Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā |
๙. ทุฎฺฐุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา
9. Duṭṭhullārocanasikkhāpadavaṇṇanā
๗๘. นวมสิกฺขาปเท – ทุฎฺฐุลฺลา นาม อาปตฺติ จตฺตาริ จ ปาราชิกานิ เตรส จ สงฺฆาทิเสสาติ อิมิสฺสา ปาฬิยา ‘‘ปาราชิกานิ ทุฎฺฐุลฺลสทฺทตฺถทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ, สงฺฆาทิเสสํ ปน อิธ อธิเปฺปต’’นฺติ อฎฺฐกถาสุ วุตฺตํฯ ตตฺรายํ วิจารณา – สเจ ปาราชิกํ อาโรเจนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ น ภเวยฺย, ยถา สมาเนปิ ภิกฺขุ-ภิกฺขุนีนํ อุปสมฺปนฺนสเทฺท ยตฺถ ภิกฺขุนี อนธิเปฺปตา โหติ, ตตฺถ ภิกฺขุํ ฐเปตฺวา อวเสโส อนุปสมฺปโนฺนติ วุจฺจติ; เอวมิธ สมาเนปิ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสานํ ทุฎฺฐุลฺลสเทฺท ยทิ ปาราชิกํ อนธิเปฺปตํ, ‘‘ทุฎฺฐุลฺลา นาม อาปตฺติ เตรส สงฺฆาทิเสสา’’ติ เอตเทว วตฺตพฺพํ สิยาฯ ตตฺถ ภเวยฺย ‘‘โย ปาราชิกํ อาปโนฺน, โส ภิกฺขุภาวโต จุโต, ตสฺมา ตสฺส อาปตฺติํ อาโรเจโนฺต ทุกฺกฎํ อาปชฺชตี’’ติฯ เอวํ สติ อโกฺกสโนฺตปิ ทุกฺกฎํ อาปเชฺชยฺย, ปาจิตฺติยเมว จ อาปชฺชติฯ วุตฺตเญฺหตํ – ‘‘อสุโทฺธ โหติ ปุคฺคโล อญฺญตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปโนฺน, ตเญฺจ อสุทฺธทิฎฺฐิ สมาโน โอกาสํ การาเปตฺวา อโกฺกสาธิปฺปาโย วทติ, อาปตฺติ โอมสวาทสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๘๙)ฯ เอวํ ปาฬิยา วิจาริยมานาย ปาราชิกํ อาโรเจนฺตสฺสาปิ ปาจิตฺติยเมว ทิสฺสติฯ กิญฺจาปิ ทิสฺสติ, อถ โข สพฺพอฎฺฐกถาสุ วุตฺตตฺตา อฎฺฐกถาจริยาว เอตฺถ ปมาณํ, น อญฺญา วิจารณาฯ ปุเพฺพปิ จ อาโวจุมฺห – ‘‘พุเทฺธน ธโมฺม วินโย จ วุโตฺต, โย ตสฺส ปุเตฺตหิ ตเถว ญาโต’’ติอาทิ (ปารา. อฎฺฐ. ๑.คนฺถารมฺภกถา)ฯ อฎฺฐกถาจริยา หิ พุทฺธสฺส อธิปฺปายํ ชานนฺติฯ
78. Navamasikkhāpade – duṭṭhullā nāma āpatti cattāri ca pārājikāni terasa ca saṅghādisesāti imissā pāḷiyā ‘‘pārājikāni duṭṭhullasaddatthadassanatthaṃ vuttāni, saṅghādisesaṃ pana idha adhippeta’’nti aṭṭhakathāsu vuttaṃ. Tatrāyaṃ vicāraṇā – sace pārājikaṃ ārocentassa pācittiyaṃ na bhaveyya, yathā samānepi bhikkhu-bhikkhunīnaṃ upasampannasadde yattha bhikkhunī anadhippetā hoti, tattha bhikkhuṃ ṭhapetvā avaseso anupasampannoti vuccati; evamidha samānepi pārājikasaṅghādisesānaṃ duṭṭhullasadde yadi pārājikaṃ anadhippetaṃ, ‘‘duṭṭhullā nāma āpatti terasa saṅghādisesā’’ti etadeva vattabbaṃ siyā. Tattha bhaveyya ‘‘yo pārājikaṃ āpanno, so bhikkhubhāvato cuto, tasmā tassa āpattiṃ ārocento dukkaṭaṃ āpajjatī’’ti. Evaṃ sati akkosantopi dukkaṭaṃ āpajjeyya, pācittiyameva ca āpajjati. Vuttañhetaṃ – ‘‘asuddho hoti puggalo aññataraṃ pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpanno, tañce asuddhadiṭṭhi samāno okāsaṃ kārāpetvā akkosādhippāyo vadati, āpatti omasavādassā’’ti (pārā. 389). Evaṃ pāḷiyā vicāriyamānāya pārājikaṃ ārocentassāpi pācittiyameva dissati. Kiñcāpi dissati, atha kho sabbaaṭṭhakathāsu vuttattā aṭṭhakathācariyāva ettha pamāṇaṃ, na aññā vicāraṇā. Pubbepi ca āvocumha – ‘‘buddhena dhammo vinayo ca vutto, yo tassa puttehi tatheva ñāto’’tiādi (pārā. aṭṭha. 1.ganthārambhakathā). Aṭṭhakathācariyā hi buddhassa adhippāyaṃ jānanti.
อิมินาปิ เจตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํฯ อญฺญตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยาติ หิ วุตฺตํฯ ภิกฺขุสมฺมุติยา จ อาโรจนํ อายติํ สํวรตฺถาย ปุน ตถารูปํ อาปตฺติํ อนาปชฺชนตฺถาย ภควตา อนุญฺญาตํ, น ตสฺส ภิกฺขุโน อวณฺณมตฺตปฺปกาสนตฺถาย, สาสเน จสฺส ปติฎฺฐานิเสธนตฺถาย , น จ ปาราชิกํ อาปนฺนสฺส ปุน ตถารูปาย อาปตฺติยา อนาปชฺชเนน ภิกฺขุภาโว นาม อตฺถิฯ ตสฺมา ‘‘ปาราชิกานิ ทุฎฺฐุลฺลสทฺทตฺถทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ, สงฺฆาทิเสสํ ปน อิธาธิเปฺปต’’นฺติ ยํ อฎฺฐกถาสุ วุตฺตํ, ตํ สุวุตฺตเมวฯ
Imināpi cetaṃ pariyāyena veditabbaṃ. Aññatra bhikkhusammutiyāti hi vuttaṃ. Bhikkhusammutiyā ca ārocanaṃ āyatiṃ saṃvaratthāya puna tathārūpaṃ āpattiṃ anāpajjanatthāya bhagavatā anuññātaṃ, na tassa bhikkhuno avaṇṇamattappakāsanatthāya, sāsane cassa patiṭṭhānisedhanatthāya , na ca pārājikaṃ āpannassa puna tathārūpāya āpattiyā anāpajjanena bhikkhubhāvo nāma atthi. Tasmā ‘‘pārājikāni duṭṭhullasaddatthadassanatthaṃ vuttāni, saṅghādisesaṃ pana idhādhippeta’’nti yaṃ aṭṭhakathāsu vuttaṃ, taṃ suvuttameva.
๘๐. อตฺถิ ภิกฺขุสมฺมุติ อาปตฺติปริยนฺตาติอาทีสุ ปน ยา อยํ ภิกฺขุสมฺมุติ วุตฺตา, สา น กตฺถจิ อาคตา, อิธ วุตฺตตฺตาเยว ปน อภิณฺหาปตฺติกํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา เอวเมส ปเรสุ หิโรตฺตเปฺปนาปิ อายติํ สํวรํ อาปชฺชิสฺสตีติ ตสฺส ภิกฺขุโน หิเตสิตาย ติกฺขตฺตุํ อปโลเกตฺวา สเงฺฆน กาตพฺพาติ เวทิตพฺพาติฯ
80.Atthibhikkhusammuti āpattipariyantātiādīsu pana yā ayaṃ bhikkhusammuti vuttā, sā na katthaci āgatā, idha vuttattāyeva pana abhiṇhāpattikaṃ bhikkhuṃ disvā evamesa paresu hirottappenāpi āyatiṃ saṃvaraṃ āpajjissatīti tassa bhikkhuno hitesitāya tikkhattuṃ apaloketvā saṅghena kātabbāti veditabbāti.
๘๒. อทุฎฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อาโรเจติ อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสาติ ปญฺจปิ อาปตฺติกฺขเนฺธ อาโรเจนฺตสฺส ทุกฺกฎํฯ มหาปจฺจริยํ ปน ปาราชิกํ อาโรเจนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฎเมว วุตฺตํฯ อนุปสมฺปนฺนสฺส ทุฎฺฐุลฺลํ วา อทุฎฺฐุลฺลํ วา อชฺฌาจารนฺติ เอตฺถ อาทิโต ปญฺจ สิกฺขาปทานิ ทุฎฺฐุโลฺล นาม อชฺฌาจาโร, เสสานิ อทุฎฺฐุโลฺลฯ สุกฺกวิสฺสฎฺฐิกายสํสคฺคทุฎฺฐุลฺลอตฺตกามา ปนสฺส อชฺฌาจาโร นามาติ วุตฺตํฯ
82.Aduṭṭhullaṃ āpattiṃ āroceti āpatti dukkaṭassāti pañcapi āpattikkhandhe ārocentassa dukkaṭaṃ. Mahāpaccariyaṃ pana pārājikaṃ ārocentassāpi dukkaṭameva vuttaṃ. Anupasampannassa duṭṭhullaṃ vā aduṭṭhullaṃ vā ajjhācāranti ettha ādito pañca sikkhāpadāni duṭṭhullo nāma ajjhācāro, sesāni aduṭṭhullo. Sukkavissaṭṭhikāyasaṃsaggaduṭṭhullaattakāmā panassa ajjhācāro nāmāti vuttaṃ.
๘๓. วตฺถุํ อาโรเจตีติ ‘‘อยํ สุกฺกวิสฺสฎฺฐิํ อาปโนฺน, ทุฎฺฐุลฺลํ อาปโนฺน, อตฺตกามํ อาปโนฺน’’ กายสํสคฺคํ อาปโนฺนติ เอวํ วทนฺตสฺส อนาปตฺติฯ อาปตฺติํ อาโรเจตีติ เอตฺถ ‘‘อยํ ปาราชิกํ อาปโนฺน, สงฺฆาทิเสสํ ถุลฺลจฺจยํ ปาจิตฺติยํ ปาฎิเทสนียํ ทุกฺกฎํ ทุพฺภาสิตํ อาปโนฺน’’ติ วทติ อนาปตฺติฯ ‘‘อยํ อสุจิํ โมเจตฺวา สงฺฆาทิเสสํ อาปโนฺน’’ติอาทินา ปน นเยน วตฺถุนา สทฺธิํ อาปตฺติํ ฆเฎตฺวา อาโรเจนฺตเสฺสว อาปตฺติฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวฯ
83.Vatthuṃ ārocetīti ‘‘ayaṃ sukkavissaṭṭhiṃ āpanno, duṭṭhullaṃ āpanno, attakāmaṃ āpanno’’ kāyasaṃsaggaṃ āpannoti evaṃ vadantassa anāpatti. Āpattiṃ ārocetīti ettha ‘‘ayaṃ pārājikaṃ āpanno, saṅghādisesaṃ thullaccayaṃ pācittiyaṃ pāṭidesanīyaṃ dukkaṭaṃ dubbhāsitaṃ āpanno’’ti vadati anāpatti. ‘‘Ayaṃ asuciṃ mocetvā saṅghādisesaṃ āpanno’’tiādinā pana nayena vatthunā saddhiṃ āpattiṃ ghaṭetvā ārocentasseva āpatti. Sesamettha uttānameva.
ติสมุฎฺฐานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฎฺฐาติ, กิริยํ, สญฺญาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติฯ
Tisamuṭṭhānaṃ – kāyacittato vācācittato kāyavācācittato ca samuṭṭhāti, kiriyaṃ, saññāvimokkhaṃ, sacittakaṃ, lokavajjaṃ, kāyakammaṃ, vacīkammaṃ, akusalacittaṃ, dukkhavedananti.
ทุฎฺฐุลฺลาโรจนสิกฺขาปทํ นวมํฯ
Duṭṭhullārocanasikkhāpadaṃ navamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๑. มุสาวาทวโคฺค • 1. Musāvādavaggo
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๙. ทุฎฺฐุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Duṭṭhullārocanasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๙. ทุฎฺฐุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Duṭṭhullārocanasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๙. ทุฎฺฐุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Duṭṭhullārocanasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๙. ทุฎฺฐุลฺลาโรจนสิกฺขาปทํ • 9. Duṭṭhullārocanasikkhāpadaṃ