Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมานวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Vimānavatthu-aṭṭhakathā |
ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ
Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa
ขุทฺทกนิกาเย
Khuddakanikāye
วิมานวตฺถุ-อฎฺฐกถา
Vimānavatthu-aṭṭhakathā
คนฺถารมฺภกถา
Ganthārambhakathā
มหาการุณิกํ นาถํ, เญยฺยสาครปารคุํ;
Mahākāruṇikaṃ nāthaṃ, ñeyyasāgarapāraguṃ;
วเนฺท นิปุณคมฺภีร-วิจิตฺรนยเทสนํฯ
Vande nipuṇagambhīra-vicitranayadesanaṃ.
วิชฺชาจรณสมฺปนฺนา, เยน นิยฺยนฺติ โลกโต;
Vijjācaraṇasampannā, yena niyyanti lokato;
วเนฺท ตมุตฺตมํ ธมฺมํ, สมฺมาสมฺพุทฺธปูชิตํฯ
Vande tamuttamaṃ dhammaṃ, sammāsambuddhapūjitaṃ.
สีลาทิคุณสมฺปโนฺน, ฐิโต มคฺคผเลสุ โย;
Sīlādiguṇasampanno, ṭhito maggaphalesu yo;
วเนฺท อริยสงฺฆํ ตํ, ปุญฺญเกฺขตฺตํ อนุตฺตรํฯ
Vande ariyasaṅghaṃ taṃ, puññakkhettaṃ anuttaraṃ.
วนฺทนาชนิตํ ปุญฺญํ, อิติ ยํ รตนตฺตเย;
Vandanājanitaṃ puññaṃ, iti yaṃ ratanattaye;
หตนฺตราโย สพฺพตฺถ, หุตฺวาหํ ตสฺส เตชสาฯ
Hatantarāyo sabbattha, hutvāhaṃ tassa tejasā.
เทวตาหิ กตํ ปุญฺญํ, ยํ ยํ ปุริมชาติสุ;
Devatāhi kataṃ puññaṃ, yaṃ yaṃ purimajātisu;
ตสฺส ตสฺส วิมานาทิ-ผลสมฺปตฺติเภทโตฯ
Tassa tassa vimānādi-phalasampattibhedato.
ปุจฺฉาวเสน ยา ตาสํ, วิสฺสชฺชนวเสน จ;
Pucchāvasena yā tāsaṃ, vissajjanavasena ca;
ปวตฺตา เทสนา กมฺม-ผลปจฺจกฺขการินีฯ
Pavattā desanā kamma-phalapaccakkhakārinī.
วิมานวตฺถุ อิเจฺจว, นาเมน วสิโน ปุเร;
Vimānavatthu icceva, nāmena vasino pure;
ยํ ขุทฺทกนิกายสฺมิํ, สงฺคายิํสุ มเหสโยฯ
Yaṃ khuddakanikāyasmiṃ, saṅgāyiṃsu mahesayo.
ตสฺสาหมวลมฺพิตฺวา, โปราณฎฺฐกถานยํ;
Tassāhamavalambitvā, porāṇaṭṭhakathānayaṃ;
ตตฺถ ตตฺถ นิทานานิ, วิภาเวโนฺต วิเสสโตฯ
Tattha tattha nidānāni, vibhāvento visesato.
สุวิสุทฺธํ อสํกิณฺณํ, นิปุณตฺถวินิจฺฉยํ;
Suvisuddhaṃ asaṃkiṇṇaṃ, nipuṇatthavinicchayaṃ;
มหาวิหารวาสีนํ, สมยํ อวิโลมยํฯ
Mahāvihāravāsīnaṃ, samayaṃ avilomayaṃ.
ยถาพลํ กริสฺสามิ, อตฺถสํวณฺณนํ สุภํ;
Yathābalaṃ karissāmi, atthasaṃvaṇṇanaṃ subhaṃ;
สกฺกจฺจํ ภาสโต ตํ เม, นิสามยถ สาธโวติฯ
Sakkaccaṃ bhāsato taṃ me, nisāmayatha sādhavoti.
ตตฺถ วิมานานีติ วิสิฎฺฐมานานิ เทวตานํ กีฬานิวาสฎฺฐานานิฯ ตานิ หิ ตาสํ สุจริตกมฺมานุภาวนิพฺพตฺตานิ โยชนิกทฺวิโยชนิกาทิปมาณวิเสสยุตฺตตาย , นานารตนสมุชฺชลานิ วิจิตฺตวณฺณสณฺฐานานิ โสภาติสยโยเคน วิเสสโต มานนียตาย จ ‘‘วิมานานี’’ติ วุจฺจนฺติฯ วิมานานํ วตฺถุ การณํ เอติสฺสาติ วิมานวตฺถุ, ‘‘ปีฐํ เต โสวณฺณมย’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา เทสนาฯ นิทสฺสนมตฺตเญฺจตํ ตาสํ เทวตานํ รูปโภคปริวาราทิสมฺปตฺติโย ตํนิพฺพตฺตกกมฺมญฺจ นิสฺสาย อิมิสฺสา เทสนาย ปวตฺตตฺตาฯ วิปากมุเขน วา กมฺมนฺตรมานสฺส การณภาวโต วิมานวตฺถูติ เวทิตพฺพํฯ
Tattha vimānānīti visiṭṭhamānāni devatānaṃ kīḷānivāsaṭṭhānāni. Tāni hi tāsaṃ sucaritakammānubhāvanibbattāni yojanikadviyojanikādipamāṇavisesayuttatāya , nānāratanasamujjalāni vicittavaṇṇasaṇṭhānāni sobhātisayayogena visesato mānanīyatāya ca ‘‘vimānānī’’ti vuccanti. Vimānānaṃ vatthu kāraṇaṃ etissāti vimānavatthu, ‘‘pīṭhaṃ te sovaṇṇamaya’’ntiādinayappavattā desanā. Nidassanamattañcetaṃ tāsaṃ devatānaṃ rūpabhogaparivārādisampattiyo taṃnibbattakakammañca nissāya imissā desanāya pavattattā. Vipākamukhena vā kammantaramānassa kāraṇabhāvato vimānavatthūti veditabbaṃ.
ตยิทํ เกน ภาสิตํ, กตฺถ ภาสิตํ, กทา ภาสิตํ, กสฺมา จ ภาสิตนฺติ? วุจฺจเต – อิทญฺหิ วิมานวตฺถุ ทุวิเธน ปวตฺตํ – ปุจฺฉาวเสน วิสฺสชฺชนวเสน จฯ ตตฺถ วิสฺสชฺชนคาถา ตาหิ ตาหิ เทวตาหิ ภาสิตา, ปุจฺฉาคาถา ปน กาจิ ภควตา ภาสิตา, กาจิ สกฺกาทีหิ, กาจิ สาวเกหิ เถเรหิฯ ตตฺถาปิ เยภุเยฺยน โย โส กปฺปานํ สตสหสฺสาธิกํ เอกํ อสเงฺขฺยยฺยํ พุทฺธสฺส ภควโต อคฺคสาวกภาวาย ปุญฺญญาณสมฺภาเร สมฺภรโนฺต อนุกฺกเมน สาวกปารมิโย ปูเรตฺวา, ฉฬภิญฺญาจตุปฎิสมฺภิทาทิคุณวิเสสปริวารสฺส, สกลสฺส สาวกปารมิญาณสฺส มตฺถกํ ปโตฺต ทุติเย อคฺคสาวกฎฺฐาเน ฐิโต อิทฺธิมเนฺตสุ จ ภควตา เอตทเคฺค ฐปิโต อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน, เตน ภาสิตาฯ
Tayidaṃ kena bhāsitaṃ, kattha bhāsitaṃ, kadā bhāsitaṃ, kasmā ca bhāsitanti? Vuccate – idañhi vimānavatthu duvidhena pavattaṃ – pucchāvasena vissajjanavasena ca. Tattha vissajjanagāthā tāhi tāhi devatāhi bhāsitā, pucchāgāthā pana kāci bhagavatā bhāsitā, kāci sakkādīhi, kāci sāvakehi therehi. Tatthāpi yebhuyyena yo so kappānaṃ satasahassādhikaṃ ekaṃ asaṅkhyeyyaṃ buddhassa bhagavato aggasāvakabhāvāya puññañāṇasambhāre sambharanto anukkamena sāvakapāramiyo pūretvā, chaḷabhiññācatupaṭisambhidādiguṇavisesaparivārassa, sakalassa sāvakapāramiñāṇassa matthakaṃ patto dutiye aggasāvakaṭṭhāne ṭhito iddhimantesu ca bhagavatā etadagge ṭhapito āyasmā mahāmoggallāno, tena bhāsitā.
ภาสเนฺตน จ ปฐมํ ตาว โลกหิตาย เทวจาริกํ จรเนฺตน เทวโลเก เทวตานํ ปุจฺฉาวเสน ปุน ตโต มนุสฺสโลกํ อาคนฺตฺวา มนุสฺสานํ ปุญฺญผลสฺส ปจฺจกฺขกรณตฺถํ ปุจฺฉํ วิสฺสชฺชนญฺจ เอกชฺฌํ กตฺวา ภควโต ปเวเทตฺวา ภิกฺขูนํ ภาสิตา, สเกฺกน ปุจฺฉาวเสน, เทวตาหิ ตสฺส วิสฺสชฺชนวเสน ภาสิตาปิ มหาโมคฺคลฺลานเตฺถรสฺส ภาสิตา เอวฯ เอวํ ภควตา เถเรหิ จ เทวตาหิ จ ปุจฺฉาวเสน, เทวตาหิ ตสฺสา วิสฺสชฺชนวเสน จ ตตฺถ ตตฺถ ภาสิตา ปจฺฉา ธมฺมวินยํ สงฺคายเนฺตหิ ธมฺมสงฺคาหเกหิ เอกโต กตฺวา ‘‘วิมานวตฺถุ’’อิเจฺจว สงฺคหํ อาโรปิตาฯ อยํ ตาเวตฺถ ‘‘เกน ภาสิต’’นฺติอาทีนํ ปทานํ สเงฺขปโต สาธารณโต จ วิสฺสชฺชนาฯ
Bhāsantena ca paṭhamaṃ tāva lokahitāya devacārikaṃ carantena devaloke devatānaṃ pucchāvasena puna tato manussalokaṃ āgantvā manussānaṃ puññaphalassa paccakkhakaraṇatthaṃ pucchaṃ vissajjanañca ekajjhaṃ katvā bhagavato pavedetvā bhikkhūnaṃ bhāsitā, sakkena pucchāvasena, devatāhi tassa vissajjanavasena bhāsitāpi mahāmoggallānattherassa bhāsitā eva. Evaṃ bhagavatā therehi ca devatāhi ca pucchāvasena, devatāhi tassā vissajjanavasena ca tattha tattha bhāsitā pacchā dhammavinayaṃ saṅgāyantehi dhammasaṅgāhakehi ekato katvā ‘‘vimānavatthu’’icceva saṅgahaṃ āropitā. Ayaṃ tāvettha ‘‘kena bhāsita’’ntiādīnaṃ padānaṃ saṅkhepato sādhāraṇato ca vissajjanā.
วิตฺถารโต ปน ‘‘เกน ภาสิต’’นฺติ ปทสฺส อโนมทสฺสิสฺส ภควโต ปาทมูเล กตปณิธานโต ปฎฺฐาย มหาเถรสฺส อาคมนียปฎิปทา กเถตพฺพา, สา ปน อาคมฎฺฐกถาสุ ตตฺถ ตตฺถ วิตฺถาริตาติ ตตฺถ อาคตนเยเนว เวทิตพฺพาฯ อสาธารณโต ‘‘กตฺถ ภาสิต’’นฺติอาทีนํ ปทานํ วิสฺสชฺชนา ตสฺส ตสฺส วิมานสฺส อตฺถวณฺณนานเยเนว อาคมิสฺสติฯ
Vitthārato pana ‘‘kena bhāsita’’nti padassa anomadassissa bhagavato pādamūle katapaṇidhānato paṭṭhāya mahātherassa āgamanīyapaṭipadā kathetabbā, sā pana āgamaṭṭhakathāsu tattha tattha vitthāritāti tattha āgatanayeneva veditabbā. Asādhāraṇato ‘‘kattha bhāsita’’ntiādīnaṃ padānaṃ vissajjanā tassa tassa vimānassa atthavaṇṇanānayeneva āgamissati.
อปเร ปน ภณนฺติ – เอกทิวสํ อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส รโหคตสฺส ปฎิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตโกฺก อุทปาทิ ‘‘เอตรหิ โข มนุสฺสา อสติปิ วตฺถุสมฺปตฺติยา เขตฺตสมฺปตฺติยา อตฺตโน จ จิตฺตปสาทสมฺปตฺติยา ตานิ ตานิ ปุญฺญานิ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตา อุฬารสมฺปตฺติํ ปจฺจนุโภนฺติ, ยํนูนาหํ เทวจาริกํ จรโนฺต ตา เทวตา กายสกฺขิํ กตฺวา ตาหิ ยถูปจิตํ ปุญฺญํ ยถาธิคตญฺจ ปุญฺญผลํ กถาเปตฺวา ตมตฺถํ ภควโต อาโรเจยฺยํฯ เอวํ เม สตฺถา คคนตเล ปุณฺณจนฺทํ อุฎฺฐาเปโนฺต วิย มนุสฺสานํ กมฺมผลํ ปจฺจกฺขโต ทเสฺสโนฺต อปฺปกานมฺปิ การานํ อายตนคตาย สทฺธาย วเสน อุฬารผลตํ วิภาเวโนฺต ตํ ตํ วิมานวตฺถุํ อฎฺฐุปฺปตฺติํ กตฺวา มหติํ ธมฺมเทสนํ ปวเตฺตสฺสติ, สา โหติ พหุชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ ฯ โส อาสนา วุฎฺฐหิตฺวา รตฺตทุปฎฺฎํ นิวาเสตฺวา อปรํ รตฺตทุปฎฺฎํ เอกํสํ กตฺวา สมนฺตโต ชาติหิงฺคุลิกธารา วิชฺชุลตา วิย สญฺฌาปภานุรญฺชิโต วิย จ ชงฺคโม อญฺชนคิริสิขโร, ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสิโนฺน อตฺตโน อธิปฺปายํ อาโรเจตฺวา ภควตา อนุญฺญาโต อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา อภิญฺญาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา, ตโต วุฎฺฐาย อิทฺธิพเลน ตงฺขณเญฺญว ตาวติํสภวนํ คนฺตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ตาหิ ตาหิ เทวตาหิ ยถูปจิตํ ปุญฺญกมฺมํ ปุจฺฉิ, ตสฺส ตา กเถสุํฯ ตโต มนุสฺสโลกํ อาคนฺตฺวา ตํ สพฺพํ ตตฺถ ปวตฺติตนิยาเมเนว ภควโต อาโรเจสิ, ตํ สมนุโญฺญ สตฺถา อโหสิฯ อิเจฺจตํ อฎฺฐุปฺปตฺติํ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย วิตฺถาเรน ธมฺมํ เทเสสีติฯ
Apare pana bhaṇanti – ekadivasaṃ āyasmato mahāmoggallānassa rahogatassa paṭisallīnassa evaṃ cetaso parivitakko udapādi ‘‘etarahi kho manussā asatipi vatthusampattiyā khettasampattiyā attano ca cittapasādasampattiyā tāni tāni puññāni katvā devaloke nibbattā uḷārasampattiṃ paccanubhonti, yaṃnūnāhaṃ devacārikaṃ caranto tā devatā kāyasakkhiṃ katvā tāhi yathūpacitaṃ puññaṃ yathādhigatañca puññaphalaṃ kathāpetvā tamatthaṃ bhagavato āroceyyaṃ. Evaṃ me satthā gaganatale puṇṇacandaṃ uṭṭhāpento viya manussānaṃ kammaphalaṃ paccakkhato dassento appakānampi kārānaṃ āyatanagatāya saddhāya vasena uḷāraphalataṃ vibhāvento taṃ taṃ vimānavatthuṃ aṭṭhuppattiṃ katvā mahatiṃ dhammadesanaṃ pavattessati, sā hoti bahujanassa atthāya hitāya sukhāya devamanussāna’’nti . So āsanā vuṭṭhahitvā rattadupaṭṭaṃ nivāsetvā aparaṃ rattadupaṭṭaṃ ekaṃsaṃ katvā samantato jātihiṅgulikadhārā vijjulatā viya sañjhāpabhānurañjito viya ca jaṅgamo añjanagirisikharo, bhagavantaṃ upasaṅkamitvā abhivādetvā ekamantaṃ nisinno attano adhippāyaṃ ārocetvā bhagavatā anuññāto uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā abhiññāpādakaṃ catutthajjhānaṃ samāpajjitvā, tato vuṭṭhāya iddhibalena taṅkhaṇaññeva tāvatiṃsabhavanaṃ gantvā tattha tattha tāhi tāhi devatāhi yathūpacitaṃ puññakammaṃ pucchi, tassa tā kathesuṃ. Tato manussalokaṃ āgantvā taṃ sabbaṃ tattha pavattitaniyāmeneva bhagavato ārocesi, taṃ samanuñño satthā ahosi. Iccetaṃ aṭṭhuppattiṃ katvā sampattaparisāya vitthārena dhammaṃ desesīti.
ตํ ปเนตํ วิมานวตฺถุ วินยปิฎกํ สุตฺตนฺตปิฎกํ อภิธมฺมปิฎกนฺติ ตีสุ ปิฎเกสุ สุตฺตนฺตปิฎกปริยาปนฺนํ, ทีฆนิกาโย มชฺฌิมนิกาโย สํยุตฺตนิกาโย องฺคุตฺตรนิกาโย ขุทฺทกนิกาโยติ ปญฺจสุ นิกาเยสุ ขุทฺทกนิกายปริยาปนฺนํ, สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลนฺติ นวสุ สาสนเงฺคสุ คาถาสงฺคหํฯ
Taṃ panetaṃ vimānavatthu vinayapiṭakaṃ suttantapiṭakaṃ abhidhammapiṭakanti tīsu piṭakesu suttantapiṭakapariyāpannaṃ, dīghanikāyo majjhimanikāyo saṃyuttanikāyo aṅguttaranikāyo khuddakanikāyoti pañcasu nikāyesu khuddakanikāyapariyāpannaṃ, suttaṃ geyyaṃ veyyākaraṇaṃ gāthā udānaṃ itivuttakaṃ jātakaṃ abbhutadhammaṃ vedallanti navasu sāsanaṅgesu gāthāsaṅgahaṃ.
‘‘ทฺวาสีติ พุทฺธโต คณฺหิํ, เทฺว สหสฺสานิ ภิกฺขุโต;
‘‘Dvāsīti buddhato gaṇhiṃ, dve sahassāni bhikkhuto;
จตุราสีติ สหสฺสานิ, เย เม ธมฺมา ปวตฺติโน’’ติฯ (เถรคา. ๑๐๒๗) –
Caturāsīti sahassāni, ye me dhammā pavattino’’ti. (theragā. 1027) –
เอวํ ธมฺมภณฺฑาคาริเกน ปฎิญฺญาเตสุ จตุราสีติยา ธมฺมกฺขนฺธสหเสฺสสุ กติปยธมฺมกฺขนฺธสงฺคหํฯ วคฺคโต ปีฐวโคฺค จิตฺตลตาวโคฺค ปาริจฺฉตฺตกวโคฺค มญฺชิฎฺฐกวโคฺค มหารถวโคฺค ปายาสิวโคฺค สุนิกฺขิตฺตวโคฺคติ สตฺต วคฺคาฯ วตฺถุโต ปฐเม วเคฺค สตฺตรส วตฺถูนิ, ทุติเย เอกาทส, ตติเย ทส, จตุเตฺถ ทฺวาทส , ปญฺจเม จตุทฺทส, ฉเฎฺฐ ทส, สตฺตเม เอกาทสาติ อนฺตรวิมานานํ อคฺคหเณ ปญฺจาสีติ, คหเณ ปน เตวีสสตํ วตฺถูนิ, คาถาโต ปน ทิยฑฺฒสหสฺสคาถาฯ ตสฺส วเคฺคสุ ปีฐวโคฺค อาทิ, วตฺถูสุ โสวณฺณปีฐวตฺถุ อาทิ, ตสฺสาปิ ‘‘ปีฐํ เต โสวณฺณมย’’นฺติ คาถา อาทิฯ
Evaṃ dhammabhaṇḍāgārikena paṭiññātesu caturāsītiyā dhammakkhandhasahassesu katipayadhammakkhandhasaṅgahaṃ. Vaggato pīṭhavaggo cittalatāvaggo pāricchattakavaggo mañjiṭṭhakavaggo mahārathavaggo pāyāsivaggo sunikkhittavaggoti satta vaggā. Vatthuto paṭhame vagge sattarasa vatthūni, dutiye ekādasa, tatiye dasa, catutthe dvādasa , pañcame catuddasa, chaṭṭhe dasa, sattame ekādasāti antaravimānānaṃ aggahaṇe pañcāsīti, gahaṇe pana tevīsasataṃ vatthūni, gāthāto pana diyaḍḍhasahassagāthā. Tassa vaggesu pīṭhavaggo ādi, vatthūsu sovaṇṇapīṭhavatthu ādi, tassāpi ‘‘pīṭhaṃ te sovaṇṇamaya’’nti gāthā ādi.