Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๑๐. เอณิชงฺฆสุตฺตวณฺณนา
10. Eṇijaṅghasuttavaṇṇanā
๓๐. เอณิมิคสฺส วิยาติ เอณิมิคสฺส ชงฺฆา วิยฯ อวยวีสมฺพเนฺธ หิ อิทํ สามิวจนํฯ ปิณฺฑิมํสสฺส ปริโต สมสณฺฐิตตฺตา สุวฎฺฎีตชโงฺฆฯ กิสนฺติ ถูลภาวปฎิเกฺขปปราโชตนา, น สุฎฺฐุ กิสภาวทีปนปราติ อาห ‘‘อถูลํ สมสรีร’’นฺติฯ อาตเปน มิลาตนฺติ ตปสา มิลาตกายํ อินฺทฺริยสนฺตาปนภาวโตฯ เตเนวาห – ‘‘ตโป มิลาต’’นฺติอาทิ, ตถา จาห ปาฬิยํ ‘‘อปฺปาหารํ อโลลุป’’นฺติฯ ยถา ‘‘วีรสฺส ภาโว วีริย’’นฺติ วีรภาเวน วีริยํ ลกฺขียติ, เอวํ วีริยสมฺภเวน วีรภาโวติ อาห ‘‘วีรนฺติ วีริยวนฺต’’นฺติฯ ‘‘จตฺตาโร ปญฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว’’ติ (เถรคา. ๙๘๓; มิ. ป. ๖.๕.๑๐) ธมฺมเสนาปติวุตฺตนิยาเมน ปริมิตโภชิตาย อปฺปาหารตา โภชเน มตฺตญฺญุตาฯ ‘‘มิตาหาร’’นฺติ วตฺวา ปุน ปริจฺฉินฺนกาลโภชิตายปิ อปฺปาหารตํ ทเสฺสโนฺต ‘‘วิกาล…เป.… ปริตฺตาหาร’’นฺติ อาหฯ จตูสุ ปจฺจเยสุ โลลุปฺปวิรหิตํ โพธิมูเล เอว สพฺพโส โลลุปฺปสฺส ปหีนตฺตาฯ ‘‘จตูสุ ปจฺจเยสู’’ติ หิ อิมินาว สพฺพตฺถ โลลุปฺปวิคโม ทีปิโตวาติฯ รสตณฺหาปฎิเกฺขโป วา เอส ‘‘อปฺปาหาร’’นฺติ วตฺวา ‘‘อโลลุป’’นฺติ วุตฺตตฺตาฯ ‘‘สีหํ วา’’ติ เอตฺถ เอกจรสโทฺท วิย อิว-สโทฺท อตฺถโต ‘‘นาค’’นฺติ เอตฺถาปิ อาเนตฺวา, สมฺพนฺธิตโพฺพติ อาห – ‘‘เอกจรํ สีหํ วิย, เอกจรํ นาคํ วิยา’’ติฯ เอกจรา อปฺปมตฺตา เอกีกตายฯ
30.Eṇimigassa viyāti eṇimigassa jaṅghā viya. Avayavīsambandhe hi idaṃ sāmivacanaṃ. Piṇḍimaṃsassa parito samasaṇṭhitattā suvaṭṭītajaṅgho. Kisanti thūlabhāvapaṭikkhepaparājotanā, na suṭṭhu kisabhāvadīpanaparāti āha ‘‘athūlaṃ samasarīra’’nti. Ātapena milātanti tapasā milātakāyaṃ indriyasantāpanabhāvato. Tenevāha – ‘‘tapo milāta’’ntiādi, tathā cāha pāḷiyaṃ ‘‘appāhāraṃ alolupa’’nti. Yathā ‘‘vīrassa bhāvo vīriya’’nti vīrabhāvena vīriyaṃ lakkhīyati, evaṃ vīriyasambhavena vīrabhāvoti āha ‘‘vīranti vīriyavanta’’nti. ‘‘Cattāro pañca ālope, abhutvā udakaṃ pive’’ti (theragā. 983; mi. pa. 6.5.10) dhammasenāpativuttaniyāmena parimitabhojitāya appāhāratā bhojane mattaññutā. ‘‘Mitāhāra’’nti vatvā puna paricchinnakālabhojitāyapi appāhārataṃ dassento ‘‘vikāla…pe… parittāhāra’’nti āha. Catūsu paccayesu loluppavirahitaṃ bodhimūle eva sabbaso loluppassa pahīnattā. ‘‘Catūsu paccayesū’’ti hi imināva sabbattha loluppavigamo dīpitovāti. Rasataṇhāpaṭikkhepo vā esa ‘‘appāhāra’’nti vatvā ‘‘alolupa’’nti vuttattā. ‘‘Sīhaṃ vā’’ti ettha ekacarasaddo viya iva-saddo atthato ‘‘nāga’’nti etthāpi ānetvā, sambandhitabboti āha – ‘‘ekacaraṃ sīhaṃ viya, ekacaraṃ nāgaṃ viyā’’ti. Ekacarā appamattā ekīkatāya.
ปญฺจกามคุณวเสน รูปํ คหิตํ เตสํ รูปสภาวตฺตาฯ มเนน นามํ คหิตํ มนสฺส นามสภาวตฺตาฯ อวินิภุตฺตธเมฺมติ อวินาภาวธเมฺม คเหตฺวาฯ อาทิ-สเทฺทน อายตนธาตุอาทโย คหิตาฯ กามคุณคฺคหเณน เหตฺถ รูปภาวสามเญฺญน ปญฺจ วตฺถูนิ คหิตาเนว โหนฺติ, มโนคหเณน ธมฺมายตนํ, เอวํ ทฺวาทสายตนานิ คหิตานิ โหนฺติฯ อิมินา นเยน ธาตุอาทีนมฺปิ คหิตตา โยเชตพฺพาฯ เตนาห ‘‘ปญฺจกฺขนฺธาทิวเสนเปตฺถ ภุมฺมํ โยเชตพฺพ’’นฺติฯ เอตฺถาติ ปาฬิยํฯ กามวตฺถุ ภุมฺมํฯ
Pañcakāmaguṇavasena rūpaṃ gahitaṃ tesaṃ rūpasabhāvattā. Manena nāmaṃ gahitaṃ manassa nāmasabhāvattā. Avinibhuttadhammeti avinābhāvadhamme gahetvā. Ādi-saddena āyatanadhātuādayo gahitā. Kāmaguṇaggahaṇena hettha rūpabhāvasāmaññena pañca vatthūni gahitāneva honti, manogahaṇena dhammāyatanaṃ, evaṃ dvādasāyatanāni gahitāni honti. Iminā nayena dhātuādīnampi gahitatā yojetabbā. Tenāha ‘‘pañcakkhandhādivasenapettha bhummaṃ yojetabba’’nti. Etthāti pāḷiyaṃ. Kāmavatthu bhummaṃ.
เอณิชงฺฆสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Eṇijaṅghasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
สตฺติวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sattivaggavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑๐. เอณิชงฺฆสุตฺตํ • 10. Eṇijaṅghasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. เอณิชงฺฆสุตฺตวณฺณนา • 10. Eṇijaṅghasuttavaṇṇanā