Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi

    ๑๔๐. เทฺววาจิกาทิปวารณา

    140. Dvevācikādipavāraṇā

    ๒๓๔. เตน โข ปน สมเยน โกสเลสุ ชนปเท อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุ ปวารณาย สวรภยํ อโหสิฯ ภิกฺขู นาสกฺขิํสุ เตวาจิกํ ปวาเรตุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เทฺววาจิกํ ปวาเรตุนฺติฯ

    234. Tena kho pana samayena kosalesu janapade aññatarasmiṃ āvāse tadahu pavāraṇāya savarabhayaṃ ahosi. Bhikkhū nāsakkhiṃsu tevācikaṃ pavāretuṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, dvevācikaṃ pavāretunti.

    พาฬฺหตรํ สวรภยํ อโหสิฯ ภิกฺขู นาสกฺขิํสุ เทฺววาจิกํ ปวาเรตุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอกวาจิกํ ปวาเรตุนฺติฯ

    Bāḷhataraṃ savarabhayaṃ ahosi. Bhikkhū nāsakkhiṃsu dvevācikaṃ pavāretuṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, ekavācikaṃ pavāretunti.

    พาฬฺหตรํ สวรภยํ อโหสิฯ ภิกฺขู นาสกฺขิํสุ เอกวาจิกํ ปวาเรตุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สมานวสฺสิกํ ปวาเรตุนฺติฯ

    Bāḷhataraṃ savarabhayaṃ ahosi. Bhikkhū nāsakkhiṃsu ekavācikaṃ pavāretuṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, samānavassikaṃ pavāretunti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุ ปวารณาย มนุเสฺสหิ ทานํ เทเนฺตหิ เยภุเยฺยน รตฺติ เขปิตา โหติฯ อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘มนุเสฺสหิ ทานํ เทเนฺตหิ เยภุเยฺยน รตฺติ เขปิตาฯ สเจ สโงฺฆ เตวาจิกํ ปวาเรสฺสติ, อปฺปวาริโตว สโงฺฆ ภวิสฺสติ, อถายํ รตฺติ วิภายิสฺสติฯ กถํ นุ โข อเมฺหหิ ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อิธ ปน, ภิกฺขเว, อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุ ปวารณาย มนุเสฺสหิ ทานํ เทเนฺตหิ เยภุเยฺยน รตฺติ เขปิตา โหติฯ ตตฺร เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ เอวํ โหติ – ‘‘มนุเสฺสหิ ทานํ เทเนฺตหิ เยภุเยฺยน รตฺติ เขปิตาฯ สเจ สโงฺฆ เตวาจิกํ ปวาเรสฺสติ, อปฺปวาริโตว สโงฺฆ ภวิสฺสติ, อถายํ รตฺติ วิภายิสฺสตี’’ติ, พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –

    Tena kho pana samayena aññatarasmiṃ āvāse tadahu pavāraṇāya manussehi dānaṃ dentehi yebhuyyena ratti khepitā hoti. Atha kho tesaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘manussehi dānaṃ dentehi yebhuyyena ratti khepitā. Sace saṅgho tevācikaṃ pavāressati, appavāritova saṅgho bhavissati, athāyaṃ ratti vibhāyissati. Kathaṃ nu kho amhehi paṭipajjitabba’’nti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Idha pana, bhikkhave, aññatarasmiṃ āvāse tadahu pavāraṇāya manussehi dānaṃ dentehi yebhuyyena ratti khepitā hoti. Tatra ce, bhikkhave, bhikkhūnaṃ evaṃ hoti – ‘‘manussehi dānaṃ dentehi yebhuyyena ratti khepitā. Sace saṅgho tevācikaṃ pavāressati, appavāritova saṅgho bhavissati, athāyaṃ ratti vibhāyissatī’’ti, byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –

    ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ มนุเสฺสหิ ทานํ เทเนฺตหิ เยภุเยฺยน รตฺติ เขปิตาฯ สเจ สโงฺฆ เตวาจิกํ ปวาเรสฺสติ, อปฺปวาริโตว สโงฺฆ ภวิสฺสติ, อถายํ รตฺติ วิภายิสฺสติฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ เทฺววาจิกํ, เอกวาจิกํ, สมานวสฺสิกํ ปวาเรยฺยา’’ติฯ

    ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Manussehi dānaṃ dentehi yebhuyyena ratti khepitā. Sace saṅgho tevācikaṃ pavāressati, appavāritova saṅgho bhavissati, athāyaṃ ratti vibhāyissati. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho dvevācikaṃ, ekavācikaṃ, samānavassikaṃ pavāreyyā’’ti.

    อิธ ปน, ภิกฺขเว, อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุ ปวารณาย ภิกฺขูหิ ธมฺมํ ภณเนฺตหิ…เป.… สุตฺตนฺติเกหิ สุตฺตนฺตํ สงฺคายเนฺตหิ… วินยธเรหิ วินยํ วินิจฺฉินเนฺตหิ… ธมฺมกถิเกหิ ธมฺมํ สากจฺฉเนฺตหิ… ภิกฺขูหิ กลหํ กโรเนฺตหิ เยภุเยฺยน รตฺติ เขปิตา โหติฯ ตตฺร เจ ภิกฺขูนํ เอวํ โหติ – ‘‘ภิกฺขูหิ กลหํ กโรเนฺตหิ เยภุเยฺยน รตฺติ เขปิตาฯ สเจ สโงฺฆ เตวาจิกํ ปวาเรสฺสติ, อปฺปวาริโตว สโงฺฆ ภวิสฺสติ, อถายํ รตฺติ วิภายิสฺสตี’’ติ, พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –

    Idha pana, bhikkhave, aññatarasmiṃ āvāse tadahu pavāraṇāya bhikkhūhi dhammaṃ bhaṇantehi…pe… suttantikehi suttantaṃ saṅgāyantehi… vinayadharehi vinayaṃ vinicchinantehi… dhammakathikehi dhammaṃ sākacchantehi… bhikkhūhi kalahaṃ karontehi yebhuyyena ratti khepitā hoti. Tatra ce bhikkhūnaṃ evaṃ hoti – ‘‘bhikkhūhi kalahaṃ karontehi yebhuyyena ratti khepitā. Sace saṅgho tevācikaṃ pavāressati, appavāritova saṅgho bhavissati, athāyaṃ ratti vibhāyissatī’’ti, byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –

    ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ ภิกฺขูหิ กลหํ กโรเนฺตหิ เยภุเยฺยน รตฺติ เขปิตาฯ สเจ สโงฺฆ เตวาจิกํ ปวาเรสฺสติ, อปฺปวาริโตว สโงฺฆ ภวิสฺสติ, อถายํ รตฺติ วิภายิสฺสติฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ เทฺววาจิกํ, เอกวาจิกํ, สมานวสฺสิกํ ปวาเรยฺยา’’ติฯ

    ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Bhikkhūhi kalahaṃ karontehi yebhuyyena ratti khepitā. Sace saṅgho tevācikaṃ pavāressati, appavāritova saṅgho bhavissati, athāyaṃ ratti vibhāyissati. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho dvevācikaṃ, ekavācikaṃ, samānavassikaṃ pavāreyyā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน โกสเลสุ ชนปเท อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุ ปวารณาย มหาภิกฺขุสโงฺฆ สนฺนิปติโต โหติ , ปริตฺตญฺจ อโนวสฺสิกํ 1 โหติ, มหา จ เมโฆ อุคฺคโต โหติฯ อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข มหาภิกฺขุสโงฺฆ สนฺนิปติโต, ปริตฺตญฺจ อโนวสฺสิกํ, มหา จ เมโฆ อุคฺคโตฯ สเจ สโงฺฆ เตวาจิกํ ปวาเรสฺสติ, อปฺปวาริโตว สโงฺฆ ภวิสฺสติ, อถายํ เมโฆ ปวสฺสิสฺสติฯ กถํ นุ โข อเมฺหหิ ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อิธ ปน, ภิกฺขเว, อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุ ปวารณาย มหาภิกฺขุสโงฺฆ สนฺนิปติโต โหติ, ปริตฺตญฺจ อโนวสฺสิกํ โหติ, มหา จ เมโฆ อุคฺคโต โหติฯ ตตฺร เจ ภิกฺขูนํ เอวํ โหติ – ‘‘อยํ โข มหาภิกฺขุสโงฺฆ สนฺนิปติโต, ปริตฺตญฺจ อโนวสฺสิกํ, มหา จ เมโฆ อุคฺคโตฯ สเจ สโงฺฆ เตวาจิกํ ปวาเรสฺสติ, อปฺปวาริโตว สโงฺฆ ภวิสฺสติ, อถายํ เมโฆ ปวสฺสิสฺสตี’’ติฯ พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –

    Tena kho pana samayena kosalesu janapade aññatarasmiṃ āvāse tadahu pavāraṇāya mahābhikkhusaṅgho sannipatito hoti , parittañca anovassikaṃ 2 hoti, mahā ca megho uggato hoti. Atha kho tesaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘ayaṃ kho mahābhikkhusaṅgho sannipatito, parittañca anovassikaṃ, mahā ca megho uggato. Sace saṅgho tevācikaṃ pavāressati, appavāritova saṅgho bhavissati, athāyaṃ megho pavassissati. Kathaṃ nu kho amhehi paṭipajjitabba’’nti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Idha pana, bhikkhave, aññatarasmiṃ āvāse tadahu pavāraṇāya mahābhikkhusaṅgho sannipatito hoti, parittañca anovassikaṃ hoti, mahā ca megho uggato hoti. Tatra ce bhikkhūnaṃ evaṃ hoti – ‘‘ayaṃ kho mahābhikkhusaṅgho sannipatito, parittañca anovassikaṃ, mahā ca megho uggato. Sace saṅgho tevācikaṃ pavāressati, appavāritova saṅgho bhavissati, athāyaṃ megho pavassissatī’’ti. Byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –

    ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ มหาภิกฺขุสโงฺฆ สนฺนิปติโต, ปริตฺตญฺจ อโนวสฺสิกํ, มหา จ เมโฆ อุคฺคโตฯ สเจ สโงฺฆ เตวาจิกํ ปวาเรสฺสติ, อปฺปวาริโตว สโงฺฆ ภวิสฺสติ, อถายํ เมโฆ ปวสฺสิสฺสติฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ เทฺววาจิกํ, เอกวาจิกํ, สมานวสฺสิกํ ปวาเรยฺยา’’ติฯ

    ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ mahābhikkhusaṅgho sannipatito, parittañca anovassikaṃ, mahā ca megho uggato. Sace saṅgho tevācikaṃ pavāressati, appavāritova saṅgho bhavissati, athāyaṃ megho pavassissati. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho dvevācikaṃ, ekavācikaṃ, samānavassikaṃ pavāreyyā’’ti.

    อิธ ปน, ภิกฺขเว, อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุ ปวารณาย ราชนฺตราโย โหติ…เป.… โจรนฺตราโย โหติ… อคฺยนฺตราโย โหติ… อุทกนฺตราโย โหติ… มนุสฺสนฺตราโย โหติ… อมนุสฺสนฺตราโย โหติ… วาฬนฺตราโย โหติ… สรีสปนฺตราโย โหติ… ชีวิตนฺตราโย โหติ… พฺรหฺมจริยนฺตราโย โหติฯ ตตฺร เจ ภิกฺขูนํ เอวํ โหติ – ‘‘อยํ โข, พฺรหฺมจริยนฺตราโย ฯ สเจ สโงฺฆ เตวาจิกํ ปวาเรสฺสติ, อปฺปวาริโตว สโงฺฆ ภวิสฺสติ, อถายํ พฺรหฺมจริยนฺตราโย ภวิสฺสตี’’ติ, พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –

    Idha pana, bhikkhave, aññatarasmiṃ āvāse tadahu pavāraṇāya rājantarāyo hoti…pe… corantarāyo hoti… agyantarāyo hoti… udakantarāyo hoti… manussantarāyo hoti… amanussantarāyo hoti… vāḷantarāyo hoti… sarīsapantarāyo hoti… jīvitantarāyo hoti… brahmacariyantarāyo hoti. Tatra ce bhikkhūnaṃ evaṃ hoti – ‘‘ayaṃ kho, brahmacariyantarāyo . Sace saṅgho tevācikaṃ pavāressati, appavāritova saṅgho bhavissati, athāyaṃ brahmacariyantarāyo bhavissatī’’ti, byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –

    ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ พฺรหฺมจริยนฺตราโยฯ สเจ สโงฺฆ เตวาจิกํ ปวาเรสฺสติ, อปฺปวาริโตว สโงฺฆ ภวิสฺสติ, อถายํ พฺรหฺมจริยนฺตราโย ภวิสฺสติฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ เทฺววาจิกํ, เอกวาจิกํ, สมานวสฺสิกํ ปวาเรยฺยา’’ติฯ

    ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ brahmacariyantarāyo. Sace saṅgho tevācikaṃ pavāressati, appavāritova saṅgho bhavissati, athāyaṃ brahmacariyantarāyo bhavissati. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho dvevācikaṃ, ekavācikaṃ, samānavassikaṃ pavāreyyā’’ti.

    เทฺววาจิกาทิปวารณา นิฎฺฐิตาฯ

    Dvevācikādipavāraṇā niṭṭhitā.







    Footnotes:
    1. อโนวสฺสกํ (ก.)
    2. anovassakaṃ (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / เทฺววาจิกาทิปวารณากถา • Dvevācikādipavāraṇākathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / อผาสุวิหารกถาทิวณฺณนา • Aphāsuvihārakathādivaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑๔๐. เทฺววาจิกาทิปวารณากถา • 140. Dvevācikādipavāraṇākathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact