Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā |
๔. คงฺคาตีริยเตฺถรคาถาวณฺณนา
4. Gaṅgātīriyattheragāthāvaṇṇanā
ติณฺณํ เม ตาลปตฺตานนฺติอาทิกา อายสฺมโต คงฺคาตีริยเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต สาสเน อภิปฺปสโนฺน หุตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปานียมทาสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา อปราปรํ ปุญฺญานิ กตฺวา เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ อญฺญตรสฺส คหปติสฺส ปุโตฺต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ‘‘ทโตฺต’’ติสฺส นามํ อโหสิฯ โส วยปฺปโตฺต ฆราวาสํ วสโนฺต อคมนียฎฺฐานภาวํ อชานิตฺวา วีติกฺกมํ กตฺวา ปุน อคมนียฎฺฐานภาวํ ญตฺวา สํเวคชาโต ปพฺพชิตฺวา ตํ กมฺมํ ชิคุจฺฉิตฺวา ลูขปฎิปตฺติํ อนุติฎฺฐโนฺต ปํสุกูลจีวรํ ฉวสิตฺตสทิสํ มตฺติกาปตฺตญฺจ คเหตฺวา คงฺคาตีเร ตีหิ ตาลปเตฺตหิ กุฎิกํ กตฺวา วิหาสิ, เตเนวสฺส คงฺคาตีริโยติ สมญฺญา อโหสิฯ โส ‘‘อรหตฺตํ อปฺปตฺวา น เกนจิ สลฺลปิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อธิฎฺฐาย ปฐมํ สํวจฺฉรํ ตุณฺหีภูโต วจีเภทํ อกโรโนฺตว วิหาสิฯ ทุติเย สํวจฺฉเร โคจรคาเม อญฺญตราย อิตฺถิยา ‘‘มูโค นุ โข โน’’ติ วีมํสิตุกามาย ปเตฺต ขีรํ อาสิญฺจนฺติยา หตฺถวิหาเร กเตปิ โอกิริเต, ‘‘อลํ, ภคินี’’ติ วาจํ นิจฺฉริฯ ตติเย ปน สํวจฺฉเร อนฺตรวเสฺสว ฆฎยโนฺต วายมโนฺต อรหตฺตํ ปาปุณิ, เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๐.๕๑-๕๖) –
Tiṇṇaṃ me tālapattānantiādikā āyasmato gaṅgātīriyattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayaṃ kira padumuttarassa bhagavato kāle kulagehe nibbattitvā viññutaṃ patto sāsane abhippasanno hutvā bhikkhusaṅghassa pānīyamadāsi. So tena puññakammena devaloke nibbattitvā aparāparaṃ puññāni katvā devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde sāvatthiyaṃ aññatarassa gahapatissa putto hutvā nibbatti, ‘‘datto’’tissa nāmaṃ ahosi. So vayappatto gharāvāsaṃ vasanto agamanīyaṭṭhānabhāvaṃ ajānitvā vītikkamaṃ katvā puna agamanīyaṭṭhānabhāvaṃ ñatvā saṃvegajāto pabbajitvā taṃ kammaṃ jigucchitvā lūkhapaṭipattiṃ anutiṭṭhanto paṃsukūlacīvaraṃ chavasittasadisaṃ mattikāpattañca gahetvā gaṅgātīre tīhi tālapattehi kuṭikaṃ katvā vihāsi, tenevassa gaṅgātīriyoti samaññā ahosi. So ‘‘arahattaṃ appatvā na kenaci sallapissāmī’’ti cittaṃ adhiṭṭhāya paṭhamaṃ saṃvaccharaṃ tuṇhībhūto vacībhedaṃ akarontova vihāsi. Dutiye saṃvacchare gocaragāme aññatarāya itthiyā ‘‘mūgo nu kho no’’ti vīmaṃsitukāmāya patte khīraṃ āsiñcantiyā hatthavihāre katepi okirite, ‘‘alaṃ, bhaginī’’ti vācaṃ nicchari. Tatiye pana saṃvacchare antaravasseva ghaṭayanto vāyamanto arahattaṃ pāpuṇi, tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 2.50.51-56) –
‘‘ปทุมุตฺตรพุทฺธสฺส , ภิกฺขุสเงฺฆ อนุตฺตเร;
‘‘Padumuttarabuddhassa , bhikkhusaṅghe anuttare;
ปสนฺนจิโตฺต สุมโน, ปานีฆฎมปูรยิํฯ
Pasannacitto sumano, pānīghaṭamapūrayiṃ.
‘‘ปพฺพตเคฺค ทุมเคฺค วา, อากาเส วาถ ภูมิยํ;
‘‘Pabbatagge dumagge vā, ākāse vātha bhūmiyaṃ;
ยทา ปานียมิจฺฉามิ, ขิปฺปํ นิพฺพตฺตเต มมฯ
Yadā pānīyamicchāmi, khippaṃ nibbattate mama.
‘‘สตสหสฺสิโต กเปฺป, ยํ ทานมททิํ ตทา;
‘‘Satasahassito kappe, yaṃ dānamadadiṃ tadā;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ทกทานสฺสิทํ ผลํฯ
Duggatiṃ nābhijānāmi, dakadānassidaṃ phalaṃ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.
อรหา ปน หุตฺวา อตฺตโน ปุพฺพภาคปฎิปตฺติยา วิภาวนมุเขน อญฺญํ พฺยากโรโนฺต –
Arahā pana hutvā attano pubbabhāgapaṭipattiyā vibhāvanamukhena aññaṃ byākaronto –
๑๒๗.
127.
‘‘ติณฺณํ เม ตาลปตฺตานํ, คงฺคาตีเร กุฎี กตา;
‘‘Tiṇṇaṃ me tālapattānaṃ, gaṅgātīre kuṭī katā;
ฉวสิโตฺตว เม ปโตฺต, ปํสุกูลญฺจ จีวรํฯ
Chavasittova me patto, paṃsukūlañca cīvaraṃ.
๑๒๘.
128.
‘‘ทฺวินฺนํ อนฺตรวสฺสานํ, เอกา วาจา เม ภาสิตา;
‘‘Dvinnaṃ antaravassānaṃ, ekā vācā me bhāsitā;
ตติเย อนฺตรวสฺสมฺหิ, ตโมขโนฺธ ปทาลิโต’’ติฯ – คาถาทฺวยํ อภาสิ;
Tatiye antaravassamhi, tamokhandho padālito’’ti. – gāthādvayaṃ abhāsi;
ตตฺถ ติณฺณํ เม ตาลปตฺตานํ, คงฺคาตีเร กุฎี กตาติ ตาลรุกฺขโต ปหิเตหิ ตีหิ ตาลปเณฺณหิ มยฺหํ วสฺสนปริหรณตฺถํ คงฺคาย นทิยา ตีเร กุฎิกา กตาฯ เตน อตฺตโน เสนาสนสโนฺตสํ ทเสฺสติฯ วุตฺตญฺหิ ธมฺมเสนาปตินา –
Tattha tiṇṇaṃ me tālapattānaṃ, gaṅgātīre kuṭī katāti tālarukkhato pahitehi tīhi tālapaṇṇehi mayhaṃ vassanapariharaṇatthaṃ gaṅgāya nadiyā tīre kuṭikā katā. Tena attano senāsanasantosaṃ dasseti. Vuttañhi dhammasenāpatinā –
‘‘ปลฺลเงฺกน นิสินฺนสฺส, ชณฺณุเก นาภิวสฺสติ;
‘‘Pallaṅkena nisinnassa, jaṇṇuke nābhivassati;
อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’ติฯ (เถรคา. ๙๘๕; มิ. ป. ๖.๑.๑);
Alaṃ phāsuvihārāya, pahitattassa bhikkhuno’’ti. (theragā. 985; mi. pa. 6.1.1);
‘‘ตาลปตฺตีน’’นฺติปิ ปาโฐ, โส เอวโตฺถฯ ฉวสิโตฺตว เม ปโตฺตติ มยฺหํ ปโตฺต ฉวสิตฺตสทิโส, มตานํ ขีรเสจนกุณฺฑสทิโสติ อโตฺถ ฯ ปํสุกูลญฺจ จีวรนฺติ จีวรญฺจ เม อนฺตรมคฺคสุสานาทีสุ ฉฑฺฑิตนนฺตเกหิ กตํ ปํสุกูลํฯ ปททฺวเยน ปริกฺขารสโนฺตสํ ทเสฺสติฯ
‘‘Tālapattīna’’ntipi pāṭho, so evattho. Chavasittova me pattoti mayhaṃ patto chavasittasadiso, matānaṃ khīrasecanakuṇḍasadisoti attho . Paṃsukūlañca cīvaranti cīvarañca me antaramaggasusānādīsu chaḍḍitanantakehi kataṃ paṃsukūlaṃ. Padadvayena parikkhārasantosaṃ dasseti.
ทฺวินฺนํ อนฺตรวสฺสานนฺติ ทฺวีสุ อนฺตรวเสฺสสุ ปพฺพชิตโต อรหตฺตมปฺปตฺตสํวจฺฉเรสุฯ เอกา วาจา เม ภาสิตาติ เอกา, ‘‘อลํ, ภคินี’’ติ ขีรปฎิเกฺขปวาจา เอว มยา วุตฺตา, อโญฺญ ตตฺถ วจีเภโท นาโหสิฯ เตน อุกฺกํสคตํ กายวจีสํยมํ ทเสฺสติฯ ตติเย อนฺตรวสฺสมฺหีติ ตติยสฺส สํวจฺฉรสฺส อพฺภนฺตเร, ตสฺมิํ อปริปุเณฺณเยวฯ ตโมขโนฺธ ปทาลิโตติ อคฺคมเคฺคน ตโมขโนฺธ ภิโนฺน, อวิชฺชานุสโย สมุจฺฉิโนฺนติ อโตฺถฯ เตน ตเทกฎฺฐตาย สพฺพกิเลสานํ อนวเสสปฺปหานํ วทติฯ
Dvinnaṃantaravassānanti dvīsu antaravassesu pabbajitato arahattamappattasaṃvaccharesu. Ekā vācā me bhāsitāti ekā, ‘‘alaṃ, bhaginī’’ti khīrapaṭikkhepavācā eva mayā vuttā, añño tattha vacībhedo nāhosi. Tena ukkaṃsagataṃ kāyavacīsaṃyamaṃ dasseti. Tatiye antaravassamhīti tatiyassa saṃvaccharassa abbhantare, tasmiṃ aparipuṇṇeyeva. Tamokhandho padālitoti aggamaggena tamokhandho bhinno, avijjānusayo samucchinnoti attho. Tena tadekaṭṭhatāya sabbakilesānaṃ anavasesappahānaṃ vadati.
คงฺคาตีริยเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Gaṅgātīriyattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๔. คงฺคาตีริยเตฺถรคาถา • 4. Gaṅgātīriyattheragāthā