Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๒. ทุติยอุรุเวลสุตฺตวณฺณนา
2. Dutiyauruvelasuttavaṇṇanā
๒๒. ทุติเย สมฺพหุลาติ พหุกาฯ พฺราหฺมณาติ หุหุกฺกชาติเกน พฺราหฺมเณน สทฺธิํ อาคตา พฺราหฺมณาฯ ชิณฺณาติ ชราชิณฺณาฯ วุฑฺฒาติ วโยวุทฺธาฯ มหลฺลกาติ ชาติมหลฺลกาฯ อทฺธคตาติ ตโย วเย อเทฺธ อติกฺกนฺตาฯ สุตเมตนฺติ อเมฺหหิ สุตํ เอตํฯ ตยิทํ โภ, โคตม, ตเถวาติ โภ, โคตม, เอตํ อเมฺหหิ สุตการณํ ตถา เอวฯ ตยิทํ โภ, โคตม, น สมฺปนฺนเมวาติ ตํ เอตํ อภิวาทนาทิอกรณํ อนนุจฺฉวิกเมวฯ
22. Dutiye sambahulāti bahukā. Brāhmaṇāti huhukkajātikena brāhmaṇena saddhiṃ āgatā brāhmaṇā. Jiṇṇāti jarājiṇṇā. Vuḍḍhāti vayovuddhā. Mahallakāti jātimahallakā. Addhagatāti tayo vaye addhe atikkantā. Sutametanti amhehi sutaṃ etaṃ. Tayidaṃ bho, gotama, tathevāti bho, gotama, etaṃ amhehi sutakāraṇaṃ tathā eva. Tayidaṃ bho, gotama, na sampannamevāti taṃ etaṃ abhivādanādiakaraṇaṃ ananucchavikameva.
อกาลวาทีติอาทีสุ อกาเล วทตีติ อกาลวาทีฯ อสภาวํ วทตีติ อภูตวาทีฯ อนตฺถํ วทติ, โน อตฺถนฺติ อนตฺถวาทีฯ อธมฺมํ วทติ, โน ธมฺมนฺติ อธมฺมวาทีฯ อวินยํ วทติ , โน วินยนฺติ อวินยวาทีฯ อนิธานวติํ วาจํ ภาสิตาติ น หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ วาจํ ภาสิตาฯ อกาเลนาติ กเถตุํ อยุตฺตกาเลนฯ อนปเทสนฺติ อปเทสรหิตํ, สาปเทสํ สการณํ กตฺวา น กเถติฯ อปริยนฺตวตินฺติ ปริยนฺตรหิตํ, น ปริเจฺฉทํ ทเสฺสตฺวา กเถติฯ อนตฺถสํหิตนฺติ น โลกิยโลกุตฺตรอตฺถนิสฺสิตํ กตฺวา กเถติฯ พาโล เถโรเตฺวว สงฺขํ คจฺฉตีติ อนฺธพาโล เถโรติ สงฺขํ คจฺฉติฯ
Akālavādītiādīsu akāle vadatīti akālavādī. Asabhāvaṃ vadatīti abhūtavādī. Anatthaṃ vadati, no atthanti anatthavādī. Adhammaṃ vadati, no dhammanti adhammavādī. Avinayaṃ vadati , no vinayanti avinayavādī. Anidhānavatiṃ vācaṃ bhāsitāti na hadaye nidhetabbayuttakaṃ vācaṃ bhāsitā. Akālenāti kathetuṃ ayuttakālena. Anapadesanti apadesarahitaṃ, sāpadesaṃ sakāraṇaṃ katvā na katheti. Apariyantavatinti pariyantarahitaṃ, na paricchedaṃ dassetvā katheti. Anatthasaṃhitanti na lokiyalokuttaraatthanissitaṃ katvā katheti. Bālo therotveva saṅkhaṃ gacchatīti andhabālo theroti saṅkhaṃ gacchati.
กาลวาทีติอาทีนิ วุตฺตปฎิปกฺขวเสน เวทิตพฺพานิฯ ปณฺฑิโต เถโรเตฺวว สงฺขํ คจฺฉตีติ ปณฺฑิเจฺจน สมนฺนาคตตฺตา ปณฺฑิโต, ถิรภาวปฺปตฺติยา เถโรติ สงฺขํ คจฺฉติฯ
Kālavādītiādīni vuttapaṭipakkhavasena veditabbāni. Paṇḍito therotveva saṅkhaṃ gacchatīti paṇḍiccena samannāgatattā paṇḍito, thirabhāvappattiyā theroti saṅkhaṃ gacchati.
พหุสฺสุโต โหตีติ พหุํ อสฺส สุตํ โหติ, นวงฺคํ สตฺถุสาสนํ ปาฬิอนุสนฺธิปุพฺพาปรวเสน อุคฺคหิตํ โหตีติ อโตฺถฯ สุตธโรติ สุตสฺส อาธารภูโตฯ ยสฺส หิ อิโต คหิตํ อิโต ปลายติ, ฉิทฺทฆเฎ อุทกํ วิย น ติฎฺฐติ, ปริสมเชฺฌ เอกสุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถตุํ วา วาเจตุํ วา น สโกฺกติ, อยํ น สุตธโร นามฯ ยสฺส ปน อุคฺคหิตํ พุทฺธวจนํ อุคฺคหิตกาลสทิสเมว โหติ, ทสปิ วีสติปิ วสฺสานิ สชฺฌายํ อกโรนฺตสฺส เนว นสฺสติ, อยํ สุตธโร นามฯ สุตสนฺนิจโยติ สุตสฺส สนฺนิจยภูโตฯ ยสฺส หิ สุตํ หทยมญฺชูสาย สนฺนิจิตํ สิลาย เลขา วิย สุวณฺณปเตฺต ปกฺขิตฺตสีหวสา วิย จ ติฎฺฐติ, อยํ สุตสนฺนิจโย นามฯ ธาตาติ ธาตา ปคุณาฯ เอกจฺจสฺส หิ อุคฺคหิตพุทฺธวจนํ ธาตํ ปคุณํ นิจฺจลิกํ น โหติ, ‘‘อสุกํ สุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถหี’’ติ วุเตฺต ‘‘สชฺฌายิตฺวา สํสนฺทิตฺวา สมนุคฺคาหิตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ วทติฯ เอกจฺจสฺส ธาตํ ปคุณํ ภวงฺคโสตสทิสํ โหติ, ‘‘อสุกํ สุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถหี’’ติ วุเตฺต อุทฺธริตฺวา ตเมว กเถติฯ ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ธาตา’’ติฯ วจสา ปริจิตาติ สุตฺตทสก-วคฺคทสกปณฺณาสทสกวเสน วาจาย สชฺฌายิตาฯ มนสานุเปกฺขิตาติ จิเตฺตน อนุเปกฺขิตาฯ ยสฺส วาจาย สชฺฌายิตํ พุทฺธวจนํ มนสา จิเนฺตนฺตสฺส ตตฺถ ตตฺถ ปากฎํ โหติ, มหาทีปํ ชาเลตฺวา ฐิตสฺส รูปคตํ วิย ปญฺญายติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ ทิฎฺฐิยา สุปฺปฎิวิทฺธาติ อตฺถโต จ การณโต จ ปญฺญาย สุปฺปฎิวิทฺธาฯ
Bahussuto hotīti bahuṃ assa sutaṃ hoti, navaṅgaṃ satthusāsanaṃ pāḷianusandhipubbāparavasena uggahitaṃ hotīti attho. Sutadharoti sutassa ādhārabhūto. Yassa hi ito gahitaṃ ito palāyati, chiddaghaṭe udakaṃ viya na tiṭṭhati, parisamajjhe ekasuttaṃ vā jātakaṃ vā kathetuṃ vā vācetuṃ vā na sakkoti, ayaṃ na sutadharo nāma. Yassa pana uggahitaṃ buddhavacanaṃ uggahitakālasadisameva hoti, dasapi vīsatipi vassāni sajjhāyaṃ akarontassa neva nassati, ayaṃ sutadharo nāma. Sutasannicayoti sutassa sannicayabhūto. Yassa hi sutaṃ hadayamañjūsāya sannicitaṃ silāya lekhā viya suvaṇṇapatte pakkhittasīhavasā viya ca tiṭṭhati, ayaṃ sutasannicayo nāma. Dhātāti dhātā paguṇā. Ekaccassa hi uggahitabuddhavacanaṃ dhātaṃ paguṇaṃ niccalikaṃ na hoti, ‘‘asukaṃ suttaṃ vā jātakaṃ vā kathehī’’ti vutte ‘‘sajjhāyitvā saṃsanditvā samanuggāhitvā jānissāmī’’ti vadati. Ekaccassa dhātaṃ paguṇaṃ bhavaṅgasotasadisaṃ hoti, ‘‘asukaṃ suttaṃ vā jātakaṃ vā kathehī’’ti vutte uddharitvā tameva katheti. Taṃ sandhāya vuttaṃ ‘‘dhātā’’ti. Vacasāparicitāti suttadasaka-vaggadasakapaṇṇāsadasakavasena vācāya sajjhāyitā. Manasānupekkhitāti cittena anupekkhitā. Yassa vācāya sajjhāyitaṃ buddhavacanaṃ manasā cintentassa tattha tattha pākaṭaṃ hoti, mahādīpaṃ jāletvā ṭhitassa rūpagataṃ viya paññāyati, taṃ sandhāyetaṃ vuttaṃ. Diṭṭhiyā suppaṭividdhāti atthato ca kāraṇato ca paññāya suppaṭividdhā.
อาภิเจตสิกานนฺติ อภิเจโตติ อภิกฺกนฺตํ วิสุทฺธํ จิตฺตํ วุจฺจติ, อธิจิตฺตํ วา, อภิเจตสิ ชาตานิ อาภิเจตสิกานิ, อภิเจโตสนฺนิสฺสิตานีติ วา อาภิเจตสิกานิฯ ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหารานนฺติ ทิฎฺฐธเมฺม สุขวิหารานํฯ ทิฎฺฐธโมฺมติ ปจฺจโกฺข อตฺตภาโว วุจฺจติ, ตตฺถ สุขวิหารภูตานนฺติ อโตฺถฯ รูปาวจรชฺฌานานเมตํ อธิวจนํฯ ตานิ หิ อเปฺปตฺวา นิสินฺนา ฌายิโน อิมสฺมิํเยว อตฺตภาเว อสํกิลิฎฺฐเนกฺขมฺมสุขํ วินฺทนฺติ, ตสฺมา ‘‘ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหารานี’’ติ วุจฺจติฯ นิกามลาภีติ นิกาเมน ลาภี, อตฺตโน อิจฺฉาวเสน ลาภี, อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สมาปชฺชิตุํ สมโตฺถติ วุตฺตํ โหติฯ อกิจฺฉลาภีติ สุเขเนว ปจฺจนีกธเมฺม วิกฺขเมฺภตฺวา สมาปชฺชิตุํ สมโตฺถติ วุตฺตํ โหติฯ อกสิรลาภีติ อกสิรานํ ลาภี วิปุลานํ, ยถาปริเจฺฉเทน วุฎฺฐาตุํ สมโตฺถติ วุตฺตํ โหติฯ เอกโจฺจ หิ ลาภีเยว โหติ, น ปน อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สโกฺกติ สมาปชฺชิตุํฯ เอกโจฺจ สโกฺกติ ตถาสมาปชฺชิตุํ, ปาริปนฺถิเก จ ปน กิเจฺฉน วิกฺขเมฺภติฯ เอกโจฺจ ตถา จ สมาปชฺชติ, ปาริปนฺถิเก จ อกิเจฺฉเนว วิกฺขเมฺภติ, น สโกฺกติ นาฬิกยนฺตํ วิย ยถาปริเจฺฉเทเยว วุฎฺฐาตุํฯ ยสฺส ปน อยํ ติวิธาปิ สมฺปทา อตฺถิ, โส ‘‘อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี’’ติ วุจฺจติฯ อาสวานํ ขยาติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนวฯ เอวมิธ สีลมฺปิ พาหุสจฺจมฺปิ ขีณาสวเสฺสว สีลํ พาหุสจฺจญฺจ, ฌานานิปิ ขีณาสวเสฺสว วฬญฺชนกชฺฌานานิ กถิตานิฯ ‘‘อาสวานํ ขยา’’ติอาทีหิ ปน อรหตฺตํ กถิตํฯ ผเลน เจตฺถ มคฺคกิจฺจํ ปกาสิตนฺติ เวทิตพฺพํฯ
Ābhicetasikānanti abhicetoti abhikkantaṃ visuddhaṃ cittaṃ vuccati, adhicittaṃ vā, abhicetasi jātāni ābhicetasikāni, abhicetosannissitānīti vā ābhicetasikāni. Diṭṭhadhammasukhavihārānanti diṭṭhadhamme sukhavihārānaṃ. Diṭṭhadhammoti paccakkho attabhāvo vuccati, tattha sukhavihārabhūtānanti attho. Rūpāvacarajjhānānametaṃ adhivacanaṃ. Tāni hi appetvā nisinnā jhāyino imasmiṃyeva attabhāve asaṃkiliṭṭhanekkhammasukhaṃ vindanti, tasmā ‘‘diṭṭhadhammasukhavihārānī’’ti vuccati. Nikāmalābhīti nikāmena lābhī, attano icchāvasena lābhī, icchiticchitakkhaṇe samāpajjituṃ samatthoti vuttaṃ hoti. Akicchalābhīti sukheneva paccanīkadhamme vikkhambhetvā samāpajjituṃ samatthoti vuttaṃ hoti. Akasiralābhīti akasirānaṃ lābhī vipulānaṃ, yathāparicchedena vuṭṭhātuṃ samatthoti vuttaṃ hoti. Ekacco hi lābhīyeva hoti, na pana icchiticchitakkhaṇe sakkoti samāpajjituṃ. Ekacco sakkoti tathāsamāpajjituṃ, pāripanthike ca pana kicchena vikkhambheti. Ekacco tathā ca samāpajjati, pāripanthike ca akiccheneva vikkhambheti, na sakkoti nāḷikayantaṃ viya yathāparicchedeyeva vuṭṭhātuṃ. Yassa pana ayaṃ tividhāpi sampadā atthi, so ‘‘akicchalābhī akasiralābhī’’ti vuccati. Āsavānaṃ khayātiādīni vuttatthāneva. Evamidha sīlampi bāhusaccampi khīṇāsavasseva sīlaṃ bāhusaccañca, jhānānipi khīṇāsavasseva vaḷañjanakajjhānāni kathitāni. ‘‘Āsavānaṃ khayā’’tiādīhi pana arahattaṃ kathitaṃ. Phalena cettha maggakiccaṃ pakāsitanti veditabbaṃ.
อุทฺธเตนาติ อุทฺธจฺจสหคเตนฯ สมฺผนฺติ ปลาปกถํฯ อสมาหิตสงฺกโปฺปติ อฎฺฐปิตสงฺกโปฺปฯ มโคติ มคสทิโสฯ อาราติ ทูเรฯ ถาวเรยฺยมฺหาติ ถาวรภาวโตฯ ปาปทิฎฺฐีติ ลามกทิฎฺฐิฯ อนาทโรติ อาทรรหิโตฯ สุตวาติ สุเตน อุปคโตฯ ปฎิภานวาติ ทุวิเธน ปฎิภาเนน สมนฺนาคโตฯ ปญฺญายตฺถํ วิปสฺสตีติ สหวิปสฺสนาย มคฺคปญฺญาย จตุนฺนํ สจฺจานํ อตฺถํ วินิวิชฺฌิตฺวา ปสฺสติฯ ปารคู สพฺพธมฺมานนฺติ สเพฺพสํ ขนฺธาทิธมฺมานํ ปารํ คโต, อภิญฺญาปารคู, ปริญฺญาปารคู, ปหานปารคู, ภาวนาปารคู, สจฺฉิกิริยาปารคู, สมาปตฺติปารคูติ เอวํ ฉพฺพิเธน ปารคมเนน สพฺพธมฺมานํ ปารํ ปริโยสานํ คโตฯ อขิโลติ ราคขิลาทิวิรหิโตฯ ปฎิภานวาติ ทุวิเธเนว ปฎิภาเนน สมนฺนาคโตฯ พฺรหฺมจริยสฺส เกวลีติ สกลพฺรหฺมจริโยฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ
Uddhatenāti uddhaccasahagatena. Samphanti palāpakathaṃ. Asamāhitasaṅkappoti aṭṭhapitasaṅkappo. Magoti magasadiso. Ārāti dūre. Thāvareyyamhāti thāvarabhāvato. Pāpadiṭṭhīti lāmakadiṭṭhi. Anādaroti ādararahito. Sutavāti sutena upagato. Paṭibhānavāti duvidhena paṭibhānena samannāgato. Paññāyatthaṃ vipassatīti sahavipassanāya maggapaññāya catunnaṃ saccānaṃ atthaṃ vinivijjhitvā passati. Pāragū sabbadhammānanti sabbesaṃ khandhādidhammānaṃ pāraṃ gato, abhiññāpāragū, pariññāpāragū, pahānapāragū, bhāvanāpāragū, sacchikiriyāpāragū, samāpattipāragūti evaṃ chabbidhena pāragamanena sabbadhammānaṃ pāraṃ pariyosānaṃ gato. Akhiloti rāgakhilādivirahito. Paṭibhānavāti duvidheneva paṭibhānena samannāgato. Brahmacariyassa kevalīti sakalabrahmacariyo. Sesamettha uttānamevāti.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๒. ทุติยอุรุเวลสุตฺตํ • 2. Dutiyauruvelasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๒.ทุติยอุรุเวลสุตฺตวณฺณนา • 2.Dutiyauruvelasuttavaṇṇanā