Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๕. ทุติยสงฺคามสุตฺตํ

    5. Dutiyasaṅgāmasuttaṃ

    ๑๒๖. 1 อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุโตฺต จตุรงฺคินิํ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา ราชานํ ปเสนทิํ โกสลํ อพฺภุยฺยาสิ เยน กาสิฯ อโสฺสสิ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล – ‘‘ราชา กิร มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุโตฺต จตุรงฺคินิํ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา มมํ อพฺภุยฺยาโต เยน กาสี’’ติฯ อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล จตุรงฺคินิํ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ ปจฺจุยฺยาสิ เยน กาสิฯ อถ โข ราชา จ มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุโตฺต ราชา จ ปเสนทิ โกสโล สงฺคาเมสุํฯ ตสฺมิํ โข ปน สงฺคาเม ราชา ปเสนทิ โกสโล ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ ปราเชสิ, ชีวคฺคาหญฺจ นํ อคฺคเหสิฯ อถ โข รโญฺญ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กิญฺจาปิ โข มฺยายํ ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุโตฺต อทุพฺภนฺตสฺส ทุพฺภติ, อถ จ ปน เม ภาคิเนโยฺย โหติฯ ยํนูนาหํ รโญฺญ มาคธสฺส อชาตสตฺตุโน เวเทหิปุตฺตสฺส สพฺพํ หตฺถิกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ อสฺสกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ รถกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ ปตฺติกายํ ปริยาทิยิตฺวา ชีวนฺตเมว นํ โอสเชฺชยฺย’’นฺติ 2

    126.3 Atha kho rājā māgadho ajātasattu vedehiputto caturaṅginiṃ senaṃ sannayhitvā rājānaṃ pasenadiṃ kosalaṃ abbhuyyāsi yena kāsi. Assosi kho rājā pasenadi kosalo – ‘‘rājā kira māgadho ajātasattu vedehiputto caturaṅginiṃ senaṃ sannayhitvā mamaṃ abbhuyyāto yena kāsī’’ti. Atha kho rājā pasenadi kosalo caturaṅginiṃ senaṃ sannayhitvā rājānaṃ māgadhaṃ ajātasattuṃ vedehiputtaṃ paccuyyāsi yena kāsi. Atha kho rājā ca māgadho ajātasattu vedehiputto rājā ca pasenadi kosalo saṅgāmesuṃ. Tasmiṃ kho pana saṅgāme rājā pasenadi kosalo rājānaṃ māgadhaṃ ajātasattuṃ vedehiputtaṃ parājesi, jīvaggāhañca naṃ aggahesi. Atha kho rañño pasenadissa kosalassa etadahosi – ‘‘kiñcāpi kho myāyaṃ rājā māgadho ajātasattu vedehiputto adubbhantassa dubbhati, atha ca pana me bhāgineyyo hoti. Yaṃnūnāhaṃ rañño māgadhassa ajātasattuno vedehiputtassa sabbaṃ hatthikāyaṃ pariyādiyitvā sabbaṃ assakāyaṃ pariyādiyitvā sabbaṃ rathakāyaṃ pariyādiyitvā sabbaṃ pattikāyaṃ pariyādiyitvā jīvantameva naṃ osajjeyya’’nti 4.

    อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล รโญฺญ มาคธสฺส อชาตสตฺตุโน เวเทหิปุตฺตสฺส สพฺพํ หตฺถิกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ อสฺสกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ รถกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ ปตฺติกายํ ปริยาทิยิตฺวา ชีวนฺตเมว นํ โอสชฺชิ 5

    Atha kho rājā pasenadi kosalo rañño māgadhassa ajātasattuno vedehiputtassa sabbaṃ hatthikāyaṃ pariyādiyitvā sabbaṃ assakāyaṃ pariyādiyitvā sabbaṃ rathakāyaṃ pariyādiyitvā sabbaṃ pattikāyaṃ pariyādiyitvā jīvantameva naṃ osajji 6.

    อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถิํ ปิณฺฑาย ปวิสิํสุฯ สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฎิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –

    Atha kho sambahulā bhikkhū pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya sāvatthiṃ piṇḍāya pavisiṃsu. Sāvatthiyaṃ piṇḍāya caritvā pacchābhattaṃ piṇḍapātapaṭikkantā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinnā kho te bhikkhū bhagavantaṃ etadavocuṃ –

    ‘‘อิธ , ภเนฺต, ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุโตฺต จตุรงฺคินิํ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา ราชานํ ปเสนทิํ โกสลํ อพฺภุยฺยาสิ เยน กาสิฯ อโสฺสสิ โข, ภเนฺต, ราชา ปเสนทิ โกสโล – ‘ราชา กิร มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุโตฺต จตุรงฺคินิํ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา มมํ อพฺภุยฺยาโต เยน กาสี’ติฯ อถ โข, ภเนฺต, ราชา ปเสนทิ โกสโล จตุรงฺคินิํ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ ปจฺจุยฺยาสิ เยน กาสิฯ อถ โข, ภเนฺต, ราชา จ มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุโตฺต ราชา จ ปเสนทิ โกสโล สงฺคาเมสุํฯ ตสฺมิํ โข ปน, ภเนฺต, สงฺคาเม ราชา ปเสนทิ โกสโล ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ ปราเชสิ, ชีวคฺคาหญฺจ นํ อคฺคเหสิฯ อถ โข, ภเนฺต, รโญฺญ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส เอตทโหสิ – ‘กิญฺจาปิ โข มฺยายํ ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุโตฺต อทุพฺภนฺตสฺส ทุพฺภติ, อถ จ ปน เม ภาคิเนโยฺย โหติฯ ยํนูนาหํ รโญฺญ มาคธสฺส อชาตสตฺตุโน เวเทหิปุตฺตสฺส สพฺพํ หตฺถิกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ อสฺสกายํ สพฺพํ รถกายํ สพฺพํ ปตฺติกายํ ปริยาทิยิตฺวา ชีวนฺตเมว นํ โอสเชฺชยฺย’’’นฺติฯ

    ‘‘Idha , bhante, rājā māgadho ajātasattu vedehiputto caturaṅginiṃ senaṃ sannayhitvā rājānaṃ pasenadiṃ kosalaṃ abbhuyyāsi yena kāsi. Assosi kho, bhante, rājā pasenadi kosalo – ‘rājā kira māgadho ajātasattu vedehiputto caturaṅginiṃ senaṃ sannayhitvā mamaṃ abbhuyyāto yena kāsī’ti. Atha kho, bhante, rājā pasenadi kosalo caturaṅginiṃ senaṃ sannayhitvā rājānaṃ māgadhaṃ ajātasattuṃ vedehiputtaṃ paccuyyāsi yena kāsi. Atha kho, bhante, rājā ca māgadho ajātasattu vedehiputto rājā ca pasenadi kosalo saṅgāmesuṃ. Tasmiṃ kho pana, bhante, saṅgāme rājā pasenadi kosalo rājānaṃ māgadhaṃ ajātasattuṃ vedehiputtaṃ parājesi, jīvaggāhañca naṃ aggahesi. Atha kho, bhante, rañño pasenadissa kosalassa etadahosi – ‘kiñcāpi kho myāyaṃ rājā māgadho ajātasattu vedehiputto adubbhantassa dubbhati, atha ca pana me bhāgineyyo hoti. Yaṃnūnāhaṃ rañño māgadhassa ajātasattuno vedehiputtassa sabbaṃ hatthikāyaṃ pariyādiyitvā sabbaṃ assakāyaṃ sabbaṃ rathakāyaṃ sabbaṃ pattikāyaṃ pariyādiyitvā jīvantameva naṃ osajjeyya’’’nti.

    ‘‘อถ โข, ภเนฺต, ราชา ปเสนทิ โกสโล รโญฺญ มาคธสฺส อชาตสตฺตุโน เวเทหิปุตฺตสฺส สพฺพํ หตฺถิกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ อสฺสกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ รถกายํ ปริยาทิยิตฺวา สพฺพํ ปตฺติกายํ ปริยาทิยิตฺวา ชีวนฺตเมว นํ โอสชฺชี’’ติฯ อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมา คาถาโย อภาสิ –

    ‘‘Atha kho, bhante, rājā pasenadi kosalo rañño māgadhassa ajātasattuno vedehiputtassa sabbaṃ hatthikāyaṃ pariyādiyitvā sabbaṃ assakāyaṃ pariyādiyitvā sabbaṃ rathakāyaṃ pariyādiyitvā sabbaṃ pattikāyaṃ pariyādiyitvā jīvantameva naṃ osajjī’’ti. Atha kho bhagavā etamatthaṃ viditvā tāyaṃ velāyaṃ imā gāthāyo abhāsi –

    ‘‘วิลุมฺปเตว ปุริโส, ยาวสฺส อุปกปฺปติ;

    ‘‘Vilumpateva puriso, yāvassa upakappati;

    ยทา จเญฺญ วิลุมฺปนฺติ, โส วิลุโตฺต วิลุปฺปติ 7

    Yadā caññe vilumpanti, so vilutto viluppati 8.

    ‘‘ฐานญฺหิ มญฺญติ พาโล, ยาว ปาปํ น ปจฺจติ;

    ‘‘Ṭhānañhi maññati bālo, yāva pāpaṃ na paccati;

    ยทา จ ปจฺจติ ปาปํ, อถ ทุกฺขํ นิคจฺฉติฯ

    Yadā ca paccati pāpaṃ, atha dukkhaṃ nigacchati.

    ‘‘หนฺตา ลภติ 9 หนฺตารํ, เชตารํ ลภเต ชยํ;

    ‘‘Hantā labhati 10 hantāraṃ, jetāraṃ labhate jayaṃ;

    อโกฺกสโก จ อโกฺกสํ, โรเสตารญฺจ โรสโก;

    Akkosako ca akkosaṃ, rosetārañca rosako;

    อถ กมฺมวิวเฎฺฎน, โส วิลุโตฺต วิลุปฺปตี’’ติฯ

    Atha kammavivaṭṭena, so vilutto viluppatī’’ti.







    Footnotes:
    1. เอตฺถ ‘‘อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล จตุรงฺคินิํ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ อพฺภุยฺยาสี’’ติ อาทินา ปาเฐน ภวิตพฺพํฯ อฎฺฐกถายํ หิ ‘‘อพฺภุยฺยาสีติ ปราชเย ครหปฺปโตฺต…เป.… วุตฺตชยการณํ สุตฺวา อภิอุยฺยาสี’’ติ วุตฺตํ
    2. โอสฺสเชฺชยฺยนฺติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    3. ettha ‘‘atha kho rājā pasenadi kosalo caturaṅginiṃ senaṃ sannayhitvā rājānaṃ māgadhaṃ ajātasattuṃ vedehiputtaṃ abbhuyyāsī’’ti ādinā pāṭhena bhavitabbaṃ. aṭṭhakathāyaṃ hi ‘‘abbhuyyāsīti parājaye garahappatto…pe… vuttajayakāraṇaṃ sutvā abhiuyyāsī’’ti vuttaṃ
    4. ossajjeyyanti (sī. syā. kaṃ. pī.)
    5. โอสฺสชิ (สี.), โอสฺสชฺชิ (สฺยา. กํ. ปี.)
    6. ossaji (sī.), ossajji (syā. kaṃ. pī.)
    7. วิลุมฺปติ (สี. ปี. ก.)
    8. vilumpati (sī. pī. ka.)
    9. ลภติ หนฺตา (สี. สฺยา. กํ.)
    10. labhati hantā (sī. syā. kaṃ.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๕. ทุติยสงฺคามสุตฺตวณฺณนา • 5. Dutiyasaṅgāmasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๕. ทุติยสงฺคามสุตฺตวณฺณนา • 5. Dutiyasaṅgāmasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact