Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā

    เอกาทสกวารวณฺณนา

    Ekādasakavāravaṇṇanā

    ๓๓๑. เอกาทสเกสุ – เอกาทสาติ ปณฺฑกาทโย เอกาทสฯ เอกาทส ปาทุกาติ ทส รตนมยา, เอกา กฎฺฐปาทุกาฯ ติณปาทุกมุญฺชปาทุกปพฺพชปาทุกาทโย ปน กฎฺฐปาทุกสงฺคหเมว คจฺฉนฺติฯ เอกาทส ปตฺตาติ ตมฺพโลหมเยน วา ทารุมเยน วา สทฺธิํ ทส รตนมยาฯ เอกาทส จีวรานีติ สพฺพนีลกาทีนิ เอกาทสฯ ยาวตติยกาติ อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา ภิกฺขุนี, สงฺฆาทิเสสา อฎฺฐ, อริโฎฺฐ, จณฺฑกาฬีติฯ เอกาทส อนฺตรายิกา นาม ‘‘นสิ อนิมิตฺตา’’ติ อาทโยฯ เอกาทส จีวรานิ อธิฎฺฐาตพฺพานีติ ติจีวรํ, วสฺสิกสาฎิกา, นิสีทนํ, ปจฺจตฺถรณํ, กณฺฑุปฺปฎิจฺฉาทิ, มุขปุญฺฉนโจฬํ, ปริกฺขารโจฬํ, อุทกสาฎิกา, สงฺกจฺจิกาติฯ น วิกเปฺปตพฺพานีติ เอตาเนว อธิฎฺฐิตกาลโต ปฎฺฐาย น วิกเปฺปตพฺพานิฯ คณฺฐิกาวิธา จ สุตฺตมเยน สทฺธิํ เอกาทส โหนฺติ, เต สเพฺพ ขุทฺทกกฺขนฺธเก นิทฺทิฎฺฐาฯ ปถวิโย ปถวิสิกฺขาปเท นิทฺทิฎฺฐาฯ นิสฺสยปฎิปสฺสทฺธิโย อุปชฺฌายมฺหา ปญฺจ, อาจริยมฺหา ฉ; เอวํ เอกาทสฯ อวนฺทิยปุคฺคลา นเคฺคน สทฺธิํ เอกาทส, เต สเพฺพ เสนาสนกฺขนฺธเก นิทฺทิฎฺฐา ฯ เอกาทส ปรมานิ ปุเพฺพ วุเตฺตสุ จุทฺทสสุ เอกาทสกวเสน โยเชตฺวา เวทิตพฺพานิฯ เอกาทส วรานีติ มหาปชาปติยา ยาจิตวเรน สทฺธิํ ปุเพฺพ วุตฺตานิ ทสฯ เอกาทส สีมาโทสาติ ‘‘อติขุทฺทกํ สีมํ สมฺมนฺนนฺตี’’ติอาทินา นเยน กมฺมวเคฺค อาคมิสฺสนฺติฯ

    331. Ekādasakesu – ekādasāti paṇḍakādayo ekādasa. Ekādasa pādukāti dasa ratanamayā, ekā kaṭṭhapādukā. Tiṇapādukamuñjapādukapabbajapādukādayo pana kaṭṭhapādukasaṅgahameva gacchanti. Ekādasa pattāti tambalohamayena vā dārumayena vā saddhiṃ dasa ratanamayā. Ekādasa cīvarānīti sabbanīlakādīni ekādasa. Yāvatatiyakāti ukkhittānuvattikā bhikkhunī, saṅghādisesā aṭṭha, ariṭṭho, caṇḍakāḷīti. Ekādasa antarāyikā nāma ‘‘nasi animittā’’ti ādayo. Ekādasacīvarāni adhiṭṭhātabbānīti ticīvaraṃ, vassikasāṭikā, nisīdanaṃ, paccattharaṇaṃ, kaṇḍuppaṭicchādi, mukhapuñchanacoḷaṃ, parikkhāracoḷaṃ, udakasāṭikā, saṅkaccikāti. Na vikappetabbānīti etāneva adhiṭṭhitakālato paṭṭhāya na vikappetabbāni. Gaṇṭhikā ca vidhā ca suttamayena saddhiṃ ekādasa honti, te sabbe khuddakakkhandhake niddiṭṭhā. Pathaviyo pathavisikkhāpade niddiṭṭhā. Nissayapaṭipassaddhiyo upajjhāyamhā pañca, ācariyamhā cha; evaṃ ekādasa. Avandiyapuggalā naggena saddhiṃ ekādasa, te sabbe senāsanakkhandhake niddiṭṭhā . Ekādasa paramāni pubbe vuttesu cuddasasu ekādasakavasena yojetvā veditabbāni. Ekādasa varānīti mahāpajāpatiyā yācitavarena saddhiṃ pubbe vuttāni dasa. Ekādasa sīmādosāti ‘‘atikhuddakaṃ sīmaṃ sammannantī’’tiādinā nayena kammavagge āgamissanti.

    อโกฺกสกปริภาสเก ปุคฺคเล เอกาทสาทีนวา นาม ‘‘โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อโกฺกสโก ปริภาสโก อริยูปวาที, สพฺรหฺมจารีนํ อฎฺฐานเมตํ อนวกาโส ยํ โส เอกาทสนฺนํ พฺยสนานํ อญฺญตรํ พฺยสนํ น นิคเจฺฉยฺยฯ กตเมสํ เอกาทสนฺนํ? อนธิคตํ นาธิคจฺฉติ, อธิคตา ปริหายติ, สทฺธมฺมสฺส น โวทายนฺติ, สทฺธเมฺมสุ วา อธิมานิโก โหติ, อนภิรโต วา พฺรหฺมจริยํ จรติ, อญฺญตรํ วา สํกิลิฎฺฐํ อาปตฺติํ อาปชฺชติ, สิกฺขํ วา ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ, คาฬฺหํ วา โรคาตงฺกํ ผุสติ, อุมฺมาทํ วา ปาปุณาติ จิตฺตเกฺขปํ วา, สมฺมูโฬฺห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรมฺมรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตี’’ติ (อ. นิ. ๑๑.๖)ฯ เอตฺถ จ สทฺธโมฺมติ พุทฺธวจนํ อธิเปฺปตํฯ

    Akkosakaparibhāsake puggale ekādasādīnavā nāma ‘‘yo so, bhikkhave, bhikkhu akkosako paribhāsako ariyūpavādī, sabrahmacārīnaṃ aṭṭhānametaṃ anavakāso yaṃ so ekādasannaṃ byasanānaṃ aññataraṃ byasanaṃ na nigaccheyya. Katamesaṃ ekādasannaṃ? Anadhigataṃ nādhigacchati, adhigatā parihāyati, saddhammassa na vodāyanti, saddhammesu vā adhimāniko hoti, anabhirato vā brahmacariyaṃ carati, aññataraṃ vā saṃkiliṭṭhaṃ āpattiṃ āpajjati, sikkhaṃ vā paccakkhāya hīnāyāvattati, gāḷhaṃ vā rogātaṅkaṃ phusati, ummādaṃ vā pāpuṇāti cittakkhepaṃ vā, sammūḷho kālaṃ karoti, kāyassa bhedā parammaraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjatī’’ti (a. ni. 11.6). Ettha ca saddhammoti buddhavacanaṃ adhippetaṃ.

    อาเสวิตายาติ อาทิโต ปฎฺฐาย เสวิตายฯ ภาวิตายาติ นิปฺผาทิตาย วฑฺฒิตาย

    Āsevitāyāti ādito paṭṭhāya sevitāya. Bhāvitāyāti nipphāditāya vaḍḍhitāya

    วาฯ พหุลีกตายาติ ปุนปฺปุนํ กตายฯ ยานีกตายาติ สุยุตฺตยานสทิสาย กตายฯ วตฺถุกตายาติ ยถา ปติฎฺฐา โหติ; เอวํ กตายฯ อนุฎฺฐิตายาติ อนุ อนุ ปวตฺติตาย; นิจฺจาธิฎฺฐิตายาติ อโตฺถฯ ปริจิตายาติ สมนฺตโต จิตาย; สพฺพทิสาสุ จิตาย อาจิตาย ภาวิตาย อภิวฑฺฒิตายาติ อโตฺถฯ สุสมารทฺธายาติ สุฎฺฐุ สมารทฺธาย; วสีภาวํ อุปนีตายาติ อโตฺถฯ น ปาปกํ สุปินนฺติ ปาปกเมว น ปสฺสติ, ภทฺรกํ ปน วุฑฺฒิการณภูตํ ปสฺสติฯ เทวตา รกฺขนฺตีติ อารกฺขเทวตา ธมฺมิกํ รกฺขํ ปจฺจุปฎฺฐาเปนฺติฯ ตุวฎํ จิตฺตํ สมาธิยตีติ ขิปฺปํ จิตฺตํ สมาธิยติฯ อุตฺตริ อปฺปฎิวิชฺฌโนฺตติ เมตฺตาฌานโต อุตฺตริํ อรหตฺตํ อสจฺฉิกโรโนฺต เสโข วา ปุถุชฺชโน วา หุตฺวา กาลํ กโรโนฺต พฺรหฺมโลกูปโค โหติฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ

    Vā. Bahulīkatāyāti punappunaṃ katāya. Yānīkatāyāti suyuttayānasadisāya katāya. Vatthukatāyāti yathā patiṭṭhā hoti; evaṃ katāya. Anuṭṭhitāyāti anu anu pavattitāya; niccādhiṭṭhitāyāti attho. Paricitāyāti samantato citāya; sabbadisāsu citāya ācitāya bhāvitāya abhivaḍḍhitāyāti attho. Susamāraddhāyāti suṭṭhu samāraddhāya; vasībhāvaṃ upanītāyāti attho. Na pāpakaṃ supinanti pāpakameva na passati, bhadrakaṃ pana vuḍḍhikāraṇabhūtaṃ passati. Devatā rakkhantīti ārakkhadevatā dhammikaṃ rakkhaṃ paccupaṭṭhāpenti. Tuvaṭaṃ cittaṃ samādhiyatīti khippaṃ cittaṃ samādhiyati. Uttari appaṭivijjhantoti mettājhānato uttariṃ arahattaṃ asacchikaronto sekho vā puthujjano vā hutvā kālaṃ karonto brahmalokūpago hoti. Sesaṃ sabbattha uttānamevāti.

    เอกาทสกวารวณฺณนา ปริโยสานา

    Ekādasakavāravaṇṇanā pariyosānā

    เอกุตฺตริกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Ekuttarikavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi / ๑๑. เอกาทสกวาโร • 11. Ekādasakavāro

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / เอกาทสกวารวณฺณนา • Ekādasakavāravaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / เอกาทสกวารวณฺณนา • Ekādasakavāravaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / เอกุตฺตริกนโย เอกาทสกวารวณฺณนา • Ekuttarikanayo ekādasakavāravaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact