ‘‘kissa me tvaṃ, āvuso ānanda, antaravāsakaṃ nivāsesī’’ti? ‘‘Sakasaññī ahaṃ, āvuso’’ti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anāpatti, bhikkhave, sakasaññissā’’ti.
๑๔๐. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู คิชฺฌกูฎา ปพฺพตา โอโรหนฺตา สีหวิฆาสํ ปสฺสิตฺวา ปจาเปตฺวา ปริภุญฺชิํสุฯ เตสํ กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, สีหวิฆาเส’’ติฯ
140. Tena kho pana samayena sambahulā bhikkhū gijjhakūṭā pabbatā orohantā sīhavighāsaṃ passitvā pacāpetvā paribhuñjiṃsu. Tesaṃ kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhave, sīhavighāse’’ti.
เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู คิชฺฌกูฎา ปพฺพตา โอโรหนฺตา พฺยคฺฆวิฆาสํ ปสฺสิตฺวา… ทีปิวิฆาสํ ปสฺสิตฺวา… ตรจฺฉวิฆาสํ ปสฺสิตฺวา… โกกวิฆาสํ ปสฺสิตฺวา ปจาเปตฺวา ปริภุญฺชิํสุฯ เตสํ กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคตปริคฺคเห’’ติฯ
Tena kho pana samayena sambahulā bhikkhū gijjhakūṭā pabbatā orohantā byagghavighāsaṃ passitvā… dīpivighāsaṃ passitvā… taracchavighāsaṃ passitvā… kokavighāsaṃ passitvā pacāpetvā paribhuñjiṃsu. Tesaṃ kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhave, tiracchānagatapariggahe’’ti.
๑๔๑. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สงฺฆสฺส โอทเน ภาชียมาเน – ‘อปรสฺส ภาคํ เทหี’ติ อมูลกํ อคฺคเหสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ อาปตฺติ สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยสฺสา’’ติฯ
141. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu saṅghassa odane bhājīyamāne – ‘aparassa bhāgaṃ dehī’ti amūlakaṃ aggahesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Āpatti sampajānamusāvāde pācittiyassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สงฺฆสฺส ขาทนีเย ภาชิยมาเน… สงฺฆสฺส ปูเว ภาชิยมาเน… สงฺฆสฺส อุจฺฉุมฺหิ ภาชิยมาเน… สงฺฆสฺส ติมฺพรูสเก ภาชิยมาเน – ‘อปรสฺส ภาคํ เทหี’ติ อมูลกํ อคฺคเหสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.…ฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ อาปตฺติ สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu saṅghassa khādanīye bhājiyamāne… saṅghassa pūve bhājiyamāne… saṅghassa ucchumhi bhājiyamāne… saṅghassa timbarūsake bhājiyamāne – ‘aparassa bhāgaṃ dehī’ti amūlakaṃ aggahesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe…. ‘‘Anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Āpatti sampajānamusāvāde pācittiyassā’’ti.
๑๔๒. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ทุพฺภิเกฺข โอทนียฆรํ ปวิสิตฺวา ปตฺตปูรํ โอทนํ เถยฺยจิโตฺต อวหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
142. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu dubbhikkhe odanīyagharaṃ pavisitvā pattapūraṃ odanaṃ theyyacitto avahari. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ทุพฺภิเกฺข สูนฆรํ 35 ปวิสิตฺวา ปตฺตปูรํ มํสํ เถยฺยจิโตฺต อวหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu dubbhikkhe sūnagharaṃ 36 pavisitvā pattapūraṃ maṃsaṃ theyyacitto avahari. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ทุพฺภิเกฺข ปูวฆรํ ปวิสิตฺวา ปตฺตปูรํ ปูวํ เถยฺยจิโตฺต อวหริ…เป.… ปตฺตปูรา สกฺขลิโย เถยฺยจิโตฺต อวหริ…เป.… ปตฺตปูเร โมทเก เถยฺยจิโตฺต อวหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu dubbhikkhe pūvagharaṃ pavisitvā pattapūraṃ pūvaṃ theyyacitto avahari…pe… pattapūrā sakkhaliyo theyyacitto avahari…pe… pattapūre modake theyyacitto avahari. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
๑๔๓. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ทิวา ปริกฺขารํ ปสฺสิตฺวา นิมิตฺตํ อกาสิ – ‘‘รตฺติํ อวหริสฺสามี’’ติฯ โส ตํ มญฺญมาโน ตํ อวหริ…เป.… ตํ มญฺญมาโน อญฺญํ อวหริ…เป.… อญฺญํ มญฺญมาโน ตํ อวหริ…เป.… อญฺญํ มญฺญมาโน อญฺญํ อวหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
143. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu divā parikkhāraṃ passitvā nimittaṃ akāsi – ‘‘rattiṃ avaharissāmī’’ti. So taṃ maññamāno taṃ avahari…pe… taṃ maññamāno aññaṃ avahari…pe… aññaṃ maññamāno taṃ avahari…pe… aññaṃ maññamāno aññaṃ avahari. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ทิวา ปริกฺขารํ ปสฺสิตฺวา นิมิตฺตํ อกาสิ – ‘‘รตฺติํ อวหริสฺสามี’’ติฯ โส ตํ มญฺญมาโน อตฺตโน ปริกฺขารํ อวหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu divā parikkhāraṃ passitvā nimittaṃ akāsi – ‘‘rattiṃ avaharissāmī’’ti. So taṃ maññamāno attano parikkhāraṃ avahari. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Āpatti dukkaṭassā’’ti.
๑๔๔. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ปีเฐ ถวิกํ ปสฺสิตฺวา – ‘‘อิโต คณฺหโนฺต ปาราชิโก ภวิสฺสามี’’ติ สห ปีฐเกน สงฺกาเมตฺวา อคฺคเหสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
144. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu pīṭhe thavikaṃ passitvā – ‘‘ito gaṇhanto pārājiko bhavissāmī’’ti saha pīṭhakena saṅkāmetvā aggahesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สงฺฆสฺส ภิสิํ เถยฺยจิโตฺต อวหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu saṅghassa bhisiṃ theyyacitto avahari. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
๑๔๕. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ จีวรวํเส จีวรํ เถยฺยจิโตฺต อวหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
145. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu cīvaravaṃse cīvaraṃ theyyacitto avahari. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
๑๔๖. เตน โข ปน สมเยน เทฺว ภิกฺขู สหายกา โหนฺติฯ เอโก ภิกฺขุ คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ ทุติโย ภิกฺขุ สงฺฆสฺส ขาทนีเย ภาชียมาเน สหายกสฺส ภาคํ คเหตฺวา ตสฺส วิสฺสสโนฺต ปริภุญฺชิฯ โส ชานิตฺวา ตํ โจเทสิ – ‘‘อสฺสมโณสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘กิํ จิโตฺต ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ? ‘‘วิสฺสาสคฺคาโห อหํ, ภควา’’ติฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, วิสฺสาสคฺคาเห’’ติฯ
146. Tena kho pana samayena dve bhikkhū sahāyakā honti. Eko bhikkhu gāmaṃ piṇḍāya pāvisi. Dutiyo bhikkhu saṅghassa khādanīye bhājīyamāne sahāyakassa bhāgaṃ gahetvā tassa vissasanto paribhuñji. So jānitvā taṃ codesi – ‘‘assamaṇosi tva’’nti. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘kiṃ citto tvaṃ, bhikkhū’’ti? ‘‘Vissāsaggāho ahaṃ, bhagavā’’ti. ‘‘Anāpatti, bhikkhu, vissāsaggāhe’’ti.
๑๔๗. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู จีวรกมฺมํ กโรนฺติฯ สงฺฆสฺส ขาทนีเย ภาชียมาเน สเพฺพสํ ปฎิวิสา อาหริตฺวา อุปนิกฺขิตฺตา โหนฺติฯ อญฺญตโร ภิกฺขุ อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน ปฎิวิสํ อตฺตโน มญฺญมาโน ปริภุญฺชิฯ โส ชานิตฺวา ตํ โจเทสิ – ‘‘อสฺสมโณสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘กิํจิโตฺต ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ? ‘‘สกสญฺญี อหํ, ภควา’’ติฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, สกสญฺญิสฺสา’’ติฯ
147. Tena kho pana samayena sambahulā bhikkhū cīvarakammaṃ karonti. Saṅghassa khādanīye bhājīyamāne sabbesaṃ paṭivisā āharitvā upanikkhittā honti. Aññataro bhikkhu aññatarassa bhikkhuno paṭivisaṃ attano maññamāno paribhuñji. So jānitvā taṃ codesi – ‘‘assamaṇosi tva’’nti. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘kiṃcitto tvaṃ, bhikkhū’’ti? ‘‘Sakasaññī ahaṃ, bhagavā’’ti. ‘‘Anāpatti, bhikkhu, sakasaññissā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู จีวรกมฺมํ กโรนฺติฯ สงฺฆสฺส ขาทนีเย ภาชิยมาเน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน ปเตฺตน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน ปฎิวิโส อาหริตฺวา อุปนิกฺขิโตฺต โหติฯ ปตฺตสามิโก ภิกฺขุ อตฺตโน มญฺญมาโน ปริภุญฺชิฯ โส ชานิตฺวา ตํ โจเทสิ – ‘‘อสฺสมโณสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, สกสญฺญิสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena sambahulā bhikkhū cīvarakammaṃ karonti. Saṅghassa khādanīye bhājiyamāne aññatarassa bhikkhuno pattena aññatarassa bhikkhuno paṭiviso āharitvā upanikkhitto hoti. Pattasāmiko bhikkhu attano maññamāno paribhuñji. So jānitvā taṃ codesi – ‘‘assamaṇosi tva’’nti. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, sakasaññissā’’ti.
๑๔๘. เตน โข ปน สมเยน อมฺพโจรกา อมฺพํ ปาเตตฺวา ภณฺฑิกํ อาทาย อคมํสุฯ สามิกา เต โจรเก อนุพนฺธิํสุฯ โจรกา สามิเก ปสฺสิตฺวา ภณฺฑิกํ ปาเตตฺวา ปลายิํสุฯ ภิกฺขู ปํสุกูลสญฺญิโน ปฎิคฺคหาเปตฺวา ปริภุญฺชิํสุฯ สามิกา เต ภิกฺขู โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมณาตฺถ ตุเมฺห’’ติฯ เตสํ กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘กิํจิตฺตา ตุเมฺห, ภิกฺขเว’’ติ? ‘‘ปํสุกูลสญฺญิโน มยํ, ภควา’’ติฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ปํสุกูลสญฺญิสฺสา’’ติฯ
148. Tena kho pana samayena ambacorakā ambaṃ pātetvā bhaṇḍikaṃ ādāya agamaṃsu. Sāmikā te corake anubandhiṃsu. Corakā sāmike passitvā bhaṇḍikaṃ pātetvā palāyiṃsu. Bhikkhū paṃsukūlasaññino paṭiggahāpetvā paribhuñjiṃsu. Sāmikā te bhikkhū codesuṃ – ‘‘assamaṇāttha tumhe’’ti. Tesaṃ kukkuccaṃ ahosi…pe… bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Kiṃcittā tumhe, bhikkhave’’ti? ‘‘Paṃsukūlasaññino mayaṃ, bhagavā’’ti. ‘‘Anāpatti, bhikkhave, paṃsukūlasaññissā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน ชมฺพุโจรกา… ลพุชโจรกา… ปนสโจรกา… ตาลปกฺกโจรกา… อุจฺฉุโจรกา… ติมฺพรูสกโจรกา ติมฺพรูสเก อุจฺจินิตฺวา ภณฺฑิกํ อาทาย อคมํสุฯ สามิกา เต โจรเก อนุพนฺธิํสุฯ โจรกา สามิเก ปสฺสิตฺวา ภณฺฑิกํ ปาเตตฺวา ปลายิํสุฯ ภิกฺขู ปํสุกูลสญฺญิโน ปฎิคฺคหาเปตฺวา ปริภุญฺชิํสุฯ สามิกา เต ภิกฺขู โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมณาตฺถ ตุเมฺห’’ติฯ เตสํ กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ปํสุกูลสญฺญิสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena jambucorakā… labujacorakā… panasacorakā… tālapakkacorakā… ucchucorakā… timbarūsakacorakā timbarūsake uccinitvā bhaṇḍikaṃ ādāya agamaṃsu. Sāmikā te corake anubandhiṃsu. Corakā sāmike passitvā bhaṇḍikaṃ pātetvā palāyiṃsu. Bhikkhū paṃsukūlasaññino paṭiggahāpetvā paribhuñjiṃsu. Sāmikā te bhikkhū codesuṃ – ‘‘assamaṇāttha tumhe’’ti. Tesaṃ kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhave, paṃsukūlasaññissā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อมฺพโจรกา อมฺพํ ปาเตตฺวา ภณฺฑิกํ อาทาย อคมํสุฯ สามิกา เต โจรเก อนุพนฺธิํสุฯ โจรกา สามิเก ปสฺสิตฺวา ภณฺฑิกํ ปาเตตฺวา ปลายิํสุฯ ภิกฺขู – ‘ปุเร สามิกา ปสฺสนฺตี’ติ, เถยฺยจิตฺตา ปริภุญฺชิํสุฯ สามิกา เต ภิกฺขู โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมณาตฺถ ตุเมฺห’’ติฯ เตสํ กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อาปนฺนา ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena ambacorakā ambaṃ pātetvā bhaṇḍikaṃ ādāya agamaṃsu. Sāmikā te corake anubandhiṃsu. Corakā sāmike passitvā bhaṇḍikaṃ pātetvā palāyiṃsu. Bhikkhū – ‘pure sāmikā passantī’ti, theyyacittā paribhuñjiṃsu. Sāmikā te bhikkhū codesuṃ – ‘‘assamaṇāttha tumhe’’ti. Tesaṃ kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tumhe, bhikkhave, āpannā pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน ชมฺพุโจรกา… ลพุชโจรกา… ปนสโจรกา… ตาลปกฺกโจรกา… อุจฺฉุโจรกา… ติมฺพรูสกโจรกา ติมฺพรูสเก อุจฺจินิตฺวา ภณฺฑิกํ อาทาย อคมํสุฯ สามิกา เต โจรเก อนุพนฺธิํสุฯ โจรกา สามิเก ปสฺสิตฺวา ภณฺฑิกํ ปาเตตฺวา ปลายิํสุฯ ภิกฺขู – ‘ปุเร สามิกา ปสฺสนฺตี’ติ, เถยฺยจิตฺตา ปริภุญฺชิํสุฯ สามิกา เต ภิกฺขู โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมณาตฺถ ตุเมฺห’’ติฯ เตสํ กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อาปนฺนา ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena jambucorakā… labujacorakā… panasacorakā… tālapakkacorakā… ucchucorakā… timbarūsakacorakā timbarūsake uccinitvā bhaṇḍikaṃ ādāya agamaṃsu. Sāmikā te corake anubandhiṃsu. Corakā sāmike passitvā bhaṇḍikaṃ pātetvā palāyiṃsu. Bhikkhū – ‘pure sāmikā passantī’ti, theyyacittā paribhuñjiṃsu. Sāmikā te bhikkhū codesuṃ – ‘‘assamaṇāttha tumhe’’ti. Tesaṃ kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tumhe, bhikkhave, āpannā pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สงฺฆสฺส อมฺพํ เถยฺยจิโตฺต อวหริ… สงฺฆสฺส ชมฺพุํ… สงฺฆสฺส ลพุชํ… สงฺฆสฺส ปนสํ… สงฺฆสฺส ตาลปกฺกํ… สงฺฆสฺส อุจฺฉุํ… สงฺฆสฺส ติมฺพรูสกํ เถยฺยจิโตฺต อวหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu saṅghassa ambaṃ theyyacitto avahari… saṅghassa jambuṃ… saṅghassa labujaṃ… saṅghassa panasaṃ… saṅghassa tālapakkaṃ… saṅghassa ucchuṃ… saṅghassa timbarūsakaṃ theyyacitto avahari. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
๑๔๙. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ปุปฺผารามํ คนฺตฺวา โอจิตํ ปุปฺผํ ปญฺจมาสคฺฆนกํ เถยฺยจิโตฺต อวหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
149. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu pupphārāmaṃ gantvā ocitaṃ pupphaṃ pañcamāsagghanakaṃ theyyacitto avahari. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ปุปฺผารามํ คนฺตฺวา ปุปฺผํ โอจินิตฺวา ปญฺจมาสคฺฆนกํ เถยฺยจิโตฺต อวหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu pupphārāmaṃ gantvā pupphaṃ ocinitvā pañcamāsagghanakaṃ theyyacitto avahari. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu āpanno pārājika’’nti.
๑๕๐. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ คามกํ คจฺฉโนฺต อญฺญตรํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘อาวุโส, ตุยฺหํ อุปฎฺฐากกุลํ วุโตฺต วเชฺชมี’’ติฯ โส คนฺตฺวา เอกํ สาฎกํ อาหราเปตฺวา อตฺตนา ปริภุญฺชิฯ โส ชานิตฺวา ตํ โจเทสิ – ‘‘อสฺสมโณสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ น จ, ภิกฺขเว, วุโตฺต วเชฺชมีติ วตฺตโพฺพฯ โย วเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
150. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu gāmakaṃ gacchanto aññataraṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘āvuso, tuyhaṃ upaṭṭhākakulaṃ vutto vajjemī’’ti. So gantvā ekaṃ sāṭakaṃ āharāpetvā attanā paribhuñji. So jānitvā taṃ codesi – ‘‘assamaṇosi tva’’nti. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Na ca, bhikkhave, vutto vajjemīti vattabbo. Yo vadeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ คามกํ คจฺฉติฯ อญฺญตโร ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘อาวุโส, มยฺหํ อุปฎฺฐากกุลํ วุโตฺต วเชฺชหี’’ติฯ โส คนฺตฺวา ยุคสาฎกํ อาหราเปตฺวา เอกํ อตฺตนา ปริภุญฺชิ, เอกํ ตสฺส ภิกฺขุโน อทาสิฯ โส ชานิตฺวา ตํ โจเทสิ – ‘‘อสฺสมโณสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ น จ, ภิกฺขเว, วุโตฺต วเชฺชหีติ วตฺตโพฺพฯ โย วเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu gāmakaṃ gacchati. Aññataro bhikkhu taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘āvuso, mayhaṃ upaṭṭhākakulaṃ vutto vajjehī’’ti. So gantvā yugasāṭakaṃ āharāpetvā ekaṃ attanā paribhuñji, ekaṃ tassa bhikkhuno adāsi. So jānitvā taṃ codesi – ‘‘assamaṇosi tva’’nti. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Na ca, bhikkhave, vutto vajjehīti vattabbo. Yo vadeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ คามกํ คจฺฉโนฺต อญฺญตรํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘อาวุโส, ตุยฺหํ อุปฎฺฐากกุลํ วุโตฺต วเชฺชมี’’ติฯ โสปิ เอวมาห – ‘‘วุโตฺต วเชฺชหี’’ติฯ โส คนฺตฺวา อาฬฺหกํ สปฺปิํ ตุลํ คุฬํ โทณํ ตณฺฑุลํ อาหราเปตฺวา อตฺตนา ปริภุญฺชิฯ โส ชานิตฺวา ตํ โจเทสิ – ‘‘อสฺสมโณสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ น จ, ภิกฺขเว, วุโตฺต วเชฺชมีติ วตฺตโพฺพ, น จ วุโตฺต วเชฺชหีติ วตฺตโพฺพฯ โย วเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu gāmakaṃ gacchanto aññataraṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘āvuso, tuyhaṃ upaṭṭhākakulaṃ vutto vajjemī’’ti. Sopi evamāha – ‘‘vutto vajjehī’’ti. So gantvā āḷhakaṃ sappiṃ tulaṃ guḷaṃ doṇaṃ taṇḍulaṃ āharāpetvā attanā paribhuñji. So jānitvā taṃ codesi – ‘‘assamaṇosi tva’’nti. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Na ca, bhikkhave, vutto vajjemīti vattabbo, na ca vutto vajjehīti vattabbo. Yo vadeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.
๑๕๑. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ปุริโส มหคฺฆํ มณิํ อาทาย อญฺญตเรน ภิกฺขุนา สทฺธิํ อทฺธานมคฺคปฺปฎิปโนฺน โหติฯ อถ โข โส ปุริโส สุงฺกฎฺฐานํ ปสฺสิตฺวา ตสฺส ภิกฺขุโน อชานนฺตสฺส ถวิกาย มณิํ ปกฺขิปิตฺวา สุงฺกฎฺฐานํ อติกฺกมิตฺวา อคฺคเหสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘กิํจิโตฺต ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ? ‘‘นาหํ, ภควา, ชานามี’’ติฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, อชานนฺตสฺสา’’ติฯ
151. Tena kho pana samayena aññataro puriso mahagghaṃ maṇiṃ ādāya aññatarena bhikkhunā saddhiṃ addhānamaggappaṭipanno hoti. Atha kho so puriso suṅkaṭṭhānaṃ passitvā tassa bhikkhuno ajānantassa thavikāya maṇiṃ pakkhipitvā suṅkaṭṭhānaṃ atikkamitvā aggahesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘kiṃcitto tvaṃ, bhikkhū’’ti? ‘‘Nāhaṃ, bhagavā, jānāmī’’ti. ‘‘Anāpatti, bhikkhu, ajānantassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ปุริโส มหคฺฆํ มณิํ อาทาย อญฺญตเรน ภิกฺขุนา สทฺธิํ อทฺธานมคฺคปฺปฎิปโนฺน โหติฯ อถ โข โส ปุริโส สุงฺกฎฺฐานํ ปสฺสิตฺวา คิลานาลยํ กริตฺวา อตฺตโน ภณฺฑิกํ ตสฺส ภิกฺขุโน อทาสิฯ อถ โข โส ปุริโส สุงฺกฎฺฐานํ อติกฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘อาหร เม, ภเนฺต, ภณฺฑิกํ; นาหํ อกลฺลโก’’ติฯ ‘‘กิสฺส ปน ตฺวํ, อาวุโส, เอวรูปํ อกาสี’’ติ? อถ โข โส ปุริโส ตสฺส ภิกฺขุโน เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘กิํจิโตฺต ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ? ‘‘นาหํ, ภควา, ชานามี’’ติฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, อชานนฺตสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena aññataro puriso mahagghaṃ maṇiṃ ādāya aññatarena bhikkhunā saddhiṃ addhānamaggappaṭipanno hoti. Atha kho so puriso suṅkaṭṭhānaṃ passitvā gilānālayaṃ karitvā attano bhaṇḍikaṃ tassa bhikkhuno adāsi. Atha kho so puriso suṅkaṭṭhānaṃ atikkamitvā taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘āhara me, bhante, bhaṇḍikaṃ; nāhaṃ akallako’’ti. ‘‘Kissa pana tvaṃ, āvuso, evarūpaṃ akāsī’’ti? Atha kho so puriso tassa bhikkhuno etamatthaṃ ārocesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘kiṃcitto tvaṃ, bhikkhū’’ti? ‘‘Nāhaṃ, bhagavā, jānāmī’’ti. ‘‘Anāpatti, bhikkhu, ajānantassā’’ti.
๑๕๒. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สเตฺถน สทฺธิํ อทฺธานมคฺคปฺปฎิปโนฺน โหติฯ อญฺญตโร ปุริโส ตํ ภิกฺขุํ อามิเสน อุปลาเปตฺวา สุงฺกฎฺฐานํ ปสฺสิตฺวา มหคฺฆํ มณิํ ตสฺส ภิกฺขุโน อทาสิ – ‘‘อิมํ, ภเนฺต, มณิํ สุงฺกฎฺฐานํ อติกฺกาเมหี’’ติฯ อถ โข โส ภิกฺขุ ตํ มณิํ สุงฺกฎฺฐานํ อติกฺกาเมสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
152. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu satthena saddhiṃ addhānamaggappaṭipanno hoti. Aññataro puriso taṃ bhikkhuṃ āmisena upalāpetvā suṅkaṭṭhānaṃ passitvā mahagghaṃ maṇiṃ tassa bhikkhuno adāsi – ‘‘imaṃ, bhante, maṇiṃ suṅkaṭṭhānaṃ atikkāmehī’’ti. Atha kho so bhikkhu taṃ maṇiṃ suṅkaṭṭhānaṃ atikkāmesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
๑๕๓. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ปาเส พนฺธํ สูกรํ การุเญฺญน มุญฺจิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘กิํจิโตฺต ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ? ‘‘การุญฺญาธิปฺปาโย อหํ, ภควา’’ติฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, การุญฺญาธิปฺปายสฺสา’’ติฯ
153. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu pāse bandhaṃ sūkaraṃ kāruññena muñci. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘kiṃcitto tvaṃ, bhikkhū’’ti? ‘‘Kāruññādhippāyo ahaṃ, bhagavā’’ti. ‘‘Anāpatti, bhikkhu, kāruññādhippāyassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ปาเส พนฺธํ สูกรํ – ‘‘ปุเร สามิกา ปสฺสนฺตี’’ติ, เถยฺยจิโตฺต มุญฺจิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu pāse bandhaṃ sūkaraṃ – ‘‘pure sāmikā passantī’’ti, theyyacitto muñci. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ปาเส พนฺธํ มิคํ การุเญฺญน มุญฺจิ… ปาเส พนฺธํ มิคํ – ‘‘ปุเร สามิกา ปสฺสนฺตี’’ติ, เถยฺยจิโตฺต มุญฺจิ … กุมิเน พเนฺธ มเจฺฉ การุเญฺญน มุญฺจิ… กุมิเน พเนฺธ มเจฺฉ – ‘‘ปุเร สามิกา ปสฺสนฺตี’’ติ เถยฺยจิโตฺต มุญฺจิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu pāse bandhaṃ migaṃ kāruññena muñci… pāse bandhaṃ migaṃ – ‘‘pure sāmikā passantī’’ti, theyyacitto muñci … kumine bandhe macche kāruññena muñci… kumine bandhe macche – ‘‘pure sāmikā passantī’’ti theyyacitto muñci. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ยาเน ภณฺฑํ ปสฺสิตฺวา – ‘‘อิโต คณฺหโนฺต ปาราชิโก ภวิสฺสามี’’ติ, อติกฺกมิตฺวา ปวเฎฺฎตฺวา 41 อคฺคเหสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ , ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu yāne bhaṇḍaṃ passitvā – ‘‘ito gaṇhanto pārājiko bhavissāmī’’ti, atikkamitvā pavaṭṭetvā 42 aggahesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ , bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ กุลเลน อุกฺขิตฺตํ มํสเปสิํ – ‘‘สามิกานํ ทสฺสามี’’ติ อคฺคเหสิฯ สามิกา ตํ ภิกฺขุํ โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมโณสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, อเถยฺยจิตฺตสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu kulalena ukkhittaṃ maṃsapesiṃ – ‘‘sāmikānaṃ dassāmī’’ti aggahesi. Sāmikā taṃ bhikkhuṃ codesuṃ – ‘‘assamaṇosi tva’’nti. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, atheyyacittassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ กุลเลน อุกฺขิตฺตํ มํสเปสิํ – ‘‘ปุเร สามิกา ปสฺสนฺตี’’ติ, เถยฺยจิโตฺต อคฺคเหสิฯ สามิกา ตํ ภิกฺขุํ โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมโณสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu kulalena ukkhittaṃ maṃsapesiṃ – ‘‘pure sāmikā passantī’’ti, theyyacitto aggahesi. Sāmikā taṃ bhikkhuṃ codesuṃ – ‘‘assamaṇosi tva’’nti. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
๑๕๔. เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา อุฬุมฺปํ พนฺธิตฺวา อจิรวติยา นทิยา โอสาเรนฺติฯ พนฺธเน ฉิเนฺน กฎฺฐานิ วิปฺปกิณฺณานิ อคมํสุฯ ภิกฺขู ปํสุกูลสญฺญิโน อุตฺตาเรสุํฯ สามิกา เต ภิกฺขู โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมณาตฺถ ตุเมฺห’’ติฯ เตสํ กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ปํสุกูลสญฺญิสฺสา’’ติฯ
154. Tena kho pana samayena manussā uḷumpaṃ bandhitvā aciravatiyā nadiyā osārenti. Bandhane chinne kaṭṭhāni vippakiṇṇāni agamaṃsu. Bhikkhū paṃsukūlasaññino uttāresuṃ. Sāmikā te bhikkhū codesuṃ – ‘‘assamaṇāttha tumhe’’ti. Tesaṃ kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhave, paṃsukūlasaññissā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา อุฬุมฺปํ พนฺธิตฺวา อจิรวติยา นทิยา โอสาเรนฺติฯ พนฺธเน ฉิเนฺน กฎฺฐานิ วิปฺปกิณฺณานิ อคมํสุฯ ภิกฺขู – ‘‘ปุเร สามิกา ปสฺสนฺตี’’ติ, เถยฺยจิตฺตา อุตฺตาเรสุํฯ สามิกา เต ภิกฺขู โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมณาตฺถ ตุเมฺห’’ติฯ เตสํ กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อาปนฺนา ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena manussā uḷumpaṃ bandhitvā aciravatiyā nadiyā osārenti. Bandhane chinne kaṭṭhāni vippakiṇṇāni agamaṃsu. Bhikkhū – ‘‘pure sāmikā passantī’’ti, theyyacittā uttāresuṃ. Sāmikā te bhikkhū codesuṃ – ‘‘assamaṇāttha tumhe’’ti. Tesaṃ kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tumhe, bhikkhave, āpannā pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร โคปาลโก รุเกฺข สาฎกํ อาลเคฺคตฺวา อุจฺจารํ อคมาสิฯ อญฺญตโร ภิกฺขุ ปํสุกูลสญฺญี อคฺคเหสิ ฯ อถ โข โส โคปาลโก ตํ ภิกฺขุํ โจเทสิ – ‘‘อสฺสมโณสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปํสุกูลสญฺญิสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena aññataro gopālako rukkhe sāṭakaṃ ālaggetvā uccāraṃ agamāsi. Aññataro bhikkhu paṃsukūlasaññī aggahesi . Atha kho so gopālako taṃ bhikkhuṃ codesi – ‘‘assamaṇosi tva’’nti. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, paṃsukūlasaññissā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน นทิํ ตรนฺตสฺส รชกานํ หตฺถโต มุตฺตํ สาฎกํ ปาเท ลคฺคํ โหติฯ โส ภิกฺขุ – ‘‘สามิกานํ ทสฺสามี’’ติ อคฺคเหสิฯ สามิกา ตํ ภิกฺขุํ โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมโณสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, อเถยฺยจิตฺตสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno nadiṃ tarantassa rajakānaṃ hatthato muttaṃ sāṭakaṃ pāde laggaṃ hoti. So bhikkhu – ‘‘sāmikānaṃ dassāmī’’ti aggahesi. Sāmikā taṃ bhikkhuṃ codesuṃ – ‘‘assamaṇosi tva’’nti. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, atheyyacittassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน นทิํ ตรนฺตสฺส รชกานํ หตฺถโต มุตฺตํ สาฎกํ ปาเท ลคฺคํ โหติ ฯ โส ภิกฺขุ – ‘‘ปุเร สามิกา ปสฺสนฺตี’’ติ, เถยฺยจิโตฺต อคฺคเหสิฯ สามิกา ตํ ภิกฺขุํ โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมโณสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno nadiṃ tarantassa rajakānaṃ hatthato muttaṃ sāṭakaṃ pāde laggaṃ hoti . So bhikkhu – ‘‘pure sāmikā passantī’’ti, theyyacitto aggahesi. Sāmikā taṃ bhikkhuṃ codesuṃ – ‘‘assamaṇosi tva’’nti. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
๑๕๕. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สปฺปิกุมฺภิํ ปสฺสิตฺวา โถกํ โถกํ ปริภุญฺชิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺส; อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
155. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu sappikumbhiṃ passitvā thokaṃ thokaṃ paribhuñji. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa; āpatti dukkaṭassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู สํวิทหิตฺวา อคมํสุ – ‘‘ภณฺฑํ อวหริสฺสามา’’ติฯ เอโก ภณฺฑํ อวหริฯ เต เอวมาหํสุ – ‘‘น มยํ ปาราชิกาฯ โย อวหโฎ โส ปาราชิโก’’ติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ… ‘‘อาปตฺติํ ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อาปนฺนา ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena sambahulā bhikkhū saṃvidahitvā agamaṃsu – ‘‘bhaṇḍaṃ avaharissāmā’’ti. Eko bhaṇḍaṃ avahari. Te evamāhaṃsu – ‘‘na mayaṃ pārājikā. Yo avahaṭo so pārājiko’’ti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ… ‘‘āpattiṃ tumhe, bhikkhave, āpannā pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู สํวิทหิตฺวา ภณฺฑํ อวหริตฺวา ภาเชสุํ ฯ เตหิ ภาชียมาเน เอกเมกสฺส ปฎิวิโส น ปญฺจมาสโก ปูริฯ เต เอวมาหํสุ – ‘‘น มยํ ปาราชิกา’’ติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อาปตฺติํ ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อาปนฺนา ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena sambahulā bhikkhū saṃvidahitvā bhaṇḍaṃ avaharitvā bhājesuṃ . Tehi bhājīyamāne ekamekassa paṭiviso na pañcamāsako pūri. Te evamāhaṃsu – ‘‘na mayaṃ pārājikā’’ti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Āpattiṃ tumhe, bhikkhave, āpannā pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สาวตฺถิยํ ทุพฺภิเกฺข อาปณิกสฺส ตณฺฑุลมุฎฺฐิํ เถยฺยจิโตฺต อวหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu sāvatthiyaṃ dubbhikkhe āpaṇikassa taṇḍulamuṭṭhiṃ theyyacitto avahari. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สาวตฺถิยํ ทุพฺภิเกฺข อาปณิกสฺส มุคฺคมุฎฺฐิํ… มาสมุฎฺฐิํ… ติลมุฎฺฐิํ เถยฺยจิโตฺต อวหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu sāvatthiyaṃ dubbhikkhe āpaṇikassa muggamuṭṭhiṃ… māsamuṭṭhiṃ… tilamuṭṭhiṃ theyyacitto avahari. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu āpanno pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยํ อนฺธวเน โจรกา คาวิํ หนฺตฺวา มํสํ ขาทิตฺวา เสสกํ ปฎิสาเมตฺวา อคมํสุฯ ภิกฺขู ปํสุกูลสญฺญิโน ปฎิคฺคหาเปตฺวา ปริภุญฺชิํสุฯ โจรกา เต ภิกฺขู โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมณาตฺถ ตุเมฺห’’ติฯ เตสํ กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ปํสุกูลสญฺญิสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena sāvatthiyaṃ andhavane corakā gāviṃ hantvā maṃsaṃ khāditvā sesakaṃ paṭisāmetvā agamaṃsu. Bhikkhū paṃsukūlasaññino paṭiggahāpetvā paribhuñjiṃsu. Corakā te bhikkhū codesuṃ – ‘‘assamaṇāttha tumhe’’ti. Tesaṃ kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhave, paṃsukūlasaññissā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยํ อนฺธวเน โจรกา สูกรํ หนฺตฺวา มํสํ ขาทิตฺวา เสสกํ ปฎิสาเมตฺวา อคมํสุฯ ภิกฺขู ปํสุกูลสญฺญิโน ปฎิคฺคหาเปตฺวา ปริภุญฺชิํสุฯ โจรกา เต ภิกฺขู โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมณาตฺถ ตุเมฺห’’ติฯ เตสํ กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ปํสุกูลสญฺญิสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena sāvatthiyaṃ andhavane corakā sūkaraṃ hantvā maṃsaṃ khāditvā sesakaṃ paṭisāmetvā agamaṃsu. Bhikkhū paṃsukūlasaññino paṭiggahāpetvā paribhuñjiṃsu. Corakā te bhikkhū codesuṃ – ‘‘assamaṇāttha tumhe’’ti. Tesaṃ kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhave, paṃsukūlasaññissā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ติณเกฺขตฺตํ คนฺตฺวา ลูตํ ติณํ ปญฺจมาสคฺฆนกํ เถยฺยจิโตฺต อวหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ …เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu tiṇakkhettaṃ gantvā lūtaṃ tiṇaṃ pañcamāsagghanakaṃ theyyacitto avahari. Tassa kukkuccaṃ ahosi …pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ติณเกฺขตฺตํ คนฺตฺวา ติณํ ลายิตฺวา ปญฺจมาสคฺฆนกํ เถยฺยจิโตฺต อวหริฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu tiṇakkhettaṃ gantvā tiṇaṃ lāyitvā pañcamāsagghanakaṃ theyyacitto avahari. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
๑๕๖. เตน โข ปน สมเยน อาคนฺตุกา ภิกฺขู สงฺฆสฺส อมฺพํ ภาชาเปตฺวา ปริภุญฺชิํสุฯ อาวาสิกา ภิกฺขู เต ภิกฺขู โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมณาตฺถ ตุเมฺห’’ติฯ เตสํ กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘กิํจิตฺตา ตุเมฺห, ภิกฺขเว’’ติ? ‘‘ปริโภคตฺถาย 43 มยํ ภควา’’ติฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ปริโภคตฺถายา’’ติฯ
156. Tena kho pana samayena āgantukā bhikkhū saṅghassa ambaṃ bhājāpetvā paribhuñjiṃsu. Āvāsikā bhikkhū te bhikkhū codesuṃ – ‘‘assamaṇāttha tumhe’’ti. Tesaṃ kukkuccaṃ ahosi…pe… bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Kiṃcittā tumhe, bhikkhave’’ti? ‘‘Paribhogatthāya 44 mayaṃ bhagavā’’ti. ‘‘Anāpatti, bhikkhave, paribhogatthāyā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อาคนฺตุกา ภิกฺขู สงฺฆสฺส ชมฺพุํ… สงฺฆสฺส ลพุชํ… สงฺฆสฺส ปนสํ… สงฺฆสฺส ตาลปกฺกํ… สงฺฆสฺส อุจฺฉุํ… สงฺฆสฺส ติมฺพรูสกํ ภาชาเปตฺวา ปริภุญฺชิํสุฯ อาวาสิกา ภิกฺขู เต ภิกฺขู โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมณาตฺถ, ตุเมฺห’’ติฯ เตสํ กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ปริโภคตฺถายา’’ติฯ
Tena kho pana samayena āgantukā bhikkhū saṅghassa jambuṃ… saṅghassa labujaṃ… saṅghassa panasaṃ… saṅghassa tālapakkaṃ… saṅghassa ucchuṃ… saṅghassa timbarūsakaṃ bhājāpetvā paribhuñjiṃsu. Āvāsikā bhikkhū te bhikkhū codesuṃ – ‘‘assamaṇāttha, tumhe’’ti. Tesaṃ kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhave, paribhogatthāyā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อมฺพปาลกา ภิกฺขูนํ อมฺพผลํ เทนฺติฯ ภิกฺขู – ‘‘โคเปตุํ อิเม อิสฺสรา, นยิเม ทาตุ’’นฺติ, กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฎิคฺคณฺหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, โคปกสฺส ทาเน’’ติฯ
Tena kho pana samayena ambapālakā bhikkhūnaṃ ambaphalaṃ denti. Bhikkhū – ‘‘gopetuṃ ime issarā, nayime dātu’’nti, kukkuccāyantā na paṭiggaṇhanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anāpatti, bhikkhave, gopakassa dāne’’ti.
เตน โข ปน สมเยน ชมฺพุปาลกา… ลพุชปาลกา… ปนสปาลกา… ตาลปกฺกปาลกา… อุจฺฉุปาลกา… ติมฺพรูสกปาลกา ภิกฺขูนํ ติมฺพรูสกํ เทนฺติฯ ภิกฺขู – ‘‘โคเปตุํ อิเม อิสฺสรา, นยิเม ทาตุ’’นฺติ, กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฎิคฺคณฺหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, โคปกสฺส ทาเน’’ติฯ
Tena kho pana samayena jambupālakā… labujapālakā… panasapālakā… tālapakkapālakā… ucchupālakā… timbarūsakapālakā bhikkhūnaṃ timbarūsakaṃ denti. Bhikkhū – ‘‘gopetuṃ ime issarā, nayime dātu’’nti, kukkuccāyantā na paṭiggaṇhanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anāpatti, bhikkhave, gopakassa dāne’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สงฺฆสฺส ทารุํ ตาวกาลิกํ หริตฺวา อตฺตโน วิหารสฺส กุฎฺฎํ อุปตฺถเมฺภสิฯ ภิกฺขู ตํ ภิกฺขุํ โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมโณสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ‘‘กิํจิโตฺต ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ? ‘‘ตาวกาลิโก อหํ, ภควา’’ติฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ตาวกาลิเก’’ติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu saṅghassa dāruṃ tāvakālikaṃ haritvā attano vihārassa kuṭṭaṃ upatthambhesi. Bhikkhū taṃ bhikkhuṃ codesuṃ – ‘‘assamaṇosi tva’’nti. Tassa kukkuccaṃ ahosi. Bhagavato etamatthaṃ ārocesi. ‘‘Kiṃcitto tvaṃ, bhikkhū’’ti? ‘‘Tāvakāliko ahaṃ, bhagavā’’ti. ‘‘Anāpatti, bhikkhu, tāvakālike’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สงฺฆสฺส อุทกํ เถยฺยจิโตฺต อวหริ… สงฺฆสฺส มตฺติกํ เถยฺยจิโตฺต อวหริ… สงฺฆสฺส ปุญฺชกิตํ ติณํ เถยฺยจิโตฺต อวหริ… ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu saṅghassa udakaṃ theyyacitto avahari… saṅghassa mattikaṃ theyyacitto avahari… saṅghassa puñjakitaṃ tiṇaṃ theyyacitto avahari… tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สงฺฆสฺส ปุญฺชกิตํ ติณํ เถยฺยจิโตฺต ฌาเปสิฯ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, ปาราชิกสฺสฯ อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu saṅghassa puñjakitaṃ tiṇaṃ theyyacitto jhāpesi. Tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhu, pārājikassa. Āpatti dukkaṭassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สงฺฆสฺส มญฺจํ เถยฺยจิโตฺต อวหริ… ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu saṅghassa mañcaṃ theyyacitto avahari… tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สงฺฆสฺส ปีฐํ… สงฺฆสฺส ภิสิํ… สงฺฆสฺส พิโพฺพหนํ 45 … สงฺฆสฺส กวาฎํ… สงฺฆสฺส อาโลกสนฺธิํ… สงฺฆสฺส โคปานสิํ เถยฺยจิโตฺต อวหริ… ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อาปตฺติํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปโนฺน ปาราชิก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu saṅghassa pīṭhaṃ… saṅghassa bhisiṃ… saṅghassa bibbohanaṃ 46 … saṅghassa kavāṭaṃ… saṅghassa ālokasandhiṃ… saṅghassa gopānasiṃ theyyacitto avahari… tassa kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘āpattiṃ tvaṃ, bhikkhu, āpanno pārājika’’nti.
๑๕๗. 47 เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อญฺญตรสฺส อุปาสกสฺส วิหารปริโภคํ เสนาสนํ อญฺญตฺร ปริภุญฺชนฺติฯ อถ โข โส อุปาสโก อุชฺฌายติ ขิยฺยติ วิปาเจติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภทนฺตา อญฺญตฺร ปริโภคํ อญฺญตฺร ปริภุญฺชิสฺสนฺตี’’ติ! ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อญฺญตฺร ปริโภโค อญฺญตฺร ปริภุญฺชิตโพฺพฯ โย ปริภุเญฺชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
157.48 Tena kho pana samayena bhikkhū aññatarassa upāsakassa vihāraparibhogaṃ senāsanaṃ aññatra paribhuñjanti. Atha kho so upāsako ujjhāyati khiyyati vipāceti – ‘‘kathañhi nāma bhadantā aññatra paribhogaṃ aññatra paribhuñjissantī’’ti! Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, aññatra paribhogo aññatra paribhuñjitabbo. Yo paribhuñjeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.
49 เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อุโปสถคฺคมฺปิ สนฺนิสชฺชมฺปิ หริตุํ กุกฺกุจฺจายนฺตา ฉมายํ นิสีทนฺติฯ คตฺตานิปิ จีวรานิปิ ปํสุกิตานิ โหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตาวกาลิกํ หริตุ’’นฺติฯ
50 Tena kho pana samayena bhikkhū uposathaggampi sannisajjampi harituṃ kukkuccāyantā chamāyaṃ nisīdanti. Gattānipi cīvarānipi paṃsukitāni honti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, tāvakālikaṃ haritu’’nti.
เตน โข ปน สมเยน จมฺปายํ ถุลฺลนนฺทาย ภิกฺขุนิยา อเนฺตวาสินี ภิกฺขุนี ถุลฺลนนฺทาย ภิกฺขุนิยา อุปฎฺฐากกุลํ คนฺตฺวา – ‘‘อยฺยา อิจฺฉติ เตกฎุลยาคุํ ปาตุ’’นฺติ, ปจาเปตฺวา หริตฺวา อตฺตนา ปริภุญฺชิฯ สา ชานิตฺวา ตํ โจเทสิ – ‘‘อสฺสมณีสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺสา กุกฺกุจฺจํ อโหสิฯ อถ โข สา ภิกฺขุนี ภิกฺขุนีนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ภิกฺขุนิโย ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ปาราชิกสฺส; อาปตฺติ สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena campāyaṃ thullanandāya bhikkhuniyā antevāsinī bhikkhunī thullanandāya bhikkhuniyā upaṭṭhākakulaṃ gantvā – ‘‘ayyā icchati tekaṭulayāguṃ pātu’’nti, pacāpetvā haritvā attanā paribhuñji. Sā jānitvā taṃ codesi – ‘‘assamaṇīsi tva’’nti. Tassā kukkuccaṃ ahosi. Atha kho sā bhikkhunī bhikkhunīnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Bhikkhuniyo bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesuṃ. Bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anāpatti, bhikkhave, pārājikassa; āpatti sampajānamusāvāde pācittiyassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน ราชคเห ถุลฺลนนฺทาย ภิกฺขุนิยา อเนฺตวาสินี ภิกฺขุนี ถุลฺลนนฺทาย ภิกฺขุนิยา อุปฎฺฐากกุลํ คนฺตฺวา – ‘‘อยฺยา อิจฺฉติ มธุโคฬกํ ขาทิตุ’’นฺติ, ปจาเปตฺวา หริตฺวา อตฺตนา ปริภุญฺชิฯ สา ชานิตฺวา ตํ โจเทสิ – ‘‘อสฺสมณีสิ ตฺว’’นฺติฯ ตสฺสา กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป.… ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ปาราชิกสฺส; อาปตฺติ สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena rājagahe thullanandāya bhikkhuniyā antevāsinī bhikkhunī thullanandāya bhikkhuniyā upaṭṭhākakulaṃ gantvā – ‘‘ayyā icchati madhugoḷakaṃ khāditu’’nti, pacāpetvā haritvā attanā paribhuñji. Sā jānitvā taṃ codesi – ‘‘assamaṇīsi tva’’nti. Tassā kukkuccaṃ ahosi…pe… ‘‘anāpatti, bhikkhave, pārājikassa; āpatti sampajānamusāvāde pācittiyassā’’ti.
๑๕๘. เตน โข ปน สมเยน เวสาลิยํ อายสฺมโต อชฺชุกสฺส อุปฎฺฐากสฺส คหปติโน เทฺว ทารกา โหนฺติ – ปุโตฺต จ ภาคิเนโยฺย จฯ อถ โข โส คหปติ อายสฺมนฺตํ อชฺชุกํ เอตทโวจ – ‘‘อิมํ, ภเนฺต, โอกาสํ โย อิเมสํ ทฺวินฺนํ ทารกานํ สโทฺธ โหติ ปสโนฺน ตสฺส อาจิเกฺขยฺยาสี’’ติ 51ฯ เตน โข ปน สมเยน ตสฺส คหปติโน ภาคิเนโยฺย สโทฺธ โหติ ปสโนฺนฯ อถ โข อายสฺมา อชฺชุโก ตํ โอกาสํ ตสฺส ทารกสฺส อาจิกฺขิฯ โส เตน สาปเตเยฺยน กุฎุมฺพญฺจ สณฺฐเปสิ ทานญฺจ ปฎฺฐเปสิฯ อถ โข ตสฺส คหปติโน ปุโตฺต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภเนฺต อานนฺท, ปิตุโน ทายโชฺช – ปุโตฺต วา ภาคิเนโยฺย วา’’ติ? ‘‘ปุโตฺต โข, อาวุโส, ปิตุโน ทายโชฺช’’ติฯ ‘‘อยํ, ภเนฺต, อโยฺย อชฺชุโก อมฺหากํ สาปเตยฺยํ อมฺหากํ เมถุนกสฺส อาจิกฺขี’’ติฯ ‘‘อสฺสมโณ, อาวุโส, อายสฺมา อชฺชุโก’’ติฯ อถ โข อายสฺมา อชฺชุโก อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘เทหิ เม, อาวุโส อานนฺท, วินิจฺฉย’’นฺติฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปาลิ อายสฺมโต อชฺชุกสฺส ปโกฺข โหติฯ อถ โข อายสฺมา อุปาลิ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘โย นุ โข, อาวุโส อานนฺท, สามิเกน ‘อิมํ โอกาสํ อิตฺถนฺนามสฺส อาจิเกฺขยฺยาสี’ติ วุโตฺต ตสฺส อาจิกฺขติ, กิํ โส อาปชฺชตี’’ติ? ‘‘น, ภเนฺต, กิญฺจิ อาปชฺชติ, อนฺตมโส ทุกฺกฎมตฺตมฺปี’’ติฯ ‘‘อยํ, อาวุโส, อายสฺมา อชฺชุโก สามิเกน – ‘อิมํ โอกาสํ อิตฺถนฺนามสฺส อาจิกฺขา’ติ วุโตฺต ตสฺส อาจิกฺขติ; อนาปตฺติ, อาวุโส, อายสฺมโต อชฺชุกสฺสา’’ติฯ
158. Tena kho pana samayena vesāliyaṃ āyasmato ajjukassa upaṭṭhākassa gahapatino dve dārakā honti – putto ca bhāgineyyo ca. Atha kho so gahapati āyasmantaṃ ajjukaṃ etadavoca – ‘‘imaṃ, bhante, okāsaṃ yo imesaṃ dvinnaṃ dārakānaṃ saddho hoti pasanno tassa ācikkheyyāsī’’ti 52. Tena kho pana samayena tassa gahapatino bhāgineyyo saddho hoti pasanno. Atha kho āyasmā ajjuko taṃ okāsaṃ tassa dārakassa ācikkhi. So tena sāpateyyena kuṭumbañca saṇṭhapesi dānañca paṭṭhapesi. Atha kho tassa gahapatino putto āyasmantaṃ ānandaṃ etadavoca – ‘‘ko nu kho, bhante ānanda, pituno dāyajjo – putto vā bhāgineyyo vā’’ti? ‘‘Putto kho, āvuso, pituno dāyajjo’’ti. ‘‘Ayaṃ, bhante, ayyo ajjuko amhākaṃ sāpateyyaṃ amhākaṃ methunakassa ācikkhī’’ti. ‘‘Assamaṇo, āvuso, āyasmā ajjuko’’ti. Atha kho āyasmā ajjuko āyasmantaṃ ānandaṃ etadavoca – ‘‘dehi me, āvuso ānanda, vinicchaya’’nti. Tena kho pana samayena āyasmā upāli āyasmato ajjukassa pakkho hoti. Atha kho āyasmā upāli āyasmantaṃ ānandaṃ etadavoca – ‘‘yo nu kho, āvuso ānanda, sāmikena ‘imaṃ okāsaṃ itthannāmassa ācikkheyyāsī’ti vutto tassa ācikkhati, kiṃ so āpajjatī’’ti? ‘‘Na, bhante, kiñci āpajjati, antamaso dukkaṭamattampī’’ti. ‘‘Ayaṃ, āvuso, āyasmā ajjuko sāmikena – ‘imaṃ okāsaṃ itthannāmassa ācikkhā’ti vutto tassa ācikkhati; anāpatti, āvuso, āyasmato ajjukassā’’ti.
๑๕๙. เตน โข ปน สมเยน พาราณสิยํ อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส อุปฎฺฐากกุลํ โจเรหิ อุปทฺทุตํ โหติฯ เทฺว จ ทารกา นีตา โหนฺติฯ อถ โข อายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ เต ทารเก อิทฺธิยา อาเนตฺวา ปาสาเท ฐเปสิฯ มนุสฺสา เต ทารเก ปสฺสิตฺวา – ‘‘อยฺยสฺสายํ ปิลินฺทวจฺฉสฺส อิทฺธานุภาโว’’ติ, อายสฺมเนฺต ปิลินฺทวเจฺฉ อภิปฺปสีทิํสุฯ ภิกฺขู อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ โจเรหิ นีเต ทารเก อาเนสฺสตี’’ติ! ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว 53, อิทฺธิมสฺส อิทฺธิวิสเย’’ติฯ
159. Tena kho pana samayena bārāṇasiyaṃ āyasmato pilindavacchassa upaṭṭhākakulaṃ corehi upaddutaṃ hoti. Dve ca dārakā nītā honti. Atha kho āyasmā pilindavaccho te dārake iddhiyā ānetvā pāsāde ṭhapesi. Manussā te dārake passitvā – ‘‘ayyassāyaṃ pilindavacchassa iddhānubhāvo’’ti, āyasmante pilindavacche abhippasīdiṃsu. Bhikkhū ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā pilindavaccho corehi nīte dārake ānessatī’’ti! Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anāpatti, bhikkhave 54, iddhimassa iddhivisaye’’ti.
๑๖๐. เตน โข ปน สมเยน เทฺว ภิกฺขู สหายกา โหนฺติ – ปณฺฑุโก จ กปิโล จฯ เอโก คามเก วิหรติ, เอโก โกสมฺพิยํฯ อถ โข ตสฺส ภิกฺขุโน คามกา โกสมฺพิํ คจฺฉนฺตสฺส อนฺตรามเคฺค นทิํ ตรนฺตสฺส สูกริกานํ หตฺถโต มุตฺตา เมทวฎฺฎิ ปาเท ลคฺคา โหติฯ โส ภิกฺขุ – ‘‘สามิกานํ ทสฺสามี’’ติ อคฺคเหสิฯ สามิกา ตํ ภิกฺขุํ โจเทสุํ – ‘‘อสฺสมโณสิ ตฺว’’นฺติฯ ตํ อุตฺติณฺณํ โคปาลิกา 55 ปสฺสิตฺวา เอตทโวจ – ‘‘เอหิ, ภเนฺต, เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวา’’ติฯ โส – ‘‘ปกติยาปาหํ อสฺสมโณ’’ติ ตสฺสา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิตฺวา โกสมฺพิํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ โอโรเจสุํฯ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อทินฺนาทาเน ปาราชิกสฺส; อาปตฺติ เมถุนธมฺมสมาโยเค ปาราชิกสฺสา’’ติฯ
160. Tena kho pana samayena dve bhikkhū sahāyakā honti – paṇḍuko ca kapilo ca. Eko gāmake viharati, eko kosambiyaṃ. Atha kho tassa bhikkhuno gāmakā kosambiṃ gacchantassa antarāmagge nadiṃ tarantassa sūkarikānaṃ hatthato muttā medavaṭṭi pāde laggā hoti. So bhikkhu – ‘‘sāmikānaṃ dassāmī’’ti aggahesi. Sāmikā taṃ bhikkhuṃ codesuṃ – ‘‘assamaṇosi tva’’nti. Taṃ uttiṇṇaṃ gopālikā 56 passitvā etadavoca – ‘‘ehi, bhante, methunaṃ dhammaṃ paṭisevā’’ti. So – ‘‘pakatiyāpāhaṃ assamaṇo’’ti tassā methunaṃ dhammaṃ paṭisevitvā kosambiṃ gantvā bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Bhikkhū bhagavato etamatthaṃ orocesuṃ. ‘‘Anāpatti, bhikkhave, adinnādāne pārājikassa; āpatti methunadhammasamāyoge pārājikassā’’ti.
