Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ขุทฺทสิกฺขา-มูลสิกฺขา • Khuddasikkhā-mūlasikkhā |
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา
Ganthārambhakathāvaṇṇanā
(ก) เอตฺถาห – กตมา ขุทฺทสิกฺขา, กถํ สิกฺขิตพฺพา, กสฺมา สิกฺขิตพฺพา, เก สิกฺขนฺติ, เก สิกฺขิตสิกฺขาติ? วุจฺจเต – อธิสีลอธิจิตฺตอธิปญฺญาวเสน ติโสฺส สิกฺขา, คนฺถวเสเนตฺถ สงฺขิปิตฺวา วุตฺตตฺตา ตทฺทีปโน คโนฺถ ‘‘ขุทฺทสิกฺขา’’ติ วุจฺจติ, อถ วา ‘‘ขุทฺทํ อเนลกํ มธุปฎล’’นฺติอาทีนิ วิย สิกฺขากามานํ มธุรตาย ขุทฺทา จ ตา สิกฺขา จาติ ขุทฺทสิกฺขา, อถ วา ‘‘ขุทฺทปุตฺตมฺหิ สมณ โปส ม’’นฺติอาทีสุ วิย พหุวิธตฺตาปิ ขุทฺทา จ ตา สิกฺขิตพฺพโต สิกฺขา จาติ ขุทฺทสิกฺขาฯ อธิสีลสิกฺขา ปเนตฺถ จาริตฺตวาริตฺตวเสน ทุวิธมฺปิ สีลํ ยถานุสิฎฺฐํ ปฎิปชฺชมาเนน ตปฺปฎิปเกฺข กิเลเส ตทงฺคปฺปหานวเสน ปชหเนฺตน สิกฺขิตพฺพา, อธิจิตฺตสิกฺขา ปน ยถาวุเตฺตสุ อารมฺมเณสุ อภิโยคกรณวเสน ฌานปฺปฎิปกฺขานํ นีวรณคณานํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ กุรุมาเนน สิกฺขิตพฺพา, อธิปญฺญาสิกฺขา ปน ยถานุรูปํ สมุเจฺฉทวเสน สานุสเย กิเลเส สมุจฺฉินฺทเนฺตน สิกฺขิตพฺพาฯ
(Ka) etthāha – katamā khuddasikkhā, kathaṃ sikkhitabbā, kasmā sikkhitabbā, ke sikkhanti, ke sikkhitasikkhāti? Vuccate – adhisīlaadhicittaadhipaññāvasena tisso sikkhā, ganthavasenettha saṅkhipitvā vuttattā taddīpano gantho ‘‘khuddasikkhā’’ti vuccati, atha vā ‘‘khuddaṃ anelakaṃ madhupaṭala’’ntiādīni viya sikkhākāmānaṃ madhuratāya khuddā ca tā sikkhā cāti khuddasikkhā, atha vā ‘‘khuddaputtamhi samaṇa posa ma’’ntiādīsu viya bahuvidhattāpi khuddā ca tā sikkhitabbato sikkhā cāti khuddasikkhā. Adhisīlasikkhā panettha cārittavārittavasena duvidhampi sīlaṃ yathānusiṭṭhaṃ paṭipajjamānena tappaṭipakkhe kilese tadaṅgappahānavasena pajahantena sikkhitabbā, adhicittasikkhā pana yathāvuttesu ārammaṇesu abhiyogakaraṇavasena jhānappaṭipakkhānaṃ nīvaraṇagaṇānaṃ vikkhambhanappahānaṃ kurumānena sikkhitabbā, adhipaññāsikkhā pana yathānurūpaṃ samucchedavasena sānusaye kilese samucchindantena sikkhitabbā.
กสฺมา สิกฺขิตพฺพาติ เอตฺถ –
Kasmā sikkhitabbāti ettha –
ชาติอาทีหิ ทุเกฺขหิ, อเนเกหิ อุปทฺทุตํ;
Jātiādīhi dukkhehi, anekehi upaddutaṃ;
ขนฺธโลกํ ชหิตฺวาน, ปตฺตุํ เขมํ ปุรํ สิวํฯ
Khandhalokaṃ jahitvāna, pattuṃ khemaṃ puraṃ sivaṃ.
กลฺยาณปุถุชฺชเนน สห สตฺต เสกฺขา สิกฺขนฺติฯ อรหโนฺต สิกฺขิตสิกฺขาฯ
Kalyāṇaputhujjanena saha satta sekkhā sikkhanti. Arahanto sikkhitasikkhā.
เย วีตโมหา มุนิปุงฺควสฺส;
Ye vītamohā munipuṅgavassa;
สิเสฺสสุ อคฺคา มุนินา ปสตฺถา;
Sissesu aggā muninā pasatthā;
เต ตีสุ สิกฺขาสุ สมตฺตสิกฺขา;
Te tīsu sikkhāsu samattasikkhā;
ตโต ปเร เกน สมตฺตสิกฺขาติฯ
Tato pare kena samattasikkhāti.
อาทิโตติ เอตฺถ อาทิมฺหิเยวาติ อโตฺถ, อาทิโต ปฎฺฐายาติ วาฯ อุปสมฺปเนฺนน จ อุปสมฺปนฺนาย จ สิกฺขิตพฺพํ อุปสมฺปนฺนสิกฺขิตพฺพํฯ สห มาติกาย สมาติกํฯ ปุเพฺพ วุตฺตปฺปการํ ขุทฺทสิกฺขํ ปวกฺขามิ อาทเรน, ปกาเรน วา วกฺขามิ รตนตฺตยํ วนฺทิตฺวาติ อโตฺถฯ อปิจ เถโร อาทิโตติ วจเนน สทฺธาปพฺพชิตานํ กุลปุตฺตานํ อาลสิยโทเสน อปฺปฎิปชฺชนฺตานํ อญฺญาณโทเสน อญฺญถา ปฎิปชฺชนฺตานํ สํเวคํ ชเนติฯ กถํ? อติทุลฺลภํ ขณสมวายํ ปฎิลภิตฺวา ตงฺขณํ น กุสีเตน วา นิรตฺถกกถาปสุเตน วา วีตินาเมตพฺพํ, กิํ กาตพฺพํ? อาทิโต ปฎฺฐาย นิรนฺตรเมว ตีสุ สิกฺขาสุ อาทโร ชเนตโพฺพติฯ เอตฺถาห – กิํ ตํ รตนตฺตยํ นาม, ยํ วนฺทิตฺวา เถโร ขุทฺทสิกฺขํ ปวกฺขตีติ? วุจฺจเต – พุทฺธรตนํ ธมฺมรตนํ สงฺฆรตนนฺติ อิมานิ ตีณิ รตนานิฯ ตานิ หิ รติชนนเฎฺฐน ‘‘รตนานี’’ติ วุจฺจนฺติฯ อปิจ –
Āditoti ettha ādimhiyevāti attho, ādito paṭṭhāyāti vā. Upasampannena ca upasampannāya ca sikkhitabbaṃ upasampannasikkhitabbaṃ. Saha mātikāya samātikaṃ. Pubbe vuttappakāraṃ khuddasikkhaṃ pavakkhāmi ādarena, pakārena vā vakkhāmi ratanattayaṃ vanditvāti attho. Apica thero āditoti vacanena saddhāpabbajitānaṃ kulaputtānaṃ ālasiyadosena appaṭipajjantānaṃ aññāṇadosena aññathā paṭipajjantānaṃ saṃvegaṃ janeti. Kathaṃ? Atidullabhaṃ khaṇasamavāyaṃ paṭilabhitvā taṅkhaṇaṃ na kusītena vā niratthakakathāpasutena vā vītināmetabbaṃ, kiṃ kātabbaṃ? Ādito paṭṭhāya nirantarameva tīsu sikkhāsu ādaro janetabboti. Etthāha – kiṃ taṃ ratanattayaṃ nāma, yaṃ vanditvā thero khuddasikkhaṃ pavakkhatīti? Vuccate – buddharatanaṃ dhammaratanaṃ saṅgharatananti imāni tīṇi ratanāni. Tāni hi ratijananaṭṭhena ‘‘ratanānī’’ti vuccanti. Apica –
‘‘จิตฺตีกตํ มหคฺฆญฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;
‘‘Cittīkataṃ mahagghañca, atulaṃ dullabhadassanaṃ;
อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจตี’’ติฯ (ที. นี. อฎฺฐ. ๒.๓๓; สํ. นิ. อฎฺฐ. ๓.๕.๒๒๓; ขุ. ปา. อฎฺฐ. ๖.๓; สุ. นิ. อฎฺฐ. ๑.๒๒๖; มหานิ. อฎฺฐ. ๕๐; อุทา. อฎฺฐ. ๔๕) –
Anomasattaparibhogaṃ, ratanaṃ tena vuccatī’’ti. (dī. nī. aṭṭha. 2.33; saṃ. ni. aṭṭha. 3.5.223; khu. pā. aṭṭha. 6.3; su. ni. aṭṭha. 1.226; mahāni. aṭṭha. 50; udā. aṭṭha. 45) –
อิมิสฺสา คาถาย วเสน รตนโตฺถ เวทิตโพฺพฯ
Imissā gāthāya vasena ratanattho veditabbo.