Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga |
๘. ทุฎฺฐโทสสิกฺขาปทํ
8. Duṭṭhadosasikkhāpadaṃ
๓๘๐. 1 เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมตา ทเพฺพน มลฺลปุเตฺตน ชาติยา สตฺตวเสฺสน อรหตฺตํ สจฺฉิกตํ โหติฯ ยํ กิญฺจิ 2 สาวเกน ปตฺตพฺพํ สพฺพํ เตน อนุปฺปตฺตํ โหติฯ นตฺถิ จสฺส กิญฺจิ อุตฺตริ กรณียํ, กตสฺส วา ปติจโยฯ อถ โข อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส รโหคตสฺส ปฎิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตโกฺก อุทปาทิ – ‘‘มยา โข ชาติยา สตฺตวเสฺสน อรหตฺตํ สจฺฉิกตํฯ ยํ กิญฺจิ สาวเกน ปตฺตพฺพํ สพฺพํ มยา อนุปฺปตฺตํฯ นตฺถิ จ เม กิญฺจิ อุตฺตริ กรณียํ, กตสฺส วา ปติจโยฯ กินฺนุ โข อหํ สงฺฆสฺส เวยฺยาวจฺจํ กเรยฺย’’นฺติ?
380.3 Tena samayena buddho bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Tena kho pana samayena āyasmatā dabbena mallaputtena jātiyā sattavassena arahattaṃ sacchikataṃ hoti. Yaṃ kiñci 4 sāvakena pattabbaṃ sabbaṃ tena anuppattaṃ hoti. Natthi cassa kiñci uttari karaṇīyaṃ, katassa vā paticayo. Atha kho āyasmato dabbassa mallaputtassa rahogatassa paṭisallīnassa evaṃ cetaso parivitakko udapādi – ‘‘mayā kho jātiyā sattavassena arahattaṃ sacchikataṃ. Yaṃ kiñci sāvakena pattabbaṃ sabbaṃ mayā anuppattaṃ. Natthi ca me kiñci uttari karaṇīyaṃ, katassa vā paticayo. Kinnu kho ahaṃ saṅghassa veyyāvaccaṃ kareyya’’nti?
อถ โข อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ สงฺฆสฺส เสนาสนญฺจ ปญฺญเปยฺยํ ภตฺตานิ จ อุทฺทิเสยฺย’’นฺติฯ อถ โข อายสฺมา ทโพฺพ มลฺลปุโตฺต สายนฺหสมยํ ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา ทโพฺพ มลฺลปุโตฺต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภเนฺต, รโหคตสฺส ปฎิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตโกฺก อุทปาทิ มยา โข ชาติยา สตฺตวเสฺสน อรหตฺตํ สจฺฉิกตํ, ยํ กิญฺจิ สาวเกน ปตฺตพฺพํ, สพฺพํ มยา อนุปตฺตํ, นตฺถิ จ เม กิญฺจิ อุตฺตริ กรณียํ, กตสฺส วา ปติจโย, กิํ นุ โข อหํ สงฺฆสฺส เวยฺยาวจฺจํ กเรยฺย’’นฺติฯ ตสฺส มยฺหํ ภเนฺต, เอตทโหสิ ยํนูนาหํ ‘‘สงฺฆสฺส เสนาสนญฺจ ปญฺญเปยฺยํ ภตฺตานิ จ อุทฺทิเสยฺยนฺติฯ อิจฺฉามหํ, ภเนฺต, สงฺฆสฺส เสนาสนญฺจ ปญฺญเปตุํ ภตฺตานิ จ อุทฺทิสิตุ’’นฺติฯ ‘‘สาธุ สาธุ, ทพฺพฯ เตน หิ ตฺวํ, ทพฺพ, สงฺฆสฺส เสนาสนญฺจ ปญฺญเปหิ ภตฺตานิ จ อุทฺทิสา’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข อายสฺมา ทโพฺพ มลฺลปุโตฺต ภควโต ปจฺจโสฺสสิฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สโงฺฆ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ เสนาสนปญฺญาปกญฺจ ภตฺตุเทฺทสกญฺจ สมฺมนฺนตุฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตโพฺพฯ ปฐมํ ทโพฺพ มลฺลปุโตฺต ยาจิตโพฺพฯ ยาจิตฺวา พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –
Atha kho āyasmato dabbassa mallaputtassa etadahosi – ‘‘yaṃnūnāhaṃ saṅghassa senāsanañca paññapeyyaṃ bhattāni ca uddiseyya’’nti. Atha kho āyasmā dabbo mallaputto sāyanhasamayaṃ paṭisallānā vuṭṭhito yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā dabbo mallaputto bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘idha mayhaṃ, bhante, rahogatassa paṭisallīnassa evaṃ cetaso parivitakko udapādi mayā kho jātiyā sattavassena arahattaṃ sacchikataṃ, yaṃ kiñci sāvakena pattabbaṃ, sabbaṃ mayā anupattaṃ, natthi ca me kiñci uttari karaṇīyaṃ, katassa vā paticayo, kiṃ nu kho ahaṃ saṅghassa veyyāvaccaṃ kareyya’’nti. Tassa mayhaṃ bhante, etadahosi yaṃnūnāhaṃ ‘‘saṅghassa senāsanañca paññapeyyaṃ bhattāni ca uddiseyyanti. Icchāmahaṃ, bhante, saṅghassa senāsanañca paññapetuṃ bhattāni ca uddisitu’’nti. ‘‘Sādhu sādhu, dabba. Tena hi tvaṃ, dabba, saṅghassa senāsanañca paññapehi bhattāni ca uddisā’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho āyasmā dabbo mallaputto bhagavato paccassosi. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘tena hi, bhikkhave, saṅgho dabbaṃ mallaputtaṃ senāsanapaññāpakañca bhattuddesakañca sammannatu. Evañca pana, bhikkhave, sammannitabbo. Paṭhamaṃ dabbo mallaputto yācitabbo. Yācitvā byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –
๓๘๑. ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ สโงฺฆ อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ เสนาสนปญฺญาปกญฺจ ภตฺตุเทฺทสกญฺจ สมฺมเนฺนยฺยฯ เอสา ญตฺติฯ
381. ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Yadi saṅghassa pattakallaṃ saṅgho āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ senāsanapaññāpakañca bhattuddesakañca sammanneyya. Esā ñatti.
‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ สโงฺฆ อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ เสนาสนปญฺญาปกญฺจ ภตฺตุเทฺทสกญฺจ สมฺมนฺนติฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส เสนาสนปญฺญาปกสฺส จ ภตฺตุเทฺทสกสฺส จ สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ
‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Saṅgho āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ senāsanapaññāpakañca bhattuddesakañca sammannati. Yassāyasmato khamati āyasmato dabbassa mallaputtassa senāsanapaññāpakassa ca bhattuddesakassa ca sammuti, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.
‘‘สมฺมโต สเงฺฆน อายสฺมา ทโพฺพ มลฺลปุโตฺต เสนาสนปญฺญาปโก จ ภตฺตุเทฺทสโก จฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี , เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ
‘‘Sammato saṅghena āyasmā dabbo mallaputto senāsanapaññāpako ca bhattuddesako ca. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī , evametaṃ dhārayāmī’’ti.
๓๘๒. สมฺมโต จ ปนายสฺมา ทโพฺพ มลฺลปุโตฺต สภาคานํ ภิกฺขูนํ เอกชฺฌํ เสนาสนํ ปญฺญเปติฯ เย เต ภิกฺขู สุตฺตนฺติกา เตสํ เอกชฺฌํ เสนาสนํ ปญฺญเปติ – ‘‘เต อญฺญมญฺญํ สุตฺตนฺตํ สงฺคายิสฺสนฺตี’’ติฯ เย เต ภิกฺขู วินยธรา เตสํ เอกชฺฌํ เสนาสนํ ปญฺญเปติ – ‘‘เต อญฺญมญฺญํ วินยํ วินิจฺฉินิสฺสนฺตี’’ติ 5ฯ เย เต ภิกฺขู ธมฺมกถิกา เตสํ เอกชฺฌํ เสนาสนํ ปญฺญเปติ – ‘‘เต อญฺญมญฺญํ ธมฺมํ สากจฺฉิสฺสนฺตี’’ติฯ เย เต ภิกฺขู ฌายิโน เตสํ เอกชฺฌํ เสนาสนํ ปญฺญเปติ – ‘‘เต อญฺญมญฺญํ น พฺยาพาธิสฺสนฺตี’’ติ 6ฯ เย เต ภิกฺขู ติรจฺฉานกถิกา กายทฬฺหิพหุลา 7 วิหรนฺติ เตสมฺปิ เอกชฺฌํ เสนาสนํ ปญฺญเปติ – ‘‘อิมายปิเม อายสฺมโนฺต รติยา อจฺฉิสฺสนฺตี’’ติฯ เยปิ เต ภิกฺขู วิกาเล อาคจฺฉนฺติ เตสมฺปิ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา เตเนว อาโลเกน เสนาสนํ ปญฺญเปติฯ อปิสุ ภิกฺขู สญฺจิจฺจ วิกาเล อาคจฺฉนฺติ – ‘‘มยํ อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส อิทฺธิปาฎิหาริยํ ปสฺสิสฺสามา’’ติฯ
382. Sammato ca panāyasmā dabbo mallaputto sabhāgānaṃ bhikkhūnaṃ ekajjhaṃ senāsanaṃ paññapeti. Ye te bhikkhū suttantikā tesaṃ ekajjhaṃ senāsanaṃ paññapeti – ‘‘te aññamaññaṃ suttantaṃ saṅgāyissantī’’ti. Ye te bhikkhū vinayadharā tesaṃ ekajjhaṃ senāsanaṃ paññapeti – ‘‘te aññamaññaṃ vinayaṃ vinicchinissantī’’ti 8. Ye te bhikkhū dhammakathikā tesaṃ ekajjhaṃ senāsanaṃ paññapeti – ‘‘te aññamaññaṃ dhammaṃ sākacchissantī’’ti. Ye te bhikkhū jhāyino tesaṃ ekajjhaṃ senāsanaṃ paññapeti – ‘‘te aññamaññaṃ na byābādhissantī’’ti 9. Ye te bhikkhū tiracchānakathikā kāyadaḷhibahulā 10 viharanti tesampi ekajjhaṃ senāsanaṃ paññapeti – ‘‘imāyapime āyasmanto ratiyā acchissantī’’ti. Yepi te bhikkhū vikāle āgacchanti tesampi tejodhātuṃ samāpajjitvā teneva ālokena senāsanaṃ paññapeti. Apisu bhikkhū sañcicca vikāle āgacchanti – ‘‘mayaṃ āyasmato dabbassa mallaputtassa iddhipāṭihāriyaṃ passissāmā’’ti.
เต อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทนฺติ – ‘‘อมฺหากํ, อาวุโส ทพฺพ, เสนาสนํ ปญฺญเปหี’’ติฯ เต อายสฺมา ทโพฺพ มลฺลปุโตฺต เอวํ วเทติ – ‘‘กตฺถายสฺมนฺตา อิจฺฉนฺติ, กตฺถ ปญฺญเปมี’’ติ? เต สญฺจิจฺจ ทูเร อปทิสนฺติ – ‘‘อมฺหากํ, อาวุโส ทพฺพ, คิชฺฌกูเฎ ปพฺพเต เสนาสนํ ปญฺญเปหิฯ อมฺหากํ, อาวุโส, โจรปปาเต เสนาสนํ ปญฺญเปหิฯ อมฺหากํ, อาวุโส, อิสิคิลิปเสฺส กาฬสิลายํ เสนาสนํ ปญฺญเปหิฯ อมฺหากํ, อาวุโส, เวภารปเสฺส สตฺตปณฺณิคุหายํ เสนาสนํ ปญฺญเปหิฯ อมฺหากํ, อาวุโส, สีตวเน สปฺปโสณฺฑิกปพฺภาเร เสนาสนํ ปญฺญเปหิฯ อมฺหากํ, อาวุโส, โคตมกกนฺทรายํ เสนาสนํ ปญฺญเปหิฯ อมฺหากํ, อาวุโส, ตินฺทุกกนฺทรายํ เสนาสนํ ปญฺญเปหิฯ อมฺหากํ, อาวุโส, ตโปทกนฺทรายํ เสนาสนํ ปญฺญเปหิฯ อมฺหากํ, อาวุโส, ตโปทาราเม เสนาสนํ ปญฺญเปหิฯ อมฺหากํ, อาวุโส, ชีวกมฺพวเน เสนาสนํ ปญฺญเปหิฯ อมฺหากํ, อาวุโส, มทฺทกุจฺฉิสฺมิํ มิคทาเย เสนาสนํ ปญฺญเปหี’’ติฯ
Te āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ upasaṅkamitvā evaṃ vadanti – ‘‘amhākaṃ, āvuso dabba, senāsanaṃ paññapehī’’ti. Te āyasmā dabbo mallaputto evaṃ vadeti – ‘‘katthāyasmantā icchanti, kattha paññapemī’’ti? Te sañcicca dūre apadisanti – ‘‘amhākaṃ, āvuso dabba, gijjhakūṭe pabbate senāsanaṃ paññapehi. Amhākaṃ, āvuso, corapapāte senāsanaṃ paññapehi. Amhākaṃ, āvuso, isigilipasse kāḷasilāyaṃ senāsanaṃ paññapehi. Amhākaṃ, āvuso, vebhārapasse sattapaṇṇiguhāyaṃ senāsanaṃ paññapehi. Amhākaṃ, āvuso, sītavane sappasoṇḍikapabbhāre senāsanaṃ paññapehi. Amhākaṃ, āvuso, gotamakakandarāyaṃ senāsanaṃ paññapehi. Amhākaṃ, āvuso, tindukakandarāyaṃ senāsanaṃ paññapehi. Amhākaṃ, āvuso, tapodakandarāyaṃ senāsanaṃ paññapehi. Amhākaṃ, āvuso, tapodārāme senāsanaṃ paññapehi. Amhākaṃ, āvuso, jīvakambavane senāsanaṃ paññapehi. Amhākaṃ, āvuso, maddakucchismiṃ migadāye senāsanaṃ paññapehī’’ti.
เตสํ อายสฺมา ทโพฺพ มลฺลปุโตฺต เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา องฺคุลิยา ชลมานาย ปุรโต ปุรโต คจฺฉติฯ เตปิ เตเนว อาโลเกน อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส ปิฎฺฐิโต ปิฎฺฐิโต คจฺฉนฺติฯ เตสํ อายสฺมา ทโพฺพ มลฺลปุโตฺต เอวํ เสนาสนํ ปญฺญเปติ – ‘‘อยํ มโญฺจ, อิทํ ปีฐํ, อยํ ภิสิ, อิทํ พิโมฺพหนํ, อิทํ วจฺจฎฺฐานํ, อิทํ ปสฺสาวฎฺฐานํ , อิทํ ปานียํ, อิทํ ปริโภชนียํ, อยํ กตฺตรทโณฺฑ, อิทํ สงฺฆสฺส กติกสณฺฐานํ, อิมํ กาลํ ปวิสิตพฺพํ, อิมํ กาลํ นิกฺขมิตพฺพ’’นฺติฯ เตสํ อายสฺมา ทโพฺพ มลฺลปุโตฺต เอวํ เสนาสนํ ปญฺญเปตฺวา ปุนเทว เวฬุวนํ ปจฺจาคจฺฉติฯ
Tesaṃ āyasmā dabbo mallaputto tejodhātuṃ samāpajjitvā aṅguliyā jalamānāya purato purato gacchati. Tepi teneva ālokena āyasmato dabbassa mallaputtassa piṭṭhito piṭṭhito gacchanti. Tesaṃ āyasmā dabbo mallaputto evaṃ senāsanaṃ paññapeti – ‘‘ayaṃ mañco, idaṃ pīṭhaṃ, ayaṃ bhisi, idaṃ bimbohanaṃ, idaṃ vaccaṭṭhānaṃ, idaṃ passāvaṭṭhānaṃ , idaṃ pānīyaṃ, idaṃ paribhojanīyaṃ, ayaṃ kattaradaṇḍo, idaṃ saṅghassa katikasaṇṭhānaṃ, imaṃ kālaṃ pavisitabbaṃ, imaṃ kālaṃ nikkhamitabba’’nti. Tesaṃ āyasmā dabbo mallaputto evaṃ senāsanaṃ paññapetvā punadeva veḷuvanaṃ paccāgacchati.
๓๘๓. เตน โข ปน สมเยน เมตฺติยภูมชกา 11 ภิกฺขู นวกา เจว โหนฺติ อปฺปปุญฺญา จฯ ยานิ สงฺฆสฺส ลามกานิ เสนาสนานิ ตานิ เตสํ ปาปุณนฺติ ลามกานิ จ ภตฺตานิฯ เตน โข ปน สมเยน ราชคเห มนุสฺสา อิจฺฉนฺติ เถรานํ ภิกฺขูนํ อภิสงฺขาริกํ ปิณฺฑปาตํ ทาตุํ สปฺปิมฺปิ เตลมฺปิ อุตฺตริภงฺคมฺปิฯ เมตฺติยภูมชกานํ ปน ภิกฺขูนํ ปากติกํ เทนฺติ ยถารนฺธํ กณาชกํ พิลงฺคทุติยํฯ เต ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฎิกฺกนฺตา เถเร ภิกฺขู ปุจฺฉนฺติ – ‘‘ตุมฺหากํ, อาวุโส, ภตฺตเคฺค กิํ อโหสิ? ตุมฺหากํ, อาวุโส, ภตฺตเคฺค กิํ อโหสี’’ติ? เอกเจฺจ เถรา เอวํ วทนฺติ – ‘‘อมฺหากํ, อาวุโส, สปฺปิ อโหสิ เตลํ อโหสิ อุตฺตริภงฺคํ อโหสี’’ติฯ เมตฺติยภูมชกา ปน ภิกฺขู เอวํ วทนฺติ – ‘‘อมฺหากํ, อาวุโส, น กิญฺจิ อโหสิ, ปากติกํ ยถารนฺธํ กณาชกํ พิลงฺคทุติย’’นฺติฯ
383. Tena kho pana samayena mettiyabhūmajakā 12 bhikkhū navakā ceva honti appapuññā ca. Yāni saṅghassa lāmakāni senāsanāni tāni tesaṃ pāpuṇanti lāmakāni ca bhattāni. Tena kho pana samayena rājagahe manussā icchanti therānaṃ bhikkhūnaṃ abhisaṅkhārikaṃ piṇḍapātaṃ dātuṃ sappimpi telampi uttaribhaṅgampi. Mettiyabhūmajakānaṃ pana bhikkhūnaṃ pākatikaṃ denti yathārandhaṃ kaṇājakaṃ bilaṅgadutiyaṃ. Te pacchābhattaṃ piṇḍapātappaṭikkantā there bhikkhū pucchanti – ‘‘tumhākaṃ, āvuso, bhattagge kiṃ ahosi? Tumhākaṃ, āvuso, bhattagge kiṃ ahosī’’ti? Ekacce therā evaṃ vadanti – ‘‘amhākaṃ, āvuso, sappi ahosi telaṃ ahosi uttaribhaṅgaṃ ahosī’’ti. Mettiyabhūmajakā pana bhikkhū evaṃ vadanti – ‘‘amhākaṃ, āvuso, na kiñci ahosi, pākatikaṃ yathārandhaṃ kaṇājakaṃ bilaṅgadutiya’’nti.
เตน โข ปน สมเยน กลฺยาณภตฺติโก คหปติ สงฺฆสฺส จตุกฺกภตฺตํ เทติ นิจฺจภตฺตํฯ โส ภตฺตเคฺค สปุตฺตทาโร อุปติฎฺฐิตฺวา ปริวิสติ ฯ อเญฺญ โอทเนน ปุจฺฉนฺติ, อเญฺญ สูเปน ปุจฺฉนฺติ, อเญฺญ เตเลน ปุจฺฉนฺติ, อเญฺญ อุตฺตริภเงฺคน ปุจฺฉนฺติฯ เตน โข ปน สมเยน กลฺยาณภตฺติกสฺส คหปติโน ภตฺตํ สฺวาตนาย เมตฺติยภูมชกานํ ภิกฺขูนํ อุทฺทิฎฺฐํ โหติฯ อถ โข กลฺยาณภตฺติโก คหปติ อารามํ อคมาสิ เกนจิเทว กรณีเยนฯ โส เยนายสฺมา ทโพฺพ มลฺลปุโตฺต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข กลฺยาณภตฺติกํ คหปติํ อายสฺมา ทโพฺพ มลฺลปุโตฺต ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ อถ โข กลฺยาณภตฺติโก คหปติ อายสฺมตา ทเพฺพน มลฺลปุเตฺตน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุเตฺตชิโต สมฺปหํสิโต อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กสฺส, ภเนฺต, อมฺหากํ ฆเร สฺวาตนาย ภตฺตํ อุทฺทิฎฺฐ’’นฺติ? ‘‘เมตฺติยภูมชกานํ โข, คหปติ, ภิกฺขูนํ ตุมฺหากํ ฆเร สฺวาตนาย ภตฺตํ อุทฺทิฎฺฐ’’นฺติฯ อถ โข กลฺยาณภตฺติโก คหปติ อนตฺตมโน อโหสิ – ‘‘กถญฺหิ นาม ปาปภิกฺขู อมฺหากํ ฆเร ภุญฺชิสฺสนฺตี’’ติ! ฆรํ คนฺตฺวา ทาสิํ อาณาเปสิ – ‘‘เย, เช, เสฺว ภตฺติกา อาคจฺฉนฺติ เต โกฎฺฐเก อาสนํ ปญฺญเปตฺวา กณาชเกน พิลงฺคทุติเยน ปริวิสา’’ติฯ ‘‘เอวํ อยฺยา’’ติ โข สา ทาสี กลฺยาณภตฺติกสฺส คหปติโน ปจฺจโสฺสสิฯ
Tena kho pana samayena kalyāṇabhattiko gahapati saṅghassa catukkabhattaṃ deti niccabhattaṃ. So bhattagge saputtadāro upatiṭṭhitvā parivisati . Aññe odanena pucchanti, aññe sūpena pucchanti, aññe telena pucchanti, aññe uttaribhaṅgena pucchanti. Tena kho pana samayena kalyāṇabhattikassa gahapatino bhattaṃ svātanāya mettiyabhūmajakānaṃ bhikkhūnaṃ uddiṭṭhaṃ hoti. Atha kho kalyāṇabhattiko gahapati ārāmaṃ agamāsi kenacideva karaṇīyena. So yenāyasmā dabbo mallaputto tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho kalyāṇabhattikaṃ gahapatiṃ āyasmā dabbo mallaputto dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi. Atha kho kalyāṇabhattiko gahapati āyasmatā dabbena mallaputtena dhammiyā kathāya sandassito samādapito samuttejito sampahaṃsito āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ etadavoca – ‘‘kassa, bhante, amhākaṃ ghare svātanāya bhattaṃ uddiṭṭha’’nti? ‘‘Mettiyabhūmajakānaṃ kho, gahapati, bhikkhūnaṃ tumhākaṃ ghare svātanāya bhattaṃ uddiṭṭha’’nti. Atha kho kalyāṇabhattiko gahapati anattamano ahosi – ‘‘kathañhi nāma pāpabhikkhū amhākaṃ ghare bhuñjissantī’’ti! Gharaṃ gantvā dāsiṃ āṇāpesi – ‘‘ye, je, sve bhattikā āgacchanti te koṭṭhake āsanaṃ paññapetvā kaṇājakena bilaṅgadutiyena parivisā’’ti. ‘‘Evaṃ ayyā’’ti kho sā dāsī kalyāṇabhattikassa gahapatino paccassosi.
อถ โข เมตฺติยภูมชกา ภิกฺขู – ‘‘หิโยฺย โข, อาวุโส, อมฺหากํ กลฺยาณภตฺติกสฺส คหปติโน ฆเร ภตฺตํ อุทฺทิฎฺฐํ, เสฺว อเมฺห กลฺยาณภตฺติโก คหปติ สปุตฺตทาโร อุปติฎฺฐิตฺวา ปริวิสิสฺสติ; อเญฺญ โอทเนน ปุจฺฉิสฺสนฺติ, อเญฺญ สูเปน ปุจฺฉิสฺสนฺติ, อเญฺญ เตเลน ปุจฺฉิสฺสนฺติ, อเญฺญ อุตฺตริภเงฺคน ปุจฺฉิสฺสนฺตี’’ติฯ เต เตเนว โสมนเสฺสน น จิตฺตรูปํ รตฺติยา สุปิํสุฯ อถ โข เมตฺติยภูมชกา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรํ อาทาย เยน กลฺยาณภตฺติกสฺส คหปติโน นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิํสุฯ อทฺทสา โข สา ทาสี เมตฺติยภูมชเก ภิกฺขู ทูรโตว อาคจฺฉเนฺตฯ ทิสฺวาน โกฎฺฐเก อาสนํ ปญฺญเปตฺวา เมตฺติยภูมชเก ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘นิสีทถ, ภเนฺต’’ติฯ อถ โข เมตฺติยภูมชกานํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข น ตาว ภตฺตํ สิทฺธํ ภวิสฺสติ! ยถา 13 มยํ โกฎฺฐเก นิสีเทยฺยามา’’ติ 14ฯ อถ โข สา ทาสี กณาชเกน พิลงฺคทุติเยน อุปคจฺฉิ – ‘‘ภุญฺชถ, ภเนฺต’’ติฯ ‘‘มยํ โข, ภคินิ, นิจฺจภตฺติกา’’ติฯ ‘‘ชานามิ อยฺยา นิจฺจภตฺติกาตฺถฯ อปิจาหํ หิโยฺยว คหปตินา อาณตฺตา – ‘เย, เช, เสฺว ภตฺติกา อาคจฺฉนฺติ เต โกฎฺฐเก อาสนํ ปญฺญเปตฺวา กณาชเกน พิลงฺคทุติเยน ปริวิสา’ติฯ ภุญฺชถ, ภเนฺต’’ติฯ อถ โข เมตฺติยภูมชกา ภิกฺขู – ‘‘หิโยฺย โข, อาวุโส, กลฺยาณภตฺติโก คหปติ อารามํ อคมาสิ ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส สนฺติเกฯ นิสฺสํสยํ โข มยํ ทเพฺพน มลฺลปุเตฺตน คหปติโน อนฺตเร 15 ปริภินฺนา’’ติฯ เต เตเนว โทมนเสฺสน น จิตฺตรูปํ ภุญฺชิํสุฯ อถ โข เมตฺติยภูมชกา ภิกฺขู ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฎิกฺกนฺตา อารามํ คนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ ปฎิสาเมตฺวา พหารามโกฎฺฐเก สงฺฆาฎิปลฺลตฺถิกาย นิสีทิํสุ ตุณฺหีภูตา มงฺกุภูตา ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา ปชฺฌายนฺตา อปฺปฎิภานาฯ
Atha kho mettiyabhūmajakā bhikkhū – ‘‘hiyyo kho, āvuso, amhākaṃ kalyāṇabhattikassa gahapatino ghare bhattaṃ uddiṭṭhaṃ, sve amhe kalyāṇabhattiko gahapati saputtadāro upatiṭṭhitvā parivisissati; aññe odanena pucchissanti, aññe sūpena pucchissanti, aññe telena pucchissanti, aññe uttaribhaṅgena pucchissantī’’ti. Te teneva somanassena na cittarūpaṃ rattiyā supiṃsu. Atha kho mettiyabhūmajakā bhikkhū pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaraṃ ādāya yena kalyāṇabhattikassa gahapatino nivesanaṃ tenupasaṅkamiṃsu. Addasā kho sā dāsī mettiyabhūmajake bhikkhū dūratova āgacchante. Disvāna koṭṭhake āsanaṃ paññapetvā mettiyabhūmajake bhikkhū etadavoca – ‘‘nisīdatha, bhante’’ti. Atha kho mettiyabhūmajakānaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘nissaṃsayaṃ kho na tāva bhattaṃ siddhaṃ bhavissati! Yathā 16 mayaṃ koṭṭhake nisīdeyyāmā’’ti 17. Atha kho sā dāsī kaṇājakena bilaṅgadutiyena upagacchi – ‘‘bhuñjatha, bhante’’ti. ‘‘Mayaṃ kho, bhagini, niccabhattikā’’ti. ‘‘Jānāmi ayyā niccabhattikāttha. Apicāhaṃ hiyyova gahapatinā āṇattā – ‘ye, je, sve bhattikā āgacchanti te koṭṭhake āsanaṃ paññapetvā kaṇājakena bilaṅgadutiyena parivisā’ti. Bhuñjatha, bhante’’ti. Atha kho mettiyabhūmajakā bhikkhū – ‘‘hiyyo kho, āvuso, kalyāṇabhattiko gahapati ārāmaṃ agamāsi dabbassa mallaputtassa santike. Nissaṃsayaṃ kho mayaṃ dabbena mallaputtena gahapatino antare 18 paribhinnā’’ti. Te teneva domanassena na cittarūpaṃ bhuñjiṃsu. Atha kho mettiyabhūmajakā bhikkhū pacchābhattaṃ piṇḍapātappaṭikkantā ārāmaṃ gantvā pattacīvaraṃ paṭisāmetvā bahārāmakoṭṭhake saṅghāṭipallatthikāya nisīdiṃsu tuṇhībhūtā maṅkubhūtā pattakkhandhā adhomukhā pajjhāyantā appaṭibhānā.
อถ โข เมตฺติยา ภิกฺขุนี เยน เมตฺติยภูมชกา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เมตฺติยภูมชเก ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘วนฺทามิ, อยฺยา’’ติฯ เอวํ วุเตฺต เมตฺติยภูมชกา ภิกฺขู นาลปิํสุฯ ทุติยมฺปิ โข…เป.… ตติยมฺปิ โข เมตฺติยา ภิกฺขุนี เมตฺติยภูมชเก ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘วนฺทามิ, อยฺยา’’ติฯ ตติยมฺปิ โข เมตฺติยภูมชกา ภิกฺขู นาลปิํสุฯ ‘‘กฺยาหํ อยฺยานํ อปรชฺฌามิ? กิสฺส มํ อยฺยา นาลปนฺตี’’ติ? ‘‘ตถา หิ ปน ตฺวํ, ภคินิ, อเมฺห ทเพฺพน มลฺลปุเตฺตน วิเหฐียมาเน อชฺฌุเปกฺขสี’’ติ? ‘‘กฺยาหํ, อยฺยา, กโรมี’’ติ? ‘‘สเจ โข ตฺวํ, ภคินิ, อิเจฺฉยฺยาสิ อเชฺชว ภควา ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ นาสาเปยฺยา’’ติฯ ‘‘กฺยาหํ, อยฺยา, กโรมิ, กิํ มยา สกฺกา กาตุ’’นฺติ? ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภคินิ, เยน ภควา เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอวํ วเทหิ – ‘อิทํ, ภเนฺต, นจฺฉนฺนํ นปฺปติรูปํฯ ยายํ, ภเนฺต, ทิสา อภยา อนีติกา อนุปทฺทวา สายํ ทิสา สภยา สอีติกา สอุปทฺทวาฯ ยโต นิวาตํ ตโต สวาตํ 19ฯ อุทกํ มเญฺญ อาทิตฺตํฯ อเยฺยนมฺหิ ทเพฺพน มลฺลปุเตฺตน ทูสิตา’’’ติฯ ‘‘เอวํ, อยฺยา’’ติ โข เมตฺติยา ภิกฺขุนี เมตฺติยภูมชกานํ ภิกฺขูนํ ปฎิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข เมตฺติยา ภิกฺขุนี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ, ภเนฺต, นจฺฉนฺนํ นปฺปติรูปํฯ ยายํ, ภเนฺต, ทิสา อภยา อนีติกา อนุปทฺทวา สายํ ทิสา สภยา สอีติกา สอุปทฺทวาฯ ยโต นิวาตํ ตโต สวาตํฯ อุทกํ มเญฺญ อาทิตฺตํ! อเยฺยนมฺหิ ทเพฺพน มลฺลปุเตฺตน ทูสิตา’’ติฯ
Atha kho mettiyā bhikkhunī yena mettiyabhūmajakā bhikkhū tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā mettiyabhūmajake bhikkhū etadavoca – ‘‘vandāmi, ayyā’’ti. Evaṃ vutte mettiyabhūmajakā bhikkhū nālapiṃsu. Dutiyampi kho…pe… tatiyampi kho mettiyā bhikkhunī mettiyabhūmajake bhikkhū etadavoca – ‘‘vandāmi, ayyā’’ti. Tatiyampi kho mettiyabhūmajakā bhikkhū nālapiṃsu. ‘‘Kyāhaṃ ayyānaṃ aparajjhāmi? Kissa maṃ ayyā nālapantī’’ti? ‘‘Tathā hi pana tvaṃ, bhagini, amhe dabbena mallaputtena viheṭhīyamāne ajjhupekkhasī’’ti? ‘‘Kyāhaṃ, ayyā, karomī’’ti? ‘‘Sace kho tvaṃ, bhagini, iccheyyāsi ajjeva bhagavā dabbaṃ mallaputtaṃ nāsāpeyyā’’ti. ‘‘Kyāhaṃ, ayyā, karomi, kiṃ mayā sakkā kātu’’nti? ‘‘Ehi tvaṃ, bhagini, yena bhagavā tenupasaṅkama; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ evaṃ vadehi – ‘idaṃ, bhante, nacchannaṃ nappatirūpaṃ. Yāyaṃ, bhante, disā abhayā anītikā anupaddavā sāyaṃ disā sabhayā saītikā saupaddavā. Yato nivātaṃ tato savātaṃ 20. Udakaṃ maññe ādittaṃ. Ayyenamhi dabbena mallaputtena dūsitā’’’ti. ‘‘Evaṃ, ayyā’’ti kho mettiyā bhikkhunī mettiyabhūmajakānaṃ bhikkhūnaṃ paṭissutvā yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhāsi. Ekamantaṃ ṭhitā kho mettiyā bhikkhunī bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘idaṃ, bhante, nacchannaṃ nappatirūpaṃ. Yāyaṃ, bhante, disā abhayā anītikā anupaddavā sāyaṃ disā sabhayā saītikā saupaddavā. Yato nivātaṃ tato savātaṃ. Udakaṃ maññe ādittaṃ! Ayyenamhi dabbena mallaputtena dūsitā’’ti.
๓๘๔. อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ ปฎิปุจฺฉิ – ‘‘สรสิ ตฺวํ, ทพฺพ, เอวรูปํ กตฺตา ยถายํ ภิกฺขุนี อาหา’’ติ? ‘‘ยถา มํ, ภเนฺต, ภควา ชานาตี’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข ภควา…เป.… ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สรสิ ตฺวํ, ทพฺพ, เอวรูปํ กตฺตา ยถายํ ภิกฺขุนี อาหา’’ติ? ‘‘ยถา มํ, ภเนฺต, ภควา ชานาตี’’ติฯ ‘‘น โข, ทพฺพ, ทพฺพา เอวํ นิเพฺพเฐนฺติฯ สเจ ตยา กตํ กตนฺติ วเทหิ, สเจ ตยา อกตํ อกตนฺติ วเทหี’’ติฯ ‘‘ยโต อหํ, ภเนฺต, ชาโต นาภิชานามิ สุปินเนฺตนปิ เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิตา, ปเคว ชาคโร’’ติ! อถ โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, เมตฺติยํ ภิกฺขุนิํ นาเสถ ฯ อิเม จ ภิกฺขู อนุยุญฺชถา’’ติฯ อิทํ วตฺวา ภควา อุฎฺฐายาสนา วิหารํ ปาวิสิฯ
384. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ paṭipucchi – ‘‘sarasi tvaṃ, dabba, evarūpaṃ kattā yathāyaṃ bhikkhunī āhā’’ti? ‘‘Yathā maṃ, bhante, bhagavā jānātī’’ti. Dutiyampi kho bhagavā…pe… tatiyampi kho bhagavā āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ etadavoca – ‘‘sarasi tvaṃ, dabba, evarūpaṃ kattā yathāyaṃ bhikkhunī āhā’’ti? ‘‘Yathā maṃ, bhante, bhagavā jānātī’’ti. ‘‘Na kho, dabba, dabbā evaṃ nibbeṭhenti. Sace tayā kataṃ katanti vadehi, sace tayā akataṃ akatanti vadehī’’ti. ‘‘Yato ahaṃ, bhante, jāto nābhijānāmi supinantenapi methunaṃ dhammaṃ paṭisevitā, pageva jāgaro’’ti! Atha kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘tena hi, bhikkhave, mettiyaṃ bhikkhuniṃ nāsetha . Ime ca bhikkhū anuyuñjathā’’ti. Idaṃ vatvā bhagavā uṭṭhāyāsanā vihāraṃ pāvisi.
อถ โข เต ภิกฺขู เมตฺติยํ ภิกฺขุนิํ นาเสสุํฯ อถ โข เมตฺติยภูมชกา ภิกฺขู เต ภิกฺขู เอตทโวจุํ – ‘‘มาวุโส, เมตฺติยํ ภิกฺขุนิํ นาเสถฯ น สา กิญฺจิ อปรชฺฌติฯ อเมฺหหิ สา อุสฺสาหิตา กุปิเตหิ อนตฺตมเนหิ จาวนาธิปฺปาเยหี’’ติฯ ‘‘กิํ ปน ตุเมฺห, อาวุโส, อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อมูลเกน ปาราชิเกน ธเมฺมน อนุทฺธํเสถา’’ติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม เมตฺติยภูมชกา ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อมูลเกน ปาราชิเกน ธเมฺมน อนุทฺธํเสสฺสนฺตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู เมตฺติยภูมชเก ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อมูลเกน ปาราชิเกน ธเมฺมน อนุทฺธํเสถา’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… ‘‘กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อมูลเกน ปาราชิเกน ธเมฺมน อนุทฺธํเสสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
Atha kho te bhikkhū mettiyaṃ bhikkhuniṃ nāsesuṃ. Atha kho mettiyabhūmajakā bhikkhū te bhikkhū etadavocuṃ – ‘‘māvuso, mettiyaṃ bhikkhuniṃ nāsetha. Na sā kiñci aparajjhati. Amhehi sā ussāhitā kupitehi anattamanehi cāvanādhippāyehī’’ti. ‘‘Kiṃ pana tumhe, āvuso, āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ amūlakena pārājikena dhammena anuddhaṃsethā’’ti? ‘‘Evamāvuso’’ti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma mettiyabhūmajakā bhikkhū āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ amūlakena pārājikena dhammena anuddhaṃsessantī’’ti! Atha kho te bhikkhū mettiyabhūmajake bhikkhū anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, dabbaṃ mallaputtaṃ amūlakena pārājikena dhammena anuddhaṃsethā’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… ‘‘kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, dabbaṃ mallaputtaṃ amūlakena pārājikena dhammena anuddhaṃsessatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๓๘๕. โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ทุโฎฺฐ โทโส อปฺปตีโต อมูลเกน ปาราชิเกน ธเมฺมน อนุทฺธํเสยฺย – ‘อเปฺปว นาม นํ อิมมฺหา พฺรหฺมจริยา จาเวยฺย’นฺติ, ตโต อปเรน สมเยน สมนุคฺคาหียมาโน วา อสมนุคฺคาหียมาโน วา อมูลกเญฺจว ตํ อธิกรณํ โหติ ภิกฺขุ จ โทสํ ปติฎฺฐาติ, สงฺฆาทิเสโส’’ติฯ
385.Yo pana bhikkhu bhikkhuṃ duṭṭho doso appatīto amūlakena pārājikena dhammena anuddhaṃseyya – ‘appeva nāma naṃ imamhā brahmacariyā cāveyya’nti, tato aparena samayena samanuggāhīyamāno vā asamanuggāhīyamāno vā amūlakañceva taṃ adhikaraṇaṃ hoti bhikkhu ca dosaṃ patiṭṭhāti, saṅghādiseso’’ti.
๓๘๖. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ
386.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.
ภิกฺขุนฺติ อญฺญํ ภิกฺขุํฯ
Bhikkhunti aññaṃ bhikkhuṃ.
ทุโฎฺฐ โทโสติ กุปิโต อนตฺตมโน อนภิรโทฺธ อาหตจิโตฺต ขิลชาโตฯ
Duṭṭho dosoti kupito anattamano anabhiraddho āhatacitto khilajāto.
อปฺปตีโตติ เตน จ โกเปน เตน จ โทเสน ตาย จ อนตฺตมนตาย ตาย จ อนภิรทฺธิยา อปฺปตีโต โหติฯ
Appatītoti tena ca kopena tena ca dosena tāya ca anattamanatāya tāya ca anabhiraddhiyā appatīto hoti.
อมูลกํ นาม อทิฎฺฐํ อสุตํ อปริสงฺกิตํฯ
Amūlakaṃ nāma adiṭṭhaṃ asutaṃ aparisaṅkitaṃ.
ปาราชิเกน ธเมฺมนาติ จตุนฺนํ อญฺญตเรนฯ
Pārājikena dhammenāti catunnaṃ aññatarena.
อนุทฺธํเสยฺยาติ โจเทติ วา โจทาเปติ วาฯ
Anuddhaṃseyyāti codeti vā codāpeti vā.
อเปฺปว นาม นํ อิมมฺหา พฺรหฺมจริยา จาเวยฺยนฺติ ภิกฺขุภาวา จาเวยฺยํ, สมณธมฺมา จาเวยฺยํ, สีลกฺขนฺธา จาเวยฺยํ, ตโปคุณา จาเวยฺยํฯ
Appeva nāma naṃ imamhā brahmacariyā cāveyyanti bhikkhubhāvā cāveyyaṃ, samaṇadhammā cāveyyaṃ, sīlakkhandhā cāveyyaṃ, tapoguṇā cāveyyaṃ.
ตโต อปเรน สมเยนาติ ยสฺมิํ ขเณ อนุทฺธํสิโต โหติ ตํ ขณํ ตํ ลยํ ตํ มุหุตฺตํ วีติวเตฺตฯ
Tatoaparena samayenāti yasmiṃ khaṇe anuddhaṃsito hoti taṃ khaṇaṃ taṃ layaṃ taṃ muhuttaṃ vītivatte.
สมนุคฺคาหียมาโนติ เยน วตฺถุนา อนุทฺธํสิโต โหติ ตสฺมิํ วตฺถุสฺมิํ สมนุคฺคาหียมาโนฯ
Samanuggāhīyamānoti yena vatthunā anuddhaṃsito hoti tasmiṃ vatthusmiṃ samanuggāhīyamāno.
อสมนุคฺคาหียมาโนติ น เกนจิ วุจฺจมาโนฯ
Asamanuggāhīyamānoti na kenaci vuccamāno.
อธิกรณํ นาม จตฺตาริ อธิกรณานิ – วิวาทาธิกรณํ, อนุวาทาธิกรณํ, อาปตฺตาธิกรณํ, กิจฺจาธิกรณํฯ
Adhikaraṇaṃ nāma cattāri adhikaraṇāni – vivādādhikaraṇaṃ, anuvādādhikaraṇaṃ, āpattādhikaraṇaṃ, kiccādhikaraṇaṃ.
ภิกฺขุ จ โทสํ ปติฎฺฐาตีติ ตุจฺฉกํ มยา ภณิตํ, มุสา มยา ภณิตํ, อภูตํ มยา ภณิตํ, อชานเนฺตน มยา ภณิตํฯ
Bhikkhu ca dosaṃ patiṭṭhātīti tucchakaṃ mayā bhaṇitaṃ, musā mayā bhaṇitaṃ, abhūtaṃ mayā bhaṇitaṃ, ajānantena mayā bhaṇitaṃ.
สงฺฆาทิเสโสติ…เป.… เตนปิ วุจฺจติ สงฺฆาทิเสโสติฯ
Saṅghādisesoti…pe… tenapi vuccati saṅghādisesoti.
๓๘๗. อทิฎฺฐสฺส โหติ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชโนฺตฯ ตเญฺจ โจเทติ – ‘‘ทิโฎฺฐ มยา, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ, อสกฺยปุตฺติโยสิ, นตฺถิ ตยา สทฺธิํ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
387. Adiṭṭhassa hoti pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpajjanto. Tañce codeti – ‘‘diṭṭho mayā, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi, asakyaputtiyosi, natthi tayā saddhiṃ uposatho vā pavāraṇā vā saṅghakammaṃ vā’’ti, āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
อสุตสฺส โหติ – ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺน’’ติฯ ตเญฺจ โจเทติ – ‘‘สุโต มยา, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ, อสกฺยปุตฺติโยสิ, นตฺถิ ตยา สทฺธิํ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Asutassa hoti – ‘‘pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno’’ti. Tañce codeti – ‘‘suto mayā, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi, asakyaputtiyosi, natthi tayā saddhiṃ uposatho vā pavāraṇā vā saṅghakammaṃ vā’’ti, āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
อปริสงฺกิตสฺส โหติ – ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺน’’ติฯ ตเญฺจ โจเทติ – ‘‘ปริสงฺกิโต มยา, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ, อสกฺยปุตฺติโยสิ, นตฺถิ ตยา สทฺธิํ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Aparisaṅkitassa hoti – ‘‘pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno’’ti. Tañce codeti – ‘‘parisaṅkito mayā, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi, asakyaputtiyosi, natthi tayā saddhiṃ uposatho vā pavāraṇā vā saṅghakammaṃ vā’’ti, āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
อทิฎฺฐสฺส โหติ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชโนฺตฯ ตเญฺจ โจเทติ – ‘‘ทิโฎฺฐ มยา สุโต จ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ’’…เป.… อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Adiṭṭhassa hoti pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpajjanto. Tañce codeti – ‘‘diṭṭho mayā suto ca, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi’’…pe… āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
อทิฎฺฐสฺส โหติ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชโนฺตฯ ตเญฺจ โจเทติ – ‘‘ทิโฎฺฐ มยา ปริสงฺกิโต จ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ’’…เป.… อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Adiṭṭhassa hoti pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpajjanto. Tañce codeti – ‘‘diṭṭho mayā parisaṅkito ca, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi’’…pe… āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
อทิฎฺฐสฺส โหติ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชโนฺตฯ ตเญฺจ โจเทติ – ‘‘ทิโฎฺฐ มยา สุโต จ ปริสงฺกิโต จ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ’’…เป.… อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Adiṭṭhassa hoti pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpajjanto. Tañce codeti – ‘‘diṭṭho mayā suto ca parisaṅkito ca, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi’’…pe… āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
อสุตสฺส โหติ – ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺน’’ติฯ ตเญฺจ โจเทติ – ‘‘สุโต มยา ปริสงฺกิโต จ…เป.… สุโต มยา ทิโฎฺฐ จ…เป.… สุโต มยา ปริสงฺกิโต จ ทิโฎฺฐ จ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ’’…เป.… อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Asutassa hoti – ‘‘pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno’’ti. Tañce codeti – ‘‘suto mayā parisaṅkito ca…pe… suto mayā diṭṭho ca…pe… suto mayā parisaṅkito ca diṭṭho ca, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi’’…pe… āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
อปริสงฺกิตสฺส โหติ – ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺน’’ติฯ ตเญฺจ โจเทติ – ‘‘ปริสงฺกิโต มยา ทิโฎฺฐ จ…เป.… ปริสงฺกิโต มยา สุโต จ…เป.… ปริสงฺกิโต มยา ทิโฎฺฐ จ สุโต จ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ’’…เป.… อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Aparisaṅkitassa hoti – ‘‘pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno’’ti. Tañce codeti – ‘‘parisaṅkito mayā diṭṭho ca…pe… parisaṅkito mayā suto ca…pe… parisaṅkito mayā diṭṭho ca suto ca, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi’’…pe… āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
ทิฎฺฐสฺส โหติ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชโนฺตฯ ตเญฺจ โจเทติ – ‘‘สุโต มยา ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ’’…เป.… อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Diṭṭhassa hoti pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpajjanto. Tañce codeti – ‘‘suto mayā pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi’’…pe… āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
ทิฎฺฐสฺส โหติ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชโนฺตฯ ตเญฺจ โจเทติ – ‘‘ปริสงฺกิโต มยา, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ’’…เป.… ‘‘สุโต มยา ปริสงฺกิโต จ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ’’…เป.… อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Diṭṭhassa hoti pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpajjanto. Tañce codeti – ‘‘parisaṅkito mayā, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi’’…pe… ‘‘suto mayā parisaṅkito ca, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi’’…pe… āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
สุตสฺส โหติ – ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺน’’ติฯ ตเญฺจ โจเทติ – ‘‘ปริสงฺกิโต มยา, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ…เป.… ทิโฎฺฐ มยา, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ…เป.… ปริสงฺกิโต มยา ทิโฎฺฐ จ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ’’…เป.… อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Sutassa hoti – ‘‘pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno’’ti. Tañce codeti – ‘‘parisaṅkito mayā, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi…pe… diṭṭho mayā, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi…pe… parisaṅkito mayā diṭṭho ca, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi’’…pe… āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
ปริสงฺกิตสฺส โหติ – ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺน’’ติฯ ตเญฺจ โจเทติ – ‘‘ทิโฎฺฐ มยา, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ…เป.… สุโต มยา, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ…เป.… ทิโฎฺฐ มยา สุโต จ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ, อสกฺยปุตฺติโยสิ’’…เป.… อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Parisaṅkitassa hoti – ‘‘pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno’’ti. Tañce codeti – ‘‘diṭṭho mayā, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi…pe… suto mayā, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi…pe… diṭṭho mayā suto ca, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi, asakyaputtiyosi’’…pe… āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
ทิฎฺฐสฺส โหติ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชโนฺตฯ ทิเฎฺฐ เวมติโก ทิฎฺฐํ โน กเปฺปติ ทิฎฺฐํ นสฺสรติ ทิฎฺฐํ ปมุโฎฺฐ โหติ…เป.… สุเต เวมติโก สุตํ โน กเปฺปติ สุตํ นสฺสรติ สุตํ ปมุโฎฺฐ โหติ…เป.… ปริสงฺกิเต เวมติโก ปริสงฺกิตํ โน กเปฺปติ ปริสงฺกิตํ นสฺสรติ ปริสงฺกิตํ ปมุโฎฺฐ โหติฯ ตเญฺจ โจเทติ – ‘‘ปริสงฺกิโต มยา ทิโฎฺฐ จ…เป.… ปริสงฺกิโต มยา สุโต จ…เป.… ปริสงฺกิโต มยา ทิโฎฺฐ จ สุโต จ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ, อสกฺยปุตฺติโยสิ, นตฺถิ ตยา สทฺธิํ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Diṭṭhassa hoti pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpajjanto. Diṭṭhe vematiko diṭṭhaṃ no kappeti diṭṭhaṃ nassarati diṭṭhaṃ pamuṭṭho hoti…pe… sute vematiko sutaṃ no kappeti sutaṃ nassarati sutaṃ pamuṭṭho hoti…pe… parisaṅkite vematiko parisaṅkitaṃ no kappeti parisaṅkitaṃ nassarati parisaṅkitaṃ pamuṭṭho hoti. Tañce codeti – ‘‘parisaṅkito mayā diṭṭho ca…pe… parisaṅkito mayā suto ca…pe… parisaṅkito mayā diṭṭho ca suto ca, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi, asakyaputtiyosi, natthi tayā saddhiṃ uposatho vā pavāraṇā vā saṅghakammaṃ vā’’ti, āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
๓๘๘. อทิฎฺฐสฺส โหติ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชโนฺตฯ ตเญฺจ โจทาเปติ – ‘‘ทิโฎฺฐสิ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ, อสกฺยปุตฺติโยสิ, นตฺถิ ตยา สทฺธิํ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
388. Adiṭṭhassa hoti pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpajjanto. Tañce codāpeti – ‘‘diṭṭhosi, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi, asakyaputtiyosi, natthi tayā saddhiṃ uposatho vā pavāraṇā vā saṅghakammaṃ vā’’ti, āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
อสุตสฺส โหติ – ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺน’’ติ…เป.… อปริสงฺกิตสฺส โหติ – ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺน’’ติฯ ตเญฺจ โจทาเปติ – ‘‘ปริสงฺกิโตสิ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ’’…เป.… อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Asutassa hoti – ‘‘pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno’’ti…pe… aparisaṅkitassa hoti – ‘‘pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno’’ti. Tañce codāpeti – ‘‘parisaṅkitosi, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi’’…pe… āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
อทิฎฺฐสฺส โหติ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชโนฺตฯ ตเญฺจ โจทาเปติ – ‘‘ทิโฎฺฐสิ สุโตสิ…เป.… ทิโฎฺฐสิ ปริสงฺกิโตสิ…เป.… ทิโฎฺฐสิ สุโตสิ ปริสงฺกิโตสิ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ’’…เป.… อสุตสฺส โหติ – ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺน’’ติ…เป.… อปริสงฺกิตสฺส โหติ – ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺน’’ติฯ ตเญฺจ โจทาเปติ – ‘‘ปริสงฺกิโตสิ, ทิโฎฺฐสิ…เป.… ปริสงฺกิโตสิ, สุโตสิ…เป.… ปริสงฺกิโตสิ, ทิโฎฺฐสิ, สุโตสิ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ’’…เป.… อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Adiṭṭhassa hoti pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpajjanto. Tañce codāpeti – ‘‘diṭṭhosi sutosi…pe… diṭṭhosi parisaṅkitosi…pe… diṭṭhosi sutosi parisaṅkitosi, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi’’…pe… asutassa hoti – ‘‘pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno’’ti…pe… aparisaṅkitassa hoti – ‘‘pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno’’ti. Tañce codāpeti – ‘‘parisaṅkitosi, diṭṭhosi…pe… parisaṅkitosi, sutosi…pe… parisaṅkitosi, diṭṭhosi, sutosi, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi’’…pe… āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
ทิฎฺฐสฺส โหติ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชโนฺตฯ ตเญฺจ โจทาเปติ – ‘‘สุโตสิ’’…เป.… ตเญฺจ โจทาเปติ – ‘‘ปริสงฺกิโตสิ’’…เป.… ตเญฺจ โจทาเปติ – ‘‘สุโตสิ, ปริสงฺกิโตสิ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ’’…เป.… อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Diṭṭhassa hoti pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpajjanto. Tañce codāpeti – ‘‘sutosi’’…pe… tañce codāpeti – ‘‘parisaṅkitosi’’…pe… tañce codāpeti – ‘‘sutosi, parisaṅkitosi, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi’’…pe… āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
สุตสฺส โหติ – ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺน’’ติ…เป.… ปริสงฺกิตสฺส โหติ – ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺน’’ติฯ ตเญฺจ ‘‘ทิโฎฺฐสิ’’…เป.… ตเญฺจ โจทาเปติ – ‘‘สุโตสิ’’…เป.… ตเญฺจ โจทาเปติ – ‘‘ทิโฎฺฐสิ, สุโตสิ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ’’…เป.… อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Sutassa hoti – ‘‘pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno’’ti…pe… parisaṅkitassa hoti – ‘‘pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno’’ti. Tañce ‘‘diṭṭhosi’’…pe… tañce codāpeti – ‘‘sutosi’’…pe… tañce codāpeti – ‘‘diṭṭhosi, sutosi, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi’’…pe… āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
ทิฎฺฐสฺส โหติ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชโนฺตฯ ทิเฎฺฐ เวมติโก ทิฎฺฐํ โน กเปฺปติ ทิฎฺฐํ นสฺสรติ ทิฎฺฐํ ปมุโฎฺฐ โหติ…เป.… สุเต เวมติโก สุตํ โน กเปฺปติ สุตํ นสฺสรติ สุตํ ปมุโฎฺฐ โหติ…เป.… ปริสงฺกิเต เวมติโก ปริสงฺกิตํ โน กเปฺปติ ปริสงฺกิตํ นสฺสรติ ปริสงฺกิตํ ปมุโฎฺฐ โหติฯ ตเญฺจ โจทาเปติ – ‘‘ปริสงฺกิโตสิ, ทิโฎฺฐสิ’’…เป.… ปริสงฺกิตํ ปมุโฎฺฐ โหติ, ตเญฺจ โจทาเปติ – ‘‘ปริสงฺกิโตสิ สุโตสิ’’…เป.… ปริสงฺกิตํ ปมุโฎฺฐ โหติ, ตเญฺจ โจทาเปติ – ‘‘ปริสงฺกิโตสิ, ทิโฎฺฐสิ, สุโตสิ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนสิ, อสฺสมโณสิ, อสกฺยปุตฺติโยสิ, นตฺถิ ตยา สทฺธิํ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Diṭṭhassa hoti pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpajjanto. Diṭṭhe vematiko diṭṭhaṃ no kappeti diṭṭhaṃ nassarati diṭṭhaṃ pamuṭṭho hoti…pe… sute vematiko sutaṃ no kappeti sutaṃ nassarati sutaṃ pamuṭṭho hoti…pe… parisaṅkite vematiko parisaṅkitaṃ no kappeti parisaṅkitaṃ nassarati parisaṅkitaṃ pamuṭṭho hoti. Tañce codāpeti – ‘‘parisaṅkitosi, diṭṭhosi’’…pe… parisaṅkitaṃ pamuṭṭho hoti, tañce codāpeti – ‘‘parisaṅkitosi sutosi’’…pe… parisaṅkitaṃ pamuṭṭho hoti, tañce codāpeti – ‘‘parisaṅkitosi, diṭṭhosi, sutosi, pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpannosi, assamaṇosi, asakyaputtiyosi, natthi tayā saddhiṃ uposatho vā pavāraṇā vā saṅghakammaṃ vā’’ti, āpatti vācāya, vācāya saṅghādisesassa.
๓๘๙. อสุเทฺธ สุทฺธทิฎฺฐิ, สุเทฺธ อสุทฺธทิฎฺฐิ, อสุเทฺธ อสุทฺธทิฎฺฐิ, สุเทฺธ สุทฺธทิฎฺฐิฯ
389. Asuddhe suddhadiṭṭhi, suddhe asuddhadiṭṭhi, asuddhe asuddhadiṭṭhi, suddhe suddhadiṭṭhi.
อสุโทฺธ โหติ ปุคฺคโล อญฺญตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนฯ ตเญฺจ สุทฺธทิฎฺฐิ สมาโน อโนกาสํ การาเปตฺวา จาวนาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสเสน ทุกฺกฎสฺสฯ
Asuddho hoti puggalo aññataraṃ pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno. Tañce suddhadiṭṭhi samāno anokāsaṃ kārāpetvā cāvanādhippāyo vadeti, āpatti saṅghādisesena dukkaṭassa.
อสุโทฺธ โหติ ปุคฺคโล อญฺญตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนฯ ตเญฺจ สุทฺธทิฎฺฐิ สมาโน โอกาสํ การาเปตฺวา จาวนาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Asuddho hoti puggalo aññataraṃ pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno. Tañce suddhadiṭṭhi samāno okāsaṃ kārāpetvā cāvanādhippāyo vadeti, āpatti saṅghādisesassa.
อสุโทฺธ โหติ ปุคฺคโล อญฺญตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนฯ ตเญฺจ สุทฺธทิฎฺฐิ สมาโน อโนกาสํ การาเปตฺวา อโกฺกสาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ โอมสวาเทน ทุกฺกฎสฺสฯ
Asuddho hoti puggalo aññataraṃ pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno. Tañce suddhadiṭṭhi samāno anokāsaṃ kārāpetvā akkosādhippāyo vadeti, āpatti omasavādena dukkaṭassa.
อสุโทฺธ โหติ ปุคฺคโล อญฺญตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนฯ ตเญฺจ สุทฺธทิฎฺฐิ สมาโน โอกาสํ การาเปตฺวา อโกฺกสาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ โอมสวาทสฺสฯ
Asuddho hoti puggalo aññataraṃ pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno. Tañce suddhadiṭṭhi samāno okāsaṃ kārāpetvā akkosādhippāyo vadeti, āpatti omasavādassa.
สุโทฺธ โหติ ปุคฺคโล อญฺญตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อนชฺฌาปโนฺนฯ ตเญฺจ อสุทฺธทิฎฺฐิ สมาโน อโนกาสํ การาเปตฺวา จาวนาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Suddho hoti puggalo aññataraṃ pārājikaṃ dhammaṃ anajjhāpanno. Tañce asuddhadiṭṭhi samāno anokāsaṃ kārāpetvā cāvanādhippāyo vadeti, āpatti dukkaṭassa.
สุโทฺธ โหติ ปุคฺคโล อญฺญตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อนชฺฌาปโนฺนฯ ตเญฺจ อสุทฺธทิฎฺฐิ สมาโน โอกาสํ การาเปตฺวา จาวนาธิปฺปาโย วเทติ, อนาปตฺติฯ
Suddho hoti puggalo aññataraṃ pārājikaṃ dhammaṃ anajjhāpanno. Tañce asuddhadiṭṭhi samāno okāsaṃ kārāpetvā cāvanādhippāyo vadeti, anāpatti.
สุโทฺธ โหติ ปุคฺคโล อญฺญตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อนชฺฌาปโนฺนฯ ตเญฺจ อสุทฺธทิฎฺฐิ สมาโน อโนกาสํ การาเปตฺวา อโกฺกสาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ โอมสวาเทน ทุกฺกฎสฺสฯ
Suddho hoti puggalo aññataraṃ pārājikaṃ dhammaṃ anajjhāpanno. Tañce asuddhadiṭṭhi samāno anokāsaṃ kārāpetvā akkosādhippāyo vadeti, āpatti omasavādena dukkaṭassa.
สุโทฺธ โหติ ปุคฺคโล อญฺญตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อนชฺฌาปโนฺนฯ ตเญฺจ อสุทฺธทิฎฺฐิ สมาโน โอกาสํ การาเปตฺวา อโกฺกสาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ โอมสวาทสฺสฯ
Suddho hoti puggalo aññataraṃ pārājikaṃ dhammaṃ anajjhāpanno. Tañce asuddhadiṭṭhi samāno okāsaṃ kārāpetvā akkosādhippāyo vadeti, āpatti omasavādassa.
อสุโทฺธ โหติ ปุคฺคโล อญฺญตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนฯ ตเญฺจ อสุทฺธทิฎฺฐิ สมาโน อโนกาสํ การาเปตฺวา จาวนาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Asuddho hoti puggalo aññataraṃ pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno. Tañce asuddhadiṭṭhi samāno anokāsaṃ kārāpetvā cāvanādhippāyo vadeti, āpatti dukkaṭassa.
อสุโทฺธ โหติ ปุคฺคโล อญฺญตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนฯ ตเญฺจ อสุทฺธทิฎฺฐิ สมาโน โอกาสํ การาเปตฺวา จาวนาธิปฺปาโย วเทติ, อนาปตฺติฯ
Asuddho hoti puggalo aññataraṃ pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno. Tañce asuddhadiṭṭhi samāno okāsaṃ kārāpetvā cāvanādhippāyo vadeti, anāpatti.
อสุโทฺธ โหติ ปุคฺคโล อญฺญตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนฯ ตเญฺจ อสุทฺธทิฎฺฐิ สมาโน อโนกาสํ การาเปตฺวา อโกฺกสาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ โอมสวาเทน ทุกฺกฎสฺสฯ
Asuddho hoti puggalo aññataraṃ pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno. Tañce asuddhadiṭṭhi samāno anokāsaṃ kārāpetvā akkosādhippāyo vadeti, āpatti omasavādena dukkaṭassa.
อสุโทฺธ โหติ ปุคฺคโล อญฺญตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺนฯ ตเญฺจ อสุทฺธทิฎฺฐิ สมาโน โอกาสํ การาเปตฺวา อโกฺกสาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ โอมสวาทสฺสฯ
Asuddho hoti puggalo aññataraṃ pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno. Tañce asuddhadiṭṭhi samāno okāsaṃ kārāpetvā akkosādhippāyo vadeti, āpatti omasavādassa.
สุโทฺธ โหติ ปุคฺคโล อญฺญตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อนชฺฌาปโนฺนฯ ตเญฺจ สุทฺธทิฎฺฐิ สมาโน อโนกาสํ การาเปตฺวา จาวนาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสเสน ทุกฺกฎสฺสฯ
Suddho hoti puggalo aññataraṃ pārājikaṃ dhammaṃ anajjhāpanno. Tañce suddhadiṭṭhi samāno anokāsaṃ kārāpetvā cāvanādhippāyo vadeti, āpatti saṅghādisesena dukkaṭassa.
สุโทฺธ โหติ ปุคฺคโล อญฺญตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อนชฺฌาปโนฺนฯ ตเญฺจ สุทฺธทิฎฺฐิ สมาโน โอกาสํ การาเปตฺวา จาวนาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสฯ
Suddho hoti puggalo aññataraṃ pārājikaṃ dhammaṃ anajjhāpanno. Tañce suddhadiṭṭhi samāno okāsaṃ kārāpetvā cāvanādhippāyo vadeti, āpatti saṅghādisesassa.
สุโทฺธ โหติ ปุคฺคโล อญฺญตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อนชฺฌาปโนฺนฯ ตเญฺจ สุทฺธทิฎฺฐิ สมาโน อโนกาสํ การาเปตฺวา อโกฺกสาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ โอมสวาเทน ทุกฺกฎสฺสฯ
Suddho hoti puggalo aññataraṃ pārājikaṃ dhammaṃ anajjhāpanno. Tañce suddhadiṭṭhi samāno anokāsaṃ kārāpetvā akkosādhippāyo vadeti, āpatti omasavādena dukkaṭassa.
สุโทฺธ โหติ ปุคฺคโล อญฺญตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อนชฺฌาปโนฺน ตเญฺจ สุทฺธทิฎฺฐิ สมาโน โอกาสํ การาเปตฺวา อโกฺกสาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ โอมสวาทสฺสฯ
Suddho hoti puggalo aññataraṃ pārājikaṃ dhammaṃ anajjhāpanno tañce suddhadiṭṭhi samāno okāsaṃ kārāpetvā akkosādhippāyo vadeti, āpatti omasavādassa.
๓๙๐. อนาปตฺติ สุเทฺธ อสุทฺธทิฎฺฐิสฺส, อสุเทฺธ อสุทฺธทิฎฺฐิสฺส, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
390. Anāpatti suddhe asuddhadiṭṭhissa, asuddhe asuddhadiṭṭhissa, ummattakassa, ādikammikassāti.
ทุฎฺฐโทสสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ อฎฺฐมํฯ
Duṭṭhadosasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ aṭṭhamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๘. ปฐมทุฎฺฐโทสสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Paṭhamaduṭṭhadosasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๘. ปฐมทุฎฺฐโทสสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Paṭhamaduṭṭhadosasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๘. ปฐมทุฎฺฐโทสสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Paṭhamaduṭṭhadosasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๘. ปฐมทุฎฺฐโทสสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Paṭhamaduṭṭhadosasikkhāpadavaṇṇanā