Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๑๔. คนฺธเตฺถนสุตฺตวณฺณนา
14. Gandhatthenasuttavaṇṇanā
๒๓๔. จุทฺทสเม อชฺฌภาสีติ ตํ ภิกฺขุํ นาเฬ คเหตฺวา ปทุมํ สิงฺฆมานํ ทิสฺวาว – ‘‘อยํ ภิกฺขุ สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา สมณธมฺมํ กาตุํ อรญฺญํ ปวิโฎฺฐ คนฺธารมฺมณํ อุปนิชฺฌายติ, สฺวายํ อชฺช อุปสิงฺฆํ เสฺวปิ ปุนทิวเสปิ อุปสิงฺฆิสฺสติ, เอวมสฺส สา คนฺธตณฺหา วฑฺฒิตฺวา ทิฎฺฐธมฺมิกสมฺปรายิกํ อตฺถํ นาเสสฺสติ, มา มยิ ปสฺสนฺติยา นสฺสตุ, โจเทสฺสามิ น’’นฺติ อุปสงฺกมิตฺวา อภาสิฯ
234. Cuddasame ajjhabhāsīti taṃ bhikkhuṃ nāḷe gahetvā padumaṃ siṅghamānaṃ disvāva – ‘‘ayaṃ bhikkhu satthu santike kammaṭṭhānaṃ gahetvā samaṇadhammaṃ kātuṃ araññaṃ paviṭṭho gandhārammaṇaṃ upanijjhāyati, svāyaṃ ajja upasiṅghaṃ svepi punadivasepi upasiṅghissati, evamassa sā gandhataṇhā vaḍḍhitvā diṭṭhadhammikasamparāyikaṃ atthaṃ nāsessati, mā mayi passantiyā nassatu, codessāmi na’’nti upasaṅkamitvā abhāsi.
เอกงฺคเมตํ เถยฺยานนฺติ เถนิตพฺพานํ รูปารมฺมณาทีนํ ปญฺจโกฎฺฐาสานํ อิทํ เอกงฺคํ, เอกโกฎฺฐาโสติ อโตฺถฯ น หรามีติ น คเหตฺวา คจฺฉามิฯ อาราติ ทูเร นาเฬ คเหตฺวา นาเมตฺวา ทูเร ฐิโต อุปสิงฺฆามีติ วทติฯ วเณฺณนาติ การเณนฯ
Ekaṅgametaṃtheyyānanti thenitabbānaṃ rūpārammaṇādīnaṃ pañcakoṭṭhāsānaṃ idaṃ ekaṅgaṃ, ekakoṭṭhāsoti attho. Na harāmīti na gahetvā gacchāmi. Ārāti dūre nāḷe gahetvā nāmetvā dūre ṭhito upasiṅghāmīti vadati. Vaṇṇenāti kāraṇena.
ยฺวายนฺติ โย อยํฯ ตสฺมิํ กิร เทวตาย สทฺธิํ กเถเนฺตเยว เอโก ตาปโส โอตริตฺวา ภิสขนนาทีนิ กาตุํ อารโทฺธ, ตํ สนฺธาเยวมาหฯ อากิณฺณกมฺมโนฺตติ เอวํ อปริสุทฺธกมฺมโนฺตฯ อขีณกมฺมโนฺตติปิ ปาโฐ, กกฺขฬกมฺมโนฺตติ อโตฺถฯ น วุจฺจตีติ คนฺธโจโรติ วา ปุปฺผโจโรติ วา กสฺมา น วุจฺจติฯ
Yvāyanti yo ayaṃ. Tasmiṃ kira devatāya saddhiṃ kathenteyeva eko tāpaso otaritvā bhisakhananādīni kātuṃ āraddho, taṃ sandhāyevamāha. Ākiṇṇakammantoti evaṃ aparisuddhakammanto. Akhīṇakammantotipi pāṭho, kakkhaḷakammantoti attho. Na vuccatīti gandhacoroti vā pupphacoroti vā kasmā na vuccati.
อากิณฺณลุโทฺทติ พหุปาโป คาฬฺหปาโป วา, ตสฺมา น วุจฺจติฯ ธาติเจลํว มกฺขิโตติ ยถา ธาติยา นิวตฺถกิลิฎฺฐวตฺถํ อุจฺจารปสฺสาวปํสุมสิกทฺทมาทีหิ มกฺขิตํ, เอวเมวํ ราคโทสาทีหิ มกฺขิโตฯ อรหามิ วตฺตเวติ อรหามิ วตฺตุํฯ เทวตาย โจทนา กิร สุคตานุสิฎฺฐิสทิสา, น ตํ ลามกา หีนาธิมุตฺติกา มิจฺฉาปฎิปนฺนกปุคฺคลา ลภนฺติฯ ตสฺมิํ ปน อตฺตภาเว มคฺคผลานํ ภพฺพรูปา ปุคฺคลา ตํ ลภนฺติ, ตสฺมา เอวมาหฯ
Ākiṇṇaluddoti bahupāpo gāḷhapāpo vā, tasmā na vuccati. Dhāticelaṃva makkhitoti yathā dhātiyā nivatthakiliṭṭhavatthaṃ uccārapassāvapaṃsumasikaddamādīhi makkhitaṃ, evamevaṃ rāgadosādīhi makkhito. Arahāmi vattaveti arahāmi vattuṃ. Devatāya codanā kira sugatānusiṭṭhisadisā, na taṃ lāmakā hīnādhimuttikā micchāpaṭipannakapuggalā labhanti. Tasmiṃ pana attabhāve maggaphalānaṃ bhabbarūpā puggalā taṃ labhanti, tasmā evamāha.
สุจิคเวสิโนติ สุจีนิ สีลสมาธิญาณานิ คเวสนฺตสฺสฯ อพฺภามตฺตํ วาติ วลาหกกูฎมตฺตํ วิยฯ ชานาสีติ สุโทฺธ อยนฺติ ชานาสิฯ วชฺชาสีติ วเทยฺยาสิฯ เนว ตํ อุปชีวามาติ เทวตา กิร จิเนฺตสิ – ‘‘อยํ ภิกฺขุ อตฺถิ เม หิตกามา เทวตา, สา มํ โจเทสฺสติ สาเรสฺสตีติ ปมาทมฺปิ อนุยุเญฺชยฺย, นาสฺส วจนํ สมฺปฎิจฺฉิสฺสามี’’ติฯ ตสฺมา เอวมาหฯ ตฺวเมวาติ ตฺวํเยวฯ ชาเนยฺยาติ ชาเนยฺยาสิฯ เยนาติ เยน กเมฺมน สุคติํ คเจฺฉยฺยาสิ, ตํ กมฺมํ ตฺวํเยว ชาเนยฺยาสีติฯ จุทฺทสมํฯ
Sucigavesinoti sucīni sīlasamādhiñāṇāni gavesantassa. Abbhāmattaṃ vāti valāhakakūṭamattaṃ viya. Jānāsīti suddho ayanti jānāsi. Vajjāsīti vadeyyāsi. Neva taṃ upajīvāmāti devatā kira cintesi – ‘‘ayaṃ bhikkhu atthi me hitakāmā devatā, sā maṃ codessati sāressatīti pamādampi anuyuñjeyya, nāssa vacanaṃ sampaṭicchissāmī’’ti. Tasmā evamāha. Tvamevāti tvaṃyeva. Jāneyyāti jāneyyāsi. Yenāti yena kammena sugatiṃ gaccheyyāsi, taṃ kammaṃ tvaṃyeva jāneyyāsīti. Cuddasamaṃ.
อิติ สารตฺถปฺปกาสินิยา
Iti sāratthappakāsiniyā
สํยุตฺตนิกาย-อฎฺฐกถาย
Saṃyuttanikāya-aṭṭhakathāya
วนสํยุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Vanasaṃyuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑๔. คนฺธเตฺถนสุตฺตํ • 14. Gandhatthenasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑๔. คนฺธเตฺถนสุตฺตวณฺณนา • 14. Gandhatthenasuttavaṇṇanā