Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปุคฺคลปญฺญตฺติปาฬิ • Puggalapaññattipāḷi

    นิเทฺทโส

    Niddeso

    ๑. เอกกปุคฺคลปญฺญตฺติ

    1. Ekakapuggalapaññatti

    . กตโม จ ปุคฺคโล สมยวิมุโตฺต? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล กาเลน กาลํ สมเยน สมยํ อฎฺฐ วิโมเกฺข กาเยน ผุสิตฺวา 1 วิหรติ, ปญฺญาย จสฺส ทิสฺวา เอกเจฺจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สมยวิมุโตฺต’’ฯ

    1. Katamo ca puggalo samayavimutto? Idhekacco puggalo kālena kālaṃ samayena samayaṃ aṭṭha vimokkhe kāyena phusitvā 2 viharati, paññāya cassa disvā ekacce āsavā parikkhīṇā honti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘samayavimutto’’.

    . กตโม จ ปุคฺคโล อสมยวิมุโตฺต? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล น เหว โข กาเลน กาลํ สมเยน สมยํ อฎฺฐ วิโมเกฺข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปญฺญาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อสมยวิมุโตฺต’’ฯ สเพฺพปิ อริยปุคฺคลา อริเย วิโมเกฺข อสมยวิมุตฺตาฯ

    2. Katamo ca puggalo asamayavimutto? Idhekacco puggalo na heva kho kālena kālaṃ samayena samayaṃ aṭṭha vimokkhe kāyena phusitvā viharati, paññāya cassa disvā āsavā parikkhīṇā honti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘asamayavimutto’’. Sabbepi ariyapuggalā ariye vimokkhe asamayavimuttā.

    . กตโม จ ปุคฺคโล กุปฺปธโมฺม? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํฯ โส จ โข น นิกามลาภี โหติ น อกิจฺฉลาภี น อกสิรลาภี; น ยตฺถิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ ยาวติจฺฉกํ สมาปชฺชติปิ วุฎฺฐาติปิฯ ฐานํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ ตสฺส ปุคฺคลสฺส ปมาทมาคมฺม ตา สมาปตฺติโย กุเปฺปยฺยุํ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กุปฺปธโมฺม’’ฯ

    3. Katamo ca puggalo kuppadhammo? Idhekacco puggalo lābhī hoti rūpasahagatānaṃ vā arūpasahagatānaṃ vā samāpattīnaṃ. So ca kho na nikāmalābhī hoti na akicchalābhī na akasiralābhī; na yatthicchakaṃ yadicchakaṃ yāvaticchakaṃ samāpajjatipi vuṭṭhātipi. Ṭhānaṃ kho panetaṃ vijjati, yaṃ tassa puggalassa pamādamāgamma tā samāpattiyo kuppeyyuṃ – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘kuppadhammo’’.

    . กตโม จ ปุคฺคโล อกุปฺปธโมฺม? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํฯ โส จ โข นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี; ยตฺถิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ ยาวติจฺฉกํ สมาปชฺชติปิ วุฎฺฐาติปิฯ อฎฺฐานเมตํ อนวกาโส ยํ ตสฺส ปุคฺคลสฺส ปมาทมาคมฺม ตา สมาปตฺติโย กุเปฺปยฺยุํ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อกุปฺปธโมฺม’’ฯ สเพฺพปิ อริยปุคฺคลา อริเย วิโมเกฺข อกุปฺปธมฺมาฯ

    4. Katamo ca puggalo akuppadhammo? Idhekacco puggalo lābhī hoti rūpasahagatānaṃ vā arūpasahagatānaṃ vā samāpattīnaṃ. So ca kho nikāmalābhī hoti akicchalābhī akasiralābhī; yatthicchakaṃ yadicchakaṃ yāvaticchakaṃ samāpajjatipi vuṭṭhātipi. Aṭṭhānametaṃ anavakāso yaṃ tassa puggalassa pamādamāgamma tā samāpattiyo kuppeyyuṃ – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘akuppadhammo’’. Sabbepi ariyapuggalā ariye vimokkhe akuppadhammā.

    . กตโม จ ปุคฺคโล ปริหานธโมฺม? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํฯ โส จ โข น นิกามลาภี โหติ น อกิจฺฉลาภี น อกสิรลาภี; น ยตฺถิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ ยาวติจฺฉกํ สมาปชฺชติปิ วุฎฺฐาติปิฯ ฐานํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โส ปุคฺคโล ปมาทมาคมฺม ตาหิ สมาปตฺตีหิ ปริหาเยยฺย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปริหานธโมฺม’’ฯ

    5. Katamo ca puggalo parihānadhammo? Idhekacco puggalo lābhī hoti rūpasahagatānaṃ vā arūpasahagatānaṃ vā samāpattīnaṃ. So ca kho na nikāmalābhī hoti na akicchalābhī na akasiralābhī; na yatthicchakaṃ yadicchakaṃ yāvaticchakaṃ samāpajjatipi vuṭṭhātipi. Ṭhānaṃ kho panetaṃ vijjati, yaṃ so puggalo pamādamāgamma tāhi samāpattīhi parihāyeyya – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘parihānadhammo’’.

    . กตโม จ ปุคฺคโล อปริหานธโมฺม? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํฯ โส จ โข นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี; ยตฺถิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ ยาวติจฺฉกํ สมาปชฺชติปิ วุฎฺฐาติปิฯ อฎฺฐานเมตํ อนวกาโส ยํ โส ปุคฺคโล ปมาทมาคมฺม ตาหิ สมาปตฺตีหิ ปริหาเยยฺย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อปริหานธโมฺม’’ฯ สเพฺพปิ อริยปุคฺคลา อริเย วิโมเกฺข อปริหานธมฺมาฯ

    6. Katamo ca puggalo aparihānadhammo? Idhekacco puggalo lābhī hoti rūpasahagatānaṃ vā arūpasahagatānaṃ vā samāpattīnaṃ. So ca kho nikāmalābhī hoti akicchalābhī akasiralābhī; yatthicchakaṃ yadicchakaṃ yāvaticchakaṃ samāpajjatipi vuṭṭhātipi. Aṭṭhānametaṃ anavakāso yaṃ so puggalo pamādamāgamma tāhi samāpattīhi parihāyeyya – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘aparihānadhammo’’. Sabbepi ariyapuggalā ariye vimokkhe aparihānadhammā.

    . กตโม จ ปุคฺคโล เจตนาภโพฺพ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํฯ โส จ โข น นิกามลาภี โหติ น อกิจฺฉลาภี น อกสิรลาภี; น ยตฺถิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ ยาวติจฺฉกํ สมาปชฺชติปิ วุฎฺฐาติปิฯ สเจ อนุสเญฺจเตติ, น ปริหายติ ตาหิ สมาปตฺตีหิฯ สเจ น อนุสเญฺจเตติ, ปริหายติ ตาหิ สมาปตฺตีหิ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘เจตนาภโพฺพ’’ฯ

    7. Katamo ca puggalo cetanābhabbo? Idhekacco puggalo lābhī hoti rūpasahagatānaṃ vā arūpasahagatānaṃ vā samāpattīnaṃ. So ca kho na nikāmalābhī hoti na akicchalābhī na akasiralābhī; na yatthicchakaṃ yadicchakaṃ yāvaticchakaṃ samāpajjatipi vuṭṭhātipi. Sace anusañceteti, na parihāyati tāhi samāpattīhi. Sace na anusañceteti, parihāyati tāhi samāpattīhi – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘cetanābhabbo’’.

    . กตโม จ ปุคฺคโล อนุรกฺขณาภโพฺพ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํฯ โส จ โข น นิกามลาภี โหติ น อกิจฺฉลาภี น อกสิรลาภี; น ยตฺถิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ ยาวติจฺฉกํ สมาปชฺชติปิ วุฎฺฐาติปิฯ สเจ อนุรกฺขติ, น ปริหายติ ตาหิ สมาปตฺตีหิฯ สเจ น อนุรกฺขติ, ปริหายติ ตาหิ สมาปตฺตีหิ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อนุรกฺขณาภโพฺพ’’ฯ

    8. Katamo ca puggalo anurakkhaṇābhabbo? Idhekacco puggalo lābhī hoti rūpasahagatānaṃ vā arūpasahagatānaṃ vā samāpattīnaṃ. So ca kho na nikāmalābhī hoti na akicchalābhī na akasiralābhī; na yatthicchakaṃ yadicchakaṃ yāvaticchakaṃ samāpajjatipi vuṭṭhātipi. Sace anurakkhati, na parihāyati tāhi samāpattīhi. Sace na anurakkhati, parihāyati tāhi samāpattīhi – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘anurakkhaṇābhabbo’’.

    . กตโม จ ปุคฺคโล ปุถุชฺชโน? ยสฺส ปุคฺคลสฺส ตีณิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ; น จ เตสํ ธมฺมานํ ปหานาย ปฎิปโนฺน – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปุถุชฺชโน’’ฯ

    9. Katamo ca puggalo puthujjano? Yassa puggalassa tīṇi saṃyojanāni appahīnāni; na ca tesaṃ dhammānaṃ pahānāya paṭipanno – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘puthujjano’’.

    ๑๐. กตโม จ ปุคฺคโล โคตฺรภู? เยสํ ธมฺมานํ สมนนฺตรา อริยธมฺมสฺส อวกฺกนฺติ โหติ เตหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘โคตฺรภู’’ฯ

    10. Katamo ca puggalo gotrabhū? Yesaṃ dhammānaṃ samanantarā ariyadhammassa avakkanti hoti tehi dhammehi samannāgato – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘gotrabhū’’.

    ๑๑. กตโม จ ปุคฺคโล ภยูปรโต? สตฺต เสกฺขา ภยูปรตา, เย จ ปุถุชฺชนา สีลวโนฺตฯ อรหา อภยูปรโตฯ

    11. Katamo ca puggalo bhayūparato? Satta sekkhā bhayūparatā, ye ca puthujjanā sīlavanto. Arahā abhayūparato.

    ๑๒. กตโม จ ปุคฺคโล อภพฺพาคมโน? เย เต ปุคฺคลา กมฺมาวรเณน สมนฺนาคตา, กิเลสาวรเณน สมนฺนาคตา, วิปากาวรเณน สมนฺนาคตา, อสฺสทฺธา อจฺฉนฺทิกา ทุปฺปญฺญา เอฬา, อภพฺพา นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธเมฺมสุ สมฺมตฺตํ – อิเม วุจฺจนฺติ ปุคฺคลา ‘‘อภพฺพาคมนา’’ฯ

    12. Katamo ca puggalo abhabbāgamano? Ye te puggalā kammāvaraṇena samannāgatā, kilesāvaraṇena samannāgatā, vipākāvaraṇena samannāgatā, assaddhā acchandikā duppaññā eḷā, abhabbā niyāmaṃ okkamituṃ kusalesu dhammesu sammattaṃ – ime vuccanti puggalā ‘‘abhabbāgamanā’’.

    ๑๓. กตโม จ ปุคฺคโล ภพฺพาคมโน? เย เต ปุคฺคลา น กมฺมาวรเณน สมนฺนาคตา, น กิเลสาวรเณน สมนฺนาคตา, น วิปากาวรเณน สมนฺนาคตา, สทฺธา ฉนฺทิกา ปญฺญวโนฺต 3 อเนฬา, ภพฺพา นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธเมฺมสุ สมฺมตฺตํ – อิเม วุจฺจนฺติ ปุคฺคลา ‘‘ภพฺพาคมนา’’ฯ

    13. Katamo ca puggalo bhabbāgamano? Ye te puggalā na kammāvaraṇena samannāgatā, na kilesāvaraṇena samannāgatā, na vipākāvaraṇena samannāgatā, saddhā chandikā paññavanto 4 aneḷā, bhabbā niyāmaṃ okkamituṃ kusalesu dhammesu sammattaṃ – ime vuccanti puggalā ‘‘bhabbāgamanā’’.

    ๑๔. กตโม จ ปุคฺคโล นิยโต? ปญฺจ ปุคฺคลา อานนฺตริกา, เย จ มิจฺฉาทิฎฺฐิกา นิยตา, อฎฺฐ จ อริยปุคฺคลา นิยตาฯ อวเสสา ปุคฺคลา อนิยตาฯ

    14. Katamo ca puggalo niyato? Pañca puggalā ānantarikā, ye ca micchādiṭṭhikā niyatā, aṭṭha ca ariyapuggalā niyatā. Avasesā puggalā aniyatā.

    ๑๕. กตโม จ ปุคฺคโล ปฎิปนฺนโก? จตฺตาโร มคฺคสมงฺคิโน ปุคฺคลา ปฎิปนฺนกา, จตฺตาโร ผลสมงฺคิโน ปุคฺคลา ผเล ฐิตาฯ

    15. Katamo ca puggalo paṭipannako? Cattāro maggasamaṅgino puggalā paṭipannakā, cattāro phalasamaṅgino puggalā phale ṭhitā.

    ๑๖. กตโม จ ปุคฺคโล สมสีสี? ยสฺส ปุคฺคลสฺส อปุพฺพํ อจริมํ อาสวปริยาทานญฺจ โหติ ชีวิตปริยาทานญฺจ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สมสีสี’’ฯ

    16. Katamo ca puggalo samasīsī? Yassa puggalassa apubbaṃ acarimaṃ āsavapariyādānañca hoti jīvitapariyādānañca – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘samasīsī’’.

    ๑๗. กตโม จ ปุคฺคโล ฐิตกปฺปี? อยญฺจ ปุคฺคโล โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฎิปโนฺน อสฺส, กปฺปสฺส จ อุฑฺฑยฺหนเวลา อสฺส, เนว ตาว กโปฺป อุฑฺฑเยฺหยฺย ยาวายํ ปุคฺคโล น โสตาปตฺติผลํ สจฺฉิกโรติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ฐิตกปฺปี’’ฯ สเพฺพปิ มคฺคสมงฺคิโน ปุคฺคลา ฐิตกปฺปิโนฯ

    17. Katamo ca puggalo ṭhitakappī? Ayañca puggalo sotāpattiphalasacchikiriyāya paṭipanno assa, kappassa ca uḍḍayhanavelā assa, neva tāva kappo uḍḍayheyya yāvāyaṃ puggalo na sotāpattiphalaṃ sacchikaroti. Ayaṃ vuccati puggalo ‘‘ṭhitakappī’’. Sabbepi maggasamaṅgino puggalā ṭhitakappino.

    ๑๘. กตโม จ ปุคฺคโล อริโย? อฎฺฐ อริยปุคฺคลา อริยาฯ อวเสสา ปุคฺคลา อนริยาฯ

    18. Katamo ca puggalo ariyo? Aṭṭha ariyapuggalā ariyā. Avasesā puggalā anariyā.

    ๑๙. กตโม จ ปุคฺคโล เสโกฺข? จตฺตาโร มคฺคสมงฺคิโน ตโย ผลสมงฺคิโน ปุคฺคลา ‘‘เสกฺขา’’ฯ อรหา อเสโกฺขฯ อวเสสา ปุคฺคลา เนวเสกฺขนาเสกฺขาฯ

    19. Katamo ca puggalo sekkho? Cattāro maggasamaṅgino tayo phalasamaṅgino puggalā ‘‘sekkhā’’. Arahā asekkho. Avasesā puggalā nevasekkhanāsekkhā.

    ๒๐. กตโม จ ปุคฺคโล เตวิโชฺช? ตีหิ วิชฺชาหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘เตวิโชฺช’’ฯ

    20. Katamo ca puggalo tevijjo? Tīhi vijjāhi samannāgato puggalo ‘‘tevijjo’’.

    ๒๑. กตโม จ ปุคฺคโล ฉฬภิโญฺญ? ฉหิ อภิญฺญาหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘ฉฬภิโญฺญ’’ฯ

    21. Katamo ca puggalo chaḷabhiñño? Chahi abhiññāhi samannāgato puggalo ‘‘chaḷabhiñño’’.

    ๒๒. กตโม จ ปุคฺคโล สมฺมาสมฺพุโทฺธ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ สามํ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌติ; ตตฺถ จ สพฺพญฺญุตํ ปาปุณาติ, พเลสุ จ วสีภาวํ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สมฺมาสมฺพุโทฺธ’’ฯ

    22. Katamo ca puggalo sammāsambuddho? Idhekacco puggalo pubbe ananussutesu dhammesu sāmaṃ saccāni abhisambujjhati; tattha ca sabbaññutaṃ pāpuṇāti, balesu ca vasībhāvaṃ – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘sammāsambuddho’’.

    ๒๓. กตโม จ ปุคฺคโล ปเจฺจกสมฺพุโทฺธ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปุเพฺพ อนนุสฺสุเตสุ ธเมฺมสุ สามํ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌติ; น จ ตตฺถ สพฺพญฺญุตํ ปาปุณาติ, น จ พเลสุ วสีภาวํ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปเจฺจกสมฺพุโทฺธ’’ฯ

    23. Katamo ca puggalo paccekasambuddho? Idhekacco puggalo pubbe ananussutesu dhammesu sāmaṃ saccāni abhisambujjhati; na ca tattha sabbaññutaṃ pāpuṇāti, na ca balesu vasībhāvaṃ – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘paccekasambuddho’’.

    ๒๔. กตโม จ ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุโตฺต? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อฎฺฐ วิโมเกฺข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ; ปญฺญาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อุภโตภาควิมุโตฺต’’ฯ

    24. Katamo ca puggalo ubhatobhāgavimutto? Idhekacco puggalo aṭṭha vimokkhe kāyena phusitvā viharati; paññāya cassa disvā āsavā parikkhīṇā honti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘ubhatobhāgavimutto’’.

    ๒๕. กตโม จ ปุคฺคโล ปญฺญาวิมุโตฺต? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล น เหว โข อฎฺฐ วิโมเกฺข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ; ปญฺญาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปญฺญาวิมุโตฺต’’ฯ

    25. Katamo ca puggalo paññāvimutto? Idhekacco puggalo na heva kho aṭṭha vimokkhe kāyena phusitvā viharati; paññāya cassa disvā āsavā parikkhīṇā honti. Ayaṃ vuccati puggalo ‘‘paññāvimutto’’.

    ๒๖. กตโม จ ปุคฺคโล กายสกฺขี? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อฎฺฐ วิโมเกฺข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ ; ปญฺญาย จสฺส ทิสฺวา เอกเจฺจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กายสกฺขี’’ฯ

    26. Katamo ca puggalo kāyasakkhī? Idhekacco puggalo aṭṭha vimokkhe kāyena phusitvā viharati ; paññāya cassa disvā ekacce āsavā parikkhīṇā honti. Ayaṃ vuccati puggalo ‘‘kāyasakkhī’’.

    ๒๗. กตโม จ ปุคฺคโล ทิฎฺฐิปฺปโตฺต? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปญฺญาย โวทิฎฺฐา โหนฺติ โวจริตาฯ ปญฺญาย จสฺส ทิสฺวา เอกเจฺจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ทิฎฺฐิปฺปโตฺต’’ฯ

    27. Katamo ca puggalo diṭṭhippatto? Idhekacco puggalo ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhasamudayo’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodho’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti. Tathāgatappaveditā cassa dhammā paññāya vodiṭṭhā honti vocaritā. Paññāya cassa disvā ekacce āsavā parikkhīṇā honti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘diṭṭhippatto’’.

    ๒๘. กตโม จ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุโตฺต? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปญฺญาย โวทิฎฺฐา โหนฺติ โวจริตาฯ ปญฺญาย จสฺส ทิสฺวา เอกเจฺจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ, โน จ โข ยถา ทิฎฺฐิปฺปตฺตสฺส – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สทฺธาวิมุโตฺต’’ฯ

    28. Katamo ca puggalo saddhāvimutto? Idhekacco puggalo ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhasamudayo’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodho’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti. Tathāgatappaveditā cassa dhammā paññāya vodiṭṭhā honti vocaritā. Paññāya cassa disvā ekacce āsavā parikkhīṇā honti, no ca kho yathā diṭṭhippattassa – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘saddhāvimutto’’.

    ๒๙. กตโม จ ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี? ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฎิปนฺนสฺส ปญฺญินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, ปญฺญาวาหิํ ปญฺญาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ธมฺมานุสารี’’ฯ โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฎิปโนฺน ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี ผเล ฐิโต ทิฎฺฐิปฺปโตฺตฯ

    29. Katamo ca puggalo dhammānusārī? Yassa puggalassa sotāpattiphalasacchikiriyāya paṭipannassa paññindriyaṃ adhimattaṃ hoti, paññāvāhiṃ paññāpubbaṅgamaṃ ariyamaggaṃ bhāveti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘dhammānusārī’’. Sotāpattiphalasacchikiriyāya paṭipanno puggalo dhammānusārī phale ṭhito diṭṭhippatto.

    ๓๐. กตโม จ ปุคฺคโล สทฺธานุสารี? ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฎิปนฺนสฺส สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, สทฺธาวาหิํ สทฺธาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สทฺธานุสารี’’ฯ โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฎิปโนฺน ปุคฺคโล สทฺธานุสารี ผเล ฐิโต สทฺธาวิมุโตฺตฯ

    30. Katamo ca puggalo saddhānusārī? Yassa puggalassa sotāpattiphalasacchikiriyāya paṭipannassa saddhindriyaṃ adhimattaṃ hoti, saddhāvāhiṃ saddhāpubbaṅgamaṃ ariyamaggaṃ bhāveti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘saddhānusārī’’. Sotāpattiphalasacchikiriyāya paṭipanno puggalo saddhānusārī phale ṭhito saddhāvimutto.

    ๓๑. กตโม จ ปุคฺคโล สตฺตกฺขตฺตุปรโม? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปโนฺน โหติ อวินิปาตธโมฺม นิยโต สโมฺพธิปรายโน 5ฯ โส สตฺตกฺขตฺตุํ เทเว จ มานุเส จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สตฺตกฺขตฺตุปรโม’’ฯ

    31. Katamo ca puggalo sattakkhattuparamo? Idhekacco puggalo tiṇṇaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā sotāpanno hoti avinipātadhammo niyato sambodhiparāyano 6. So sattakkhattuṃ deve ca mānuse ca sandhāvitvā saṃsaritvā dukkhassantaṃ karoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘sattakkhattuparamo’’.

    ๓๒. กตโม จ ปุคฺคโล โกลโงฺกโล? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปโนฺน โหติ อวินิปาตธโมฺม นิยโต สโมฺพธิปรายโนฯ โส เทฺว วา ตีณิ วา กุลานิ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘โกลโงฺกโล’’ฯ

    32. Katamo ca puggalo kolaṅkolo? Idhekacco puggalo tiṇṇaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā sotāpanno hoti avinipātadhammo niyato sambodhiparāyano. So dve vā tīṇi vā kulāni sandhāvitvā saṃsaritvā dukkhassantaṃ karoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘kolaṅkolo’’.

    ๓๓. กตโม จ ปุคฺคโล เอกพีชี? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปโนฺน โหติ อวินิปาตธโมฺม นิยโต สโมฺพธิปรายโนฯ โส เอกํเยว มานุสกํ ภวํ นิพฺพเตฺตตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘เอกพีชี’’ฯ

    33. Katamo ca puggalo ekabījī? Idhekacco puggalo tiṇṇaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā sotāpanno hoti avinipātadhammo niyato sambodhiparāyano. So ekaṃyeva mānusakaṃ bhavaṃ nibbattetvā dukkhassantaṃ karoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘ekabījī’’.

    ๓๔. กตโม จ ปุคฺคโล สกทาคามี? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหติ , สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สกทาคามี’’ฯ

    34. Katamo ca puggalo sakadāgāmī? Idhekacco puggalo tiṇṇaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā rāgadosamohānaṃ tanuttā sakadāgāmī hoti , sakideva imaṃ lokaṃ āgantvā dukkhassantaṃ karoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘sakadāgāmī’’.

    ๓๕. กตโม จ ปุคฺคโล อนาคามี? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธโมฺม ตสฺมา โลกา – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อนาคามี’’ฯ

    35. Katamo ca puggalo anāgāmī? Idhekacco puggalo pañcannaṃ orambhāgiyānaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā opapātiko hoti, tattha parinibbāyī anāvattidhammo tasmā lokā – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘anāgāmī’’.

    ๓๖. กตโม จ ปุคฺคโล อนฺตราปรินิพฺพายี? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธโมฺม ตสฺมา โลกาฯ โส อุปปนฺนํ วา สมนนฺตรา อปฺปตฺตํ วา เวมชฺฌํ อายุปฺปมาณํ อริยมคฺคํ สญฺชเนติ อุปริฎฺฐิมานํ สํโยชนานํ ปหานาย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อนฺตราปรินิพฺพายี’’ฯ

    36. Katamo ca puggalo antarāparinibbāyī? Idhekacco puggalo pañcannaṃ orambhāgiyānaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā opapātiko hoti, tattha parinibbāyī anāvattidhammo tasmā lokā. So upapannaṃ vā samanantarā appattaṃ vā vemajjhaṃ āyuppamāṇaṃ ariyamaggaṃ sañjaneti upariṭṭhimānaṃ saṃyojanānaṃ pahānāya – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘antarāparinibbāyī’’.

    ๓๗. กตโม จ ปุคฺคโล อุปหจฺจปรินิพฺพายี? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธโมฺม ตสฺมา โลกาฯ โส อติกฺกมิตฺวา เวมชฺฌํ อายุปฺปมาณํ อุปหจฺจ วา กาลกิริยํ 7 อริยมคฺคํ สญฺชเนติ อุปริฎฺฐิมานํ สํโยชนานํ ปหานาย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อุปหจฺจปรินิพฺพายี’’ฯ

    37. Katamo ca puggalo upahaccaparinibbāyī? Idhekacco puggalo pañcannaṃ orambhāgiyānaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā opapātiko hoti, tattha parinibbāyī anāvattidhammo tasmā lokā. So atikkamitvā vemajjhaṃ āyuppamāṇaṃ upahacca vā kālakiriyaṃ 8 ariyamaggaṃ sañjaneti upariṭṭhimānaṃ saṃyojanānaṃ pahānāya – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘upahaccaparinibbāyī’’.

    ๓๘. กตโม จ ปุคฺคโล อสงฺขารปรินิพฺพายี? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธโมฺม ตสฺมา โลกาฯ โส อสงฺขาเรน อริยมคฺคํ สญฺชเนติ อุปริฎฺฐิมานํ สํโยชนานํ ปหานาย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อสงฺขารปรินิพฺพายี’’ฯ

    38. Katamo ca puggalo asaṅkhāraparinibbāyī? Idhekacco puggalo pañcannaṃ orambhāgiyānaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā opapātiko hoti, tattha parinibbāyī anāvattidhammo tasmā lokā. So asaṅkhārena ariyamaggaṃ sañjaneti upariṭṭhimānaṃ saṃyojanānaṃ pahānāya – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘asaṅkhāraparinibbāyī’’.

    ๓๙. กตโม จ ปุคฺคโล สสงฺขารปรินิพฺพายี? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธโมฺม ตสฺมา โลกาฯ โส สสงฺขาเรน อริยมคฺคํ สญฺชเนติ อุปริฎฺฐิมานํ สํโยชนานํ ปหานาย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สสงฺขารปรินิพฺพายี’’ฯ

    39. Katamo ca puggalo sasaṅkhāraparinibbāyī? Idhekacco puggalo pañcannaṃ orambhāgiyānaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā opapātiko hoti, tattha parinibbāyī anāvattidhammo tasmā lokā. So sasaṅkhārena ariyamaggaṃ sañjaneti upariṭṭhimānaṃ saṃyojanānaṃ pahānāya – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘sasaṅkhāraparinibbāyī’’.

    ๔๐. กตโม จ ปุคฺคโล อุทฺธํโสโต อกนิฎฺฐคามี? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธโมฺม ตสฺมา โลกาฯ โส อวิหา จุโต อตปฺปํ คจฺฉติ, อตปฺปา จุโต สุทสฺสํ คจฺฉติ, สุทสฺสา จุโต สุทสฺสิํ คจฺฉติ, สุทสฺสิยา จุโต อกนิฎฺฐํ คจฺฉติ; อกนิเฎฺฐ อริยมคฺคํ สญฺชเนติ อุปริฎฺฐิมานํ สํโยชนานํ ปหานาย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อุทฺธํโสโต อกนิฎฺฐคามี’’ฯ

    40. Katamo ca puggalo uddhaṃsoto akaniṭṭhagāmī? Idhekacco puggalo pañcannaṃ orambhāgiyānaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā opapātiko hoti, tattha parinibbāyī anāvattidhammo tasmā lokā. So avihā cuto atappaṃ gacchati, atappā cuto sudassaṃ gacchati, sudassā cuto sudassiṃ gacchati, sudassiyā cuto akaniṭṭhaṃ gacchati; akaniṭṭhe ariyamaggaṃ sañjaneti upariṭṭhimānaṃ saṃyojanānaṃ pahānāya – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘uddhaṃsoto akaniṭṭhagāmī’’.

    ๔๑. กตโม จ ปุคฺคโล โสตาปโนฺน โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฎิปโนฺน? ติณฺณํ สํโยชนานํ ปหานาย ปฎิปโนฺน ปุคฺคโล โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฎิปโนฺนฯ ยสฺส ปุคฺคลสฺส ตีณิ สํโยชนานิ ปหีนานิ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘โสตาปโนฺน’’ฯ

    41. Katamo ca puggalo sotāpanno sotāpattiphalasacchikiriyāya paṭipanno? Tiṇṇaṃ saṃyojanānaṃ pahānāya paṭipanno puggalo sotāpattiphalasacchikiriyāya paṭipanno. Yassa puggalassa tīṇi saṃyojanāni pahīnāni – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘sotāpanno’’.

    ๔๒. กามราคพฺยาปาทานํ ตนุภาวาย ปฎิปโนฺน ปุคฺคโล สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฎิปโนฺน ฯ ยสฺส ปุคฺคลสฺส กามราคพฺยาปาทา ตนุภูตา – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สกทาคามี’’ฯ

    42. Kāmarāgabyāpādānaṃ tanubhāvāya paṭipanno puggalo sakadāgāmiphalasacchikiriyāya paṭipanno . Yassa puggalassa kāmarāgabyāpādā tanubhūtā – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘sakadāgāmī’’.

    ๔๓. กามราคพฺยาปาทานํ อนวเสสปฺปหานาย ปฎิปโนฺน ปุคฺคโล อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฎิปโนฺนฯ ยสฺส ปุคฺคลสฺส กามราคพฺยาปาทา อนวเสสา ปหีนา – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อนาคามี’’ฯ

    43. Kāmarāgabyāpādānaṃ anavasesappahānāya paṭipanno puggalo anāgāmiphalasacchikiriyāya paṭipanno. Yassa puggalassa kāmarāgabyāpādā anavasesā pahīnā – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘anāgāmī’’.

    ๔๔. รูปราคอรูปราคมานอุทฺธจฺจอวิชฺชาย อนวเสสปฺปหานาย ปฎิปโนฺน ปุคฺคโล อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย ปฎิปโนฺนฯ ยสฺส ปุคฺคลสฺส รูปราโค อรูปราโค มาโน อุทฺธจฺจํ อวิชฺชา อนวเสสา ปหีนา – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อรหา’’ฯ

    44. Rūparāgaarūparāgamānauddhaccaavijjāya anavasesappahānāya paṭipanno puggalo arahattaphalasacchikiriyāya paṭipanno. Yassa puggalassa rūparāgo arūparāgo māno uddhaccaṃ avijjā anavasesā pahīnā – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘arahā’’.

    เอกกนิเทฺทโสฯ

    Ekakaniddeso.







    Footnotes:
    1. ผสฺสิตฺวา (สี. ปี.)
    2. phassitvā (sī. pī.)
    3. ปญฺญวนฺตา (สี.)
    4. paññavantā (sī.)
    5. สโมฺพธิปรายโณ (สี. ก.)
    6. sambodhiparāyaṇo (sī. ka.)
    7. กาลํ กิริยํ (ก.)
    8. kālaṃ kiriyaṃ (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā / ๑. เอกกนิเทฺทสวณฺณนา • 1. Ekakaniddesavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๑. เอกกนิเทฺทสวณฺณนา • 1. Ekakaniddesavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā / ๑. เอกกนิเทฺทสวณฺณนา • 1. Ekakaniddesavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact