Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-ปุราณ-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-purāṇa-ṭīkā

    คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา

    Ganthārambhakathāvaṇṇanā

    วิปฺปสเนฺนนาติ วิวิธปฺปสเนฺนนฯ กถํ? ‘‘อิติปิ โส…เป.… พุโทฺธ ภควา, สฺวากฺขาโต…เป.… วิญฺญูหิ, สุปฺปฎิปโนฺน…เป.… โลกสฺสา’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๐) เอวมาทินาฯ ‘‘เจตสา’’ติ วุตฺตตฺตา ตีสุ วนฺทนาสุ เจโตวนฺทนา อธิเปฺปตาฯ ตนฺนินฺนตาทิวเสน กายาทีหิ ปณามกรณํ วนฺทนา, คุณวเสน มนสาปิ ตถาว กรณํ มานํ, ปจฺจยปฺปฎิปตฺติยาทีหิ ปูชากรณํ ปูชา, ปจฺจยาทีนํ อภิสงฺขรณํ สกฺกจฺจ กรณํ สกฺกาโร, เตสํฯ ภาชนนฺติ อาธาโร, อธิกรณํ วาฯ

    Vippasannenāti vividhappasannena. Kathaṃ? ‘‘Itipi so…pe… buddho bhagavā, svākkhāto…pe… viññūhi, suppaṭipanno…pe… lokassā’’ti (a. ni. 5.10) evamādinā. ‘‘Cetasā’’ti vuttattā tīsu vandanāsu cetovandanā adhippetā. Tanninnatādivasena kāyādīhi paṇāmakaraṇaṃ vandanā, guṇavasena manasāpi tathāva karaṇaṃ mānaṃ, paccayappaṭipattiyādīhi pūjākaraṇaṃ pūjā, paccayādīnaṃ abhisaṅkharaṇaṃ sakkacca karaṇaṃ sakkāro, tesaṃ. Bhājananti ādhāro, adhikaraṇaṃ vā.

    เถรา มหากสฺสปาทโย, เตสํ วํโสติ เถรวํโส, อาคมาธิคมสมฺปทาย ตสฺส วํสสฺส ปทีปภูตาติ เถรวํสปฺปทีปา, เตสํ เถรวํสปฺปทีปานํฯ อสํหีรตฺตา ถิรานํวินยกฺกเมติ วินยปิฎเก, อารมฺภานุรูปวจนเมตํฯ สุตฺตาภิธเมฺมสุปิ เต ถิรา เอวฯ ‘‘พุทฺธํ ธมฺมญฺจ สงฺฆญฺจ ปุพฺพาจริยสีหานญฺจา’’ติ อวตฺวา กสฺมา วิสุํ วุตฺตนฺติ เจ? ปโยชนวิเสสทสฺสนตฺถํฯ วตฺถุตฺตยสฺส หิ ปณามกรณสฺส อนฺตรายนิวารณํ ปโยชนํ อตฺตโน นิสฺสยภูตานํ อาจริยานํ ปณามกรณสฺส อุปการญฺญุตาทสฺสนํฯ เตน พุทฺธญฺจ ธมฺมญฺจ สงฺฆญฺจ วนฺทิตฺวา, -สเทฺทน ปุพฺพาจริยสีหานญฺจ นโม กตฺวาติ โยชนาฯ อถ วา ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติ เจโตวนฺทนํ ทเสฺสตฺวา ตโต ‘‘นโม กตฺวา’’ติ วาจาวนฺทนา, ‘‘กตญฺชลี’’ติ กายวนฺทนาปิ ทสฺสิตาติ โยเชตพฺพํฯ

    Therā mahākassapādayo, tesaṃ vaṃsoti theravaṃso, āgamādhigamasampadāya tassa vaṃsassa padīpabhūtāti theravaṃsappadīpā, tesaṃ theravaṃsappadīpānaṃ. Asaṃhīrattā thirānaṃ. Vinayakkameti vinayapiṭake, ārambhānurūpavacanametaṃ. Suttābhidhammesupi te thirā eva. ‘‘Buddhaṃ dhammañca saṅghañca pubbācariyasīhānañcā’’ti avatvā kasmā visuṃ vuttanti ce? Payojanavisesadassanatthaṃ. Vatthuttayassa hi paṇāmakaraṇassa antarāyanivāraṇaṃ payojanaṃ attano nissayabhūtānaṃ ācariyānaṃ paṇāmakaraṇassa upakāraññutādassanaṃ. Tena buddhañca dhammañca saṅghañca vanditvā, ca-saddena pubbācariyasīhānañca namo katvāti yojanā. Atha vā ‘‘vanditvā’’ti cetovandanaṃ dassetvā tato ‘‘namo katvā’’ti vācāvandanā, ‘‘katañjalī’’ti kāyavandanāpi dassitāti yojetabbaṃ.

    อิทานิ อภิธานปฺปโยชนํ ทเสฺสตุํ ‘‘ปาโมกฺข’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ ปาโมกฺขนฺติ ปธานํฯ สีลญฺหิ สเพฺพสํ กุสลธมฺมานํ ปธานํ อาทิภาวโตฯ ยถา จ สตฺตานํ ขชฺชโภชฺชเลยฺยเปยฺยวเสน จตุพฺพิโธปิ อาหาโร มุเขน ปวิสิตฺวา องฺคมงฺคานิ ผรติ, เอวํ โยคิโนปิ จาตุภูมกํ กุสลํ สีลมุเขน ปวิสิตฺวา อตฺถสิทฺธิํ สมฺปาเทติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘มุข’’นฺติอาทิฯ อถ วา มุขนฺติ อุปาโย, เตน โมกฺขปฺปเวสาย นิพฺพานสจฺฉิกิริยาย มุขํ อุปาโยติ อโตฺถฯ มเหสินา ยํ ปาติโมกฺขํ ปกาสิตนฺติ สมฺพโนฺธฯ มหเนฺต สีลาทิกฺขเนฺธ เอสิ คเวสีติ มเหสิ

    Idāni abhidhānappayojanaṃ dassetuṃ ‘‘pāmokkha’’ntiādimāha. Tattha pāmokkhanti padhānaṃ. Sīlañhi sabbesaṃ kusaladhammānaṃ padhānaṃ ādibhāvato. Yathā ca sattānaṃ khajjabhojjaleyyapeyyavasena catubbidhopi āhāro mukhena pavisitvā aṅgamaṅgāni pharati, evaṃ yoginopi cātubhūmakaṃ kusalaṃ sīlamukhena pavisitvā atthasiddhiṃ sampādeti. Tena vuttaṃ ‘‘mukha’’ntiādi. Atha vā mukhanti upāyo, tena mokkhappavesāya nibbānasacchikiriyāya mukhaṃ upāyoti attho. Mahesinā yaṃ pātimokkhaṃ pakāsitanti sambandho. Mahante sīlādikkhandhe esi gavesīti mahesi.

    สูรเตน นิวาเตนาติ ‘‘ตตฺถ กตมํ โสรจฺจํ? โย กายิโก อวีติกฺกโม’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๓๔๙) สูรเตน, นีจวุตฺตินา มานุทฺธจฺจวเสน อตฺตานํ อนุกฺขิปนภาเวน นิวาเตนฯ วินยาจารยุเตฺตน จาริตฺตวาริเตฺตหิ ยุเตฺตนฯ ‘‘โสณเตฺถเรน ยาจิโต’’ติ อวตฺวา ‘‘สูรเตนา’’ติอาทิ กสฺมา วุตฺตํ, กิํ ทุสฺสีเลน วา ทุเฎฺฐน วา อลชฺชินา วา ยาจิเตน วณฺณนา กาตุํ น วฎฺฎตีติ เจ? น น วฎฺฎติฯ เถรสฺส วจนํ ปฎิกฺขิปิตุํ น สกฺกา, เอวรูปคุโณ เถโรว, ยาจนวเสน กตฺตโพฺพ อาทเรนาติ ทเสฺสตุํ วุตฺตํฯ

    Sūratena nivātenāti ‘‘tattha katamaṃ soraccaṃ? Yo kāyiko avītikkamo’’tiādinā (dha. sa. 1349) sūratena, nīcavuttinā mānuddhaccavasena attānaṃ anukkhipanabhāvena nivātena. Vinayācārayuttena cārittavārittehi yuttena. ‘‘Soṇattherena yācito’’ti avatvā ‘‘sūratenā’’tiādi kasmā vuttaṃ, kiṃ dussīlena vā duṭṭhena vā alajjinā vā yācitena vaṇṇanā kātuṃ na vaṭṭatīti ce? Na na vaṭṭati. Therassa vacanaṃ paṭikkhipituṃ na sakkā, evarūpaguṇo therova, yācanavasena kattabbo ādarenāti dassetuṃ vuttaṃ.

    นาเมนาติ อตฺตโน คุณนาเมนฯ สทฺทลกฺขณสุภโต, วินิจฺฉยสุภโต, วิเญฺญยฺยสุภโต จ สุภํ

    Nāmenāti attano guṇanāmena. Saddalakkhaṇasubhato, vinicchayasubhato, viññeyyasubhato ca subhaṃ.

    คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Ganthārambhakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact