Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถา • Paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathā |
๓. ทุติยสุตฺตนฺตนิเทฺทสวณฺณนา
3. Dutiyasuttantaniddesavaṇṇanā
๑๔. สจฺจปฺปฎิเวธญาณโยชนกฺกเม จ อยํ รูปสฺส อสฺสาโทติ ปหานปฺปฎิเวโธติ ปุพฺพภาเค ‘‘อยํ ตณฺหาสมฺปยุโตฺต รูปสฺส อสฺสาโท’’ติ ญตฺวา มคฺคกฺขเณ สมุทยปฺปหานสงฺขาโต สมุทยสจฺจปฺปฎิเวโธฯ สมุทยสจฺจนฺติ สมุทยสจฺจปฺปฎิเวธญาณํฯ อริยสจฺจารมฺมณญาณมฺปิ หิ ‘‘เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สเพฺพ เต จตูสุ อริยสเจฺจสุ สงฺคหํ คจฺฉนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๐๐) วิย ‘‘สจฺจ’’นฺติ วุจฺจติฯ อยํ รูปสฺส อาทีนโวติ ปริญฺญาปฎิเวโธติ ปุพฺพภาเค ‘‘อยํ รูปสฺส อาทีนโว’’ติ ญตฺวา มคฺคกฺขเณ ทุกฺขปริญฺญาสงฺขาโต ทุกฺขสจฺจปฺปฎิเวโธฯ ทุกฺขสจฺจนฺติ ทุกฺขสจฺจปฺปฎิเวธญาณํฯ อิทํ รูปสฺส นิสฺสรณนฺติ สจฺฉิกิริยาปฎิเวโธติ ปุพฺพภาเค ‘‘อิทํ รูปสฺส นิสฺสรณ’’นฺติ ญตฺวา มคฺคกฺขเณ นิโรธสจฺฉิกิริยาสงฺขาโต นิโรธสจฺจปฺปฎิเวโธฯ นิโรธสจฺจนฺติ นิโรธสจฺจารมฺมณํ นิโรธสจฺจปฺปฎิเวธญาณํ ฯ ยา อิเมสุ ตีสุ ฐาเนสูติ อิเมสุ ยถาวุเตฺตสุ ตีสุ สมุทยทุกฺขนิโรเธสุ ปฎิเวธวเสน ปวตฺตา ยา ทิฎฺฐิ โย สงฺกโปฺปติ โยชนาฯ ภาวนาปฎิเวโธติ อยํ มคฺคภาวนาสงฺขาโต มคฺคสจฺจปฺปฎิเวโธฯ มคฺคสจฺจนฺติ มคฺคสจฺจปฺปฎิเวธญาณํฯ
14. Saccappaṭivedhañāṇayojanakkame ca ayaṃ rūpassa assādoti pahānappaṭivedhoti pubbabhāge ‘‘ayaṃ taṇhāsampayutto rūpassa assādo’’ti ñatvā maggakkhaṇe samudayappahānasaṅkhāto samudayasaccappaṭivedho. Samudayasaccanti samudayasaccappaṭivedhañāṇaṃ. Ariyasaccārammaṇañāṇampi hi ‘‘ye keci kusalā dhammā, sabbe te catūsu ariyasaccesu saṅgahaṃ gacchantī’’tiādīsu (ma. ni. 1.300) viya ‘‘sacca’’nti vuccati. Ayaṃ rūpassa ādīnavoti pariññāpaṭivedhoti pubbabhāge ‘‘ayaṃ rūpassa ādīnavo’’ti ñatvā maggakkhaṇe dukkhapariññāsaṅkhāto dukkhasaccappaṭivedho. Dukkhasaccanti dukkhasaccappaṭivedhañāṇaṃ. Idaṃ rūpassa nissaraṇanti sacchikiriyāpaṭivedhoti pubbabhāge ‘‘idaṃ rūpassa nissaraṇa’’nti ñatvā maggakkhaṇe nirodhasacchikiriyāsaṅkhāto nirodhasaccappaṭivedho. Nirodhasaccanti nirodhasaccārammaṇaṃ nirodhasaccappaṭivedhañāṇaṃ . Yā imesu tīsu ṭhānesūti imesu yathāvuttesu tīsu samudayadukkhanirodhesu paṭivedhavasena pavattā yā diṭṭhi yo saṅkappoti yojanā. Bhāvanāpaṭivedhoti ayaṃ maggabhāvanāsaṅkhāto maggasaccappaṭivedho. Maggasaccanti maggasaccappaṭivedhañāṇaṃ.
๑๕. ปุน อปเรน ปริยาเยน สจฺจานิ จ สจฺจปฺปฎิเวธญฺจ ทเสฺสโนฺต สจฺจนฺติ กติหากาเรหิ สจฺจนฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ ยสฺมา สเพฺพปิ สพฺพญฺญุโพธิสตฺตา โพธิปลฺลเงฺก นิสินฺนา ชรามรณาทิกสฺส ทุกฺขสจฺจสฺส ชาติอาทิกํ สมุทยสจฺจํ ‘‘กิํ นุ โข’’ติ เอสนฺติ, ตถา เอสนฺตา จ ชรามรณาทิกสฺส ทุกฺขสจฺจสฺส ชาติอาทิกํ สมุทยสจฺจํ ‘‘ปจฺจโย’’ติ ววตฺถเปโนฺต ปริคฺคณฺหนฺติ, ตสฺมา สา จ เอสนา โส จ ปริคฺคโห สจฺจานํ เอสนตฺตา ปริคฺคหตฺตา จ ‘‘สจฺจ’’นฺติ กตฺวา เอสนเฎฺฐน ปริคฺคหเฎฺฐนาติ วุตฺตํฯ อยญฺจ วิธิ ปเจฺจกพุทฺธานมฺปิ ปจฺจยปริคฺคเห ลพฺภติเยว, สาวกานํ ปน อนุสฺสววเสน ปจฺจยปริคฺคเห ลพฺภติฯ ปฎิเวธเฎฺฐนาติ ปุพฺพภาเค ตถา เอสิตานํ ปริคฺคหิตานญฺจ มคฺคกฺขเณ เอกปฎิเวธเฎฺฐนฯ
15. Puna aparena pariyāyena saccāni ca saccappaṭivedhañca dassento saccanti katihākārehi saccantiādimāha. Tattha yasmā sabbepi sabbaññubodhisattā bodhipallaṅke nisinnā jarāmaraṇādikassa dukkhasaccassa jātiādikaṃ samudayasaccaṃ ‘‘kiṃ nu kho’’ti esanti, tathā esantā ca jarāmaraṇādikassa dukkhasaccassa jātiādikaṃ samudayasaccaṃ ‘‘paccayo’’ti vavatthapento pariggaṇhanti, tasmā sā ca esanā so ca pariggaho saccānaṃ esanattā pariggahattā ca ‘‘sacca’’nti katvā esanaṭṭhena pariggahaṭṭhenāti vuttaṃ. Ayañca vidhi paccekabuddhānampi paccayapariggahe labbhatiyeva, sāvakānaṃ pana anussavavasena paccayapariggahe labbhati. Paṭivedhaṭṭhenāti pubbabhāge tathā esitānaṃ pariggahitānañca maggakkhaṇe ekapaṭivedhaṭṭhena.
กิํนิทานนฺติอาทีสุ นิทานาทีนิ สพฺพานิ การณเววจนานิฯ การณญฺหิ ยสฺมา ผลํ นิเทติ ‘‘หนฺท นํ คณฺหถา’’ติ อเปฺปติ วิย, ตสฺมา ‘‘นิทาน’’นฺติ วุจฺจติฯ ยสฺมา ผลํ ตโต สมุเทติ, ชายติ, ปภวติ; ตสฺมา สมุทโย, ชาติ, ปภโวติ วุจฺจติฯ อยํ ปเนตฺถ อโตฺถ – กิํ นิทานํ เอตสฺสาติ กิํนิทานํฯ โก สมุทโย เอตสฺสาติ กิํสมุทยํฯ กา ชาติ เอตสฺสาติ กิํชาติกํฯ โก ปภโว เอตสฺสาติ กิํปภวํฯ ยสฺมา ปน ตสฺส ชาติ ยถาวุเตฺตน อเตฺถน นิทานเญฺจว สมุทโย จ ชาติ จ ปภโว จ, ตสฺมา ชาตินิทานนฺติอาทิมาหฯ ชรามรณนฺติ ทุกฺขสจฺจํฯ ชรามรณสมุทยนฺติ ตสฺส ปจฺจยํ สมุทยสจฺจํฯ ชรามรณนิโรธนฺติ นิโรธสจฺจํฯ ชรามรณนิโรธคามินิํ ปฎิปทนฺติ มคฺคสจฺจํฯ อิมินาว นเยน สพฺพปเทสุ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ
Kiṃnidānantiādīsu nidānādīni sabbāni kāraṇavevacanāni. Kāraṇañhi yasmā phalaṃ nideti ‘‘handa naṃ gaṇhathā’’ti appeti viya, tasmā ‘‘nidāna’’nti vuccati. Yasmā phalaṃ tato samudeti, jāyati, pabhavati; tasmā samudayo, jāti, pabhavoti vuccati. Ayaṃ panettha attho – kiṃ nidānaṃ etassāti kiṃnidānaṃ. Ko samudayo etassāti kiṃsamudayaṃ. Kā jāti etassāti kiṃjātikaṃ. Ko pabhavo etassāti kiṃpabhavaṃ. Yasmā pana tassa jāti yathāvuttena atthena nidānañceva samudayo ca jāti ca pabhavo ca, tasmā jātinidānantiādimāha. Jarāmaraṇanti dukkhasaccaṃ. Jarāmaraṇasamudayanti tassa paccayaṃ samudayasaccaṃ. Jarāmaraṇanirodhanti nirodhasaccaṃ. Jarāmaraṇanirodhagāminiṃ paṭipadanti maggasaccaṃ. Imināva nayena sabbapadesu attho veditabbo.
๑๖. นิโรธปฺปชานนาติ อารมฺมณกรเณน นิโรธสฺส ปชานนาฯ ชาติ สิยา ทุกฺขสจฺจํ, สิยา สมุทยสจฺจนฺติ ภวปจฺจยา ปญฺญายนเฎฺฐน ทุกฺขสจฺจํ , ชรามรณสฺส ปจฺจยเฎฺฐน สมุทยสจฺจํฯ เอส นโย เสเสสุปิฯ อวิชฺชา สิยา ทุกฺขสจฺจนฺติ ปน อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทยเฎฺฐนาติฯ
16.Nirodhappajānanāti ārammaṇakaraṇena nirodhassa pajānanā. Jāti siyā dukkhasaccaṃ, siyā samudayasaccanti bhavapaccayā paññāyanaṭṭhena dukkhasaccaṃ , jarāmaraṇassa paccayaṭṭhena samudayasaccaṃ. Esa nayo sesesupi. Avijjā siyā dukkhasaccanti pana āsavasamudayā avijjāsamudayaṭṭhenāti.
สจฺจกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Saccakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ปฎิสมฺภิทามคฺคปาฬิ • Paṭisambhidāmaggapāḷi / ๓. ทุติยสุตฺตนฺตนิเทฺทโส • 3. Dutiyasuttantaniddeso