Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā |
๒. คณโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
2. Gaṇabhojanasikkhāpadavaṇṇanā
คณโภชเนติ คเณน ลทฺธตฺตา คณสฺส สนฺตเก โภชเนฯ เตนาห ‘‘คณสฺส โภชเน’’ติฯ นนุ เจตฺถ ‘‘คณสฺส โภชเน’’ติ วุจฺจติ, โส จ โข คโณ ‘‘กตฺถจิ ทฺวีหิ, กตฺถจิ ตีหี’’ติอาทินา อเนกธา อธิเปฺปโต, อิธ กติหีติ อาห ‘‘อิธ จา’’ติอาทิฯ ตํ ปเนตํ คณโภชนํ ทฺวีหิ ปกาเรหิ ปสวติ นิมนฺตนโต วา วิญฺญตฺติโต วาติ อาห ‘‘เตสํ นิมนฺตนโต วา’’ติอาทิฯ ตตฺถ นิมนฺตนโต วาติ อกปฺปิยนิมนฺตนโต วาฯ โอทนาทีนํ ปญฺจนฺนนฺติ โอทนสตฺตุกุมฺมาสมจฺฉมํสานํ ปญฺจนฺนํฯ
Gaṇabhojaneti gaṇena laddhattā gaṇassa santake bhojane. Tenāha ‘‘gaṇassa bhojane’’ti. Nanu cettha ‘‘gaṇassa bhojane’’ti vuccati, so ca kho gaṇo ‘‘katthaci dvīhi, katthaci tīhī’’tiādinā anekadhā adhippeto, idha katihīti āha ‘‘idha cā’’tiādi. Taṃ panetaṃ gaṇabhojanaṃ dvīhi pakārehi pasavati nimantanato vā viññattito vāti āha ‘‘tesaṃ nimantanato vā’’tiādi. Tattha nimantanato vāti akappiyanimantanato vā. Odanādīnaṃ pañcannanti odanasattukummāsamacchamaṃsānaṃ pañcannaṃ.
‘‘โอทเนน นิมเนฺตมิ, โอทนํ เม คณฺหถา’’ติอาทินา นเยน เยน เกนจิ เววจเนน วา ภาสนฺตเรน วา ปญฺจนฺนํ โภชนานํ นามํ คเหตฺวา นิมเนฺตตีติ สมฺพโนฺธฯ จตฺตาโรติ เอกฎฺฐาเน วา นานาฎฺฐาเนสุ วา ฐิเต จตฺตาโร ภิกฺขูฯ ลกฺขณวจนเญฺจตํ, ตสฺมา จตฺตาโร วา ตโต วา อธิเก ภิกฺขูติ อโตฺถฯ เววจเนน วาติ ภตฺตอนฺนาทิปริยายสเทฺทน วาฯ ภาสนฺตเรน วาติ อนฺธทมิฬาทิภาสนฺตเรน วาฯ ปญฺจนฺนํ โภชนานํ นามํ คเหตฺวาติ ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตรสฺส นามํ คเหตฺวาฯ โอทเนน นิมเนฺตมีติ ตุเมฺห ภเนฺต โอทเนน นิมเนฺตมิฯ อาทิสเทฺทน ‘‘อากงฺขถ โอโลเกถ อธิวาเสถ ปฎิมาเนถ, สตฺตุนา นิมเนฺตมิ, สตฺตุํ เม คณฺหถ อากงฺขถ โอโลเกถ อธิวาเสถ ปฎิมาเนถา’’ติอาทีนํ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๒๑๗-๒๑๘) คหณํฯ เอกโต วาติ เอกตฺถ ฐิเต วา นิสิเนฺน วา ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘ตุเมฺห, ภเนฺต, โอทเนน นิมเนฺตมี’’ติอาทินา เอวํ เอกโต นิมนฺติตาฯ นานาโต วา นิมนฺติตาติ จตฺตาริ ปริเวณานิ วา วิหาเร วา คนฺตฺวา นานาโต วา นิมนฺติตาฯ เอกฎฺฐาเน ฐิเตสุเยว วา เอโก ปุเตฺตน, เอโก ปิตราติ เอวมฺปิ นิมนฺติตา นานาโตเยว นิมนฺติตา นาม โหนฺติฯ เอกโต คณฺหนฺติติ อญฺญมญฺญสฺส ทฺวาทสหตฺถูปจาเร ฐิตา คณฺหนฺติฯ
‘‘Odanena nimantemi, odanaṃ me gaṇhathā’’tiādinā nayena yena kenaci vevacanena vā bhāsantarena vā pañcannaṃ bhojanānaṃ nāmaṃ gahetvā nimantetīti sambandho. Cattāroti ekaṭṭhāne vā nānāṭṭhānesu vā ṭhite cattāro bhikkhū. Lakkhaṇavacanañcetaṃ, tasmā cattāro vā tato vā adhike bhikkhūti attho. Vevacanena vāti bhattaannādipariyāyasaddena vā. Bhāsantarena vāti andhadamiḷādibhāsantarena vā. Pañcannaṃ bhojanānaṃ nāmaṃ gahetvāti pañcannaṃ bhojanānaṃ aññatarassa nāmaṃ gahetvā. Odanena nimantemīti tumhe bhante odanena nimantemi. Ādisaddena ‘‘ākaṅkhatha oloketha adhivāsetha paṭimānetha, sattunā nimantemi, sattuṃ me gaṇhatha ākaṅkhatha oloketha adhivāsetha paṭimānethā’’tiādīnaṃ (pāci. aṭṭha. 217-218) gahaṇaṃ. Ekato vāti ekattha ṭhite vā nisinne vā bhikkhū disvā ‘‘tumhe, bhante, odanena nimantemī’’tiādinā evaṃ ekato nimantitā. Nānāto vā nimantitāti cattāri pariveṇāni vā vihāre vā gantvā nānāto vā nimantitā. Ekaṭṭhāne ṭhitesuyeva vā eko puttena, eko pitarāti evampi nimantitā nānātoyeva nimantitā nāma honti. Ekato gaṇhantiti aññamaññassa dvādasahatthūpacāre ṭhitā gaṇhanti.
กสฺมา ปน นานาโต ภุเตฺตปิ คณโภชนํ โหตีติ อาห ‘‘ปฎิคฺคหณเมว เหตฺถ ปมาณ’’นฺติฯ ยทิ เอวํ อถ กสฺมา ปาฬิยํ ‘‘คณโภชนํ นาม ยตฺถ จตฺตาโร ภิกฺขู ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตเรน โภชเนน นิมนฺติตา ภุญฺชนฺติ, เอตํ คณโภชนํ นามา’’ติ (ปาจิ. ๒๑๘) วุตฺตํ? ตํ ปฎิคฺคหณนิยมนตฺถเมว ฯ น หิ อปฺปฎิคฺคหิตกํ ภิกฺขู ภุญฺชนฺตีติ ‘‘ภุญฺชนฺตี’’ติ ปทํ ปฎิคฺคหณนิยมวจนํ โหติฯ เอกโต วา นานาโต วา วิญฺญาเปตฺวาติ จตฺตาโร ภิกฺขู เอกโต ฐิตา วา นิสินฺนา วา อุปาสกํ ทิสฺวา ‘‘อมฺหากํ จตุนฺนมฺปิ ภตฺตํ เทหี’’ติ วา ปาเฎกฺกํ ปวิสิตฺวา ‘‘มยฺหํ ภตฺตํ เทหิ, มยฺหํ ภตฺตํ เทหี’’ติ วา เอกโต วา นานาโต วา วิญฺญาเปตฺวาฯ ตสฺส ทุวิธสฺสาปีติ ยญฺจ นิมนฺตนโต ลทฺธํ คณโภชนํ, ยญฺจ วิญฺญตฺติโต ลทฺธํ, ตสฺส ทุวิธสฺสาปิ คณโภชนสฺสฯ เอวํ ปฎิคฺคหเณติ เอกโต ปฎิคฺคหเณฯ
Kasmā pana nānāto bhuttepi gaṇabhojanaṃ hotīti āha ‘‘paṭiggahaṇameva hettha pamāṇa’’nti. Yadi evaṃ atha kasmā pāḷiyaṃ ‘‘gaṇabhojanaṃ nāma yattha cattāro bhikkhū pañcannaṃ bhojanānaṃ aññatarena bhojanena nimantitā bhuñjanti, etaṃ gaṇabhojanaṃ nāmā’’ti (pāci. 218) vuttaṃ? Taṃ paṭiggahaṇaniyamanatthameva . Na hi appaṭiggahitakaṃ bhikkhū bhuñjantīti ‘‘bhuñjantī’’ti padaṃ paṭiggahaṇaniyamavacanaṃ hoti. Ekato vā nānāto vā viññāpetvāti cattāro bhikkhū ekato ṭhitā vā nisinnā vā upāsakaṃ disvā ‘‘amhākaṃ catunnampi bhattaṃ dehī’’ti vā pāṭekkaṃ pavisitvā ‘‘mayhaṃ bhattaṃ dehi, mayhaṃ bhattaṃ dehī’’ti vā ekato vā nānāto vā viññāpetvā. Tassa duvidhassāpīti yañca nimantanato laddhaṃ gaṇabhojanaṃ, yañca viññattito laddhaṃ, tassa duvidhassāpi gaṇabhojanassa. Evaṃ paṭiggahaṇeti ekato paṭiggahaṇe.
ปาทานมฺปิ ผลิตตฺตาติ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๒๑๗-๒๑๘) อนฺตมโส ปาทานมฺปิ ยถา มหาจมฺมสฺส ปรโต มํสํ ทิสฺสติ, เอวํ ผลิตตฺตาฯ น สกฺกา ปิณฺฑาย จริตุนฺติ วาลิกาย วา สกฺขราย วา ผุฎฺฐมเตฺต ทุกฺขุปฺปตฺติโต อโนฺตคาเม ปิณฺฑาย จริตุํ น สโกฺกติฯ จีวเร กริยมาเนติ สาฎกญฺจ สุตฺตญฺจ ลภิตฺวา จีวเร กริยมาเนฯ ยํ กิญฺจิ จีวเร กตฺตพฺพกมฺมนฺติ จีวรวิจารณฉินฺทนโมฆสุตฺตาโรปนาทิ ยํ กิญฺจิ จีวเร กตฺตพฺพํ กมฺมํ, อนฺตมโส สูจิเวธนมฺปีติ อธิปฺปาโยฯ ‘‘อทฺธโยชนมฺปี’’ติอาทิ อวกํสโต วุตฺตํฯ โย ปน ทูรํ คนฺตุกาโม, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, คจฺฉโนฺต อทฺธโยชนพฺภนฺตเร คาวุเตปิ ภุญฺชิตุํ ลภติ, คโต ปน เอกทิวสํฯ ยทา นาวํ อภิรุหิตุกาโม วา โหติ อารุโฬฺห วา โอรุโฬฺห วา, อยํ นาวาภิรุหนสมโย นามาติ อาห ‘‘นาวาภิรุหนสมเยปิ เอเสว นโย’’ติฯ อยํ ปน วิเสโส – อภิรุเฬฺหน อิจฺฉิตฎฺฐานํ คนฺตฺวาปิ ยาว น โอโรหติ, ตาว ภุญฺชิตพฺพํฯ จตฺตาโร ภิกฺขูติ อนฺติมปริเจฺฉโทฯ ยตฺถ ปน สตํ วา สหสฺสํ วา สนฺนิปติตํ, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิฯ ตสฺมา ตาทิเส กาเล ‘‘มหาสมโย’’ติ อธิฎฺฐหิตฺวา ภุญฺชิตพฺพํฯ โย โกจิ ปพฺพชิโตติ สหธมฺมิเกสุ วา ติตฺถิเยสุ วา อญฺญตโรฯ
Pādānampi phalitattāti (pāci. aṭṭha. 217-218) antamaso pādānampi yathā mahācammassa parato maṃsaṃ dissati, evaṃ phalitattā. Na sakkā piṇḍāya caritunti vālikāya vā sakkharāya vā phuṭṭhamatte dukkhuppattito antogāme piṇḍāya carituṃ na sakkoti. Cīvare kariyamāneti sāṭakañca suttañca labhitvā cīvare kariyamāne. Yaṃ kiñci cīvare kattabbakammanti cīvaravicāraṇachindanamoghasuttāropanādi yaṃ kiñci cīvare kattabbaṃ kammaṃ, antamaso sūcivedhanampīti adhippāyo. ‘‘Addhayojanampī’’tiādi avakaṃsato vuttaṃ. Yo pana dūraṃ gantukāmo, tattha vattabbameva natthi, gacchanto addhayojanabbhantare gāvutepi bhuñjituṃ labhati, gato pana ekadivasaṃ. Yadā nāvaṃ abhiruhitukāmo vā hoti āruḷho vā oruḷho vā, ayaṃ nāvābhiruhanasamayo nāmāti āha ‘‘nāvābhiruhanasamayepi eseva nayo’’ti. Ayaṃ pana viseso – abhiruḷhena icchitaṭṭhānaṃ gantvāpi yāva na orohati, tāva bhuñjitabbaṃ. Cattāro bhikkhūti antimaparicchedo. Yattha pana sataṃ vā sahassaṃ vā sannipatitaṃ, tattha vattabbameva natthi. Tasmā tādise kāle ‘‘mahāsamayo’’ti adhiṭṭhahitvā bhuñjitabbaṃ. Yo koci pabbajitoti sahadhammikesu vā titthiyesu vā aññataro.
เย จ เทฺว ตโย เอกโต คณฺหนฺตีติ เยปิ อกปฺปิยนิมนฺตนํ สาทิยิตฺวา เทฺว วา ตโย วา เอกโต คณฺหนฺติ, เตสมฺปิ อนาปตฺติฯ ปณีตโภชนสูโปทนวิญฺญตฺตีหิ ปน อาปตฺติเยวาติ วทนฺติ, อุปปริกฺขิตพฺพํฯ นิจฺจภตฺตาทีสูติ นิจฺจภเตฺต สลากภเตฺต ปกฺขิเก อุโปสถิเก ปาฎิปทิเกฯ ตตฺถ นิจฺจภตฺตนฺติ ธุวภตฺตํ วุจฺจติฯ ‘‘นิจฺจภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ , พหูนมฺปิ เอกโต คณฺหิตุํ วฎฺฎติฯ สลากภตฺตาทีสุปิ เอเสว นโยฯ
Ye ca dve tayo ekato gaṇhantīti yepi akappiyanimantanaṃ sādiyitvā dve vā tayo vā ekato gaṇhanti, tesampi anāpatti. Paṇītabhojanasūpodanaviññattīhi pana āpattiyevāti vadanti, upaparikkhitabbaṃ. Niccabhattādīsūti niccabhatte salākabhatte pakkhike uposathike pāṭipadike. Tattha niccabhattanti dhuvabhattaṃ vuccati. ‘‘Niccabhattaṃ gaṇhathā’’ti vadanti , bahūnampi ekato gaṇhituṃ vaṭṭati. Salākabhattādīsupi eseva nayo.
คณโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Gaṇabhojanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.