Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๖. ทุติยปตฺถนาสุตฺตํ
6. Dutiyapatthanāsuttaṃ
๑๓๖. ‘‘ปญฺจหิ, ภิกฺขเว, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต รโญฺญ ขตฺติยสฺส มุทฺธาวสิตฺตสฺส เชโฎฺฐ ปุโตฺต โอปรชฺชํ 1 ปเตฺถติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ขตฺติยสฺส มุทฺธาวสิตฺตสฺส เชโฎฺฐ ปุโตฺต อุภโต สุชาโต โหติ มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก, ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิโตฺต อนุปกฺกุโฎฺฐ ชาติวาเทน; อภิรูโป โหติ ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต; มาตาปิตูนํ ปิโย โหติ มนาโป, พลกายสฺส ปิโย โหติ มนาโป; ปณฺฑิโต โหติ วิยโตฺต เมธาวี ปฎิพโล อตีตานาคตปจฺจุปฺปเนฺน อเตฺถ จิเนฺตตุํฯ
136. ‘‘Pañcahi, bhikkhave, aṅgehi samannāgato rañño khattiyassa muddhāvasittassa jeṭṭho putto oparajjaṃ 2 pattheti. Katamehi pañcahi? Idha, bhikkhave, rañño khattiyassa muddhāvasittassa jeṭṭho putto ubhato sujāto hoti mātito ca pitito ca, saṃsuddhagahaṇiko, yāva sattamā pitāmahayugā akkhitto anupakkuṭṭho jātivādena; abhirūpo hoti dassanīyo pāsādiko paramāya vaṇṇapokkharatāya samannāgato; mātāpitūnaṃ piyo hoti manāpo, balakāyassa piyo hoti manāpo; paṇḍito hoti viyatto medhāvī paṭibalo atītānāgatapaccuppanne atthe cintetuṃ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โขมฺหิ อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก, ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิโตฺต อนุปกฺกุโฎฺฐ ชาติวาเทนฯ กสฺมาหํ โอปรชฺชํ น ปเตฺถยฺยํ! อหํ โขมฺหิ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโตฯ กสฺมาหํ โอปรชฺชํ น ปเตฺถยฺยํ! อหํ โขมฺหิ มาตาปิตูนํ ปิโย มนาโปฯ กสฺมาหํ โอปรชฺชํ น ปเตฺถยฺยํ! อหํ โขมฺหิ พลกายสฺส ปิโย มนาโปฯ กสฺมาหํ โอปรชฺชํ น ปเตฺถยฺยํ! อหํ โขมฺหิ ปณฺฑิโต วิยโตฺต เมธาวี ปฎิพโล อตีตานาคตปจฺจุปฺปเนฺน อเตฺถ จิเนฺตตุํฯ กสฺมาหํ โอปรชฺชํ น ปเตฺถยฺย’นฺติ! อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ อเงฺคหิ สมนฺนาคโต รโญฺญ ขตฺติยสฺส มุทฺธาวสิตฺตสฺส เชโฎฺฐ ปุโตฺต โอปรชฺชํ ปเตฺถติฯ
‘‘Tassa evaṃ hoti – ‘ahaṃ khomhi ubhato sujāto mātito ca pitito ca, saṃsuddhagahaṇiko, yāva sattamā pitāmahayugā akkhitto anupakkuṭṭho jātivādena. Kasmāhaṃ oparajjaṃ na pattheyyaṃ! Ahaṃ khomhi abhirūpo dassanīyo pāsādiko paramāya vaṇṇapokkharatāya samannāgato. Kasmāhaṃ oparajjaṃ na pattheyyaṃ! Ahaṃ khomhi mātāpitūnaṃ piyo manāpo. Kasmāhaṃ oparajjaṃ na pattheyyaṃ! Ahaṃ khomhi balakāyassa piyo manāpo. Kasmāhaṃ oparajjaṃ na pattheyyaṃ! Ahaṃ khomhi paṇḍito viyatto medhāvī paṭibalo atītānāgatapaccuppanne atthe cintetuṃ. Kasmāhaṃ oparajjaṃ na pattheyya’nti! Imehi kho, bhikkhave, pañcahi aṅgehi samannāgato rañño khattiyassa muddhāvasittassa jeṭṭho putto oparajjaṃ pattheti.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปเตฺถติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป.… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ…เป.… ทิฎฺฐิยา สุปฺปฎิวิทฺธา; จตูสุ สติปฎฺฐาเนสุ สุปฺปติฎฺฐิตจิโตฺต 3 โหติ; อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธเมฺมสุ; ปญฺญวา โหติ, อุทยตฺถคามินิยา ปญฺญาย สมนฺนาคโต อริยาย นิเพฺพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยาฯ
‘‘Evamevaṃ kho, bhikkhave, pañcahi dhammehi samannāgato bhikkhu āsavānaṃ khayaṃ pattheti. Katamehi pañcahi? Idha, bhikkhave, bhikkhu sīlavā hoti…pe… samādāya sikkhati sikkhāpadesu; bahussuto hoti…pe… diṭṭhiyā suppaṭividdhā; catūsu satipaṭṭhānesu suppatiṭṭhitacitto 4 hoti; āraddhavīriyo viharati akusalānaṃ dhammānaṃ pahānāya, kusalānaṃ dhammānaṃ upasampadāya, thāmavā daḷhaparakkamo anikkhittadhuro kusalesu dhammesu; paññavā hoti, udayatthagāminiyā paññāya samannāgato ariyāya nibbedhikāya sammā dukkhakkhayagāminiyā.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โขมฺหิ สีลวา, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรามิ อาจารโคจรสมฺปโนฺน อณุมเตฺตสุ วเชฺชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขามิ สิกฺขาปเทสุฯ กสฺมาหํ อาสวานํ ขยํ น ปเตฺถยฺยํ! อหํ โขมฺหิ พหุสฺสุโต สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มเชฺฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ 5 เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปา เม ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฎฺฐิยา สุปฺปฎิวิทฺธาฯ กสฺมาหํ อาสวานํ ขยํ น ปเตฺถยฺยํ! อหํ โขมฺหิ จตูสุ สติปฎฺฐาเนสุ สุปฺปติฎฺฐิตจิโตฺตฯ กสฺมาหํ อาสวานํ ขยํ น ปเตฺถยฺยํ! อหํ โขมฺหิ อารทฺธวีริโย วิหรามิ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธเมฺมสุฯ กสฺมาหํ อาสวานํ ขยํ น ปเตฺถยฺยํ! อหํ โขมฺหิ ปญฺญวา อุทยตฺถคามินิยา ปญฺญาย สมนฺนาคโต อริยาย นิเพฺพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยาฯ กสฺมาหํ อาสวานํ ขยํ น ปเตฺถยฺย’นฺติ! อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปเตฺถตี’’ติฯ ฉฎฺฐํฯ
‘‘Tassa evaṃ hoti – ‘ahaṃ khomhi sīlavā, pātimokkhasaṃvarasaṃvuto viharāmi ācāragocarasampanno aṇumattesu vajjesu bhayadassāvī, samādāya sikkhāmi sikkhāpadesu. Kasmāhaṃ āsavānaṃ khayaṃ na pattheyyaṃ! Ahaṃ khomhi bahussuto sutadharo sutasannicayo, ye te dhammā ādikalyāṇā majjhekalyāṇā pariyosānakalyāṇā sātthaṃ sabyañjanaṃ 6 kevalaparipuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ abhivadanti, tathārūpā me dhammā bahussutā honti dhātā vacasā paricitā manasānupekkhitā diṭṭhiyā suppaṭividdhā. Kasmāhaṃ āsavānaṃ khayaṃ na pattheyyaṃ! Ahaṃ khomhi catūsu satipaṭṭhānesu suppatiṭṭhitacitto. Kasmāhaṃ āsavānaṃ khayaṃ na pattheyyaṃ! Ahaṃ khomhi āraddhavīriyo viharāmi akusalānaṃ dhammānaṃ pahānāya, kusalānaṃ dhammānaṃ upasampadāya, thāmavā daḷhaparakkamo anikkhittadhuro kusalesu dhammesu. Kasmāhaṃ āsavānaṃ khayaṃ na pattheyyaṃ! Ahaṃ khomhi paññavā udayatthagāminiyā paññāya samannāgato ariyāya nibbedhikāya sammā dukkhakkhayagāminiyā. Kasmāhaṃ āsavānaṃ khayaṃ na pattheyya’nti! Imehi kho, bhikkhave, pañcahi dhammehi samannāgato bhikkhu āsavānaṃ khayaṃ patthetī’’ti. Chaṭṭhaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๕-๖. ปตฺถนาสุตฺตทฺวยวณฺณนา • 5-6. Patthanāsuttadvayavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๕-๙. ปตฺถนาสุตฺตาทิวณฺณนา • 5-9. Patthanāsuttādivaṇṇanā