๑๖๑. เตน โข ปน สมเยน สาคลายํ อายสฺมโต ทฬฺหิกสฺส สทฺธิวิหาริโก ภิกฺขุ อนภิรติยา ปีฬิโต อาปณิกสฺส เวฐนํ อวหริตฺวา อายสฺมนฺตํ ทฬฺหิกํ เอตทโวจ – ‘‘อสฺสมโณ อหํ, ภเนฺต, วิพฺภมิสฺสามี’’ติฯ ‘‘กิํ ตยา, อาวุโส, กต’’นฺติ? โส ตมตฺถํ อาโรเจสิฯ อาหราเปตฺวา อคฺฆาเปสิฯ ตํ อคฺฆาเปนฺตํ น ปญฺจมาสเก อคฺฆติ ฯ ‘‘อนาปตฺติ, อาวุโส, ปาราชิกสฺสา’’ติฯ ธมฺมกถํ อกาสิฯ โส ภิกฺขุ อภิรมตีติ 57ฯ
161. Tena kho pana samayena sāgalāyaṃ āyasmato daḷhikassa saddhivihāriko bhikkhu anabhiratiyā pīḷito āpaṇikassa veṭhanaṃ avaharitvā āyasmantaṃ daḷhikaṃ etadavoca – ‘‘assamaṇo ahaṃ, bhante, vibbhamissāmī’’ti. ‘‘Kiṃ tayā, āvuso, kata’’nti? So tamatthaṃ ārocesi. Āharāpetvā agghāpesi. Taṃ agghāpentaṃ na pañcamāsake agghati . ‘‘Anāpatti, āvuso, pārājikassā’’ti. Dhammakathaṃ akāsi. So bhikkhu abhiramatīti 58.
ทุติยปาราชิกํ สมตฺตํฯ
Dutiyapārājikaṃ samattaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๒. ทุติยปาราชิกํ • 2. Dutiyapārājikaṃ
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā
ธนิยวตฺถุวณฺณนา • Dhaniyavatthuvaṇṇanā
ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉยวณฺณนา • Pāḷimuttakavinicchayavaṇṇanā
ปทภาชนียวณฺณนา • Padabhājanīyavaṇṇanā
ปญฺจวีสติอวหารกถาวณฺณนา • Pañcavīsatiavahārakathāvaṇṇanā
ภูมฎฺฐกถาวณฺณนา • Bhūmaṭṭhakathāvaṇṇanā
อากาสฎฺฐกถาวณฺณนา • Ākāsaṭṭhakathāvaṇṇanā
เวหาสฎฺฐกถาวณฺณนา • Vehāsaṭṭhakathāvaṇṇanā
อุทกฎฺฐกถาวณฺณนา • Udakaṭṭhakathāvaṇṇanā
นาวฎฺฐกถาวณฺณนา • Nāvaṭṭhakathāvaṇṇanā
ยานฎฺฐกถาวณฺณนา • Yānaṭṭhakathāvaṇṇanā
ภารฎฺฐกถาวณฺณนา • Bhāraṭṭhakathāvaṇṇanā
อารามฎฺฐกถาวณฺณนา • Ārāmaṭṭhakathāvaṇṇanā
วิหารฎฺฐกถาวณฺณนา • Vihāraṭṭhakathāvaṇṇanā
เขตฺตฎฺฐกถาวณฺณนา • Khettaṭṭhakathāvaṇṇanā
วตฺถุฎฺฐกถาวณฺณนา • Vatthuṭṭhakathāvaṇṇanā
คามฎฺฐกถาวณฺณนา • Gāmaṭṭhakathāvaṇṇanā
อรญฺญฎฺฐกถาวณฺณนา • Araññaṭṭhakathāvaṇṇanā
อุทกกถาวณฺณนา • Udakakathāvaṇṇanā
ทนฺตโปนกถาวณฺณนา • Dantaponakathāvaṇṇanā
วนปฺปติกถาวณฺณนา • Vanappatikathāvaṇṇanā
หรณกกถาวณฺณนา • Haraṇakakathāvaṇṇanā
อุปนิธิกถาวณฺณนา • Upanidhikathāvaṇṇanā
สุงฺกฆาตกถาวณฺณนา • Suṅkaghātakathāvaṇṇanā
ปาณกถาวณฺณนา • Pāṇakathāvaṇṇanā
จตุปฺปทกถาวณฺณนา • Catuppadakathāvaṇṇanā
สเงฺกตกมฺมกถาวณฺณนา • Saṅketakammakathāvaṇṇanā
นิมิตฺตกมฺมกถาวณฺณนา • Nimittakammakathāvaṇṇanā
อาณตฺติกถาวณฺณนา • Āṇattikathāvaṇṇanā
อาปตฺติเภทวณฺณนา • Āpattibhedavaṇṇanā
อนาปตฺติเภทวณฺณนา • Anāpattibhedavaṇṇanā
วินีตวตฺถุวณฺณนา • Vinītavatthuvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā
ธนิยวตฺถุวณฺณนา • Dhaniyavatthuvaṇṇanā
ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉยวณฺณนา • Pāḷimuttakavinicchayavaṇṇanā
ปทภาชนียวณฺณนา • Padabhājanīyavaṇṇanā
ภูมฎฺฐกถาทิวณฺณนา • Bhūmaṭṭhakathādivaṇṇanā
อาปตฺติเภทวณฺณนา • Āpattibhedavaṇṇanā
อนาปตฺติเภทวณฺณนา • Anāpattibhedavaṇṇanā
วินีตวตฺถุวณฺณนา • Vinītavatthuvaṇṇanā
กุสสงฺกามนวตฺถุกถาวณฺณนา • Kusasaṅkāmanavatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā
ธนิยวตฺถุวณฺณนา • Dhaniyavatthuvaṇṇanā
ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉยวณฺณนา • Pāḷimuttakavinicchayavaṇṇanā
ปทภาชนียวณฺณนา • Padabhājanīyavaṇṇanā
ปญฺจวีสติอวหารกถาวณฺณนา • Pañcavīsatiavahārakathāvaṇṇanā
ภูมฎฺฐกถาวณฺณนา • Bhūmaṭṭhakathāvaṇṇanā
อากาสฎฺฐกถาวณฺณนา • Ākāsaṭṭhakathāvaṇṇanā
เวหาสฎฺฐกถาวณฺณนา • Vehāsaṭṭhakathāvaṇṇanā
อุทกฎฺฐกถาวณฺณนา • Udakaṭṭhakathāvaṇṇanā
นาวฎฺฐกถาวณฺณนา • Nāvaṭṭhakathāvaṇṇanā
ยานฎฺฐกถาวณฺณนา • Yānaṭṭhakathāvaṇṇanā
ภารฎฺฐกถาวณฺณนา • Bhāraṭṭhakathāvaṇṇanā
อารามฎฺฐกถาวณฺณนา • Ārāmaṭṭhakathāvaṇṇanā
วิหารฎฺฐกถาวณฺณนา • Vihāraṭṭhakathāvaṇṇanā
เขตฺตฎฺฐกถาวณฺณนา • Khettaṭṭhakathāvaṇṇanā
วตฺถุฎฺฐกถาวณฺณนา • Vatthuṭṭhakathāvaṇṇanā
อรญฺญฎฺฐกถาวณฺณนา • Araññaṭṭhakathāvaṇṇanā
อุทกกถาวณฺณนา • Udakakathāvaṇṇanā
ทนฺตโปนกถาวณฺณนา • Dantaponakathāvaṇṇanā
วนปฺปติกถาวณฺณนา • Vanappatikathāvaṇṇanā
หรณกกถาวณฺณนา • Haraṇakakathāvaṇṇanā
อุปนิธิกถาวณฺณนา • Upanidhikathāvaṇṇanā
สุงฺกฆาตกถาวณฺณนา • Suṅkaghātakathāvaṇṇanā
ปาณกถาวณฺณนา • Pāṇakathāvaṇṇanā
จตุปฺปทกถาวณฺณนา • Catuppadakathāvaṇṇanā
โอจรกกถาวณฺณนา • Ocarakakathāvaṇṇanā
สเงฺกตกมฺมกถาวณฺณนา • Saṅketakammakathāvaṇṇanā
นิมิตฺตกมฺมกถาวณฺณนา • Nimittakammakathāvaṇṇanā
อาณตฺติกถาวณฺณนา • Āṇattikathāvaṇṇanā
อาปตฺติเภทวณฺณนา • Āpattibhedavaṇṇanā
อนาปตฺติเภทวณฺณนา • Anāpattibhedavaṇṇanā
วินีตวตฺถุวณฺณนา • Vinītavatthuvaṇṇanā
กุสสงฺกามนวตฺถุกถาวณฺณนา • Kusasaṅkāmanavatthukathāvaṇṇanā