Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-ปุราณ-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-purāṇa-ṭīkā |
๙. ทุติยอุปกฺขฎสิกฺขาปทวณฺณนา
9. Dutiyaupakkhaṭasikkhāpadavaṇṇanā
ทุติยอุปกฺขเฎน กิํ ปโยชนนฺติ เจ? นตฺถิ ปโยชนํ, เกวลํ อฎฺฐุปฺปตฺติวเสน ปน ปญฺญตฺตํ ภิกฺขุนิยา รโหนิสชฺชสิกฺขาปทํ วิยฯ เอวํ สเนฺต สงฺคีติการเกหิ สงฺคีติํ อนาโรเปตพฺพํ ภเวยฺย วินาปิ เตน ตทตฺถสิทฺธิโต, อนิสฺสรตฺตา, อนาโรเปตุํ อนุญฺญาตตฺตา จฯ วุตฺตเญฺหตํ ‘‘อากงฺขมาโน, อานนฺท, สโงฺฆ…เป.… สมูหเนยฺยา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๖; จูฬว. ๔๔๑)ฯ อิทํ สพฺพมการณํฯ น หิ พุทฺธา อปฺปโยชนํ วจนํ นิจฺฉาเรนฺติ, ปเคว สิกฺขาปทํฯ เตเนวาห อฎฺฐกถายํ ‘‘อิมินาว นเยน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ อิทญฺหิ ปุริมสฺส อนุปญฺญตฺติสทิส’’นฺติอาทิฯ อนุปญฺญตฺติ จ นิปฺปโยชนํ นตฺถิฯ ตํสทิสเญฺจตํ, น นิปฺปโยชนนฺติ ทสฺสิตํ โหติฯ เอวํ สเนฺต โก ปเนตฺถ อตฺถวิเสโสติ? ตโต อาห ‘‘เกวลํ ตตฺถ เอกสฺส ปีฬา กตา, อิธ ทฺวินฺนํ, อยเมตฺถ วิเสโส’’ติฯ อิมินา อตฺถวิเสเสน โก ปนโญฺญ อติเรกโตฺถ ทสฺสิโตติ? โปราณคณฺฐิปเท ตาว วุตฺตํ ‘‘เอกสฺมิมฺปิ วตฺถุสฺมิํ อุภินฺนมฺปิ ปีฬา กาตุํ น วฎฺฎตีติ อยมติเรกโตฺถ ทสฺสิโต’’ติฯ เตเนตํ ทีเปติ ‘‘น เกวลํ ปฎิลทฺธจีวรคณนาย เอว อาปตฺติคณนา, ปีฬิตปุคฺคลสงฺขาตวตฺถุคณนายปี’’ติฯ
Dutiyaupakkhaṭena kiṃ payojananti ce? Natthi payojanaṃ, kevalaṃ aṭṭhuppattivasena pana paññattaṃ bhikkhuniyā rahonisajjasikkhāpadaṃ viya. Evaṃ sante saṅgītikārakehi saṅgītiṃ anāropetabbaṃ bhaveyya vināpi tena tadatthasiddhito, anissarattā, anāropetuṃ anuññātattā ca. Vuttañhetaṃ ‘‘ākaṅkhamāno, ānanda, saṅgho…pe… samūhaneyyā’’ti (dī. ni. 2.216; cūḷava. 441). Idaṃ sabbamakāraṇaṃ. Na hi buddhā appayojanaṃ vacanaṃ nicchārenti, pageva sikkhāpadaṃ. Tenevāha aṭṭhakathāyaṃ ‘‘imināva nayena attho veditabbo. Idañhi purimassa anupaññattisadisa’’ntiādi. Anupaññatti ca nippayojanaṃ natthi. Taṃsadisañcetaṃ, na nippayojananti dassitaṃ hoti. Evaṃ sante ko panettha atthavisesoti? Tato āha ‘‘kevalaṃ tattha ekassa pīḷā katā, idha dvinnaṃ, ayamettha viseso’’ti. Iminā atthavisesena ko panañño atirekattho dassitoti? Porāṇagaṇṭhipade tāva vuttaṃ ‘‘ekasmimpi vatthusmiṃ ubhinnampi pīḷā kātuṃ na vaṭṭatīti ayamatirekattho dassito’’ti. Tenetaṃ dīpeti ‘‘na kevalaṃ paṭiladdhacīvaragaṇanāya eva āpattigaṇanā, pīḷitapuggalasaṅkhātavatthugaṇanāyapī’’ti.
โหนฺติ เจตฺถ –
Honti cettha –
‘‘วตฺถุโต คณนายปิ, สิยา อาปตฺติ เนกตา;
‘‘Vatthuto gaṇanāyapi, siyā āpatti nekatā;
อิติ สนฺทสฺสนตฺถญฺจ, ทุติยูปกฺขฎํ อิธฯ
Iti sandassanatthañca, dutiyūpakkhaṭaṃ idha.
‘‘กายสํสคฺคสิกฺขาย, วิภเงฺค วิย กิเนฺตตํ;
‘‘Kāyasaṃsaggasikkhāya, vibhaṅge viya kintetaṃ;
เอกิตฺถิยาปิ เนกตา, อาปตฺตีนํ ปโยคโต’’ติฯ (วชิร. ฎี. ปาราชิก ๕๓๒);
Ekitthiyāpi nekatā, āpattīnaṃ payogato’’ti. (vajira. ṭī. pārājika 532);
อปิเจตํ สิกฺขาปทํ ตํชาติเกสุ สิกฺขาปเทสุ สเพฺพสุปิ คเหตพฺพวินิจฺฉยสฺส ทสฺสนปฺปโยชนนฺติ เวทิตพฺพํฯ อาห จ –
Apicetaṃ sikkhāpadaṃ taṃjātikesu sikkhāpadesu sabbesupi gahetabbavinicchayassa dassanappayojananti veditabbaṃ. Āha ca –
‘‘อญฺญาติกาย พหุตาย วิมิสฺสตาย;
‘‘Aññātikāya bahutāya vimissatāya;
อาปตฺติยาปิ พหุตา จ วิมิสฺสตา จ;
Āpattiyāpi bahutā ca vimissatā ca;
อิเจฺจวมาทิวิธิสมฺภวทสฺสนตฺถํ ;
Iccevamādividhisambhavadassanatthaṃ ;
สตฺถา อุปกฺขฎมิทํ ทุติยํ อโวจา’’ติฯ (วชิร. ฎี. ปาราชิก ๕๓๒);
Satthā upakkhaṭamidaṃ dutiyaṃ avocā’’ti. (vajira. ṭī. pārājika 532);
ตสฺสายํ สเงฺขปโต อธิปฺปายปุพฺพงฺคมา วิจารณา – ปุราณจีวรํ เอกเมว ภิกฺขุ ภิกฺขุนีหิ ทฺวีหิ, พหูหิ วา โธวาเปติ, ภิกฺขุนิคณนาย ปาจิตฺติยคณนาฯ ตถา ทฺวินฺนํ, พหูนํ วา สาธารณํ เอกเมว จีวรํ อญฺญตฺร ปาริวตฺตกา ปฎิคฺคณฺหาติ, อิธาปิ ตถา ทฺวินฺนํ, พหูนํ วา สาธารณเมกํ วิญฺญาเปติ, วิญฺญตฺตปุคฺคลคณนาย อาปตฺติคณนาฯ ตถา อเญฺญสุปิ เอวรูเปสุ สิกฺขาปเทสุ นโย เนตโพฺพฯ อยํ ตาว พหุตาย นโยฯ
Tassāyaṃ saṅkhepato adhippāyapubbaṅgamā vicāraṇā – purāṇacīvaraṃ ekameva bhikkhu bhikkhunīhi dvīhi, bahūhi vā dhovāpeti, bhikkhunigaṇanāya pācittiyagaṇanā. Tathā dvinnaṃ, bahūnaṃ vā sādhāraṇaṃ ekameva cīvaraṃ aññatra pārivattakā paṭiggaṇhāti, idhāpi tathā dvinnaṃ, bahūnaṃ vā sādhāraṇamekaṃ viññāpeti, viññattapuggalagaṇanāya āpattigaṇanā. Tathā aññesupi evarūpesu sikkhāpadesu nayo netabbo. Ayaṃ tāva bahutāya nayo.
วิมิสฺสตาย ปน ญาติกาย, อญฺญาติกาย จ เอกํ โธวาเปติ, เอกโต นิฎฺฐาปเน เอกํ ปาจิตฺติยํฯ อถ ญาติกา ปฐมํ โถกํ โธวิตฺวา ฐิตา, ปุน อญฺญาติกา สุโธตํ กโรติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ อถ อญฺญาติกา ปฐมํ โธวติ, ปจฺฉา ญาติกา สุโธตํ กโรติ, อญฺญาติกาย ปโยควเสน ภิกฺขุโน ทุกฺกฎเมวฯ อญฺญาติกาย, ญาติกาย จ อญฺญาติกสญฺญี, เวมติโก, ญาติกสญฺญี วา โธวาเปติ, ยถาวุตฺตนเยน นิสฺสคฺคิยทุกฺกฎาทิอาปตฺติเภทคณนา เวทิตพฺพาฯ ตถา อญฺญาติกาย, ญาติกาย จ สนฺตกํ จีวรํ อุโภหิ เอกโต ทิยฺยมานํ ปฎิคฺคณฺหาติ, นิสฺสคฺคิยเมวฯ อถ อญฺญาติกาย เอว หตฺถโต ปฎิคฺคณฺหาติ, นิสฺสคฺคิยเมวฯ อถ ญาติกาย หตฺถโต ปฎิคฺคณฺหาติ, อนาปตฺติฯ อถ อุโภสุ อญฺญาติกาทิสญฺญี, วุตฺตนเยเนว นิสฺสคฺคิยทุกฺกฎาทิอาปตฺติเภทคณนา เวทิตพฺพาฯ ตถา อญฺญาติกวิญฺญตฺติอาทีสุปิ ยถาสมฺภวํ นโย เนตโพฺพฯ อยํ วิมิสฺสตาย นโยฯ
Vimissatāya pana ñātikāya, aññātikāya ca ekaṃ dhovāpeti, ekato niṭṭhāpane ekaṃ pācittiyaṃ. Atha ñātikā paṭhamaṃ thokaṃ dhovitvā ṭhitā, puna aññātikā sudhotaṃ karoti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Atha aññātikā paṭhamaṃ dhovati, pacchā ñātikā sudhotaṃ karoti, aññātikāya payogavasena bhikkhuno dukkaṭameva. Aññātikāya, ñātikāya ca aññātikasaññī, vematiko, ñātikasaññī vā dhovāpeti, yathāvuttanayena nissaggiyadukkaṭādiāpattibhedagaṇanā veditabbā. Tathā aññātikāya, ñātikāya ca santakaṃ cīvaraṃ ubhohi ekato diyyamānaṃ paṭiggaṇhāti, nissaggiyameva. Atha aññātikāya eva hatthato paṭiggaṇhāti, nissaggiyameva. Atha ñātikāya hatthato paṭiggaṇhāti, anāpatti. Atha ubhosu aññātikādisaññī, vuttanayeneva nissaggiyadukkaṭādiāpattibhedagaṇanā veditabbā. Tathā aññātikaviññattiādīsupi yathāsambhavaṃ nayo netabbo. Ayaṃ vimissatāya nayo.
อาทิสเทฺทน ปน อเนเก อญฺญาติกา วิญฺญตฺตา, วิญฺญตฺตปุคฺคลคณนาย ทุกฺกฎํฯ เอโก เทติ, เอโก น เทติ, นิสฺสคฺคิยํฯ อถ อวิญฺญโตฺต เทติ, น นิสคฺคิยํฯ อถ วิญฺญตฺตาวิญฺญตฺตานํ สาธารณํ วิญฺญโตฺต เทติ, นิสฺสคฺคิยํฯ อุโภ เทนฺติ, นิสฺสคฺคิยเมวฯ อวิญฺญโตฺต เทติ, นิสฺสคฺคิเยน อนาปตฺติฯ วิญฺญตฺตสฺส วจเนน อวิญฺญโตฺต เทติ, อนาปตฺติ เอวฯ ตถา อุปกฺขฎาทีสุปิ ยถาสมฺภวํ นโย เนตโพฺพฯ
Ādisaddena pana aneke aññātikā viññattā, viññattapuggalagaṇanāya dukkaṭaṃ. Eko deti, eko na deti, nissaggiyaṃ. Atha aviññatto deti, na nisaggiyaṃ. Atha viññattāviññattānaṃ sādhāraṇaṃ viññatto deti, nissaggiyaṃ. Ubho denti, nissaggiyameva. Aviññatto deti, nissaggiyena anāpatti. Viññattassa vacanena aviññatto deti, anāpatti eva. Tathā upakkhaṭādīsupi yathāsambhavaṃ nayo netabbo.
เอตฺตาวตา สเงฺขปโต อญฺญาติกายาทิคาถา วุตฺตาธิปฺปายา โหติฯ ยํ ปเนตฺถ ภิกฺขุนิยา รโหนิสชฺชสิกฺขาปทํ นิปฺปโยชนตาย นิทสฺสนํ วุตฺตํ, ตสฺส ปโยชนวิเสโส ตสฺมิํเยว อาวิภวิสฺสตีติ ฯ เอวเมว อญฺญตฺถปิ วจเนน, วิเสสอฎฺฐุปฺปตฺติวเสน จ สิกฺขาปเทสุ ญาตพฺพํ วิเสสปฺปโยชนนฺติฯ
Ettāvatā saṅkhepato aññātikāyādigāthā vuttādhippāyā hoti. Yaṃ panettha bhikkhuniyā rahonisajjasikkhāpadaṃ nippayojanatāya nidassanaṃ vuttaṃ, tassa payojanaviseso tasmiṃyeva āvibhavissatīti . Evameva aññatthapi vacanena, visesaaṭṭhuppattivasena ca sikkhāpadesu ñātabbaṃ visesappayojananti.
ทุติยอุปกฺขฎสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dutiyaupakkhaṭasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.