Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi |
๑๒. ทุติยสงฺฆเภทกวโคฺค
12. Dutiyasaṅghabhedakavaggo
๔๖๐. ‘‘กติหิ นุ โข, ภเนฺต, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปโฎฺฐ น อเตกิโจฺฉ’’ติ? ‘‘ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปโฎฺฐ น อเตกิโจฺฉฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธโมฺมติ ทีเปติ, ธมฺมํ อธโมฺมติ ทีเปติ , อวินยํ วินโยติ ทีเปติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปติ, อวินิธาย ทิฎฺฐิํ กเมฺมน – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปโฎฺฐ น อเตกิโจฺฉฯ
460. ‘‘Katihi nu kho, bhante, aṅgehi samannāgato saṅghabhedako na āpāyiko na nerayiko na kappaṭṭho na atekiccho’’ti? ‘‘Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato saṅghabhedako na āpāyiko na nerayiko na kappaṭṭho na atekiccho. Katamehi pañcahi? Idhupāli, bhikkhu adhammaṃ dhammoti dīpeti, dhammaṃ adhammoti dīpeti , avinayaṃ vinayoti dīpeti, vinayaṃ avinayoti dīpeti, avinidhāya diṭṭhiṃ kammena – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato saṅghabhedako na āpāyiko na nerayiko na kappaṭṭho na atekiccho.
‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปโฎฺฐ น อเตกิโจฺฉฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธโมฺมติ ทีเปติ, ธมฺมํ อธโมฺมติ ทีเปติ, อวินยํ วินโยติ ทีเปติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปติ, อวินิธาย ทิฎฺฐิํ อุเทฺทเสน – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปโฎฺฐ น อเตกิโจฺฉฯ
‘‘Aparehipi, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato saṅghabhedako na āpāyiko na nerayiko na kappaṭṭho na atekiccho. Katamehi pañcahi? Idhupāli, bhikkhu adhammaṃ dhammoti dīpeti, dhammaṃ adhammoti dīpeti, avinayaṃ vinayoti dīpeti, vinayaṃ avinayoti dīpeti, avinidhāya diṭṭhiṃ uddesena – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato saṅghabhedako na āpāyiko na nerayiko na kappaṭṭho na atekiccho.
‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปโฎฺฐ น อเตกิโจฺฉฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธโมฺมติ ทีเปติ, ธมฺมํ อธโมฺมติ ทีเปติ, อวินยํ วินโยติ ทีเปติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปติ, อวินิธาย ทิฎฺฐิํ โวหรโนฺตฯ อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปโฎฺฐ น อเตกิโจฺฉฯ
‘‘Aparehipi, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato saṅghabhedako na āpāyiko na nerayiko na kappaṭṭho na atekiccho. Katamehi pañcahi? Idhupāli, bhikkhu adhammaṃ dhammoti dīpeti, dhammaṃ adhammoti dīpeti, avinayaṃ vinayoti dīpeti, vinayaṃ avinayoti dīpeti, avinidhāya diṭṭhiṃ voharanto. Imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato saṅghabhedako na āpāyiko na nerayiko na kappaṭṭho na atekiccho.
‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปโฎฺฐ น อเตกิโจฺฉฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธโมฺมติ ทีเปติ, ธมฺมํ อธโมฺมติ ทีเปติ, อวินยํ วินโยติ ทีเปติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปติ, อวินิธาย ทิฎฺฐิํ อนุสฺสาวเนน – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปโฎฺฐ น อเตกิโจฺฉฯ
‘‘Aparehipi, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato saṅghabhedako na āpāyiko na nerayiko na kappaṭṭho na atekiccho. Katamehi pañcahi? Idhupāli, bhikkhu adhammaṃ dhammoti dīpeti, dhammaṃ adhammoti dīpeti, avinayaṃ vinayoti dīpeti, vinayaṃ avinayoti dīpeti, avinidhāya diṭṭhiṃ anussāvanena – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato saṅghabhedako na āpāyiko na nerayiko na kappaṭṭho na atekiccho.
‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปโฎฺฐ น อเตกิโจฺฉฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธโมฺมติ ทีเปติ, ธมฺมํ อธโมฺมติ ทีเปติ, อวินยํ วินโยติ ทีเปติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปติ, อวินิธาย ทิฎฺฐิํ สลากคฺคาเหน – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปโฎฺฐ น อเตกิโจฺฉฯ
‘‘Aparehipi, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato saṅghabhedako na āpāyiko na nerayiko na kappaṭṭho na atekiccho. Katamehi pañcahi? Idhupāli, bhikkhu adhammaṃ dhammoti dīpeti, dhammaṃ adhammoti dīpeti, avinayaṃ vinayoti dīpeti, vinayaṃ avinayoti dīpeti, avinidhāya diṭṭhiṃ salākaggāhena – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato saṅghabhedako na āpāyiko na nerayiko na kappaṭṭho na atekiccho.
‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปโฎฺฐ น อเตกิโจฺฉฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธโมฺมติ ทีเปติ, ธมฺมํ อธโมฺมติ ทีเปติ, อวินยํ วินโยติ ทีเปติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปติ, อวินิธาย ขนฺติํ กเมฺมน…เป.… อวินิธาย ขนฺติํ อุเทฺทเสน…เป.… อวินิธาย ขนฺติํ โวหรโนฺต…เป.… อวินิธาย ขนฺติํ อนุสฺสาวเนน…เป.… อวินิธาย ขนฺติํ สลากคฺคาเหน – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปโฎฺฐ น อเตกิโจฺฉฯ
‘‘Aparehipi, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato saṅghabhedako na āpāyiko na nerayiko na kappaṭṭho na atekiccho. Katamehi pañcahi? Idhupāli, bhikkhu adhammaṃ dhammoti dīpeti, dhammaṃ adhammoti dīpeti, avinayaṃ vinayoti dīpeti, vinayaṃ avinayoti dīpeti, avinidhāya khantiṃ kammena…pe… avinidhāya khantiṃ uddesena…pe… avinidhāya khantiṃ voharanto…pe… avinidhāya khantiṃ anussāvanena…pe… avinidhāya khantiṃ salākaggāhena – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato saṅghabhedako na āpāyiko na nerayiko na kappaṭṭho na atekiccho.
‘‘อปเรหิปิ , อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปโฎฺฐ น อเตกิโจฺฉฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธโมฺมติ ทีเปติ, ธมฺมํ อธโมฺมติ ทีเปติ, อวินยํ วินโยติ ทีเปติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปติ, อวินิธาย รุจิํ กเมฺมน…เป.… อวินิธาย รุจิํ อุเทฺทเสน…เป.… อวินิธาย รุจิํ โวหรโนฺต…เป.… อวินิธาย รุจิํ อนุสฺสาวเนน…เป.… อวินิธาย รุจิํ สลากคฺคาเหน – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปโฎฺฐ น อเตกิโจฺฉฯ
‘‘Aparehipi , upāli, pañcahaṅgehi samannāgato saṅghabhedako na āpāyiko na nerayiko na kappaṭṭho na atekiccho. Katamehi pañcahi? Idhupāli, bhikkhu adhammaṃ dhammoti dīpeti, dhammaṃ adhammoti dīpeti, avinayaṃ vinayoti dīpeti, vinayaṃ avinayoti dīpeti, avinidhāya ruciṃ kammena…pe… avinidhāya ruciṃ uddesena…pe… avinidhāya ruciṃ voharanto…pe… avinidhāya ruciṃ anussāvanena…pe… avinidhāya ruciṃ salākaggāhena – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato saṅghabhedako na āpāyiko na nerayiko na kappaṭṭho na atekiccho.
‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปโฎฺฐ น อเตกิโจฺฉฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธโมฺมติ ทีเปติ, ธมฺมํ อธโมฺมติ ทีเปติ, อวินยํ วินโยติ ทีเปติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปติ, อวินิธาย สญฺญํ กเมฺมน…เป.… อวินิธาย สญฺญํ อุเทฺทเสน…เป.… อวินิธาย สญฺญํ โวหรโนฺต…เป.… อวินิธาย สญฺญํ อนุสฺสาวเนน…เป.… อวินิธาย สญฺญํ สลากคฺคาเหน – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปโฎฺฐ น อเตกิโจฺฉ’’ติฯ
‘‘Aparehipi, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato saṅghabhedako na āpāyiko na nerayiko na kappaṭṭho na atekiccho. Katamehi pañcahi? Idhupāli, bhikkhu adhammaṃ dhammoti dīpeti, dhammaṃ adhammoti dīpeti, avinayaṃ vinayoti dīpeti, vinayaṃ avinayoti dīpeti, avinidhāya saññaṃ kammena…pe… avinidhāya saññaṃ uddesena…pe… avinidhāya saññaṃ voharanto…pe… avinidhāya saññaṃ anussāvanena…pe… avinidhāya saññaṃ salākaggāhena – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato saṅghabhedako na āpāyiko na nerayiko na kappaṭṭho na atekiccho’’ti.
ทุติยสงฺฆเภทกวโคฺค นิฎฺฐิโต ทฺวาทสโมฯ
Dutiyasaṅghabhedakavaggo niṭṭhito dvādasamo.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
อวินิธาย ทิฎฺฐิํ กเมฺมน, อุเทฺทเส โวหเรน จ;
Avinidhāya diṭṭhiṃ kammena, uddese voharena ca;
อนุสฺสาวเน สลาเกน, ปเญฺจเต ทิฎฺฐินิสฺสิตาฯ
Anussāvane salākena, pañcete diṭṭhinissitā.
ขนฺติํ รุจิญฺจ สญฺญญฺจ, ตโย เต ปญฺจธา นยาฯ
Khantiṃ ruciñca saññañca, tayo te pañcadhā nayā.
เหฎฺฐิเม กณฺหปกฺขมฺหิ, สมวีสติ วิธี ยถา;
Heṭṭhime kaṇhapakkhamhi, samavīsati vidhī yathā;
ตเถว สุกฺกปกฺขมฺหิ, สมวีสติ ชานถาติฯ
Tatheva sukkapakkhamhi, samavīsati jānathāti.