Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) |
๖. เอสุการีสุตฺตวณฺณนา
6. Esukārīsuttavaṇṇanā
๔๓๗. เอวํ เม สุตนฺติ เอสุการีสุตฺตํฯ ตตฺถ พิลํ โอลเคฺคยฺยุนฺติ โกฎฺฐาสํ ลคฺคาเปยฺยุํ, อิมินา สตฺถธมฺมํ นาม ทเสฺสติฯ สตฺถวาโห กิร มหากนฺตารปฎิปโนฺน อนฺตรามเคฺค โคเณ มเต มํสํ คเหตฺวา สเพฺพสํ สตฺถิกานํ ‘‘อิทํ ขาทิตฺวา เอตฺตกํ มูลํ ทาตพฺพ’’นฺติ โกฎฺฐาสํ โอลเคฺคติ, โคณมํสํ นาม ขาทนฺตาปิ อตฺถิ อขาทนฺตาปิ, มูลํ ทาตุํ สโกฺกนฺตาปิ อสโกฺกนฺตาปิฯ สตฺถวาโห เยน มูเลน โคโณ คหิโต, ตสฺส นิกฺขมนตฺถํ สเพฺพสํ พลกฺกาเรน โกฎฺฐาสํ ทตฺวา มูลํ คณฺหาติ, อยํ สตฺถธโมฺมฯ เอวเมวํ พฺราหฺมณาปิ โลกสฺส ปฎิญฺญํ อคฺคเหตฺวา อตฺตโนว ธมฺมตาย จตโสฺส ปาริจริยา ปญฺญเปนฺตีติ ทเสฺสตุํ เอวเมว โขติอาทิมาหฯ ปาปิโย อสฺสาติ ปาปํ อสฺสฯ เสโยฺย อสฺสาติ หิตํ อสฺสฯ อถ วา ปาปิโยติ ปาปโก ลามโก อตฺตภาโว อสฺสฯ เสโยฺยติ เสโฎฺฐ อุตฺตโมฯ เสยฺยํโสติ เสโยฺยฯ อุจฺจากุลีนตาติ อุจฺจากุลีนเตฺตน เสโยฺยฯ ปาปิยํโสติ ปาปิโยฯ อุจฺจากุลีนตา จ ทฺวีสุ กุเลสุ วเฑฺฒติ ขตฺติยกุเล พฺราหฺมณกุเล จ, อุฬารวณฺณตา ตีสุฯ เวโสฺสปิ หิ อุฬารวโณฺณ โหติฯ อุฬารโภคตา จตูสุปิฯ สุโทฺทปิ หิ อนฺตมโส จณฺฑาโลปิ อุฬารโภโค โหติเยวฯ
437.Evaṃme sutanti esukārīsuttaṃ. Tattha bilaṃ olaggeyyunti koṭṭhāsaṃ laggāpeyyuṃ, iminā satthadhammaṃ nāma dasseti. Satthavāho kira mahākantārapaṭipanno antarāmagge goṇe mate maṃsaṃ gahetvā sabbesaṃ satthikānaṃ ‘‘idaṃ khāditvā ettakaṃ mūlaṃ dātabba’’nti koṭṭhāsaṃ olaggeti, goṇamaṃsaṃ nāma khādantāpi atthi akhādantāpi, mūlaṃ dātuṃ sakkontāpi asakkontāpi. Satthavāho yena mūlena goṇo gahito, tassa nikkhamanatthaṃ sabbesaṃ balakkārena koṭṭhāsaṃ datvā mūlaṃ gaṇhāti, ayaṃ satthadhammo. Evamevaṃ brāhmaṇāpi lokassa paṭiññaṃ aggahetvā attanova dhammatāya catasso pāricariyā paññapentīti dassetuṃ evameva khotiādimāha. Pāpiyo assāti pāpaṃ assa. Seyyo assāti hitaṃ assa. Atha vā pāpiyoti pāpako lāmako attabhāvo assa. Seyyoti seṭṭho uttamo. Seyyaṃsoti seyyo. Uccākulīnatāti uccākulīnattena seyyo. Pāpiyaṃsoti pāpiyo. Uccākulīnatā ca dvīsu kulesu vaḍḍheti khattiyakule brāhmaṇakule ca, uḷāravaṇṇatā tīsu. Vessopi hi uḷāravaṇṇo hoti. Uḷārabhogatā catūsupi. Suddopi hi antamaso caṇḍālopi uḷārabhogo hotiyeva.
๔๔๐. ภิกฺขาจริยนฺติ โกฎิธเนนปิ หิ พฺราหฺมเณน ภิกฺขา จริตพฺพาว, โปราณกพฺราหฺมณา อสีติโกฎิธนาปิ เอกเวลํ ภิกฺขํ จรนฺติฯ กสฺมา? ทุคฺคตกาเล จรนฺตานํ อิทานิ ภิกฺขํ จริตุํ อารทฺธาติ ครหา น ภวิสฺสตีติฯ อติมญฺญมาโนติ โย ภิกฺขาจริยวํสํ หริตฺวา สตฺตชีวกสิกมฺมวณิชฺชาทีหิ ชีวิกํ กเปฺปติ, อยํ อติมญฺญติ นามฯ โคโป วาติ ยถา โคปโก อตฺตนา รกฺขิตพฺพํ ภณฺฑํ เถเนโนฺต อกิจฺจการี โหติ, เอวนฺติ อโตฺถฯ อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ อสิตพฺยาภงฺคินฺติ ติณลายนอสิตเญฺจว กาชญฺจฯ อนุสฺสรโตติ ยตฺถ ชาโต, ตสฺมิํ โปราเณ มาตาเปตฺติเก กุลวํเส อนุสฺสริยมาเนติ อโตฺถฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ
440.Bhikkhācariyanti koṭidhanenapi hi brāhmaṇena bhikkhā caritabbāva, porāṇakabrāhmaṇā asītikoṭidhanāpi ekavelaṃ bhikkhaṃ caranti. Kasmā? Duggatakāle carantānaṃ idāni bhikkhaṃ carituṃ āraddhāti garahā na bhavissatīti. Atimaññamānoti yo bhikkhācariyavaṃsaṃ haritvā sattajīvakasikammavaṇijjādīhi jīvikaṃ kappeti, ayaṃ atimaññati nāma. Gopo vāti yathā gopako attanā rakkhitabbaṃ bhaṇḍaṃ thenento akiccakārī hoti, evanti attho. Iminā nayena sabbavāresu attho veditabbo. Asitabyābhaṅginti tiṇalāyanaasitañceva kājañca. Anussaratoti yattha jāto, tasmiṃ porāṇe mātāpettike kulavaṃse anussariyamāneti attho. Sesaṃ sabbattha uttānamevāti.
ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฎฺฐกถาย
Papañcasūdaniyā majjhimanikāyaṭṭhakathāya
เอสุการีสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Esukārīsuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๖. เอสุการีสุตฺตํ • 6. Esukārīsuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๖. เอสุการีสุตฺตวณฺณนา • 6. Esukārīsuttavaṇṇanā