Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๒. คารวสุตฺตํ

    2. Gāravasuttaṃ

    ๑๗๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรญฺชราย ตีเร อชปาลนิโคฺรธมูเล ปฐมาภิสมฺพุโทฺธฯ อถ โข ภควโต รโหคตสฺส ปฎิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตโกฺก อุทปาทิ – ‘‘ทุกฺขํ โข อคารโว วิหรติ อปฺปติโสฺส, กํ นุ ขฺวาหํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา 1 อุปนิสฺสาย วิหเรยฺย’’นฺติ?

    173. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā uruvelāyaṃ viharati najjā nerañjarāya tīre ajapālanigrodhamūle paṭhamābhisambuddho. Atha kho bhagavato rahogatassa paṭisallīnassa evaṃ cetaso parivitakko udapādi – ‘‘dukkhaṃ kho agāravo viharati appatisso, kaṃ nu khvāhaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā sakkatvā garuṃ katvā 2 upanissāya vihareyya’’nti?

    อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อปริปุณฺณสฺส โข สีลกฺขนฺธสฺส ปาริปูริยา อญฺญํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํ ฯ น โข ปนาหํ ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อตฺตนา สีลสมฺปนฺนตรํ อญฺญํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา, ยมหํ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํฯ

    Atha kho bhagavato etadahosi – ‘‘aparipuṇṇassa kho sīlakkhandhassa pāripūriyā aññaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā sakkatvā garuṃ katvā upanissāya vihareyyaṃ . Na kho panāhaṃ passāmi sadevake loke samārake sabrahmake sassamaṇabrāhmaṇiyā pajāya sadevamanussāya attanā sīlasampannataraṃ aññaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā, yamahaṃ sakkatvā garuṃ katvā upanissāya vihareyyaṃ.

    ‘‘อปริปุณฺณสฺส โข สมาธิกฺขนฺธสฺส ปาริปูริยา อญฺญํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํฯ น โข ปนาหํ ปสฺสามิ สเทวเก โลเก…เป.… อตฺตนา สมาธิสมฺปนฺนตรํ อญฺญํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา, ยมหํ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํฯ

    ‘‘Aparipuṇṇassa kho samādhikkhandhassa pāripūriyā aññaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā sakkatvā garuṃ katvā upanissāya vihareyyaṃ. Na kho panāhaṃ passāmi sadevake loke…pe… attanā samādhisampannataraṃ aññaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā, yamahaṃ sakkatvā garuṃ katvā upanissāya vihareyyaṃ.

    ‘‘อปริปุณฺณสฺส ปญฺญากฺขนฺธสฺส ปาริปูริยา อญฺญํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํฯ น โข ปนาหํ ปสฺสามิ สเทวเก…เป.… อตฺตนา ปญฺญาสมฺปนฺนตรํ อญฺญํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา, ยมหํ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํฯ

    ‘‘Aparipuṇṇassa paññākkhandhassa pāripūriyā aññaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā sakkatvā garuṃ katvā upanissāya vihareyyaṃ. Na kho panāhaṃ passāmi sadevake…pe… attanā paññāsampannataraṃ aññaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā, yamahaṃ sakkatvā garuṃ katvā upanissāya vihareyyaṃ.

    ‘‘อปริปุณฺณสฺส โข วิมุตฺติกฺขนฺธสฺส ปาริปูริยา อญฺญํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํฯ น โข ปนาหํ ปสฺสามิ สเทวเก…เป.… อตฺตนา วิมุตฺติสมฺปนฺนตรํ อญฺญํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา, ยมหํ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํฯ

    ‘‘Aparipuṇṇassa kho vimuttikkhandhassa pāripūriyā aññaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā sakkatvā garuṃ katvā upanissāya vihareyyaṃ. Na kho panāhaṃ passāmi sadevake…pe… attanā vimuttisampannataraṃ aññaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā, yamahaṃ sakkatvā garuṃ katvā upanissāya vihareyyaṃ.

    ‘‘อปริปุณฺณสฺส โข วิมุตฺติญาณทสฺสนกฺขนฺธสฺส ปาริปูริยา อญฺญํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํฯ น โข ปนาหํ ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อตฺตนา วิมุตฺติญาณทสฺสนสมฺปนฺนตรํ อญฺญํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา, ยมหํ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยํฯ ยํนูนาหํ ยฺวายํ ธโมฺม มยา อภิสมฺพุโทฺธ ตเมว ธมฺมํ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺย’’นฺติฯ

    ‘‘Aparipuṇṇassa kho vimuttiñāṇadassanakkhandhassa pāripūriyā aññaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā sakkatvā garuṃ katvā upanissāya vihareyyaṃ. Na kho panāhaṃ passāmi sadevake loke samārake sabrahmake sassamaṇabrāhmaṇiyā pajāya sadevamanussāya attanā vimuttiñāṇadassanasampannataraṃ aññaṃ samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā, yamahaṃ sakkatvā garuṃ katvā upanissāya vihareyyaṃ. Yaṃnūnāhaṃ yvāyaṃ dhammo mayā abhisambuddho tameva dhammaṃ sakkatvā garuṃ katvā upanissāya vihareyya’’nti.

    อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ ภควโต เจตสา เจโตปริวิตกฺกมญฺญาย – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย ปสาริตํ วา พาหํ สมิเญฺชยฺย เอวเมว – พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต ภควโต ปุรโต ปาตุรโหสิฯ อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอวเมตํ , ภควา, เอวเมตํ, สุคต! เยปิ เต, ภเนฺต, อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหโนฺต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เตปิ ภควโนฺต ธมฺมเญฺญว สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหริํสุ; เยปิ เต, ภเนฺต, ภวิสฺสนฺติ อนาคตมทฺธานํ อรหโนฺต สมฺมาสมฺพุทฺธา เตปิ ภควโนฺต ธมฺมเญฺญว สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหริสฺสนฺติฯ ภควาปิ, ภเนฺต, เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ ธมฺมเญฺญว สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรตู’’ติฯ อิทมโวจ พฺรหฺมา สหมฺปติ, อิทํ วตฺวา อถาปรํ เอตทโวจ –

    Atha kho brahmā sahampati bhagavato cetasā cetoparivitakkamaññāya – seyyathāpi nāma balavā puriso samiñjitaṃ vā bāhaṃ pasāreyya pasāritaṃ vā bāhaṃ samiñjeyya evameva – brahmaloke antarahito bhagavato purato pāturahosi. Atha kho brahmā sahampati ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā yena bhagavā tenañjaliṃ paṇāmetvā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘evametaṃ , bhagavā, evametaṃ, sugata! Yepi te, bhante, ahesuṃ atītamaddhānaṃ arahanto sammāsambuddhā, tepi bhagavanto dhammaññeva sakkatvā garuṃ katvā upanissāya vihariṃsu; yepi te, bhante, bhavissanti anāgatamaddhānaṃ arahanto sammāsambuddhā tepi bhagavanto dhammaññeva sakkatvā garuṃ katvā upanissāya viharissanti. Bhagavāpi, bhante, etarahi arahaṃ sammāsambuddho dhammaññeva sakkatvā garuṃ katvā upanissāya viharatū’’ti. Idamavoca brahmā sahampati, idaṃ vatvā athāparaṃ etadavoca –

    ‘‘เย จ อตีตา สมฺพุทฺธา, เย จ พุทฺธา อนาคตา;

    ‘‘Ye ca atītā sambuddhā, ye ca buddhā anāgatā;

    โย เจตรหิ สมฺพุโทฺธ, พหูนํ 3 โสกนาสโนฯ

    Yo cetarahi sambuddho, bahūnaṃ 4 sokanāsano.

    ‘‘สเพฺพ สทฺธมฺมครุโน, วิหํสุ 5 วิหรนฺติ จ;

    ‘‘Sabbe saddhammagaruno, vihaṃsu 6 viharanti ca;

    ตถาปิ วิหริสฺสนฺติ, เอสา พุทฺธาน ธมฺมตาฯ

    Tathāpi viharissanti, esā buddhāna dhammatā.

    ‘‘ตสฺมา หิ อตฺตกาเมน 7, มหตฺตมภิกงฺขตา;

    ‘‘Tasmā hi attakāmena 8, mahattamabhikaṅkhatā;

    สทฺธโมฺม ครุกาตโพฺพ, สรํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติฯ

    Saddhammo garukātabbo, saraṃ buddhāna sāsana’’nti.







    Footnotes:
    1. ครุกตฺวา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    2. garukatvā (sī. syā. kaṃ. pī.)
    3. พหุนฺนํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    4. bahunnaṃ (sī. syā. kaṃ. pī.)
    5. วิหริํสุ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    6. vihariṃsu (sī. syā. kaṃ. pī.)
    7. อตฺถกาเมน (สี. ปี. ก.)
    8. atthakāmena (sī. pī. ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. คารวสุตฺตวณฺณนา • 2. Gāravasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๒. คารวสุตฺตวณฺณนา • 2. Gāravasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact