Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๔. คยาสีสสุตฺตํ

    4. Gayāsīsasuttaṃ

    ๖๔. เอกํ สมยํ ภควา คยายํ วิหรติ คยาสีเสฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ…เป.… ‘‘ปุพฺพาหํ, ภิกฺขเว, สโมฺพธา อนภิสมฺพุโทฺธ โพธิสโตฺตว สมาโน โอภาสเญฺญว โข สญฺชานามิ, โน จ รูปานิ ปสฺสามิ’’ฯ

    64. Ekaṃ samayaṃ bhagavā gayāyaṃ viharati gayāsīse. Tatra kho bhagavā bhikkhū āmantesi…pe… ‘‘pubbāhaṃ, bhikkhave, sambodhā anabhisambuddho bodhisattova samāno obhāsaññeva kho sañjānāmi, no ca rūpāni passāmi’’.

    ‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ โอภาสเญฺจว สญฺชาเนยฺยํ รูปานิ จ ปเสฺสยฺยํ; เอวํ เม อิทํ ญาณทสฺสนํ ปริสุทฺธตรํ อสฺสา’’’ติฯ

    ‘‘Tassa mayhaṃ, bhikkhave, etadahosi – ‘sace kho ahaṃ obhāsañceva sañjāneyyaṃ rūpāni ca passeyyaṃ; evaṃ me idaṃ ñāṇadassanaṃ parisuddhataraṃ assā’’’ti.

    ‘‘โส โข อหํ, ภิกฺขเว, อปเรน สมเยน อปฺปมโตฺต อาตาปี ปหิตโตฺต วิหรโนฺต โอภาสเญฺจว สญฺชานามิ, รูปานิ จ ปสฺสามิ; โน จ โข ตาหิ เทวตาหิ สทฺธิํ สนฺติฎฺฐามิ สลฺลปามิ สากจฺฉํ สมาปชฺชามิฯ

    ‘‘So kho ahaṃ, bhikkhave, aparena samayena appamatto ātāpī pahitatto viharanto obhāsañceva sañjānāmi, rūpāni ca passāmi; no ca kho tāhi devatāhi saddhiṃ santiṭṭhāmi sallapāmi sākacchaṃ samāpajjāmi.

    ‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ โอภาสเญฺจว สญฺชาเนยฺยํ, รูปานิ จ ปเสฺสยฺยํ, ตาหิ จ เทวตาหิ สทฺธิํ สนฺติเฎฺฐยฺยํ สลฺลเปยฺยํ สากจฺฉํ สมาปเชฺชยฺยํ; เอวํ เม อิทํ ญาณทสฺสนํ ปริสุทฺธตรํ อสฺสา’’’ติฯ

    ‘‘Tassa mayhaṃ, bhikkhave, etadahosi – ‘sace kho ahaṃ obhāsañceva sañjāneyyaṃ, rūpāni ca passeyyaṃ, tāhi ca devatāhi saddhiṃ santiṭṭheyyaṃ sallapeyyaṃ sākacchaṃ samāpajjeyyaṃ; evaṃ me idaṃ ñāṇadassanaṃ parisuddhataraṃ assā’’’ti.

    ‘‘โส โข อหํ, ภิกฺขเว, อปเรน สมเยน อปฺปมโตฺต อาตาปี ปหิตโตฺต วิหรโนฺต โอภาสเญฺจว สญฺชานามิ, รูปานิ จ ปสฺสามิ, ตาหิ จ เทวตาหิ สทฺธิํ สนฺติฎฺฐามิ สลฺลปามิ สากจฺฉํ สมาปชฺชามิ; โน จ โข ตา เทวตา ชานามิ – อิมา เทวตา อมุกมฺหา วา อมุกมฺหา วา เทวนิกายาติฯ

    ‘‘So kho ahaṃ, bhikkhave, aparena samayena appamatto ātāpī pahitatto viharanto obhāsañceva sañjānāmi, rūpāni ca passāmi, tāhi ca devatāhi saddhiṃ santiṭṭhāmi sallapāmi sākacchaṃ samāpajjāmi; no ca kho tā devatā jānāmi – imā devatā amukamhā vā amukamhā vā devanikāyāti.

    ‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ โอภาสเญฺจว สญฺชาเนยฺยํ, รูปานิ จ ปเสฺสยฺยํ, ตาหิ จ เทวตาหิ สทฺธิํ สนฺติเฎฺฐยฺยํ สลฺลเปยฺยํ สากจฺฉํ สมาปเชฺชยฺยํ, ตา จ เทวตา ชาเนยฺยํ – อิมา เทวตา อมุกมฺหา วา อมุกมฺหา วา เทวนิกายา’ติ; เอวํ เม อิทํ ญาณทสฺสนํ ปริสุทฺธตรํ อสฺสา’’’ติฯ

    ‘‘Tassa mayhaṃ, bhikkhave, etadahosi – ‘sace kho ahaṃ obhāsañceva sañjāneyyaṃ, rūpāni ca passeyyaṃ, tāhi ca devatāhi saddhiṃ santiṭṭheyyaṃ sallapeyyaṃ sākacchaṃ samāpajjeyyaṃ, tā ca devatā jāneyyaṃ – imā devatā amukamhā vā amukamhā vā devanikāyā’ti; evaṃ me idaṃ ñāṇadassanaṃ parisuddhataraṃ assā’’’ti.

    ‘‘โส โข อหํ, ภิกฺขเว, อปเรน สมเยน อปฺปมโตฺต อาตาปี ปหิตโตฺต วิหรโนฺต โอภาสเญฺจว สญฺชานามิ, รูปานิ จ ปสฺสามิ, ตาหิ จ เทวตาหิ สทฺธิํ สนฺติฎฺฐามิ สลฺลปามิ สากจฺฉํ สมาปชฺชามิ, ตา จ เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา อมุกมฺหา วา อมุกมฺหา วา เทวนิกายา’ติ; โน จ โข ตา เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา อิมสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา’ติ…เป.… ตา จ เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา อิมสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา’ติ; โน จ โข ตา เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา อิมสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน เอวมาหารา เอวํสุขทุกฺขปฺปฎิสํเวทินิโย’ติ …เป.… ตา จ เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา อิมสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน เอวมาหารา เอวํสุขทุกฺขปฺปฎิสํเวทินิโย’ติ; โน จ โข ตา เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา เอวํทีฆายุกา เอวํจิรฎฺฐิติกา’ติ…เป.… ตา จ เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา เอวํทีฆายุกา เอวํจิรฎฺฐิติกา’ติ; โน จ โข ตา เทวตา ชานามิ ยทิ วา เม อิมาหิ เทวตาหิ สทฺธิํ สนฺนิวุตฺถปุพฺพํ ยทิ วา น สนฺนิวุตฺถปุพฺพนฺติฯ

    ‘‘So kho ahaṃ, bhikkhave, aparena samayena appamatto ātāpī pahitatto viharanto obhāsañceva sañjānāmi, rūpāni ca passāmi, tāhi ca devatāhi saddhiṃ santiṭṭhāmi sallapāmi sākacchaṃ samāpajjāmi, tā ca devatā jānāmi – ‘imā devatā amukamhā vā amukamhā vā devanikāyā’ti; no ca kho tā devatā jānāmi – ‘imā devatā imassa kammassa vipākena ito cutā tattha upapannā’ti…pe… tā ca devatā jānāmi – ‘imā devatā imassa kammassa vipākena ito cutā tattha upapannā’ti; no ca kho tā devatā jānāmi – ‘imā devatā imassa kammassa vipākena evamāhārā evaṃsukhadukkhappaṭisaṃvediniyo’ti …pe… tā ca devatā jānāmi – ‘imā devatā imassa kammassa vipākena evamāhārā evaṃsukhadukkhappaṭisaṃvediniyo’ti; no ca kho tā devatā jānāmi – ‘imā devatā evaṃdīghāyukā evaṃciraṭṭhitikā’ti…pe… tā ca devatā jānāmi – ‘imā devatā evaṃdīghāyukā evaṃciraṭṭhitikā’ti; no ca kho tā devatā jānāmi yadi vā me imāhi devatāhi saddhiṃ sannivutthapubbaṃ yadi vā na sannivutthapubbanti.

    ‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ โอภาสเญฺจว สญฺชาเนยฺยํ, รูปานิ จ ปเสฺสยฺยํ, ตาหิ จ เทวตาหิ สทฺธิํ สนฺติเฎฺฐยฺยํ สลฺลเปยฺยํ สากจฺฉํ สมาปเชฺชยฺยํ , ตา จ เทวตา ชาเนยฺยํ – ‘อิมา เทวตา อมุกมฺหา วา อมุกมฺหา วา เทวนิกายา’ติ, ตา จ เทวตา ชาเนยฺยํ – ‘อิมา เทวตา อิมสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา’ติ, ตา จ เทวตา ชาเนยฺยํ – ‘อิมา เทวตา เอวมาหารา เอวํสุขทุกฺขปฺปฎิสํเวทินิโย’ติ, ตา จ เทวตา ชาเนยฺยํ – ‘อิมา เทวตา เอวํทีฆายุกา เอวํจิรฎฺฐิติกา’ติ, ตา จ เทวตา ชาเนยฺยํ ยทิ วา เม อิมาหิ เทวตาหิ สทฺธิํ สนฺนิวุตฺถปุพฺพํ ยทิ วา น สนฺนิวุตฺถปุพฺพนฺติ; เอวํ เม อิทํ ญาณทสฺสนํ ปริสุทฺธตรํ อสฺสา’’’ติฯ

    ‘‘Tassa mayhaṃ, bhikkhave, etadahosi – ‘sace kho ahaṃ obhāsañceva sañjāneyyaṃ, rūpāni ca passeyyaṃ, tāhi ca devatāhi saddhiṃ santiṭṭheyyaṃ sallapeyyaṃ sākacchaṃ samāpajjeyyaṃ , tā ca devatā jāneyyaṃ – ‘imā devatā amukamhā vā amukamhā vā devanikāyā’ti, tā ca devatā jāneyyaṃ – ‘imā devatā imassa kammassa vipākena ito cutā tattha upapannā’ti, tā ca devatā jāneyyaṃ – ‘imā devatā evamāhārā evaṃsukhadukkhappaṭisaṃvediniyo’ti, tā ca devatā jāneyyaṃ – ‘imā devatā evaṃdīghāyukā evaṃciraṭṭhitikā’ti, tā ca devatā jāneyyaṃ yadi vā me imāhi devatāhi saddhiṃ sannivutthapubbaṃ yadi vā na sannivutthapubbanti; evaṃ me idaṃ ñāṇadassanaṃ parisuddhataraṃ assā’’’ti.

    ‘‘โส โข อหํ, ภิกฺขเว, อปเรน สมเยน อปฺปมโตฺต อาตาปี ปหิตโตฺต วิหรโนฺต โอภาสเญฺจว สญฺชานามิ, รูปานิ จ ปสฺสามิ, ตาหิ จ เทวตาหิ สทฺธิํ สนฺติฎฺฐามิ สลฺลปามิ สากจฺฉํ สมาปชฺชามิ, ตา จ เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา อมุกมฺหา วา อมุกมฺหา วา เทวนิกายา’ติ, ตา จ เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา อิมสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา’ติ, ตา จ เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา เอวมาหารา เอวํสุขทุกฺขปฺปฎิสํเวทินิโย’ติ , ตา จ เทวตา ชานามิ – ‘อิมา เทวตา เอวํทีฆายุกา เอวํจิรฎฺฐิติกา’ติ, ตา จ เทวตา ชานามิ ยทิ วา เม เทวตาหิ สทฺธิํ สนฺนิวุตฺถปุพฺพํ ยทิ วา น สนฺนิวุตฺถปุพฺพนฺติฯ

    ‘‘So kho ahaṃ, bhikkhave, aparena samayena appamatto ātāpī pahitatto viharanto obhāsañceva sañjānāmi, rūpāni ca passāmi, tāhi ca devatāhi saddhiṃ santiṭṭhāmi sallapāmi sākacchaṃ samāpajjāmi, tā ca devatā jānāmi – ‘imā devatā amukamhā vā amukamhā vā devanikāyā’ti, tā ca devatā jānāmi – ‘imā devatā imassa kammassa vipākena ito cutā tattha upapannā’ti, tā ca devatā jānāmi – ‘imā devatā evamāhārā evaṃsukhadukkhappaṭisaṃvediniyo’ti , tā ca devatā jānāmi – ‘imā devatā evaṃdīghāyukā evaṃciraṭṭhitikā’ti, tā ca devatā jānāmi yadi vā me devatāhi saddhiṃ sannivutthapubbaṃ yadi vā na sannivutthapubbanti.

    ‘‘ยาวกีวญฺจ เม, ภิกฺขเว, เอวํ อฎฺฐปริวฎฺฎํ อธิเทวญาณทสฺสนํ น สุวิสุทฺธํ อโหสิ, เนว ตาวาหํ, ภิกฺขเว, ‘สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนุตฺตรํ สมฺมาสโมฺพธิํ อภิสมฺพุโทฺธ’ติ 1 ปจฺจญฺญาสิํฯ ยโต จ โข เม , ภิกฺขเว, เอวํ อฎฺฐปริวฎฺฎํ อธิเทวญาณทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ อโหสิ, อถาหํ, ภิกฺขเว, ‘สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนุตฺตรํ สมฺมาสโมฺพธิํ อภิสมฺพุโทฺธ’ติ ปจฺจญฺญาสิํ; ญาณญฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ; อกุปฺปา เม เจโตวิมุตฺติ 2; อยมนฺติมา ชาติ นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติฯ จตุตฺถํฯ

    ‘‘Yāvakīvañca me, bhikkhave, evaṃ aṭṭhaparivaṭṭaṃ adhidevañāṇadassanaṃ na suvisuddhaṃ ahosi, neva tāvāhaṃ, bhikkhave, ‘sadevake loke samārake sabrahmake sassamaṇabrāhmaṇiyā pajāya sadevamanussāya anuttaraṃ sammāsambodhiṃ abhisambuddho’ti 3 paccaññāsiṃ. Yato ca kho me , bhikkhave, evaṃ aṭṭhaparivaṭṭaṃ adhidevañāṇadassanaṃ suvisuddhaṃ ahosi, athāhaṃ, bhikkhave, ‘sadevake loke samārake sabrahmake sassamaṇabrāhmaṇiyā pajāya sadevamanussāya anuttaraṃ sammāsambodhiṃ abhisambuddho’ti paccaññāsiṃ; ñāṇañca pana me dassanaṃ udapādi; akuppā me cetovimutti 4; ayamantimā jāti natthi dāni punabbhavo’’ti. Catutthaṃ.







    Footnotes:
    1. อภิสมฺพุโทฺธ (สี. สฺยา. ปี.)
    2. วิมุตฺติ (ก. สี. ก.)
    3. abhisambuddho (sī. syā. pī.)
    4. vimutti (ka. sī. ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๔. คยาสีสสุตฺตวณฺณนา • 4. Gayāsīsasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑-๕. อิจฺฉาสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-5. Icchāsuttādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact