Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā

    ทุติยปาราชิกสมุฎฺฐานวณฺณนา

    Dutiyapārājikasamuṭṭhānavaṇṇanā

    ๒๕๙. อทินฺนนฺติ อิทํ ตาว อทินฺนาทานนฺติ วา ทุติยปาราชิกนฺติ วา เอกํ สมุฎฺฐานสีสํ, เสสานิ เตน สทิสานิฯ ตตฺถ วิคฺคหุตฺตรีติ มนุสฺสวิคฺคหอุตฺตริมนุสฺสธมฺมสิกฺขาปทานิฯ ทุฎฺฐุลฺลา อตฺตกามินนฺติ ทุฎฺฐุลฺลวาจาอตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทานิฯ อมูลา อญฺญภาคิยาติ เทฺว ทุฎฺฐโทสสิกฺขาปทานิฯ อนิยตา ทุติยิกาติ ทุติยํ อนิยตสิกฺขาปทํฯ

    259.Adinnanti idaṃ tāva adinnādānanti vā dutiyapārājikanti vā ekaṃ samuṭṭhānasīsaṃ, sesāni tena sadisāni. Tattha viggahuttarīti manussaviggahauttarimanussadhammasikkhāpadāni. Duṭṭhullā attakāminanti duṭṭhullavācāattakāmapāricariyasikkhāpadāni. Amūlā aññabhāgiyāti dve duṭṭhadosasikkhāpadāni. Aniyatā dutiyikāti dutiyaṃ aniyatasikkhāpadaṃ.

    อจฺฉิเนฺท ปริณามเนติ สามํ จีวรํ ทตฺวา อจฺฉินฺทนญฺจ สงฺฆิกลาภสฺส อตฺตโน ปริณามนญฺจฯ มุสา โอมสเปสุณาติ มุสาวาโท จ โอมสวาโท จ ภิกฺขุเปสุญฺญญฺจฯ ทุฎฺฐุลฺลา ปถวีขเณติ ทุฎฺฐุลฺลาปตฺติอาโรจนญฺจ ปถวีขณญฺจฯ ภูตํ อญฺญาย อุชฺฌาเปติ ภูตคามอญฺญวาทกอุชฺฌาปนกสิกฺขาปทานิฯ

    Acchinde pariṇāmaneti sāmaṃ cīvaraṃ datvā acchindanañca saṅghikalābhassa attano pariṇāmanañca. Musā omasapesuṇāti musāvādo ca omasavādo ca bhikkhupesuññañca. Duṭṭhullā pathavīkhaṇeti duṭṭhullāpattiārocanañca pathavīkhaṇañca. Bhūtaṃ aññāya ujjhāpeti bhūtagāmaaññavādakaujjhāpanakasikkhāpadāni.

    นิกฺกฑฺฒนํ สิญฺจนญฺจาติ วิหารโต นิกฺกฑฺฒนญฺจ อุทเกน ติณาทิสิญฺจนญฺจฯ อามิสเหตุ ภุตฺตาวีติ ‘‘อามิสเหตุ ภิกฺขุนิโย โอวทนฺตี’’ติ สิกฺขาปทญฺจ, ภุตฺตาวิํ อนติริเตฺตน ขาทนียาทินา ปวารณาสิกฺขาปทญฺจฯ เอหิ อนาทริ ภิํสาติ ‘‘เอหาวุโส คามํ วา’’ติ สิกฺขาปทญฺจ, อนาทริยญฺจ ภิกฺขุภิํสาปนกญฺจฯ อปนิเธ จ ชีวิตนฺติ ปตฺตาทีนํ อปนิธานสิกฺขาปทญฺจ, สญฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตาโวโรปนญฺจฯ

    Nikkaḍḍhanaṃ siñcanañcāti vihārato nikkaḍḍhanañca udakena tiṇādisiñcanañca. Āmisahetu bhuttāvīti ‘‘āmisahetu bhikkhuniyo ovadantī’’ti sikkhāpadañca, bhuttāviṃ anatirittena khādanīyādinā pavāraṇāsikkhāpadañca. Ehi anādari bhiṃsāti ‘‘ehāvuso gāmaṃ vā’’ti sikkhāpadañca, anādariyañca bhikkhubhiṃsāpanakañca. Apanidhe ca jīvitanti pattādīnaṃ apanidhānasikkhāpadañca, sañcicca pāṇaṃ jīvitāvoropanañca.

    ชานํ สปฺปาณกํ กมฺมนฺติ ชานํ สปฺปาณกอุทกสิกฺขาปทญฺจ ปุนกมฺมาย อุโกฺกฎนญฺจฯ อูนสํวาสนาสนาติ อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทญฺจ อุกฺขิตฺตเกน สทฺธิํ สํวาสสิกฺขาปทญฺจ นาสิตกสามเณรสโมฺภคสิกฺขาปทญฺจฯ สหธมฺมิกํ วิเลขาติ สหธมฺมิกํ วุจฺจมานสิกฺขาปทญฺจ, วิเลขาย สํวตฺตนฺตีติ อาคตสิกฺขาปทญฺจฯ โมโห อมูลเกน จาติ โมหนเก ปาจิตฺติยสิกฺขาปทญฺจ, อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํสนสิกฺขาปทญฺจฯ

    Jānaṃ sappāṇakaṃ kammanti jānaṃ sappāṇakaudakasikkhāpadañca punakammāya ukkoṭanañca. Ūnasaṃvāsanāsanāti ūnavīsativassasikkhāpadañca ukkhittakena saddhiṃ saṃvāsasikkhāpadañca nāsitakasāmaṇerasambhogasikkhāpadañca. Sahadhammikaṃ vilekhāti sahadhammikaṃ vuccamānasikkhāpadañca, vilekhāya saṃvattantīti āgatasikkhāpadañca. Moho amūlakena cāti mohanake pācittiyasikkhāpadañca, amūlakena saṅghādisesena anuddhaṃsanasikkhāpadañca.

    กุกฺกุจฺจํ ธมฺมิกํ จีวรํ ทตฺวาติ กุกฺกุจฺจอุปทหนญฺจ, ธมฺมิกานํ กมฺมานํ ฉนฺทํ ทตฺวา ขียนญฺจ, จีวรํ ทตฺวา ขียนญฺจฯ ปริณาเมยฺย ปุคฺคเลติ สงฺฆิกํ ลาภํ ปุคฺคลสฺส ปริณามนสิกฺขาปทํฯ กิํ เต อกาลํ อจฺฉิเนฺทติ ‘‘กิํ เต อเยฺย เอโส ปุริสปุคฺคโล กริสฺสตี’’ติ อาคตสิกฺขาปทญฺจ, ‘‘อกาลจีวรํ กาลจีวร’’นฺติ อธิฎฺฐหิตฺวา ภาชนสิกฺขาปทญฺจ, ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ จีวรํ ปริวเตฺตตฺวา อจฺฉินฺทนสิกฺขาปทญฺจฯ ทุคฺคหี นิรเยน จาติ ทุคฺคหิเตน ทุปฺปธาริเตน ปรํ อุชฺฌาปนสิกฺขาปทญฺจ, นิรเยน วา พฺรหฺมจริเยน วา อภิสปนสิกฺขาปทญฺจฯ

    Kukkuccaṃ dhammikaṃ cīvaraṃ datvāti kukkuccaupadahanañca, dhammikānaṃ kammānaṃ chandaṃ datvā khīyanañca, cīvaraṃ datvā khīyanañca. Pariṇāmeyya puggaleti saṅghikaṃ lābhaṃ puggalassa pariṇāmanasikkhāpadaṃ. Kiṃ te akālaṃ acchindeti ‘‘kiṃ te ayye eso purisapuggalo karissatī’’ti āgatasikkhāpadañca, ‘‘akālacīvaraṃ kālacīvara’’nti adhiṭṭhahitvā bhājanasikkhāpadañca, bhikkhuniyā saddhiṃ cīvaraṃ parivattetvā acchindanasikkhāpadañca. Duggahī nirayenati duggahitena duppadhāritena paraṃ ujjhāpanasikkhāpadañca, nirayena vā brahmacariyena vā abhisapanasikkhāpadañca.

    คณํ วิภงฺค ทุพฺพลนฺติ ‘‘คณสฺส จีวรลาภํ อนฺตรายํ กเรยฺยา’’ติ จ ‘‘ธมฺมิกํ จีวรวิภงฺคํ ปฎิพาเหยฺยา’’ติ จ ‘‘ทุพฺพลจีวรปจฺจาสาย จีวรกาลสมยํ อติกฺกาเมยฺยา’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปทานิฯ กถินา ผาสุ ปสฺสยนฺติ ‘‘ธมฺมิกํ กถินุทฺธารํ ปฎิพาเหยฺย, ภิกฺขุนิยา สญฺจิจฺจ อผาสุํ กเรยฺย, ภิกฺขุนิยา อุปสฺสยํ ทตฺวา กุปิตา อนตฺตมนา นิกฺกเฑฺฒยฺย วา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทานิฯ อโกฺกสจณฺฑี มจฺฉรีติ ‘‘ภิกฺขุํ อโกฺกเสยฺย วา ปริภาเสยฺย วา, จณฺฑิกตา คณํ ปริภาเสยฺย, กุเล มจฺฉรินี อสฺสา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทานิฯ คพฺภินิญฺจ ปายนฺติยาติ ‘‘คพฺภินิํ วุฎฺฐาเปยฺย, ปายนฺติํ วุฎฺฐาเปยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทานิฯ

    Gaṇaṃ vibhaṅga dubbalanti ‘‘gaṇassa cīvaralābhaṃ antarāyaṃ kareyyā’’ti ca ‘‘dhammikaṃ cīvaravibhaṅgaṃ paṭibāheyyā’’ti ca ‘‘dubbalacīvarapaccāsāya cīvarakālasamayaṃ atikkāmeyyā’’ti ca vuttasikkhāpadāni. Kathinā phāsu passayanti ‘‘dhammikaṃ kathinuddhāraṃ paṭibāheyya, bhikkhuniyā sañcicca aphāsuṃ kareyya, bhikkhuniyā upassayaṃ datvā kupitā anattamanā nikkaḍḍheyya vā’’ti vuttasikkhāpadāni. Akkosacaṇḍī maccharīti ‘‘bhikkhuṃ akkoseyya vā paribhāseyya vā, caṇḍikatā gaṇaṃ paribhāseyya, kule maccharinī assā’’ti vuttasikkhāpadāni. Gabbhiniñca pāyantiyāti ‘‘gabbhiniṃ vuṭṭhāpeyya, pāyantiṃ vuṭṭhāpeyyā’’ti vuttasikkhāpadāni.

    เทฺววสฺสํ สิกฺขา สเงฺฆนาติ ‘‘เทฺว วสฺสานิ ฉสุ ธเมฺมสุ อสิกฺขิตสิกฺขํ สิกฺขมานํ วุฎฺฐาเปยฺย, สิกฺขิตสิกฺขํ สิกฺขมานํ สเงฺฆน อสมฺมตํ วุฎฺฐาเปยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทานิฯ ตโย เจว คิหีคตาติ อูนทฺวาทสวสฺสํ คิหิคตํ, ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสํ คิหิคตํ ‘‘เทฺว วสฺสานิ ฉสุ ธเมฺมสุ อสิกฺขิตสิกฺขํ เทฺว วสฺสานิ สิกฺขิตสิกฺขํ สเงฺฆน อสมฺมต’’นฺติ วุตฺตสิกฺขาปทานิฯ กุมาริภูตา ติโสฺสติ ‘‘อูนวีสติวสฺสํ กุมาริภูต’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺตา ติโสฺสฯ อูนทฺวาทสสมฺมตาติ ‘‘อูนทฺวาทสวสฺสา วุฎฺฐาเปยฺย, ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา สเงฺฆน อสมฺมตา วุฎฺฐาเปยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํฯ

    Dvevassaṃ sikkhā saṅghenāti ‘‘dve vassāni chasu dhammesu asikkhitasikkhaṃ sikkhamānaṃ vuṭṭhāpeyya, sikkhitasikkhaṃ sikkhamānaṃ saṅghena asammataṃ vuṭṭhāpeyyā’’ti vuttasikkhāpadāni. Tayo ceva gihīgatāti ūnadvādasavassaṃ gihigataṃ, paripuṇṇadvādasavassaṃ gihigataṃ ‘‘dve vassāni chasu dhammesu asikkhitasikkhaṃ dve vassāni sikkhitasikkhaṃ saṅghena asammata’’nti vuttasikkhāpadāni. Kumāribhūtā tissoti ‘‘ūnavīsativassaṃ kumāribhūta’’ntiādinā nayena vuttā tisso. Ūnadvādasasammatāti ‘‘ūnadvādasavassā vuṭṭhāpeyya, paripuṇṇadvādasavassā saṅghena asammatā vuṭṭhāpeyyā’’ti vuttasikkhāpadadvayaṃ.

    อลํ ตาว โสกาวาสนฺติ ‘‘อลํ ตาว เต อเยฺย วุฎฺฐาปิเตนา’’ติ จ, ‘‘จณฺฑิํ โสกาวาสํ สิกฺขมานํ วุฎฺฐาเปยฺยา’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํฯ ฉนฺทา อนุวสฺสา จ เทฺวติ ‘‘ปาริวาสิกฉนฺททาเนน สิกฺขมานํ วุฎฺฐาเปยฺย, อนุวสฺสํ วุฎฺฐาเปยฺย, เอกํ วสฺสํ เทฺว วุฎฺฐาเปยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทตฺตยํฯ สมุฎฺฐานา ติกา กตาติ ติกสมุฎฺฐานา กตาฯ

    Alaṃ tāva sokāvāsanti ‘‘alaṃ tāva te ayye vuṭṭhāpitenā’’ti ca, ‘‘caṇḍiṃ sokāvāsaṃ sikkhamānaṃ vuṭṭhāpeyyā’’ti ca vuttasikkhāpadadvayaṃ. Chandā anuvassā ca dveti ‘‘pārivāsikachandadānena sikkhamānaṃ vuṭṭhāpeyya, anuvassaṃ vuṭṭhāpeyya, ekaṃ vassaṃ dve vuṭṭhāpeyyā’’ti vuttasikkhāpadattayaṃ. Samuṭṭhānā tikā katāti tikasamuṭṭhānā katā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi / ๒. ทุติยปาราชิกสมุฎฺฐานํ • 2. Dutiyapārājikasamuṭṭhānaṃ

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ทุติยปาราชิกสมุฎฺฐานวณฺณนา • Dutiyapārājikasamuṭṭhānavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ทุติยปาราชิกสมุฎฺฐานวณฺณนา • Dutiyapārājikasamuṭṭhānavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact