Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā |
ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ
Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa
ปฎฺฐานปกรณ-อนุฎีกา
Paṭṭhānapakaraṇa-anuṭīkā
คนฺถารมฺภวณฺณนา
Ganthārambhavaṇṇanā
กามคุณาทีหีติ กามคุณฌานาภิญฺญาจิตฺติสฺสริยาทีหิฯ ลฬนฺตีติ ลฬิตานุภวนวเสน รมนฺติฯ เตสูติ กามคุณาทีสุฯ วิหรนฺตีติ อิริยาปถปริวตฺตนาทินา วตฺตนฺติฯ ปจฺจตฺถิเกติ พาหิรพฺภนฺตรเภเท อมิเตฺตฯ อิสฺสริยํ ตตฺถ ตตฺถ อาธิปเตยฺยํฯ ฐานํ เสฎฺฐิเสนาปติยุวราชาทิฎฺฐานนฺตรํฯ อาทิ-สเทฺทน ปริวารปริเจฺฉทาทิ สงฺคยฺหติฯ ปุญฺญโยคานุภาวปฺปตฺตายาติ ทานมยาทิปุญฺญานุภาวาธิคตาย สมถวิปสฺสนาภาวนาสงฺขาตโยคานุภาวาธิคตาย จฯ ชุติยาติ สรีรปฺปภาย เจว ญาณปฺปภาย จฯ เอตฺถ จ เทว-สโทฺท ยถา กีฬาวิชิคิสาโวหารชุติคติอโตฺถ, เอวํ สตฺติอภิตฺถวกมนโตฺถปิ โหติ ธาตุสทฺทานํ อเนกตฺถภาวโตติ ‘‘ยทิจฺฉิตนิปฺผาทเน สโกฺกนฺตีติ วา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ
Kāmaguṇādīhīti kāmaguṇajhānābhiññācittissariyādīhi. Laḷantīti laḷitānubhavanavasena ramanti. Tesūti kāmaguṇādīsu. Viharantīti iriyāpathaparivattanādinā vattanti. Paccatthiketi bāhirabbhantarabhede amitte. Issariyaṃ tattha tattha ādhipateyyaṃ. Ṭhānaṃ seṭṭhisenāpatiyuvarājādiṭṭhānantaraṃ. Ādi-saddena parivāraparicchedādi saṅgayhati. Puññayogānubhāvappattāyāti dānamayādipuññānubhāvādhigatāya samathavipassanābhāvanāsaṅkhātayogānubhāvādhigatāya ca. Jutiyāti sarīrappabhāya ceva ñāṇappabhāya ca. Ettha ca deva-saddo yathā kīḷāvijigisāvohārajutigatiattho, evaṃ sattiabhitthavakamanatthopi hoti dhātusaddānaṃ anekatthabhāvatoti ‘‘yadicchitanipphādane sakkontīti vā’’tiādi vuttaṃ.
อิทฺธิวิธาทิตามเตฺตน ภควโต อภิญฺญาทีนํ สาวเกหิ สาธารณตาวจนํ, สภาวโต ปน สเพฺพปิ พุทฺธคุณา อนญฺญสาธารณาเยวาติ ทเสฺสโนฺต ‘‘นิรติสยาย อภิญฺญากีฬาย, อุตฺตเมหิ ทิพฺพพฺรหฺมอริยวิหาเรหี’’ติ อาหฯ จิตฺติสฺสริยสตฺตธนาทีนํ ทานสงฺขาเตน สมฺมาปฎิปตฺติอเวจฺจปฺปสาทสกฺการานํ คหณสงฺขาเตนาติ โยชนาฯ คหณเญฺจตฺถ เตสุ อุปลพฺภมานสมฺมาปฎิปตฺติอเวจฺจปฺปสาทานํ เตหิ อุปนียมานสกฺการสฺส จ อภินนฺทนํ อนุโมทนํ สมฺปฎิจฺฉนญฺจ เวทิตพฺพํฯ ธมฺมสภาวานุรูปานุสาสนีวจเนเนว จ ปน สิกฺขาปทปญฺญตฺติปิ สงฺคหิตาติ ทฎฺฐพฺพา วีติกฺกมธมฺมานุรูปา อนุสาสนีติ กตฺวาฯ ญาณคติ ญาเณน คนฺตพฺพสฺส เญยฺยสฺส อวโพโธฯ สมนฺนาคตตฺตาติ อิทํ ‘‘อภิญฺญากีฬายา’’ติอาทีสุ ปเจฺจกํ โยเชตพฺพํ, ตถา สเทวเกน โลเกนาติ อิทํ ‘‘คมนียโต’’ติอาทีสุฯ เต เทเวติ สมฺมุติเทวาทิเก เทเวฯ เตหิ คุเณหีติ อภิญฺญาทิคุเณหิฯ ปูชนียตโร เทโวติ อิทํ ปูชนียปริยาโย อยํ อติ-สโทฺทติ กตฺวา วุตฺตํฯ อติเรกตโรติ อธิกตโรฯ อุปปตฺติเทวานนฺติ อิทํ ตพฺพหุลตาย วุตฺตํฯ วิสุทฺธิเทวาปิ หิ ตตฺถ วิชฺชเนฺตว, เตสุปิ วา ลพฺภมานํ อุปปตฺติเทวภาวมตฺตเมว คเหตฺวา ตถา วุตฺตํฯ ปฎิปกฺขานํ ทุสฺสีลฺยมุฎฺฐสฺสจฺจวิเกฺขปานํ, สีลวิปตฺติอภิชฺฌาโทมนสฺสอวสิฎฺฐนีวรณานํ วาฯ
Iddhividhāditāmattena bhagavato abhiññādīnaṃ sāvakehi sādhāraṇatāvacanaṃ, sabhāvato pana sabbepi buddhaguṇā anaññasādhāraṇāyevāti dassento ‘‘niratisayāya abhiññākīḷāya, uttamehi dibbabrahmaariyavihārehī’’ti āha. Cittissariyasattadhanādīnaṃ dānasaṅkhātena sammāpaṭipattiaveccappasādasakkārānaṃ gahaṇasaṅkhātenāti yojanā. Gahaṇañcettha tesu upalabbhamānasammāpaṭipattiaveccappasādānaṃ tehi upanīyamānasakkārassa ca abhinandanaṃ anumodanaṃ sampaṭicchanañca veditabbaṃ. Dhammasabhāvānurūpānusāsanīvacaneneva ca pana sikkhāpadapaññattipi saṅgahitāti daṭṭhabbā vītikkamadhammānurūpā anusāsanīti katvā. Ñāṇagati ñāṇena gantabbassa ñeyyassa avabodho. Samannāgatattāti idaṃ ‘‘abhiññākīḷāyā’’tiādīsu paccekaṃ yojetabbaṃ, tathā sadevakena lokenāti idaṃ ‘‘gamanīyato’’tiādīsu. Te deveti sammutidevādike deve. Tehi guṇehīti abhiññādiguṇehi. Pūjanīyataro devoti idaṃ pūjanīyapariyāyo ayaṃ ati-saddoti katvā vuttaṃ. Atirekataroti adhikataro. Upapattidevānanti idaṃ tabbahulatāya vuttaṃ. Visuddhidevāpi hi tattha vijjanteva, tesupi vā labbhamānaṃ upapattidevabhāvamattameva gahetvā tathā vuttaṃ. Paṭipakkhānaṃ dussīlyamuṭṭhassaccavikkhepānaṃ, sīlavipattiabhijjhādomanassaavasiṭṭhanīvaraṇānaṃ vā.
อิสีนํ สตฺตโม, อิสีสุ สตฺตโมติ ทุวิธมฺปิ อตฺถํ โยเชตฺวา ทเสฺสโนฺต ‘‘จตุสจฺจาวโพธคติยา…เป.… วุโตฺต’’ติ อาหฯ สปรสนฺตาเนสุ สีลาทิคุณานํ เอสนเฎฺฐน วา อิสโย, พุทฺธาทโย อริยาฯ อิสิ จ โส สตฺตโม จาติ อิสิสตฺตโมติ เอวเมตฺถ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ ‘‘นามรูปนิโรธ’’นฺติ เอตฺถ ยํ นามรูปํ นิโรเธตพฺพํ, ตํ ทเสฺสโนฺต ‘‘ยโต วิญฺญาณํ ปจฺจุทาวตฺตตี’’ติ อาหฯ วฎฺฎปริยาปนฺนญฺหิ นามรูปํ นิโรเธตพฺพํฯ ตสฺมิญฺหิ นิโรธิเต สพฺพโส นามรูปํ นิโรธิตเมว โหติฯ ยถาห ‘‘โสตาปตฺติมคฺคญาเณน อภิสงฺขารวิญฺญาณสฺส นิโรเธน สตฺต ภเว ฐเปตฺวา อนมตเคฺค สํสาเร เย อุปฺปเชฺชยฺยุํ นามญฺจ รูปญฺจ, เอเตฺถเต นิรุชฺฌนฺติ…เป.… อรหโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายนฺตสฺส จริมวิญฺญาณสฺส นิโรเธน ปญฺญา จ สติ จ นามญฺจ รูปญฺจ, เอเตฺถเต นิรุชฺฌนฺติ วูปสมนฺติ อตฺถํ คจฺฉนฺติ ปฎิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ (จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิเทฺทส ๖)ฯ อติคมฺภีรนยมณฺฑิตเทสนํ สาติสยํ ปจฺจยาการสฺส วิภาวนโตฯ สภาวโต จ ปจฺจยากาโร คมฺภีโรฯ ยถาห ‘‘อธิคโต โข มฺยายํ ธโมฺม คมฺภีโร’’ติอาทิ (ที. นิ. ๒.๖๗; ม. นิ. ๑.๒๘๑; ๒.๓๓๗; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๗, ๘), ‘‘คมฺภีโร จายํ, อานนฺท , ปฎิจฺจสมุปฺปาโท คมฺภีราวภาโส’’ติ (ที. นิ. ๒.๙๕; สํ. นิ. ๒.๖๐) จ อาทิฯ ตสฺส จายํ อนนฺตนยปฎฺฐานเทสนา อติคมฺภีราวฯ
Isīnaṃ sattamo, isīsu sattamoti duvidhampi atthaṃ yojetvā dassento ‘‘catusaccāvabodhagatiyā…pe… vutto’’ti āha. Saparasantānesu sīlādiguṇānaṃ esanaṭṭhena vā isayo, buddhādayo ariyā. Isi ca so sattamo cāti isisattamoti evamettha attho daṭṭhabbo. ‘‘Nāmarūpanirodha’’nti ettha yaṃ nāmarūpaṃ nirodhetabbaṃ, taṃ dassento ‘‘yato viññāṇaṃ paccudāvattatī’’ti āha. Vaṭṭapariyāpannañhi nāmarūpaṃ nirodhetabbaṃ. Tasmiñhi nirodhite sabbaso nāmarūpaṃ nirodhitameva hoti. Yathāha ‘‘sotāpattimaggañāṇena abhisaṅkhāraviññāṇassa nirodhena satta bhave ṭhapetvā anamatagge saṃsāre ye uppajjeyyuṃ nāmañca rūpañca, etthete nirujjhanti…pe… arahato anupādisesāya nibbānadhātuyā parinibbāyantassa carimaviññāṇassa nirodhena paññā ca sati ca nāmañca rūpañca, etthete nirujjhanti vūpasamanti atthaṃ gacchanti paṭippassambhantī’’ti (cūḷani. ajitamāṇavapucchāniddesa 6). Atigambhīranayamaṇḍitadesanaṃ sātisayaṃ paccayākārassa vibhāvanato. Sabhāvato ca paccayākāro gambhīro. Yathāha ‘‘adhigato kho myāyaṃ dhammo gambhīro’’tiādi (dī. ni. 2.67; ma. ni. 1.281; 2.337; saṃ. ni. 1.172; mahāva. 7, 8), ‘‘gambhīro cāyaṃ, ānanda , paṭiccasamuppādo gambhīrāvabhāso’’ti (dī. ni. 2.95; saṃ. ni. 2.60) ca ādi. Tassa cāyaṃ anantanayapaṭṭhānadesanā atigambhīrāva.
คนฺถารมฺภวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Ganthārambhavaṇṇanā niṭṭhitā.