Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ธมฺมสงฺคณี-มูลฎีกา • Dhammasaṅgaṇī-mūlaṭīkā

    รูปวิภตฺติ

    Rūpavibhatti

    เอกกนิเทฺทสวณฺณนา

    Ekakaniddesavaṇṇanā

    ๕๙๔. อวิชฺชมานวิภาคสฺส วิภาคาภาวทสฺสนเมว นิเทฺทโส นิจฺฉยกรณโต, ตสฺมา ‘‘สพฺพํ รูปํ น เหตุเมวา’’ติอาทินา วิภาคาภาวาวธารเณน เอว-สเทฺทน นิเทฺทสํ กโรติฯ เหตุเหตูติ มูลเหตุ, เหตุปจฺจยเหตูติ วา อยมโตฺถฯ มหาภูตา เหตูติ อยเมวโตฺถ มหาภูตา ปจฺจโยติ เอเตนปิ วุโตฺตติฯ เหตุปจฺจยสทฺทานํ สมานตฺถตฺตา ปจฺจโย เอว เหตุ ปจฺจยเหตุฯ โย จ รูปกฺขนฺธสฺส เหตุ, โส เอว ตสฺส ปญฺญาปนาย เหตูติ วุโตฺต ตทภาเว อภาวโตฯ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ ฐานโส เหตุโส วิปากนฺติ เอตฺถ วิชฺชมาเนสุปิ อเญฺญสุ ปจฺจเยสุ อิฎฺฐานิฎฺฐวิปากนิยามกตฺตา อุตฺตมํ ปธานํ กุสลากุสลํ คติอุปธิกอาลปโยคสมฺปตฺติวิปตฺติฎฺฐานนิปฺผาทิตํ อิฎฺฐานิฎฺฐารมฺมณญฺจ กมฺมมิว ปธานตฺตา ‘‘เหตู’’ติ วุตฺตนฺติ อิมินา อธิปฺปาเยน กมฺมารมฺมณานิ ‘‘อุตฺตมเหตู’’ติ วุตฺตานิฯ วกฺขติ จ ‘‘คติอุปธิกาลปโยคา วิปากสฺส ฐานํ, กมฺมํ เหตู’’ติฯ อิธ ปน กมฺมมิว อุตฺตมตฺตา อารมฺมณมฺปิ เหตุวจนํ อรหตีติ ‘‘อุตฺตมเหตู’’ติ วุตฺตํฯ สงฺขารานนฺติ ปุญฺญาภิสงฺขาราทีนํ อวิชฺชา สาธารณปจฺจยตฺตา ‘‘เหตู’’ติ วุตฺตาฯ ผรตีติ คจฺฉติ ปาปุณาติฯ ปฎิเกฺขปนิเทฺทโสติ อิทํ มาติกาย อาคตปฎิเกฺขปวเสน วุตฺตํฯ อิธ ปน มาติกาย น เหตุปทาทิสงฺคหิตตา จ รูปสฺส วุตฺตา ตํตํสภาวตฺตา, อวธาริตตา จ อนญฺญสภาวโตฯ

    594. Avijjamānavibhāgassa vibhāgābhāvadassanameva niddeso nicchayakaraṇato, tasmā ‘‘sabbaṃ rūpaṃ na hetumevā’’tiādinā vibhāgābhāvāvadhāraṇena eva-saddena niddesaṃ karoti. Hetuhetūti mūlahetu, hetupaccayahetūti vā ayamattho. Mahābhūtā hetūti ayamevattho mahābhūtā paccayoti etenapi vuttoti. Hetupaccayasaddānaṃ samānatthattā paccayo eva hetu paccayahetu. Yo ca rūpakkhandhassa hetu, so eva tassa paññāpanāya hetūti vutto tadabhāve abhāvato. Atītānāgatapaccuppannānaṃ kammasamādānānaṃ ṭhānaso hetuso vipākanti ettha vijjamānesupi aññesu paccayesu iṭṭhāniṭṭhavipākaniyāmakattā uttamaṃ padhānaṃ kusalākusalaṃ gatiupadhikaālapayogasampattivipattiṭṭhānanipphāditaṃ iṭṭhāniṭṭhārammaṇañca kammamiva padhānattā ‘‘hetū’’ti vuttanti iminā adhippāyena kammārammaṇāni ‘‘uttamahetū’’ti vuttāni. Vakkhati ca ‘‘gatiupadhikālapayogā vipākassa ṭhānaṃ, kammaṃ hetū’’ti. Idha pana kammamiva uttamattā ārammaṇampi hetuvacanaṃ arahatīti ‘‘uttamahetū’’ti vuttaṃ. Saṅkhārānanti puññābhisaṅkhārādīnaṃ avijjā sādhāraṇapaccayattā ‘‘hetū’’ti vuttā. Pharatīti gacchati pāpuṇāti. Paṭikkhepaniddesoti idaṃ mātikāya āgatapaṭikkhepavasena vuttaṃ. Idha pana mātikāya na hetupadādisaṅgahitatā ca rūpassa vuttā taṃtaṃsabhāvattā, avadhāritatā ca anaññasabhāvato.

    รูปีทุเก รูปีปทเมว อิธ ‘‘รูป’’นฺติ วุตฺตํฯ เตน รูปีรูปปทานํ เอกตฺถตา สิทฺธา โหติ รุปฺปนลกฺขณยุตฺตเสฺสว รูปีรูปภาวโตฯ อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิญฺญาเณหิ วิเญฺญยฺยนฺติ อรูปโต วิธุรํ รูปสฺส สภาวํ ทเสฺสติฯ น หิ อรูปํ อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิญฺญาเณหิ วิเญฺญยฺยํ ยถา รูปํ, เตน รูปํ อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิญฺญาเณหิ วิเญฺญยฺยํ, น อรูปนฺติ อรูปโต นิวเตฺตตฺวา รูเป เอว เอตํ สภาวํ นิยเมติ, น รูปํ เอตสฺมิํ สภาเวฯ อตฺถิ หิ รูปํ อตีตานาคตํ ยํ อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิญฺญาเณหิ วิเญฺญยฺยสภาวํ น โหตีติฯ เอตเมว จ นิยมํ ปุน เอวสเทฺทน นิยเมติ ‘‘ยถาวุโตฺต นิยโม รูเป อตฺถิ เอว, อรูเป วิย น นตฺถี’’ติฯ อถ วา สพฺพํ รูปนฺติ ภูตุปาทายรูปํ กาลเภทํ อนามสิตฺวา ‘‘สพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ สพฺพํ อรูเปหิ สมานวิเญฺญยฺยสภาวํ อตีตานาคตํ นิวเตฺตตุํ อุปฺปนฺนนฺติ เอเตน วิเสเสติ, ตํ อุปฺปนฺนํ สพฺพํ รูปํ ฉหิ วิญฺญาเณหิ วิเญฺญยฺยเมวาติ อโตฺถฯ

    Rūpīduke rūpīpadameva idha ‘‘rūpa’’nti vuttaṃ. Tena rūpīrūpapadānaṃ ekatthatā siddhā hoti ruppanalakkhaṇayuttasseva rūpīrūpabhāvato. Uppannaṃ chahi viññāṇehi viññeyyanti arūpato vidhuraṃ rūpassa sabhāvaṃ dasseti. Na hi arūpaṃ uppannaṃ chahi viññāṇehi viññeyyaṃ yathā rūpaṃ, tena rūpaṃ uppannaṃ chahi viññāṇehi viññeyyaṃ, na arūpanti arūpato nivattetvā rūpe eva etaṃ sabhāvaṃ niyameti, na rūpaṃ etasmiṃ sabhāve. Atthi hi rūpaṃ atītānāgataṃ yaṃ uppannaṃ chahi viññāṇehi viññeyyasabhāvaṃ na hotīti. Etameva ca niyamaṃ puna evasaddena niyameti ‘‘yathāvutto niyamo rūpe atthi eva, arūpe viya na natthī’’ti. Atha vā sabbaṃ rūpanti bhūtupādāyarūpaṃ kālabhedaṃ anāmasitvā ‘‘sabba’’nti vuttaṃ, taṃ sabbaṃ arūpehi samānaviññeyyasabhāvaṃ atītānāgataṃ nivattetuṃ uppannanti etena viseseti, taṃ uppannaṃ sabbaṃ rūpaṃ chahi viññāṇehi viññeyyamevāti attho.

    นนุ เอวํ รูปายตนสฺสปิ โสตวิญฺญาณาทีหิ วิเญฺญยฺยตา อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ รูปํ สพฺพํ สมฺปิเณฺฑตฺวา เอกนฺตลกฺขณทสฺสนวเสน เอกีภาเวน คเหตฺวา อรูปโต วิธุรสฺส ฉหิ วิญฺญาเณหิ วิเญฺญยฺยสภาวสฺส ทสฺสนโตฯ ปจฺจุปฺปนฺนรูปเมว ฉหิ วิญฺญาเณหิ วิเญฺญยฺยนฺติ เอตสฺมิํ ปน นิยเม ‘‘สพฺพํ รูป’’นฺติ เอตฺถายํ วิเญฺญยฺยภาวนิยโม น วุโตฺต, อถ โข ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ สพฺพรูปสฺส เอกนฺตลกฺขณนิยโม ทสฺสิโต น สิยาฯ ปาฬิยญฺจ วิเญฺญยฺยเมวาติ เอว-กาโร วุโตฺต, น อุปฺปนฺนเมวาติฯ ตสฺมา อุปฺปนฺนเสฺสว มโนวิเญฺญยฺยนิยมาปตฺติ นตฺถีติ กิํ โสตปติตเตฺตน, ตสฺมา วุตฺตนเยนโตฺถ โยเชตโพฺพฯ

    Nanu evaṃ rūpāyatanassapi sotaviññāṇādīhi viññeyyatā āpajjatīti? Nāpajjati rūpaṃ sabbaṃ sampiṇḍetvā ekantalakkhaṇadassanavasena ekībhāvena gahetvā arūpato vidhurassa chahi viññāṇehi viññeyyasabhāvassa dassanato. Paccuppannarūpameva chahi viññāṇehi viññeyyanti etasmiṃ pana niyame ‘‘sabbaṃ rūpa’’nti etthāyaṃ viññeyyabhāvaniyamo na vutto, atha kho paccuppannanti sabbarūpassa ekantalakkhaṇaniyamo dassito na siyā. Pāḷiyañca viññeyyamevāti eva-kāro vutto, na uppannamevāti. Tasmā uppannasseva manoviññeyyaniyamāpatti natthīti kiṃ sotapatitattena, tasmā vuttanayenattho yojetabbo.

    กถํวิธนฺติ คุเณหิ กถํ สณฺฐิตํฯ ญาณเมว ญาณวตฺถุฯ สมานชาติกานํ สงฺคโห, สมานชาติยา วา สงฺคโห สชาติสงฺคโหฯ สญฺชายนฺติ เอตฺถาติ สญฺชาติ, สญฺชาติยา สงฺคโห สญฺชาติสงฺคโห, สญฺชาติเทเสน สงฺคโหติ อโตฺถฯ อญฺญมโญฺญปการวเสน อวิปฺปโยเคน จ สมาธิเทเส ชาตา สมฺมาสติอาทโย สมาธิกฺขเนฺธ สงฺคหิตาฯ ยตฺถ จ สติอาทิสหายวโต สมาธิสฺส อตฺตโน กิจฺจกรณํ, โส จิตฺตุปฺปาโท สมาธิเทโสฯ สมฺมาสงฺกปฺปสฺส จ อปฺปนาภาวโต ปฎิเวธสทิสํ กิจฺจนฺติ สมาเนน ปฎิเวธกิเจฺจน ทิฎฺฐิสงฺกปฺปา ปญฺญกฺขเนฺธ สงฺคหิตาฯ

    Kathaṃvidhanti guṇehi kathaṃ saṇṭhitaṃ. Ñāṇameva ñāṇavatthu. Samānajātikānaṃ saṅgaho, samānajātiyā vā saṅgaho sajātisaṅgaho. Sañjāyanti etthāti sañjāti, sañjātiyā saṅgaho sañjātisaṅgaho, sañjātidesena saṅgahoti attho. Aññamaññopakāravasena avippayogena ca samādhidese jātā sammāsatiādayo samādhikkhandhe saṅgahitā. Yattha ca satiādisahāyavato samādhissa attano kiccakaraṇaṃ, so cittuppādo samādhideso. Sammāsaṅkappassa ca appanābhāvato paṭivedhasadisaṃ kiccanti samānena paṭivedhakiccena diṭṭhisaṅkappā paññakkhandhe saṅgahitā.

    รูปวิภตฺติเอกกนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Rūpavibhattiekakaniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ธมฺมสงฺคณีปาฬิ • Dhammasaṅgaṇīpāḷi / รูปวิภตฺติ • Rūpavibhatti

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / ธมฺมสงฺคณิ-อฎฺฐกถา • Dhammasaṅgaṇi-aṭṭhakathā / รูปวิภตฺติเอกกนิเทฺทสวณฺณนา • Rūpavibhattiekakaniddesavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ธมฺมสงฺคณี-อนุฎีกา • Dhammasaṅgaṇī-anuṭīkā / เอกกนิเทฺทสวณฺณนา • Ekakaniddesavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact