Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-ปุราณ-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-purāṇa-ṭīkā |
๓. เอกคามนฺตรคมนสิกฺขาปทวณฺณนา
3. Ekagāmantaragamanasikkhāpadavaṇṇanā
‘‘อาโภคํ วินา’’ติ วุตฺตตฺตา อาโภเค สติ อนาปตฺติ, อิมสฺมิํ ปน สิกฺขาปเท สมนฺตปาสาทิกายํ อุปจาราติกฺกเม อาปตฺติ วุตฺตา, อิธ โอกฺกเมฯ ทฺวีสุปิ วุตฺตํ อตฺถโต เอกเมว คามนฺตรคมนสงฺฆาทิเสสํ อุปจารสฺส สนฺธาย วุตฺตตฺตาฯ คณมฺหา โอหียนสฺส วิโรโธฯ ‘‘อรเญฺญ’’ติ อิทํ อตฺถวเสน วุตฺตํ, คามนฺตเรปิ โหติ เอวฯ
‘‘Ābhogaṃ vinā’’ti vuttattā ābhoge sati anāpatti, imasmiṃ pana sikkhāpade samantapāsādikāyaṃ upacārātikkame āpatti vuttā, idha okkame. Dvīsupi vuttaṃ atthato ekameva gāmantaragamanasaṅghādisesaṃ upacārassa sandhāya vuttattā. Gaṇamhā ohīyanassa virodho. ‘‘Araññe’’ti idaṃ atthavasena vuttaṃ, gāmantarepi hoti eva.
สิกฺขาปทา พุทฺธวเรน วณฺณิตาติ คาถาย วเสน, อฎฺฐกถายมฺปิ คามนฺตรปริยาปนฺนํ นทิปารนฺติ วุตฺตํฯ
Sikkhāpadābuddhavarena vaṇṇitāti gāthāya vasena, aṭṭhakathāyampi gāmantarapariyāpannaṃ nadipāranti vuttaṃ.
เอกคามนฺตรคมนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Ekagāmantaragamanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
‘‘ฉาทนปจฺจยา ปน ทุกฺกฎํ อาปชฺชตี’’ติ อิทํ –
‘‘Chādanapaccayāpana dukkaṭaṃ āpajjatī’’ti idaṃ –
‘‘อาปชฺชติ ครุกํ สาวเสสํ;
‘‘Āpajjati garukaṃ sāvasesaṃ;
ฉาเทติ อนาทริยํ ปฎิจฺจ;
Chādeti anādariyaṃ paṭicca;
น ภิกฺขุนี โน จ ผุเสยฺย วชฺชํ;
Na bhikkhunī no ca phuseyya vajjaṃ;
ปญฺหาเมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติฯ (ปริ. ๔๘๑) –
Pañhāmesā kusalehi cintitā’’ti. (pari. 481) –
อิมาย วิรุชฺฌติฯ ตสฺมา ปมาทเลขา วิย ทิสฺสตีติ คเวสิตโพฺพ เอตฺถ อโตฺถฯ ภิกฺขูนํ มานตฺตกถายํ ‘‘ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริเกฺขปโต, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริเกฺขปารหฎฺฐานโต เทฺว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา’’ติ (กงฺขา. อฎฺฐ. นิคมนวณฺณนา) วุตฺตํ, อิธ ปน ‘‘คามูปจารโต จ ภิกฺขูนํ วิหารูปจารโต จ เทฺว เลฑฺฑุปาเต’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺร ภิกฺขูนํ วุตฺตปฺปการปฺปเทสํ อติกฺกมิตฺวา คาเมปิ ตํ กมฺมํ กาตุํ วฎฺฎติ, ภิกฺขุนีนํ ปน คาเม น วฎฺฎติฯ ตสฺมา เอวํ วุตฺตนฺติ เอเกฯ อปเร ปน ภิกฺขูนมฺปิ คาเม น วฎฺฎติฯ ภิกฺขุวิหาโร นาม ปุเพฺพ เอว คามูปจารํ อติกฺกมิตฺวา ฐิโต, ตสฺมา คามํ อวตฺวา วิหารูปจารเมว เหฎฺฐา วุตฺตํฯ ภิกฺขุนีนํ วิหาโร คาเม เอว วฎฺฎติ, น พหิ, ตสฺมา คามูปจารญฺจ วิหารูปจารญฺจ อุภยเมเวตฺถ ทสฺสิตํฯ ตสฺมา อุภยตฺถาปิ อตฺถโต นานาตฺตํ นตฺถีติ วทนฺติฯ ยํ ยุชฺชติ, ตํ คเหตพฺพํฯ
Imāya virujjhati. Tasmā pamādalekhā viya dissatīti gavesitabbo ettha attho. Bhikkhūnaṃ mānattakathāyaṃ ‘‘parikkhittassa vihārassa parikkhepato, aparikkhittassa parikkhepārahaṭṭhānato dve leḍḍupāte atikkamitvā’’ti (kaṅkhā. aṭṭha. nigamanavaṇṇanā) vuttaṃ, idha pana ‘‘gāmūpacārato ca bhikkhūnaṃ vihārūpacārato ca dve leḍḍupāte’’tiādi vuttaṃ. Tatra bhikkhūnaṃ vuttappakārappadesaṃ atikkamitvā gāmepi taṃ kammaṃ kātuṃ vaṭṭati, bhikkhunīnaṃ pana gāme na vaṭṭati. Tasmā evaṃ vuttanti eke. Apare pana bhikkhūnampi gāme na vaṭṭati. Bhikkhuvihāro nāma pubbe eva gāmūpacāraṃ atikkamitvā ṭhito, tasmā gāmaṃ avatvā vihārūpacārameva heṭṭhā vuttaṃ. Bhikkhunīnaṃ vihāro gāme eva vaṭṭati, na bahi, tasmā gāmūpacārañca vihārūpacārañca ubhayamevettha dassitaṃ. Tasmā ubhayatthāpi atthato nānāttaṃ natthīti vadanti. Yaṃ yujjati, taṃ gahetabbaṃ.
สงฺฆาทิเสสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Saṅghādisesavaṇṇanā niṭṭhitā.