Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi

    ๕๙. คมิกาทินิสฺสยวตฺถุกถา

    59. Gamikādinissayavatthukathā

    ๑๒๑. ‘‘กรณียนิสฺสโย’’ติ อิมินา นิสฺสยคหณํ นิสฺสโย อุตฺตรปทโลปวเสน, โส กรณีโย อิมสฺสาติ นิสฺสยกรณีโยติ วิเสสนปรนิปาตภาวํ ทเสฺสติฯ นิสฺสยํ อลภมาเนนาติ เอตฺถ กิํ นิสฺสยสฺส อลภนํ นามาติ อาห ‘‘อตฺตนา’’ติอาทิฯ วุตฺถปุพฺพนฺติ วสิตปุพฺพํฯ เอกรตฺตํ วสเนฺตนาปีติ ปิสโทฺท ทฺวิรตฺตาทิเก กา นาม กถาติ ทเสฺสติฯ วิสฺสมโนฺต วา สตฺถํ ปริเยสโนฺต วา หุตฺวาติ โยชนาฯ นาวาย คจฺฉนฺตสฺสาติ นาวาย อทฺธานมคฺคํ ปฎิปนฺนสฺสฯ

    121. ‘‘Karaṇīyanissayo’’ti iminā nissayagahaṇaṃ nissayo uttarapadalopavasena, so karaṇīyo imassāti nissayakaraṇīyoti visesanaparanipātabhāvaṃ dasseti. Nissayaṃ alabhamānenāti ettha kiṃ nissayassa alabhanaṃ nāmāti āha ‘‘attanā’’tiādi. Vutthapubbanti vasitapubbaṃ. Ekarattaṃ vasantenāpīti pisaddo dvirattādike kā nāma kathāti dasseti. Vissamanto vā satthaṃ pariyesanto vā hutvāti yojanā. Nāvāya gacchantassāti nāvāya addhānamaggaṃ paṭipannassa.

    ยาจิยมาเนนาติ เอตฺถ พหุกตฺตุปสงฺคตฺตา วุตฺตํ ‘‘เตน คิลาเนนา’’ติฯ ‘‘มาเนนา’’ติ อิมินา ยาจิตุมสกฺกุเณยฺยตาทีนิ นิวเตฺตติฯ

    Yāciyamānenāti ettha bahukattupasaṅgattā vuttaṃ ‘‘tena gilānenā’’ti. ‘‘Mānenā’’ti iminā yācitumasakkuṇeyyatādīni nivatteti.

    ผาสุ โหตีติ เอตฺถ อาวาสสปฺปายาทิวเสน ผาสุ โหตีติ อาสงฺกา ภเวยฺยาติ อาห ‘‘สมถวิปสฺสนานํ ปฎิลาภวเสนา’’ติฯ หีติ สจฺจํฯ อิมํ ปริหารนฺติ อิมํ ผาสุวิหารปริหารํฯ ถามคตาย วิปสฺสนายาติ โยชนาฯ สมโถ วา ตรุโณ โหตีติ โยชนาฯ เอตเสฺสวาติ ตรุณสมถวิปสฺสนิกเสฺสว ภิกฺขุโนฯ ตสฺส นิสฺสายาติ เอตฺถ ตสฺส โอวาทํ นิสฺสายาติ โยชนาฯ อถ วา อุปโยคเตฺถ สามิวจนํฯ ตํ นิสฺสยทายกํ นิสฺสายาติ หิ อโตฺถฯ ยตฺตโก กาโล อาสฬฺหีปุณฺณมา อตฺถิ, ตตฺตกํ กาลนฺติ โยชนาฯ ‘‘อาสฬฺหีปุณฺณมา’’ติ เอตฺถ ‘‘ยาวา’’ติ นิปาตปโยคตฺตา อภิวิธิอวฌเตฺถ นิสฺสกฺกวจนํ ทฎฺฐพฺพํฯ ยตฺถาติ ยสฺมิํ ฐาเนฯ

    Phāsu hotīti ettha āvāsasappāyādivasena phāsu hotīti āsaṅkā bhaveyyāti āha ‘‘samathavipassanānaṃ paṭilābhavasenā’’ti. ti saccaṃ. Imaṃ parihāranti imaṃ phāsuvihāraparihāraṃ. Thāmagatāya vipassanāyāti yojanā. Samatho vā taruṇo hotīti yojanā. Etassevāti taruṇasamathavipassanikasseva bhikkhuno. Tassa nissāyāti ettha tassa ovādaṃ nissāyāti yojanā. Atha vā upayogatthe sāmivacanaṃ. Taṃ nissayadāyakaṃ nissāyāti hi attho. Yattako kālo āsaḷhīpuṇṇamā atthi, tattakaṃ kālanti yojanā. ‘‘Āsaḷhīpuṇṇamā’’ti ettha ‘‘yāvā’’ti nipātapayogattā abhividhiavajhatthe nissakkavacanaṃ daṭṭhabbaṃ. Yatthāti yasmiṃ ṭhāne.

    ๑๒๒. ปาฬิยํ โคเตฺตนปีติ เอตฺถ ปิสเทฺทน น เกวลํ นาเมเนว, อถ โข โคเตฺตนปิ สาเวตุนฺติ ทเสฺสติฯ ตสฺมา ‘‘อายสฺมโต ปิปฺปลิสฺสา’’ติ นามํ สาเวตฺวาติปิ ‘‘อายสฺมโต มหากสฺสปสฺสา’’ติ โคตฺตํ สาเวตฺวาปิ อนุสาเวตพฺพํฯ เตน วุตฺตํ ‘‘มหากสฺสปสฺสา’’ติอาทิฯ อิมินา ‘‘โกนาโม เต อุปชฺฌาโย? อุปชฺฌาโย เม ภเนฺต อายสฺมา มหากสฺสโป นามา’’ติอาทีสุ โคตฺตมฺปิ นาเมเนว สงฺคหิตนฺติ สิทฺธํ โหติฯ

    122. Pāḷiyaṃ gottenapīti ettha pisaddena na kevalaṃ nāmeneva, atha kho gottenapi sāvetunti dasseti. Tasmā ‘‘āyasmato pippalissā’’ti nāmaṃ sāvetvātipi ‘‘āyasmato mahākassapassā’’ti gottaṃ sāvetvāpi anusāvetabbaṃ. Tena vuttaṃ ‘‘mahākassapassā’’tiādi. Iminā ‘‘konāmo te upajjhāyo? Upajjhāyo me bhante āyasmā mahākassapo nāmā’’tiādīsu gottampi nāmeneva saṅgahitanti siddhaṃ hoti.

    ๑๒๓. เอกานุสาวเนติ ปทสฺส สมานาธิกรณพาหิรตฺถสมาสภาวํ นิวเตฺตโนฺต อาห ‘‘เอกโต อนุสาวเน’’ติฯ ตตฺถ เอกโตติ เอกกฺขเณ, เอกปหาเรน วาฯ วกฺขติ หิ ‘‘เอกกฺขเณ’’ติ จ ‘‘เอกปหาเรเนวา’’ติ จฯ อิมินา เอกโต อนุสาวนเมเตสนฺติ เอกานุสาวนาติ อสมานาธิกรณพาหิรตฺถสมาสํ ทเสฺสติฯ เอเกนาติ เอเกน อนุสาวนาจริเยนฯ เอกสฺสาติ เอกสฺส อุปสมฺปทาเปกฺขสฺสฯ ‘‘เอกกฺขเณ’’ติ อิมินา ‘‘เอกโต’’ติ ปทสฺส อตฺถํ ทเสฺสติฯ ‘‘อุปสมฺปาเทตุ’’นฺติ ทฺวินฺนํ อุปสมฺปทาเปกฺขานํ อุปสมฺปาเทตุํฯ

    123.Ekānusāvaneti padassa samānādhikaraṇabāhiratthasamāsabhāvaṃ nivattento āha ‘‘ekato anusāvane’’ti. Tattha ekatoti ekakkhaṇe, ekapahārena vā. Vakkhati hi ‘‘ekakkhaṇe’’ti ca ‘‘ekapahārenevā’’ti ca. Iminā ekato anusāvanametesanti ekānusāvanāti asamānādhikaraṇabāhiratthasamāsaṃ dasseti. Ekenāti ekena anusāvanācariyena. Ekassāti ekassa upasampadāpekkhassa. ‘‘Ekakkhaṇe’’ti iminā ‘‘ekato’’ti padassa atthaṃ dasseti. ‘‘Upasampādetu’’nti dvinnaṃ upasampadāpekkhānaṃ upasampādetuṃ.

    ปุริมนเยเนวาติ ‘‘เอเกน เอกสฺส, อเญฺญน อิตรสฺสา’’ติอาทินา ปุเพฺพ วุตฺตนเยเนวฯ เอกโต อนุสาวเน กาตุนฺติ ‘‘เอเกน เอกสฺส, อเญฺญน อญฺญสฺส, อิตเรน อิตรสฺสา’’ติ เอวํ ตีหิ อาจริเยหิ ติณฺณํ อุปสมฺปทาเปกฺขานํ เอกกฺขเณ อนุสาวเน กาตุํฯ ตญฺจ โขติ เอตฺถ ตสทฺทสฺส ‘‘อนุสาวเน กาตุ’’นฺติ ปทเสฺสว อตฺถวิสยตํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํ ‘‘อนุสาวนกิริย’’นฺติฯ เทฺว วา ตโย วาติ เอตฺถ วาสโทฺท อนิยมวิกปฺปโตฺถฯ สเจ เอเกนาจริเยน เทฺว อนุสาเวติ, ‘‘อยํ พุทฺธรกฺขิโต จ อยํ ธมฺมรกฺขิโต จา’’ติ อนุสาเวตพฺพาฯ สเจ ตโย อนุสาเวติ, ‘‘อยํ พุทฺธรกฺขิโต จ อยํ ธมฺมรกฺขิโต จ อยํ สงฺฆรกฺขิโต จา’’ติ อนุสาเวตพฺพาฯ ยถา เอเกนาจริเยน เทฺว วา ตโย วา เอกโต อนุสาเวตพฺพา, เอวํ ทฺวีหิ วา ตีหิ วา อาจริเยหิ เอโก อนุสาเวตโพฺพติปิ วทนฺติฯ เอเกน อุปชฺฌาเยน กรณภูเตน, เอโก อุปชฺฌาโย หุตฺวาติ วา อโตฺถฯ ‘‘เอกปหาเรเนวา’’ติ อิมินา ‘‘เอกโต’’ติ ปทสฺส อตฺถํ ทเสฺสติฯ เทฺว ติโสฺส กมฺมวาจาติ ทฺวีหิ อาจริเยหิ เทฺว, ตีหิ อาจริเยหิ ติโสฺส กมฺมวาจาฯ เอเกน อุปชฺฌาเยน อนุสาวเน เอโก วา เทฺว วา ตโย วา อาจริยา วฎฺฎนฺติ, นานุปชฺฌาเยน อนุสาวเน ปน นานาจริยา เอว วฎฺฎนฺตีติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิฯ ติสฺสเตฺถโรติ กมฺมวาจาจริยภูโต ติสฺสเตฺถโร ฯ สุมนเตฺถรสฺสาติ อุปชฺฌายภูตสฺส สุมนเตฺถรสฺสฯ อิทนฺติ นานุปชฺฌาเยน เอกสฺสาจริยสฺสานุสาวนํฯ เอส ปฎิเกฺขโปติ ‘‘น เตฺวว นานุปชฺฌาเยนา’’ติ เอโส ปฎิเกฺขโปฯ

    Purimanayenevāti ‘‘ekena ekassa, aññena itarassā’’tiādinā pubbe vuttanayeneva. Ekatoanusāvane kātunti ‘‘ekena ekassa, aññena aññassa, itarena itarassā’’ti evaṃ tīhi ācariyehi tiṇṇaṃ upasampadāpekkhānaṃ ekakkhaṇe anusāvane kātuṃ. Tañca khoti ettha tasaddassa ‘‘anusāvane kātu’’nti padasseva atthavisayataṃ dassetuṃ vuttaṃ ‘‘anusāvanakiriya’’nti. Dve vā tayo vāti ettha vāsaddo aniyamavikappattho. Sace ekenācariyena dve anusāveti, ‘‘ayaṃ buddharakkhito ca ayaṃ dhammarakkhito cā’’ti anusāvetabbā. Sace tayo anusāveti, ‘‘ayaṃ buddharakkhito ca ayaṃ dhammarakkhito ca ayaṃ saṅgharakkhito cā’’ti anusāvetabbā. Yathā ekenācariyena dve vā tayo vā ekato anusāvetabbā, evaṃ dvīhi vā tīhi vā ācariyehi eko anusāvetabbotipi vadanti. Ekena upajjhāyena karaṇabhūtena, eko upajjhāyo hutvāti vā attho. ‘‘Ekapahārenevā’’ti iminā ‘‘ekato’’ti padassa atthaṃ dasseti. Dve tisso kammavācāti dvīhi ācariyehi dve, tīhi ācariyehi tisso kammavācā. Ekena upajjhāyena anusāvane eko vā dve vā tayo vā ācariyā vaṭṭanti, nānupajjhāyena anusāvane pana nānācariyā eva vaṭṭantīti dassento āha ‘‘sace panā’’tiādi. Tissattheroti kammavācācariyabhūto tissatthero . Sumanattherassāti upajjhāyabhūtassa sumanattherassa. Idanti nānupajjhāyena ekassācariyassānusāvanaṃ. Esa paṭikkhepoti ‘‘na tveva nānupajjhāyenā’’ti eso paṭikkhepo.







    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / คมิกาทินิสฺสยวตฺถุกถา • Gamikādinissayavatthukathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / คมิกาทินิสฺสยวตฺถุกถาวณฺณนา • Gamikādinissayavatthukathāvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact