Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā |
คมิกาทินิสฺสยวตฺถุกถา
Gamikādinissayavatthukathā
๑๒๑. นิสฺสยกรณีโยติ กรณียนิสฺสโย, กรณีโย มยา นิสฺสโย; คเหตโพฺพติ อโตฺถฯ นิสฺสยํ อลภมาเนนาติ อตฺตนา สทฺธิํ อทฺธานมคฺคปฺปฎิปเนฺนสุ นิสฺสยทายเก อสติ นิสฺสยํ น ลภติ นามฯ เอวํ อลภเนฺตน อนิสฺสิเตน พหูนิปิ ทิวสานิ คนฺตพฺพํฯ สเจ ปุเพฺพปิ นิสฺสยํ คเหตฺวา วุตฺถปุพฺพํ กญฺจิ อาวาสํ ปวิสติ, เอกรตฺตํ วสเนฺตนาปิ นิสฺสโย คเหตโพฺพฯ อนฺตรามเคฺค วิสฺสมโนฺต วา สตฺถํ ปริเยสโนฺต วา กติปาหํ วสติ, อนาปตฺติฯ อโนฺตวเสฺส ปน นิพทฺธวาสํ วสิตพฺพํ, นิสฺสโย จ คเหตโพฺพฯ นาวาย คจฺฉนฺตสฺส ปน วสฺสาเน อาคเตปิ นิสฺสยํ อลภนฺตสฺส อนาปตฺติฯ
121.Nissayakaraṇīyoti karaṇīyanissayo, karaṇīyo mayā nissayo; gahetabboti attho. Nissayaṃ alabhamānenāti attanā saddhiṃ addhānamaggappaṭipannesu nissayadāyake asati nissayaṃ na labhati nāma. Evaṃ alabhantena anissitena bahūnipi divasāni gantabbaṃ. Sace pubbepi nissayaṃ gahetvā vutthapubbaṃ kañci āvāsaṃ pavisati, ekarattaṃ vasantenāpi nissayo gahetabbo. Antarāmagge vissamanto vā satthaṃ pariyesanto vā katipāhaṃ vasati, anāpatti. Antovasse pana nibaddhavāsaṃ vasitabbaṃ, nissayo ca gahetabbo. Nāvāya gacchantassa pana vassāne āgatepi nissayaṃ alabhantassa anāpatti.
ยาจิยมาเนนาติ เตน คิลาเนน ยาจิยมาเนน อนิสฺสิเตน วสิตพฺพํฯ สเจ ‘‘ยาจาหิ ม’’นฺติ วุจฺจมาโนปิ คิลาโน มาเนน น ยาจติ, คนฺตพฺพํฯ
Yāciyamānenāti tena gilānena yāciyamānena anissitena vasitabbaṃ. Sace ‘‘yācāhi ma’’nti vuccamānopi gilāno mānena na yācati, gantabbaṃ.
ผาสุ โหตีติ สมถวิปสฺสนานํ ปฎิลาภวเสน ผาสุ โหติฯ อิมญฺหิ ปริหารํ เนว โสตาปโนฺน น สกทาคามี อนาคามี อรหโนฺต ลภนฺติ; น ถามคตสฺส สมาธิโน วา วิปสฺสนาย วา ลาภี, วิสฺสฎฺฐกมฺมฎฺฐาเน ปน พาลปุถุชฺชเน กถาว นตฺถิฯ ยสฺส โข ปน สมโถ วา วิปสฺสนา วา ตรุโณ โหติ, อยํ อิมํ ปริหารํ ลภติ, ปวารณสงฺคโหปิ เอตเสฺสว อนุญฺญาโตฯ ตสฺมา อิมินา ปุคฺคเลน อาจริเย ปวาเรตฺวา คเตปิ ‘‘ยทา ปติรูโป นิสฺสยทายโก อาคจฺฉิสฺสติ, ตสฺส นิสฺสาย วสิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา ปุน ยาว อาสาฬฺหีปุณฺณมา, ตาว อนิสฺสิเตน วตฺถุํ วฎฺฎติฯ สเจ ปน อาสาฬฺหีมาเส อาจริโย นาคจฺฉติ, ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํฯ
Phāsuhotīti samathavipassanānaṃ paṭilābhavasena phāsu hoti. Imañhi parihāraṃ neva sotāpanno na sakadāgāmī anāgāmī arahanto labhanti; na thāmagatassa samādhino vā vipassanāya vā lābhī, vissaṭṭhakammaṭṭhāne pana bālaputhujjane kathāva natthi. Yassa kho pana samatho vā vipassanā vā taruṇo hoti, ayaṃ imaṃ parihāraṃ labhati, pavāraṇasaṅgahopi etasseva anuññāto. Tasmā iminā puggalena ācariye pavāretvā gatepi ‘‘yadā patirūpo nissayadāyako āgacchissati, tassa nissāya vasissāmī’’ti ābhogaṃ katvā puna yāva āsāḷhīpuṇṇamā, tāva anissitena vatthuṃ vaṭṭati. Sace pana āsāḷhīmāse ācariyo nāgacchati, yattha nissayo labbhati, tattha gantabbaṃ.
๑๒๒. โคเตฺตนปิ อนุสฺสาเวตุนฺติ มหากสฺสปสฺส อุปสมฺปทาเปโกฺขติ เอวํ โคตฺตํ วตฺวา อนุสฺสาเวตุํ อนุชานามีติ อโตฺถฯ
122.Gottenapi anussāvetunti mahākassapassa upasampadāpekkhoti evaṃ gottaṃ vatvā anussāvetuṃ anujānāmīti attho.
๑๒๓. เทฺว เอกานุสฺสาวเนติ เทฺว เอกโต อนุสฺสาวเน; เอเกน เอกสฺส อเญฺญน อิตรสฺสาติ เอวํ ทฺวีหิ วา อาจริเยหิ เอเกน วา เอกกฺขเณ กมฺมวาจํ อนุสฺสาเวเนฺตหิ อุปสมฺปาเทตุํ อนุชานามีติ อโตฺถฯ
123.Dve ekānussāvaneti dve ekato anussāvane; ekena ekassa aññena itarassāti evaṃ dvīhi vā ācariyehi ekena vā ekakkhaṇe kammavācaṃ anussāventehi upasampādetuṃ anujānāmīti attho.
เทฺว ตโย เอกานุสฺสาวเน กาตุํ ตญฺจ โข เอเกน อุปชฺฌาเยนาติ เทฺว วา ตโย วา ชเน ปุริมนเยเนว เอกโต อนุสฺสาวเน กาตุํ อนุชานามิ; ตญฺจ โข อนุสฺสาวนกิริยํ เอเกน อุปชฺฌาเยน อนุชานามีติ อโตฺถฯ ตสฺมา เอเกน อาจริเยน เทฺว วา ตโย วา อนุสฺสาเวตพฺพาฯ ทฺวีหิ วา ตีหิ วา อาจริเยหิ วิสุํ วิสุํ เอเกน เอกสฺสาติ เอวํ เอกปฺปหาเรเนว เทฺว ติโสฺส วา กมฺมวาจา กาตพฺพาฯ สเจ ปน นานาจริยา นานุปชฺฌายา โหนฺติ, ติสฺสเตฺถโร สุมนเตฺถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ, สุมนเตฺถโร ติสฺสเตฺถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ อนุสฺสาเวติ, อญฺญมญฺญญฺจ คณปูรกา โหนฺติ, วฎฺฎติฯ สเจ ปน นานาอุปชฺฌายา โหนฺติ, เอโก อาจริโย โหติ, ‘‘นเตฺวว นานุปชฺฌาเยนา’’ติ ปฎิกฺขิตฺตตฺตา น วฎฺฎติฯ อิทํ สนฺธาย หิ เอส ปฎิเกฺขโปฯ
Dve tayo ekānussāvane kātuṃ tañca kho ekena upajjhāyenāti dve vā tayo vā jane purimanayeneva ekato anussāvane kātuṃ anujānāmi; tañca kho anussāvanakiriyaṃ ekena upajjhāyena anujānāmīti attho. Tasmā ekena ācariyena dve vā tayo vā anussāvetabbā. Dvīhi vā tīhi vā ācariyehi visuṃ visuṃ ekena ekassāti evaṃ ekappahāreneva dve tisso vā kammavācā kātabbā. Sace pana nānācariyā nānupajjhāyā honti, tissatthero sumanattherassa saddhivihārikaṃ, sumanatthero tissattherassa saddhivihārikaṃ anussāveti, aññamaññañca gaṇapūrakā honti, vaṭṭati. Sace pana nānāupajjhāyā honti, eko ācariyo hoti, ‘‘natveva nānupajjhāyenā’’ti paṭikkhittattā na vaṭṭati. Idaṃ sandhāya hi esa paṭikkhepo.
คมิกาทินิสฺสยวตฺถุกถา นิฎฺฐิตาฯ
Gamikādinissayavatthukathā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi
๕๙. คมิกาทินิสฺสยวตฺถูนิ • 59. Gamikādinissayavatthūni
๖๐. โคเตฺตน อนุสฺสาวนานุชานนา • 60. Gottena anussāvanānujānanā
๖๑. เทฺวอุปสมฺปทาเปกฺขาทิวตฺถุ • 61. Dveupasampadāpekkhādivatthu
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā
คมิกาทินิสฺสยวตฺถุกถาวณฺณนา • Gamikādinissayavatthukathāvaṇṇanā
โคเตฺตน อนุสฺสาวนานุชานนกถาวณฺณนา • Gottena anussāvanānujānanakathāvaṇṇanā
เทฺวอุปสมฺปทาเปกฺขาทิวตฺถุกถาวณฺณนา • Dveupasampadāpekkhādivatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / คมิกาทินิสฺสยวตฺถุกถาวณฺณนา • Gamikādinissayavatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā
คมิกาทินิสฺสยวตฺถุกถาวณฺณนา • Gamikādinissayavatthukathāvaṇṇanā
เทฺวอุปสมฺปทาเปกฺขาทิวตฺถุกถาวณฺณนา • Dveupasampadāpekkhādivatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๕๙. คมิกาทินิสฺสยวตฺถุกถา • 59. Gamikādinissayavatthukathā