Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมานวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Vimānavatthu-aṭṭhakathā |
๒. ทุติยปีฐวิมานวณฺณนา
2. Dutiyapīṭhavimānavaṇṇanā
ปีฐํ เต เวฬุริยมยนฺติ ทุติยปีฐวิมานํฯ ตสฺส อฎฺฐุปฺปตฺติ จ อตฺถวณฺณนา จ ปฐเม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาฯ อยํ ปน วิเสโส – สาวตฺถิวาสินี กิร เอกา อิตฺถี อตฺตโน เคหํ ปิณฺฑาย ปวิฎฺฐํ เอกํ เถรํ ปสฺสิตฺวา ปสนฺนจิตฺตา ตสฺส อาสนํ เทนฺตี อตฺตโน ปีฐํ อุปริ นีลวเตฺถน อตฺถริตฺวา อทาสิฯ เตน ตสฺสา เทวโลเก นิพฺพตฺตาย เวฬุริยมยํ ปลฺลงฺกวิมานํ นิพฺพตฺตํฯ เตน วุตฺตํ –
Pīṭhaṃte veḷuriyamayanti dutiyapīṭhavimānaṃ. Tassa aṭṭhuppatti ca atthavaṇṇanā ca paṭhame vuttanayeneva veditabbā. Ayaṃ pana viseso – sāvatthivāsinī kira ekā itthī attano gehaṃ piṇḍāya paviṭṭhaṃ ekaṃ theraṃ passitvā pasannacittā tassa āsanaṃ dentī attano pīṭhaṃ upari nīlavatthena attharitvā adāsi. Tena tassā devaloke nibbattāya veḷuriyamayaṃ pallaṅkavimānaṃ nibbattaṃ. Tena vuttaṃ –
๘.
8.
‘‘ปีฐํ เต เวฬุริยมยํ อุฬารํ, มโนชวํ คจฺฉติ เยนกามํ;
‘‘Pīṭhaṃ te veḷuriyamayaṃ uḷāraṃ, manojavaṃ gacchati yenakāmaṃ;
อลงฺกเต มลฺยธเร สุวเตฺถ, โอภาสสิ วิชฺชุริวพฺภ กูฎํฯ
Alaṅkate malyadhare suvatthe, obhāsasi vijjurivabbha kūṭaṃ.
๙.
9.
‘‘เกน เตตาทิโส วโณฺณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
‘‘Kena tetādiso vaṇṇo, kena te idha mijjhati;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยาฯ
Uppajjanti ca te bhogā, ye keci manaso piyā.
๑๐.
10.
‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุญฺญํ;
‘‘Pucchāmi taṃ devi mahānubhāve, manussabhūtā kimakāsi puññaṃ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วโณฺณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ
Kenāsi evaṃ jalitānubhāvā, vaṇṇo ca te sabbadisā pabhāsatī’’ti.
๑๑.
11.
‘‘สา เทวตา อตฺตมนา, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิตา;
‘‘Sā devatā attamanā, moggallānena pucchitā;
ปญฺหํ ปุฎฺฐา วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’ฯ
Pañhaṃ puṭṭhā viyākāsi, yassa kammassidaṃ phalaṃ’’.
๑๒.
12.
‘‘อหํ มนุเสฺสสุ มนุสฺสภูตา, อพฺภาคตานาสนกํ อทาสิํ;
‘‘Ahaṃ manussesu manussabhūtā, abbhāgatānāsanakaṃ adāsiṃ;
อภิวาทยิํ อญฺชลิกํ อกาสิํ, ยถานุภาวญฺจ อทาสิ ทานํฯ
Abhivādayiṃ añjalikaṃ akāsiṃ, yathānubhāvañca adāsi dānaṃ.
๑๓.
13.
‘‘เตน เมตาทิโส วโณฺณ, เตน เม อิธ มิชฺฌติ;
‘‘Tena metādiso vaṇṇo, tena me idha mijjhati;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เม โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยาฯ
Uppajjanti ca me bhogā, ye keci manaso piyā.
๑๔.
14.
‘‘อกฺขามิ เต ภิกฺขุ มหานุภาว, มนุสฺสภูตา ยมกาสิ ปุญฺญํ;
‘‘Akkhāmi te bhikkhu mahānubhāva, manussabhūtā yamakāsi puññaṃ;
เตนมฺหิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วโณฺณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ
Tenamhi evaṃ jalitānubhāvā, vaṇṇo ca me sabbadisā pabhāsatī’’ti.
๘. ตตฺถ เวฬุริยมยนฺติ เวฬุริยมณิมยํฯ เวฬุริยมณิ นาม วิฬูรปพฺพตสฺส วิฬูรคามสฺส จ อวิทูเร อุปฺปชฺชนกมณิฯ ตสฺส กิร วิฬูรคามฎฺฐาเน อากโร, วิฬูรสฺส ปน อวิทูเร ภวตฺตา เวฬุริยเนฺตว ปญฺญายิตฺถฯ ตํสทิสวณฺณนิภตาย เทวโลเกปิสฺส ตเถว นามํ ชาตํ ยถา ตํ มนุสฺสโลเก ลทฺธนามวเสเนว เทวโลเก เทวปุตฺตานํฯ ตํ ปน มยูรคีววณฺณํ วา โหติ, วายสปตฺตวณฺณํ วา, สินิทฺธเวณุปตฺตวณฺณํ วาฯ อิธ ปน มยูรคีววณฺณํ เวทิตพฺพํฯ เสสํ สพฺพํ ปฐมปีฐวิมาเน วุตฺตสทิสเมวาติฯ
8. Tattha veḷuriyamayanti veḷuriyamaṇimayaṃ. Veḷuriyamaṇi nāma viḷūrapabbatassa viḷūragāmassa ca avidūre uppajjanakamaṇi. Tassa kira viḷūragāmaṭṭhāne ākaro, viḷūrassa pana avidūre bhavattā veḷuriyanteva paññāyittha. Taṃsadisavaṇṇanibhatāya devalokepissa tatheva nāmaṃ jātaṃ yathā taṃ manussaloke laddhanāmavaseneva devaloke devaputtānaṃ. Taṃ pana mayūragīvavaṇṇaṃ vā hoti, vāyasapattavaṇṇaṃ vā, siniddhaveṇupattavaṇṇaṃ vā. Idha pana mayūragīvavaṇṇaṃ veditabbaṃ. Sesaṃ sabbaṃ paṭhamapīṭhavimāne vuttasadisamevāti.
ทุติยปีฐวิมานวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dutiyapīṭhavimānavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / วิมานวตฺถุปาฬิ • Vimānavatthupāḷi / ๒. ทุติยปีฐวิมานวตฺถุ • 2. Dutiyapīṭhavimānavatthu