Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วินยวินิจฺฉย-ฎีกา • Vinayavinicchaya-ṭīkā

    ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ

    Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa

    อุตฺตรวินิจฺฉย-ฎีกา

    Uttaravinicchaya-ṭīkā

    คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา

    Ganthārambhakathāvaṇṇanā

    (ก)

    (Ka)

    เทวาติเทวํ สุคตํ, เทวพฺรฺหฺมินฺทวนฺทิตํ;

    Devātidevaṃ sugataṃ, devabrhmindavanditaṃ;

    ธมฺมญฺจ วฎฺฎุปเจฺฉทํ, นตฺวา วฎฺฎาติตํ คณํฯ

    Dhammañca vaṭṭupacchedaṃ, natvā vaṭṭātitaṃ gaṇaṃ.

    (ข)

    (Kha)

    วนฺทนามยปุเญฺญน, กเมฺมน รตนตฺตเย;

    Vandanāmayapuññena, kammena ratanattaye;

    เฉตฺวา อุปทฺทเว สเพฺพ, อารภิสฺสํ สมาหิโตฯ

    Chetvā upaddave sabbe, ārabhissaṃ samāhito.

    (ค)

    (Ga)

    เถเรน พุทฺธทเตฺตน, รจิตสฺส สมาสโต;

    Therena buddhadattena, racitassa samāsato;

    สํวณฺณนมสํกิณฺณํ, อุตฺตรสฺส ยถาพลํฯ

    Saṃvaṇṇanamasaṃkiṇṇaṃ, uttarassa yathābalaṃ.

    . อถายมาจริโย อตฺตโน วิรจิเต วินเย ตสฺสุปนิสฺสเย วินยปิฎเก จ ภิกฺขูนํ นานปฺปการโกสลฺลชนนตฺถํ ปริวารฎฺฐกถายญฺจ อาคตวินิจฺฉยํ สงฺคเหตฺวา อุตฺตรปกรณํ วณฺณยิตุกาโม ปฐมํ ตาว อนฺตรายนิวารเณน ยถาธิเปฺปตสาธนตฺถํ รตนตฺตยํ วนฺทโนฺต อาห ‘‘สพฺพสตฺตุตฺตม’’นฺติอาทิฯ

    1. Athāyamācariyo attano viracite vinaye tassupanissaye vinayapiṭake ca bhikkhūnaṃ nānappakārakosallajananatthaṃ parivāraṭṭhakathāyañca āgatavinicchayaṃ saṅgahetvā uttarapakaraṇaṃ vaṇṇayitukāmo paṭhamaṃ tāva antarāyanivāraṇena yathādhippetasādhanatthaṃ ratanattayaṃ vandanto āha ‘‘sabbasattuttama’’ntiādi.

    ปกรณารเมฺภ รตนตฺตยวนฺทนาปโยชนํ ตตฺถ ตตฺถาจริเยหิ พหุธา ปปญฺจิตํ, อเมฺหหิ จ วินยวินิจฺฉยวณฺณนายํ สมาสโต ทสฺสิตนฺติ น ตํ อิธ วณฺณยิสฺสามฯ ปกรณาภิเธยฺย กรณปฺปการปโยชนานิปิ ตตฺถ ทสฺสิตนยานุสาเรน อิธาปิ เวทิตพฺพานิฯ สมฺพนฺธาทิทสฺสนมุเขน อนุตฺตานปทวณฺณนเมเวตฺถ กริสฺสามิฯ

    Pakaraṇārambhe ratanattayavandanāpayojanaṃ tattha tatthācariyehi bahudhā papañcitaṃ, amhehi ca vinayavinicchayavaṇṇanāyaṃ samāsato dassitanti na taṃ idha vaṇṇayissāma. Pakaraṇābhidheyya karaṇappakārapayojanānipi tattha dassitanayānusārena idhāpi veditabbāni. Sambandhādidassanamukhena anuttānapadavaṇṇanamevettha karissāmi.

    ชินํ, ธมฺมญฺจ, คณญฺจ วนฺทิตฺวา อุตฺตรํ ทานิ กริสฺสามีติ สมฺพโนฺธฯ กิํวิสิฎฺฐํ ชินํ, ธมฺมํ, คณญฺจ วนฺทิตฺวาติ อาห ‘‘สพฺพสตฺตุตฺตม’’นฺติอาทิฯ ตตฺถ สพฺพสตฺตุตฺตมนฺติ ปญฺจสุ กามคุเณสุ สตฺตา อาสตฺตา วิสตฺตา ลคฺคิตาติ สตฺตา, ปรมตฺถโต สตฺตปญฺญตฺติยา อุปาทานภูตา อุปาทานกฺขนฺธา โวหารโต ขนฺธสนฺตติํ อุปาทาย ปญฺญตฺตา สมฺมุติ ‘‘สตฺตา’’ติ วุจฺจนฺติฯ เต ปน กามาวจราทิภูมิวเสน, นิรยาทิปเทสวเสน, อเหตุกาทิปฎิสนฺธิวเสนาติ เอวมาทีหิ อนนฺตปเภทาฯ เตสุ ขีณาสวานํ ยถาวุตฺตนิพฺพจนเตฺถน สตฺตโวหาโร น ลพฺภติฯ ตถาปิ เต ภูตปุพฺพคติยา วา ตํสทิสตฺตา วา ‘‘สตฺตา’’ติ วุจฺจนฺติฯ สเพฺพ จ เต สตฺตา จา ติ สพฺพสตฺตาฯ อุทฺธฎตมตฺตา, อุคฺคตตมตฺตา, เสฎฺฐตฺตา จ อุตฺตโม, สพฺพสตฺตานํ โลกิยโลกุตฺตเรหิ รูปารูปคุเณหิ อุตฺตโม, สพฺพสเตฺตสุ วา อุตฺตโม ปวโร เสโฎฺฐติ สพฺพสตฺตุตฺตโมฯ ‘‘ชิน’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํฯ

    Jinaṃ, dhammañca, gaṇañca vanditvā uttaraṃ dāni karissāmīti sambandho. Kiṃvisiṭṭhaṃ jinaṃ, dhammaṃ, gaṇañca vanditvāti āha ‘‘sabbasattuttama’’ntiādi. Tattha sabbasattuttamanti pañcasu kāmaguṇesu sattā āsattā visattā laggitāti sattā, paramatthato sattapaññattiyā upādānabhūtā upādānakkhandhā vohārato khandhasantatiṃ upādāya paññattā sammuti ‘‘sattā’’ti vuccanti. Te pana kāmāvacarādibhūmivasena, nirayādipadesavasena, ahetukādipaṭisandhivasenāti evamādīhi anantapabhedā. Tesu khīṇāsavānaṃ yathāvuttanibbacanatthena sattavohāro na labbhati. Tathāpi te bhūtapubbagatiyā vā taṃsadisattā vā ‘‘sattā’’ti vuccanti. Sabbe ca te sattā cā ti sabbasattā. Uddhaṭatamattā, uggatatamattā, seṭṭhattā ca uttamo, sabbasattānaṃ lokiyalokuttarehi rūpārūpaguṇehi uttamo, sabbasattesu vā uttamo pavaro seṭṭhoti sabbasattuttamo. ‘‘Jina’’nti etassa visesanaṃ.

    ปุนปิ กิํวิสิฎฺฐนฺติ อาห ‘‘ธีร’’นฺติฯ ธี วุจฺจติ ปญฺญา, ตาย อีรติ วตฺตตีติ ธีโร, ตํฯ ตาทิภาเวน อินฺทขีลสิเนรุอาทโย วิย อฎฺฐโลกธมฺมสงฺขาเตน ภุสวาเตน อกมฺปิยเฎฺฐน, จตุเวสารชฺชวเสน สเทวเก โลเก เกนจิ อกมฺปนียเฎฺฐน จ ธีรํ, ธิติสมฺปนฺนนฺติ อโตฺถฯ อิทมฺปิ ตเสฺสว วิเสสนํฯ

    Punapi kiṃvisiṭṭhanti āha ‘‘dhīra’’nti. Dhī vuccati paññā, tāya īrati vattatīti dhīro, taṃ. Tādibhāvena indakhīlasineruādayo viya aṭṭhalokadhammasaṅkhātena bhusavātena akampiyaṭṭhena, catuvesārajjavasena sadevake loke kenaci akampanīyaṭṭhena ca dhīraṃ, dhitisampannanti attho. Idampi tasseva visesanaṃ.

    วนฺทิตฺวาติ กายวจีมโนทฺวาเรหิ อภิวาเทตฺวาติ อโตฺถ, ยถาภุจฺจคุณสํกิตฺตเนน โถเมตฺวาฯ สิรสาติ ภตฺติภาวนตุตฺตมเงฺคน กรณภูเตนฯ อิมินา วิเสสโต กายปณาโม ทสฺสิโต, คุณสํกิตฺตเนน วจีปณาโม, อุภยปณาเมหิ นานนฺตริยกตาย มโนปณาโมปิ ทสฺสิโต จ โหติฯ

    Vanditvāti kāyavacīmanodvārehi abhivādetvāti attho, yathābhuccaguṇasaṃkittanena thometvā. Sirasāti bhattibhāvanatuttamaṅgena karaṇabhūtena. Iminā visesato kāyapaṇāmo dassito, guṇasaṃkittanena vacīpaṇāmo, ubhayapaṇāmehi nānantariyakatāya manopaṇāmopi dassito ca hoti.

    ชินนฺติ เทวปุตฺตกิเลสาภิสงฺขารมจฺจุขนฺธมารสงฺขาเต ปญฺจวิเธ มาเร พลวิธมนสมอุเจฺฉทปหานสหายเวกลฺลนิทาโนปเจฺฉทวิสยาติกฺกมวเสน ปญฺจหิ อากาเรหิ ชิตวาติ ชิโน, ตํฯ

    Jinanti devaputtakilesābhisaṅkhāramaccukhandhamārasaṅkhāte pañcavidhe māre balavidhamanasamaucchedapahānasahāyavekallanidānopacchedavisayātikkamavasena pañcahi ākārehi jitavāti jino, taṃ.

    ‘‘ธมฺม’’นฺติ เอตสฺส นิพฺพจนาทิวเสน อตฺถวินิจฺฉโย เหฎฺฐา ทสฺสิโตวฯ อธมฺมวิทฺธํสนฺติ ธมฺมสงฺขาตสฺส กุสลสฺส ปฎิปกฺขตฺตา อธโมฺม วุจฺจติ อกุสลธโมฺม, ตํ อกุสลสงฺขาตํ อธมฺมํ วิทฺธํเสติ วินาเสติ ปชหติ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุเจฺฉทปฎิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณปฺปหาเนนาติ อธมฺมวิทฺธํโส, สปริยตฺติโก นวโลกุตฺตโร ธโมฺมฯ ปริยตฺติ หิ ปญฺจนฺนํ ปหานานํ มูลการณตฺตา ผลูปจาเรน ตถา วุจฺจติ, ตํ อธมฺมวิทฺธํสํฯ ‘‘ธมฺม’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํฯ

    ‘‘Dhamma’’nti etassa nibbacanādivasena atthavinicchayo heṭṭhā dassitova. Adhammaviddhaṃsanti dhammasaṅkhātassa kusalassa paṭipakkhattā adhammo vuccati akusaladhammo, taṃ akusalasaṅkhātaṃ adhammaṃ viddhaṃseti vināseti pajahati tadaṅgavikkhambhanasamucchedapaṭippassaddhinissaraṇappahānenāti adhammaviddhaṃso, sapariyattiko navalokuttaro dhammo. Pariyatti hi pañcannaṃ pahānānaṃ mūlakāraṇattā phalūpacārena tathā vuccati, taṃ adhammaviddhaṃsaṃ. ‘‘Dhamma’’nti etassa visesanaṃ.

    คณนฺติ อฎฺฐนฺนํ อริยปุคฺคลานํ สมูหํ, สงฺฆนฺติ อโตฺถฯ องฺคณนาสนนฺติ อตฺตโน นิสฺสยํ องฺคนฺติ มเตฺถนฺตีติ องฺคณา, กิเลสา ราคโทสโมหา, เต องฺคเณ นาเสติ ยถาโยคํ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุเจฺฉทปฎิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณปฺปหาเนหิ ปชหตีติ องฺคณนาสโน, ตํฯ ‘‘คณ’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํฯ

    Gaṇanti aṭṭhannaṃ ariyapuggalānaṃ samūhaṃ, saṅghanti attho. Aṅgaṇanāsananti attano nissayaṃ aṅganti matthentīti aṅgaṇā, kilesā rāgadosamohā, te aṅgaṇe nāseti yathāyogaṃ tadaṅgavikkhambhanasamucchedapaṭippassaddhinissaraṇappahānehi pajahatīti aṅgaṇanāsano, taṃ. ‘‘Gaṇa’’nti etassa visesanaṃ.

    . มยา วินยสฺส โย สาโร วินิจฺฉโย รจิโต, ตสฺส วินิจฺฉยสฺสาติ โยชนาฯ นตฺถิ ตสฺส อุตฺตโรติ อนุตฺตโร, สเพฺพสุ วินิจฺฉเยสุ, สเพฺพสํ วา วินิจฺฉยานํ อนุตฺตโร อุตฺตโม วินิจฺฉโยติ สพฺพานุตฺตโร, ตํฯ อุตฺตรํ ปกรณํ อิทานิ กริสฺสามีติ โยชนาฯ

    2. Mayā vinayassa yo sāro vinicchayo racito, tassa vinicchayassāti yojanā. Natthi tassa uttaroti anuttaro, sabbesu vinicchayesu, sabbesaṃ vā vinicchayānaṃ anuttaro uttamo vinicchayoti sabbānuttaro, taṃ. Uttaraṃ pakaraṇaṃ idāni karissāmīti yojanā.

    . ภณโตติ ภณนฺตสฺส ปคุณํ วาจุคฺคตํ กโรนฺตสฺสฯ ปฐโตติ ปฐนฺตสฺส วาจุคฺคตํ สชฺฌายนฺตสฺสฯ ปยุญฺชโตติ ตตฺถ ปกาเรน ยุญฺชนฺตสฺส, ตํ อเญฺญสํ วาเจนฺตสฺส วาฯ สุณโตติ ปเรหิ วุจฺจมานํ สุณนฺตสฺสฯ จินฺตยโตติ ยถาสุตํ อตฺถโต, สทฺทโต จ จิเนฺตนฺตสฺสฯ ‘‘อพุทฺธสฺส พุทฺธิวฑฺฒน’’นฺติ วตฺตเพฺพ คาถาพนฺธวเสน วิภตฺติโลโปฯ อพุทฺธสฺส พาลสฺส วินเย อปฺปกตญฺญุโน ภิกฺขุภิกฺขุนิชนสฺสฯ พุทฺธิวฑฺฒนํ วินยวินิจฺฉเย ปญฺญาวุทฺธินิปฺผาทกํฯ อถ วา พุทฺธสฺส วินิจฺฉเย กตปริจยตฺตา ปญฺญวโต ชนสฺส พุทฺธิวฑฺฒนํ พุทฺธิยา ปญฺญาย ติกฺขวิสทภาวาปาทเนน ภิโยฺยภาวสาธกํฯ ปรมํ อุตฺตมํ อุตฺตรํ นาม ปกรณํ วทโต กเถนฺตสฺส เม มม สนฺติกา นิรตา วินิจฺฉเย, ตีสุ สิกฺขาสุ วา วิเสเสน รตา นิโพธถ ชานาถ สุตมยญาณํ อภินิปฺผาเทถาติ โสตุชนํ สวเน นิโยเชติฯ

    3.Bhaṇatoti bhaṇantassa paguṇaṃ vācuggataṃ karontassa. Paṭhatoti paṭhantassa vācuggataṃ sajjhāyantassa. Payuñjatoti tattha pakārena yuñjantassa, taṃ aññesaṃ vācentassa vā. Suṇatoti parehi vuccamānaṃ suṇantassa. Cintayatoti yathāsutaṃ atthato, saddato ca cintentassa. ‘‘Abuddhassa buddhivaḍḍhana’’nti vattabbe gāthābandhavasena vibhattilopo. Abuddhassa bālassa vinaye appakataññuno bhikkhubhikkhunijanassa. Buddhivaḍḍhanaṃ vinayavinicchaye paññāvuddhinipphādakaṃ. Atha vā buddhassa vinicchaye kataparicayattā paññavato janassa buddhivaḍḍhanaṃ buddhiyā paññāya tikkhavisadabhāvāpādanena bhiyyobhāvasādhakaṃ. Paramaṃ uttamaṃ uttaraṃ nāma pakaraṇaṃ vadato kathentassa me mama santikā niratā vinicchaye, tīsu sikkhāsu vā visesena ratā nibodhatha jānātha sutamayañāṇaṃ abhinipphādethāti sotujanaṃ savane niyojeti.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact