Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi |
เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนอพฺภานํ
Ekāhappaṭicchannaabbhānaṃ
๑๐๖. โส จิณฺณมานโตฺต ภิกฺขูนํ อาโรเจสิ – ‘‘อหํ, อาวุโส, เอกํ อาปตฺติํ อาปชฺชิํ สเญฺจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฎฺฐิํ เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนํฯ โสหํ สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ ยาจิํฯ ตสฺส เม สโงฺฆ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ อทาสิฯ โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนาย ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิํฯ ตสฺส เม สโงฺฆ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนาย ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิฯ โสหํ จิณฺณมานโตฺตฯ กถํ นุ โข มยา ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สโงฺฆ อุทายิํ ภิกฺขุํ อเพฺภตุฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อเพฺภตโพฺพ –
106. So ciṇṇamānatto bhikkhūnaṃ ārocesi – ‘‘ahaṃ, āvuso, ekaṃ āpattiṃ āpajjiṃ sañcetanikaṃ sukkavissaṭṭhiṃ ekāhappaṭicchannaṃ. Sohaṃ saṅghaṃ ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhappaṭicchannāya ekāhaparivāsaṃ yāciṃ. Tassa me saṅgho ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhappaṭicchannāya ekāhaparivāsaṃ adāsi. Sohaṃ parivutthaparivāso saṅghaṃ ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhappaṭicchannāya chārattaṃ mānattaṃ yāciṃ. Tassa me saṅgho ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhappaṭicchannāya chārattaṃ mānattaṃ adāsi. Sohaṃ ciṇṇamānatto. Kathaṃ nu kho mayā paṭipajjitabba’’nti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Tena hi, bhikkhave, saṅgho udāyiṃ bhikkhuṃ abbhetu. Evañca pana, bhikkhave, abbhetabbo –
‘‘เตน ภิกฺขเว, อุทายินา ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา…เป.… เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ, ภเนฺต, เอกํ อาปตฺติํ อาปชฺชิํ สเญฺจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฎฺฐิํ เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนํฯ โสหํ สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ ยาจิํฯ ตสฺส เม สโงฺฆ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ อทาสิฯ โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนาย ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิํฯ ตสฺส เม สโงฺฆ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนาย ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิฯ โสหํ, ภเนฺต, จิณฺณมานโตฺต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจามี’ติฯ ทุติยมฺปิ ยาจิตพฺพํฯ ตติยมฺปิ ยาจิตพฺพํฯ พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –
‘‘Tena bhikkhave, udāyinā bhikkhunā saṅghaṃ upasaṅkamitvā…pe… evamassa vacanīyo – ‘ahaṃ, bhante, ekaṃ āpattiṃ āpajjiṃ sañcetanikaṃ sukkavissaṭṭhiṃ ekāhappaṭicchannaṃ. Sohaṃ saṅghaṃ ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhappaṭicchannāya ekāhaparivāsaṃ yāciṃ. Tassa me saṅgho ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhappaṭicchannāya ekāhaparivāsaṃ adāsi. Sohaṃ parivutthaparivāso saṅghaṃ ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhappaṭicchannāya chārattaṃ mānattaṃ yāciṃ. Tassa me saṅgho ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhappaṭicchannāya chārattaṃ mānattaṃ adāsi. Sohaṃ, bhante, ciṇṇamānatto saṅghaṃ abbhānaṃ yācāmī’ti. Dutiyampi yācitabbaṃ. Tatiyampi yācitabbaṃ. Byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –
๑๐๗. ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ อุทายี ภิกฺขุ เอกํ อาปตฺติํ อาปชฺชิ สเญฺจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฎฺฐิํ เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนํฯ โส สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ ยาจิฯ สโงฺฆ อุทายิสฺส ภิกฺขุโน เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ อทาสิฯ โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนาย ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิฯ สโงฺฆ อุทายิสฺส ภิกฺขุโน เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนาย ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิฯ โส จิณฺณมานโตฺต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ อุทายิํ ภิกฺขุํ อเพฺภยฺยฯ เอสา ญตฺติฯ
107. ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ udāyī bhikkhu ekaṃ āpattiṃ āpajji sañcetanikaṃ sukkavissaṭṭhiṃ ekāhappaṭicchannaṃ. So saṅghaṃ ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhappaṭicchannāya ekāhaparivāsaṃ yāci. Saṅgho udāyissa bhikkhuno ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhappaṭicchannāya ekāhaparivāsaṃ adāsi. So parivutthaparivāso saṅghaṃ ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhappaṭicchannāya chārattaṃ mānattaṃ yāci. Saṅgho udāyissa bhikkhuno ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhappaṭicchannāya chārattaṃ mānattaṃ adāsi. So ciṇṇamānatto saṅghaṃ abbhānaṃ yācati. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho udāyiṃ bhikkhuṃ abbheyya. Esā ñatti.
‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ อุทายี ภิกฺขุ เอกํ อาปตฺติํ อาปชฺชิ สเญฺจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฎฺฐิํ เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนํฯ โส สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ ยาจิฯ สโงฺฆ อุทายิสฺส ภิกฺขุโน เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ อทาสิฯ โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนาย ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิฯ สโงฺฆ อุทายิสฺส ภิกฺขุโน เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา เอกาหปฺปฎิจฺฉนฺนาย ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิฯ โส จิณฺณมานโตฺต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติฯ สโงฺฆ อุทายิํ ภิกฺขุํ อเพฺภติฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อุทายิสฺส ภิกฺขุโน อพฺภานํ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ
‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ udāyī bhikkhu ekaṃ āpattiṃ āpajji sañcetanikaṃ sukkavissaṭṭhiṃ ekāhappaṭicchannaṃ. So saṅghaṃ ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhappaṭicchannāya ekāhaparivāsaṃ yāci. Saṅgho udāyissa bhikkhuno ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhappaṭicchannāya ekāhaparivāsaṃ adāsi. So parivutthaparivāso saṅghaṃ ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhappaṭicchannāya chārattaṃ mānattaṃ yāci. Saṅgho udāyissa bhikkhuno ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā ekāhappaṭicchannāya chārattaṃ mānattaṃ adāsi. So ciṇṇamānatto saṅghaṃ abbhānaṃ yācati. Saṅgho udāyiṃ bhikkhuṃ abbheti. Yassāyasmato khamati udāyissa bhikkhuno abbhānaṃ, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.
‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป.… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป.…ฯ
‘‘Dutiyampi etamatthaṃ vadāmi…pe… tatiyampi etamatthaṃ vadāmi…pe….
‘‘อพฺภิโต สเงฺฆน อุทายี ภิกฺขุฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ
‘‘Abbhito saṅghena udāyī bhikkhu. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmī’’ti.