Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga |
๙. ทุติยอุปกฺขฎสิกฺขาปทํ
9. Dutiyaupakkhaṭasikkhāpadaṃ
๕๓๒. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ปุริโส อญฺญตรํ ปุริสํ เอตทโวจ – ‘‘อยฺยํ อุปนนฺทํ จีวเรน อจฺฉาเทสฺสามี’’ติฯ โสปิ เอวมาห – ‘‘อหมฺปิ อยฺยํ อุปนนฺทํ จีวเรน อจฺฉาเทสฺสามี’’ติฯ อโสฺสสิ โข อญฺญตโร ปิณฺฑจาริโก ภิกฺขุ เตสํ ปุริสานํ อิมํ กถาสลฺลาปํฯ อถ โข โส ภิกฺขุ เยนายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อุปนนฺทํ สกฺยปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มหาปุโญฺญสิ ตฺวํ, อาวุโส อุปนนฺทฯ อมุกสฺมิํ โอกาเส อญฺญตโร ปุริโส อญฺญตรํ ปุริสํ เอตทโวจ – ‘อยฺยํ อุปนนฺทํ จีวเรน อจฺฉาเทสฺสามี’ติฯ โสปิ เอวมาห – ‘อหมฺปิ อยฺยํ อุปนนฺทํ จีวเรน อจฺฉาเทสฺสามี’’’ติฯ ‘‘อตฺถาวุโส, มํ เต อุปฎฺฐากา’’ติฯ
532. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena aññataro puriso aññataraṃ purisaṃ etadavoca – ‘‘ayyaṃ upanandaṃ cīvarena acchādessāmī’’ti. Sopi evamāha – ‘‘ahampi ayyaṃ upanandaṃ cīvarena acchādessāmī’’ti. Assosi kho aññataro piṇḍacāriko bhikkhu tesaṃ purisānaṃ imaṃ kathāsallāpaṃ. Atha kho so bhikkhu yenāyasmā upanando sakyaputto tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ upanandaṃ sakyaputtaṃ etadavoca – ‘‘mahāpuññosi tvaṃ, āvuso upananda. Amukasmiṃ okāse aññataro puriso aññataraṃ purisaṃ etadavoca – ‘ayyaṃ upanandaṃ cīvarena acchādessāmī’ti. Sopi evamāha – ‘ahampi ayyaṃ upanandaṃ cīvarena acchādessāmī’’’ti. ‘‘Atthāvuso, maṃ te upaṭṭhākā’’ti.
อถ โข อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต เยน เต ปุริสา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ปุริเส เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร มํ ตุเมฺห, อาวุโส, จีวเรหิ อจฺฉาเทตุกามาตฺถา’’ติ? ‘‘อปิ นยฺย, เอวํ โหติ – ‘อยฺยํ อุปนนฺทํ จีวเรหิ อจฺฉาเทสฺสามา’’’ติฯ ‘‘สเจ โข มํ ตุเมฺห , อาวุโส, จีวเรหิ อจฺฉาเทตุกามาตฺถ, เอวรูเปน จีวเรน อจฺฉาเทถ, กฺยาหํ เตหิ อจฺฉโนฺนปิ กริสฺสามิ, ยานาหํ น ปริภุญฺชิสฺสามี’’ติ ฯ อถ โข เต ปุริสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘มหิจฺฉา อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา อสนฺตุฎฺฐาฯ นยิเม สุกรา จีวเรหิ อจฺฉาเทตุํฯ กถญฺหิ นาม อโยฺย อุปนโนฺท อเมฺหหิ ปุเพฺพ อปฺปวาริโต อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชิสฺสตี’’ติ!
Atha kho āyasmā upanando sakyaputto yena te purisā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā te purise etadavoca – ‘‘saccaṃ kira maṃ tumhe, āvuso, cīvarehi acchādetukāmātthā’’ti? ‘‘Api nayya, evaṃ hoti – ‘ayyaṃ upanandaṃ cīvarehi acchādessāmā’’’ti. ‘‘Sace kho maṃ tumhe , āvuso, cīvarehi acchādetukāmāttha, evarūpena cīvarena acchādetha, kyāhaṃ tehi acchannopi karissāmi, yānāhaṃ na paribhuñjissāmī’’ti . Atha kho te purisā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘mahicchā ime samaṇā sakyaputtiyā asantuṭṭhā. Nayime sukarā cīvarehi acchādetuṃ. Kathañhi nāma ayyo upanando amhehi pubbe appavārito upasaṅkamitvā cīvare vikappaṃ āpajjissatī’’ti!
อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ ปุริสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต ปุเพฺพ อปฺปวาริโต คหปติเก อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชิสฺสตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ อุปนนฺทํ สกฺยปุตฺตํ อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, อุปนนฺท, ปุเพฺพ อปฺปวาริโต คหปติเก อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชสี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ ‘‘ญาตกา เต, อุปนนฺท, อญฺญาตกา’’ติ? ‘‘อญฺญาตกา, ภควา’’ติฯ ‘‘อญฺญาตโก, โมฆปุริส, อญฺญาตกานํ น ชานาติ ปติรูปํ วา อปฺปติรูปํ วา สนฺตํ วา อสนฺตํ วาฯ ตตฺถ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, ปุเพฺพ อปฺปวาริโต อญฺญาตเก คหปติเก อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชิสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ purisānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā upanando sakyaputto pubbe appavārito gahapatike upasaṅkamitvā cīvare vikappaṃ āpajjissatī’’ti! Atha kho te bhikkhū āyasmantaṃ upanandaṃ sakyaputtaṃ anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, upananda, pubbe appavārito gahapatike upasaṅkamitvā cīvare vikappaṃ āpajjasī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. ‘‘Ñātakā te, upananda, aññātakā’’ti? ‘‘Aññātakā, bhagavā’’ti. ‘‘Aññātako, moghapurisa, aññātakānaṃ na jānāti patirūpaṃ vā appatirūpaṃ vā santaṃ vā asantaṃ vā. Tattha nāma tvaṃ, moghapurisa, pubbe appavārito aññātake gahapatike upasaṅkamitvā cīvare vikappaṃ āpajjissasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๕๓๓. ‘‘ภิกฺขุํ ปเนว อุทฺทิสฺส อุภินฺนํ อญฺญาตกานํ คหปตีนํ วา คหปตานีนํ วา ปเจฺจกจีวรเจตาปนฺนานิ อุปกฺขฎานิ โหนฺติ – ‘อิเมหิ มยํ ปเจฺจกจีวรเจตาปเนฺนหิ ปเจฺจกจีวรานิ เจตาเปตฺวา อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวเรหิ อจฺฉาเทสฺสามา’ติ ; ตตฺร เจ โส ภิกฺขุ ปุเพฺพ อปฺปวาริโต อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปํ อาปเชฺชยฺย – ‘สาธุ วต มํ อายสฺมโนฺต อิเมหิ ปเจฺจกจีวรเจตาปเนฺนหิ เอวรูปํ วา เอวรูปํ วา จีวรํ เจตาเปตฺวา อจฺฉาเทถ, อุโภว สนฺตา เอเกนา’ติ, กลฺยาณกมฺยตํ อุปาทาย, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
533.‘‘Bhikkhuṃ paneva uddissa ubhinnaṃ aññātakānaṃ gahapatīnaṃ vā gahapatānīnaṃ vā paccekacīvaracetāpannāni upakkhaṭāni honti – ‘imehi mayaṃ paccekacīvaracetāpannehi paccekacīvarāni cetāpetvā itthannāmaṃ bhikkhuṃ cīvarehi acchādessāmā’ti ; tatra ce so bhikkhu pubbe appavārito upasaṅkamitvā cīvare vikappaṃ āpajjeyya – ‘sādhu vata maṃ āyasmanto imehi paccekacīvaracetāpannehi evarūpaṃ vā evarūpaṃ vā cīvaraṃ cetāpetvā acchādetha, ubhova santā ekenā’ti, kalyāṇakamyataṃ upādāya, nissaggiyaṃ pācittiya’’nti.
๕๓๔. ภิกฺขุํ ปเนว อุทฺทิสฺสาติ ภิกฺขุสฺสตฺถาย, ภิกฺขุํ อารมฺมณํ กริตฺวา, ภิกฺขุํ อจฺฉาเทตุกามาฯ
534.Bhikkhuṃpaneva uddissāti bhikkhussatthāya, bhikkhuṃ ārammaṇaṃ karitvā, bhikkhuṃ acchādetukāmā.
อุภินฺนนฺติ ทฺวินฺนํฯ
Ubhinnanti dvinnaṃ.
อญฺญาตกา นาม มาติโต วา ปิติโต วา ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อสมฺพทฺธาฯ
Aññātakā nāma mātito vā pitito vā yāva sattamā pitāmahayugā asambaddhā.
คหปตี นาม เย เกจิ อคาร อชฺฌาวสนฺติฯ
Gahapatī nāma ye keci agāra ajjhāvasanti.
คหปตานิโย นาม ยา กาจิ อคารํ อชฺฌาวสนฺติฯ
Gahapatāniyo nāma yā kāci agāraṃ ajjhāvasanti.
จีวรเจตาปนฺนานิ นาม หิรญฺญา วา สุวณฺณา วา มุตฺตา วา มณี วา ปวาฬา วา ผลิกา วา ปฎกา วา สุตฺตา วา กปฺปาสา วาฯ
Cīvaracetāpannāni nāma hiraññā vā suvaṇṇā vā muttā vā maṇī vā pavāḷā vā phalikā vā paṭakā vā suttā vā kappāsā vā.
อิเมหิ ปเจฺจกจีวรเจตาปเนฺนหิติ ปจฺจุปฎฺฐิเตหิฯ
Imehi paccekacīvaracetāpannehiti paccupaṭṭhitehi.
เจตาเปตฺวาติ ปริวเตฺตตฺวาฯ
Cetāpetvāti parivattetvā.
อจฺฉาเทสฺสามาติ ทสฺสามฯ
Acchādessāmāti dassāma.
ตตฺร เจ โส ภิกฺขูติ ยํ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส จีวรเจตาปนฺนานิ อุปกฺขฎานิ โหนฺติ โส ภิกฺขุฯ
Tatra ce so bhikkhūti yaṃ bhikkhuṃ uddissa cīvaracetāpannāni upakkhaṭāni honti so bhikkhu.
ปุเพฺพ อปฺปวาริโตติ ปุเพฺพ อวุโตฺต โหติ – ‘‘กีทิเสน เต, ภเนฺต, จีวเรน อโตฺถ, กีทิสํ เต จีวรํ เจตาเปมา’’ติฯ
Pubbe appavāritoti pubbe avutto hoti – ‘‘kīdisena te, bhante, cīvarena attho, kīdisaṃ te cīvaraṃ cetāpemā’’ti.
อุปสงฺกมิตฺวาติ ฆรํ คนฺตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ อุปสงฺกมิตฺวาฯ
Upasaṅkamitvāti gharaṃ gantvā yattha katthaci upasaṅkamitvā.
จีวเร วิกปฺปํ อาปเชฺชยฺยาติ อายตํ วา โหตุ วิตฺถตํ วา อปฺปิตํ วา สณฺหํ วาฯ
Cīvare vikappaṃ āpajjeyyāti āyataṃ vā hotu vitthataṃ vā appitaṃ vā saṇhaṃ vā.
อิเมหิ ปเจฺจกจีวรเจตาปเนฺนหีติ ปจฺจุปฎฺฐิเตหิฯ
Imehi paccekacīvaracetāpannehīti paccupaṭṭhitehi.
เอวรูปํ วา เอวรูปํ วาติ อายตํ วา วิตฺถตํ วา อปฺปิตํ วา สณฺหํ วาฯ
Evarūpaṃ vā evarūpaṃ vāti āyataṃ vā vitthataṃ vā appitaṃ vā saṇhaṃ vā.
เจตาเปตฺวาติ ปริวเตฺตตฺวาฯ
Cetāpetvāti parivattetvā.
อจฺฉาเทถาติ ทเชฺชถฯ
Acchādethāti dajjetha.
อุโภว สนฺตา เอเกนาติ เทฺวปิ ชนา เอเกนฯ
Ubhova santā ekenāti dvepi janā ekena.
กลฺยาณกมฺยตํ อุปาทายาติ สาธตฺถิโก มหคฺฆตฺถิโกฯ
Kalyāṇakamyataṃ upādāyāti sādhatthiko mahagghatthiko.
ตสฺส วจเนน อายตํ วา วิตฺถตํ วา อปฺปิตํ วา สณฺหํ วา เจตาเปนฺติ, ปโยเค ทุกฺกฎํฯ ปฎิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหติฯ นิสฺสชฺชิตพฺพํ สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วาฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, นิสฺสชฺชิตพฺพํ…เป.… อิทํ เม, ภเนฺต, จีวรํ ปุเพฺพ อปฺปวาริโต อญฺญาตเก คหปติเก อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปํ อาปนฺนํ นิสฺสคฺคิยํฯ อิมาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามีติ…เป.… ทเทยฺยาติ…เป.… ทเทยฺยุนฺติ…เป.… อายสฺมโต ทมฺมีติฯ
Tassa vacanena āyataṃ vā vitthataṃ vā appitaṃ vā saṇhaṃ vā cetāpenti, payoge dukkaṭaṃ. Paṭilābhena nissaggiyaṃ hoti. Nissajjitabbaṃ saṅghassa vā gaṇassa vā puggalassa vā. Evañca pana, bhikkhave, nissajjitabbaṃ…pe… idaṃ me, bhante, cīvaraṃ pubbe appavārito aññātake gahapatike upasaṅkamitvā cīvare vikappaṃ āpannaṃ nissaggiyaṃ. Imāhaṃ saṅghassa nissajjāmīti…pe… dadeyyāti…pe… dadeyyunti…pe… āyasmato dammīti.
๕๓๕. อญฺญาตเก อญฺญาตกสญฺญี ปุเพฺพ อปฺปวาริโต คหปติเก อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ อญฺญาตเก เวมติโก ปุเพฺพ อปฺปวาริโต คหปติเก อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ อญฺญาตเก ญาตกสญฺญี ปุเพฺพ อปฺปวาริโต คหปติเก อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ
535. Aññātake aññātakasaññī pubbe appavārito gahapatike upasaṅkamitvā cīvare vikappaṃ āpajjati, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Aññātake vematiko pubbe appavārito gahapatike upasaṅkamitvā cīvare vikappaṃ āpajjati, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Aññātake ñātakasaññī pubbe appavārito gahapatike upasaṅkamitvā cīvare vikappaṃ āpajjati, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ.
ญาตเก อญฺญาตกสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ญาตเก เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ญาตเก ญาตกสญฺญี, อนาปตฺติฯ
Ñātake aññātakasaññī, āpatti dukkaṭassa. Ñātake vematiko, āpatti dukkaṭassa. Ñātake ñātakasaññī, anāpatti.
๕๓๖. อนาปตฺติ – ญาตกานํ, ปวาริตานํ, อญฺญสฺสตฺถาย, อตฺตโน ธเนน, มหคฺฆํ เจตาเปตุกามานํ อปฺปคฺฆํ เจตาเปติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
536. Anāpatti – ñātakānaṃ, pavāritānaṃ, aññassatthāya, attano dhanena, mahagghaṃ cetāpetukāmānaṃ appagghaṃ cetāpeti, ummattakassa, ādikammikassāti.
ทุติยอุปกฺขฎสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ นวมํฯ
Dutiyaupakkhaṭasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ navamaṃ.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๙. ทุติยอุปกฺขฎสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Dutiyaupakkhaṭasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๘. ปฐมอุปกฺขฎสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Paṭhamaupakkhaṭasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๙. ทุติยอุปกฺขฎสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Dutiyaupakkhaṭasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๙. ทุติยอุปกฺขฎสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Dutiyaupakkhaṭasikkhāpadavaṇṇanā