Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๑๐. คเวสีสุตฺตวณฺณนา
10. Gavesīsuttavaṇṇanā
๑๘๐. ทสเม สิตํ ปาตฺวากาสีติ มหามเคฺคเนว คจฺฉโนฺต ตํ สาลวนํ โอโลเกตฺวา ‘‘อตฺถิ นุ โข อิมสฺมิํ ฐาเน กิญฺจิ สุการณํ อุปฺปนฺนปุพฺพ’’นฺติ อทฺทส กสฺสปพุทฺธกาเล คเวสินา อุปาสเกน กตํ สุการณํฯ อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิทํ สุการณํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อปากฎํ ปฎิจฺฉนฺนํ, หนฺท นํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปากฎํ กโรมี’’ติ มคฺคา โอกฺกมฺม อญฺญตรสฺมิํ ปเทเส ฐิโตว สิตปาตุกมฺมํ อกาสิ, อคฺคคฺคทเนฺต ทเสฺสตฺวา มนฺทหสิตํ หสิ ฯ ยถา หิ โลกิยมนุสฺสา อุทรํ ปหรนฺตา ‘‘กหํ กห’’นฺติ หสนฺติ, น เอวํ พุทฺธาฯ พุทฺธานํ ปน หสิตํ หฎฺฐปหฎฺฐาการมตฺตเมว โหติฯ
180. Dasame sitaṃ pātvākāsīti mahāmaggeneva gacchanto taṃ sālavanaṃ oloketvā ‘‘atthi nu kho imasmiṃ ṭhāne kiñci sukāraṇaṃ uppannapubba’’nti addasa kassapabuddhakāle gavesinā upāsakena kataṃ sukāraṇaṃ. Athassa etadahosi – ‘‘idaṃ sukāraṇaṃ bhikkhusaṅghassa apākaṭaṃ paṭicchannaṃ, handa naṃ bhikkhusaṅghassa pākaṭaṃ karomī’’ti maggā okkamma aññatarasmiṃ padese ṭhitova sitapātukammaṃ akāsi, aggaggadante dassetvā mandahasitaṃ hasi . Yathā hi lokiyamanussā udaraṃ paharantā ‘‘kahaṃ kaha’’nti hasanti, na evaṃ buddhā. Buddhānaṃ pana hasitaṃ haṭṭhapahaṭṭhākāramattameva hoti.
หสิตญฺจ นาเมตํ เตรสหิ โสมนสฺสสหคตจิเตฺตหิ โหติฯ ตตฺถ โลกิยมหาชโน อกุสลโต จตูหิ, กามาวจรกุสลโต จตูหีติ อฎฺฐหิ จิเตฺตหิ หสติ, เสขา อกุสลโต ทิฎฺฐิคตสมฺปยุตฺตานิ เทฺว อปเนตฺวา ฉหิ จิเตฺตหิ หสนฺติ, ขีณาสวา จตูหิ สเหตุกกิริยจิเตฺตหิ, เอเกน อเหตุกกิริยจิเตฺตนาติ ปญฺจหิ จิเตฺตหิ หสนฺติฯ เตสุปิ พลวารมฺมเณ อาปาถมาคเต ทฺวีหิ ญาณสมฺปยุตฺตจิเตฺตหิ หสนฺติ, ทุพฺพลารมฺมเณ ทุเหตุกจิตฺตทฺวเยน จ อเหตุกจิเตฺตน จาติ ตีหิ จิเตฺตหิ หสนฺติฯ อิมสฺมิํ ปน ฐาเน กิริยาเหตุกมโนวิญฺญาณธาตุโสมนสฺสสหคตจิตฺตํ ภควโต ปหฎฺฐาการมตฺตหสิตํ อุปฺปาเทติฯ
Hasitañca nāmetaṃ terasahi somanassasahagatacittehi hoti. Tattha lokiyamahājano akusalato catūhi, kāmāvacarakusalato catūhīti aṭṭhahi cittehi hasati, sekhā akusalato diṭṭhigatasampayuttāni dve apanetvā chahi cittehi hasanti, khīṇāsavā catūhi sahetukakiriyacittehi, ekena ahetukakiriyacittenāti pañcahi cittehi hasanti. Tesupi balavārammaṇe āpāthamāgate dvīhi ñāṇasampayuttacittehi hasanti, dubbalārammaṇe duhetukacittadvayena ca ahetukacittena cāti tīhi cittehi hasanti. Imasmiṃ pana ṭhāne kiriyāhetukamanoviññāṇadhātusomanassasahagatacittaṃ bhagavato pahaṭṭhākāramattahasitaṃ uppādeti.
ตํ ปเนตํ หสิตํ เอวํ อปฺปมตฺตกมฺปิ เถรสฺส ปากฎํ อโหสิฯ กถํ? ตถารูเป หิ กาเล ตถาคตสฺส จตูหิ ทาฐาหิ จาตุทฺทีปิกมหาเมฆมุขโต สโมสริตา วิชฺชุลตา วิย วิโรจมานา มหาตาลกฺขนฺธปฺปมาณา รสฺมิวฎฺฎิโย อุฎฺฐหิตฺวา ติกฺขตฺตุํ สิรวรํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ทาฐเคฺคสุเยว อนฺตรธายนฺติฯ เตน สญฺญาเณน อายสฺมา อานโนฺท ภควโต ปจฺฉโต คจฺฉมาโนปิ สิตปาตุภาวํ ชานาติฯ
Taṃ panetaṃ hasitaṃ evaṃ appamattakampi therassa pākaṭaṃ ahosi. Kathaṃ? Tathārūpe hi kāle tathāgatassa catūhi dāṭhāhi cātuddīpikamahāmeghamukhato samosaritā vijjulatā viya virocamānā mahātālakkhandhappamāṇā rasmivaṭṭiyo uṭṭhahitvā tikkhattuṃ siravaraṃ padakkhiṇaṃ katvā dāṭhaggesuyeva antaradhāyanti. Tena saññāṇena āyasmā ānando bhagavato pacchato gacchamānopi sitapātubhāvaṃ jānāti.
อิทฺธนฺติ สมิทฺธํฯ ผีตนฺติ อติสมิทฺธํ สพฺพปาลิผุลฺลํ วิยฯ อากิณฺณมนุสฺสนฺติ ชนสมากุลํฯ สีเลสุ อปริปูรการีติ ปญฺจสุ สีเลสุ อสมตฺตการีฯ ปฎิเทสิตานีติ อุปาสกภาวํ ปฎิเทสิตานิฯ สมาทปิตานีติ สรเณสุ ปติฎฺฐาปิตานีติ อโตฺถฯ อิเจฺจตํ สมสมนฺติ อิติ เอตํ การณํ สพฺพาการโต สมภาเวเนว สมํ, น เอกเทเสนฯ นตฺถิ กิญฺจิ อติเรกนฺติ มยฺหํ อิเมหิ กิญฺจิ อติเรกํ นตฺถิฯ หนฺทาติ ววสฺสคฺคเตฺถ นิปาโตฯ อติเรกายาติ วิเสสการณตฺถาย ปฎิปชฺชามีติ อโตฺถฯ สีเลสุ ปริปูรการิํ ธาเรถาติ ปญฺจสุ สีเลสุ สมตฺตการีติ ชานาถฯ เอตฺตาวตา เตน ปญฺจ สีลานิ สมาทินฺนานิ นาม โหนฺติฯ กิมงฺค ปน น มยนฺติ มยํ ปน เกเนว การเณน ปริปูรการิโน น ภวิสฺสามฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ
Iddhanti samiddhaṃ. Phītanti atisamiddhaṃ sabbapāliphullaṃ viya. Ākiṇṇamanussanti janasamākulaṃ. Sīlesu aparipūrakārīti pañcasu sīlesu asamattakārī. Paṭidesitānīti upāsakabhāvaṃ paṭidesitāni. Samādapitānīti saraṇesu patiṭṭhāpitānīti attho. Iccetaṃ samasamanti iti etaṃ kāraṇaṃ sabbākārato samabhāveneva samaṃ, na ekadesena. Natthi kiñci atirekanti mayhaṃ imehi kiñci atirekaṃ natthi. Handāti vavassaggatthe nipāto. Atirekāyāti visesakāraṇatthāya paṭipajjāmīti attho. Sīlesu paripūrakāriṃ dhārethāti pañcasu sīlesu samattakārīti jānātha. Ettāvatā tena pañca sīlāni samādinnāni nāma honti. Kimaṅga pana na mayanti mayaṃ pana keneva kāraṇena paripūrakārino na bhavissāma. Sesamettha uttānamevāti.
อุปาสกวโคฺค ตติโยฯ
Upāsakavaggo tatiyo.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๑๐. คเวสีสุตฺตํ • 10. Gavesīsuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑๐. คเวสีสุตฺตวณฺณนา • 10. Gavesīsuttavaṇṇanā