Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๓๕๕] ๕. ฆฎชาตกวณฺณนา

    [355] 5. Ghaṭajātakavaṇṇanā

    อเญฺญ โสจนฺติ โรทนฺตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต โกสลรโญฺญ เอกํ อมจฺจํ อารพฺภ กเถสิฯ วตฺถุ เหฎฺฐา กถิตสทิสเมวฯ อิธ ปน ราชา อตฺตโน อุปการสฺสฺส อมจฺจสฺส มหนฺตํ ยสํ ทตฺวา ปริเภทกานํ กถํ คเหตฺวา ตํ พนฺธาเปตฺวา พนฺธนาคาเร ปเวเสสิฯ โส ตตฺถ นิสิโนฺนว โสตาปตฺติมคฺคํ นิพฺพเตฺตสิฯ ราชา ตสฺส คุณํ สลฺลเกฺขตฺวา โมจาเปสิฯ โส คนฺธมาลํ อาทาย สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา นิสีทิฯ อถ นํ สตฺถา ‘‘อนโตฺถ กิร เต อุปฺปโนฺน’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, ภเนฺต, อนเตฺถน ปน เม อโตฺถ อาคโต, โสตาปตฺติมโคฺค นิพฺพโตฺต’’ติ วุเตฺต ‘‘น โข, อุปาสก, ตฺวเญฺญว อนเตฺถน อตฺถํ อาหริ, โปราณกปณฺฑิตาปิ อาหริํสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริฯ

    Aññesocanti rodantīti idaṃ satthā jetavane viharanto kosalarañño ekaṃ amaccaṃ ārabbha kathesi. Vatthu heṭṭhā kathitasadisameva. Idha pana rājā attano upakārasssa amaccassa mahantaṃ yasaṃ datvā paribhedakānaṃ kathaṃ gahetvā taṃ bandhāpetvā bandhanāgāre pavesesi. So tattha nisinnova sotāpattimaggaṃ nibbattesi. Rājā tassa guṇaṃ sallakkhetvā mocāpesi. So gandhamālaṃ ādāya satthu santikaṃ gantvā vanditvā nisīdi. Atha naṃ satthā ‘‘anattho kira te uppanno’’ti pucchitvā ‘‘āma, bhante, anatthena pana me attho āgato, sotāpattimaggo nibbatto’’ti vutte ‘‘na kho, upāsaka, tvaññeva anatthena atthaṃ āhari, porāṇakapaṇḍitāpi āhariṃsū’’ti vatvā tena yācito atītaṃ āhari.

    อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ‘‘ฆฎกุมาโร’’ติสฺส นามํ กริํสุฯ โส อปเรน สมเยน ตกฺกสิลายํ อุคฺคหิตสิโปฺป ธเมฺมน รชฺชํ กาเรสิฯ ตสฺส อเนฺตปุเร เอโก อมโจฺจ ทุพฺภิฯ โส ตํ ปจฺจกฺขโต ญตฺวา รฎฺฐา ปพฺพาเชสิฯ ตทา สาวตฺถิยํ ธงฺกราชา นาม รชฺชํ กาเรสิฯ โส ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ อุปฎฺฐหิตฺวา เหฎฺฐา วุตฺตนเยน อตฺตโน วจนํ คาหาเปตฺวา พาราณสิรชฺชํ คณฺหาเปสิฯ โสปิ รชฺชํ คเหตฺวา โพธิสตฺตํ สงฺขลิกาหิ พนฺธาเปตฺวา พนฺธนาคารํ ปเวเสสิฯ โพธิสโตฺต ฌานํ นิพฺพเตฺตตฺวา อากาเส ปลฺลเงฺกน นิสีทิ, ธงฺกสฺส สรีเร ฑาโห อุปฺปชฺชิฯ โส คนฺตฺวา โพธิสตฺตสฺส สุวณฺณาทาสผุลฺลปทุมสสฺสิริกํ มุขํ ทิสฺวา โพธิสตฺตํ ปุจฺฉโนฺต ปฐมํ คาถมาห –

    Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto tassa aggamahesiyā kucchimhi nibbatti, ‘‘ghaṭakumāro’’tissa nāmaṃ kariṃsu. So aparena samayena takkasilāyaṃ uggahitasippo dhammena rajjaṃ kāresi. Tassa antepure eko amacco dubbhi. So taṃ paccakkhato ñatvā raṭṭhā pabbājesi. Tadā sāvatthiyaṃ dhaṅkarājā nāma rajjaṃ kāresi. So tassa santikaṃ gantvā taṃ upaṭṭhahitvā heṭṭhā vuttanayena attano vacanaṃ gāhāpetvā bārāṇasirajjaṃ gaṇhāpesi. Sopi rajjaṃ gahetvā bodhisattaṃ saṅkhalikāhi bandhāpetvā bandhanāgāraṃ pavesesi. Bodhisatto jhānaṃ nibbattetvā ākāse pallaṅkena nisīdi, dhaṅkassa sarīre ḍāho uppajji. So gantvā bodhisattassa suvaṇṇādāsaphullapadumasassirikaṃ mukhaṃ disvā bodhisattaṃ pucchanto paṭhamaṃ gāthamāha –

    ๒๙.

    29.

    ‘‘อเญฺญ โสจนฺติ โรทนฺติ, อเญฺญ อสฺสุมุขา ชนา;

    ‘‘Aññe socanti rodanti, aññe assumukhā janā;

    ปสนฺนมุขวโณฺณสิ, กสฺมา ฆฎ น โสจสี’’ติฯ

    Pasannamukhavaṇṇosi, kasmā ghaṭa na socasī’’ti.

    ตตฺถ อเญฺญติ ตํ ฐเปตฺวา เสสมนุสฺสาฯ

    Tattha aññeti taṃ ṭhapetvā sesamanussā.

    อถสฺส โพธิสโตฺต อโสจนการณํ กเถโนฺต จตโสฺส คาถา อภาสิ –

    Athassa bodhisatto asocanakāraṇaṃ kathento catasso gāthā abhāsi –

    ๓๐.

    30.

    ‘‘นาพฺภตีตหโร โสโก, นานาคตสุขาวโห;

    ‘‘Nābbhatītaharo soko, nānāgatasukhāvaho;

    ตสฺมา ธงฺก น โสจามิ, นตฺถิ โสเก ทุตียตาฯ

    Tasmā dhaṅka na socāmi, natthi soke dutīyatā.

    ๓๑.

    31.

    ‘‘โสจํ ปณฺฑุ กิโส โหติ, ภตฺตญฺจสฺส น รุจฺจติ;

    ‘‘Socaṃ paṇḍu kiso hoti, bhattañcassa na ruccati;

    อมิตฺตา สุมนา โหนฺติ, สลฺลวิทฺธสฺส รุปฺปโตฯ

    Amittā sumanā honti, sallaviddhassa ruppato.

    ๓๒.

    32.

    ‘‘คาเม วา ยทิ วารเญฺญ, นิเนฺน วา ยทิ วา ถเล;

    ‘‘Gāme vā yadi vāraññe, ninne vā yadi vā thale;

    ฐิตํ มํ นาคมิสฺสติ, เอวํ ทิฎฺฐปโท อหํฯ

    Ṭhitaṃ maṃ nāgamissati, evaṃ diṭṭhapado ahaṃ.

    ๓๓.

    33.

    ‘‘ยสฺสตฺตา นาลเมโกว, สพฺพกามรสาหโร;

    ‘‘Yassattā nālamekova, sabbakāmarasāharo;

    สพฺพาปิ ปถวี ตสฺส, น สุขํ อาวหิสฺสตี’’ติฯ

    Sabbāpi pathavī tassa, na sukhaṃ āvahissatī’’ti.

    ตตฺถ นาพฺภตีตหโรติ นาพฺภตีตาหาโร, อยเมว วา ปาโฐฯ โสโก นาม อพฺภตีตํ อติกฺกนฺตํ นิรุทฺธํ อตฺถงฺคตํ ปุน นาหรติฯ ทุตียตาติ สหายตาฯ อตีตาหรเณน วา อนาคตาหรเณน วา โสโก นาม กสฺสจิ สหาโย น โหติ, เตนาปิ การเณนาหํ น โสจามีติ วทติฯ โสจนฺติ โสจโนฺตฯ สลฺลวิทฺธสฺส รุปฺปโตติ โสกสเลฺลน วิทฺธสฺส เตเนว ฆฎฺฎิยมานสฺสฺส ‘‘ทิฎฺฐา วต โน ปจฺจามิตฺตสฺส ปิฎฺฐี’’ติ อมิตฺตา สุมนา โหนฺตีติ อโตฺถฯ

    Tattha nābbhatītaharoti nābbhatītāhāro, ayameva vā pāṭho. Soko nāma abbhatītaṃ atikkantaṃ niruddhaṃ atthaṅgataṃ puna nāharati. Dutīyatāti sahāyatā. Atītāharaṇena vā anāgatāharaṇena vā soko nāma kassaci sahāyo na hoti, tenāpi kāraṇenāhaṃ na socāmīti vadati. Socanti socanto. Sallaviddhassa ruppatoti sokasallena viddhassa teneva ghaṭṭiyamānasssa ‘‘diṭṭhā vata no paccāmittassa piṭṭhī’’ti amittā sumanā hontīti attho.

    ฐิตํ มํ นาคมิสฺสตีติ สมฺม ธงฺกราช, เอเตสุ คามาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ฐิตํ มํ ปณฺฑุกิสภาวาทิกํ โสกมูลกํ พฺยสนํ น อาคมิสฺสติฯ เอวํ ทิฎฺฐปโทติ ยถา ตํ พฺยสนํ นาคจฺฉติ, เอวํ มยา ฌานปทํ ทิฎฺฐํฯ ‘‘อฎฺฐโลกธมฺมปท’’นฺติปิ วทนฺติเยว ฯ ปาฬิยํ ปน ‘‘น มตฺตํ นาคมิสฺสตี’’ติ ลิขิตํ, ตํ อฎฺฐกถายํ นตฺถิฯ ปริโยสานคาถาย อิจฺฉิตปตฺถิตเตฺถน ฌานสุขสงฺขาตํ สพฺพกามรสํ อาหรตีติ สพฺพกามรสาหโรฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺส รโญฺญ ปหาย อญฺญสหาเย อตฺตาว เอโก สพฺพกามรสาหโร นาลํ, สพฺพํ ฌานสุขสงฺขาตํ กามรสํ อาหริตุํ อสมโตฺถ, ตสฺส รโญฺญ สพฺพาปิ ปถวี น สุขํ อาวหิสฺสติฯ กามาตุรสฺส หิ สุขํ นาม นตฺถิ, โย ปน กิเลสทรถรหิตํ ฌานสุขํ อาหริตุํ สมโตฺถ, โส ราชา สุขี โหตีติฯ โย ปเนตาย คาถาย ‘‘ยสฺสตฺถา นาลเมโก’’ติปิ ปาโฐ, ตสฺสโตฺถ น ทิสฺสติฯ

    Ṭhitaṃ maṃ nāgamissatīti samma dhaṅkarāja, etesu gāmādīsu yattha katthaci ṭhitaṃ maṃ paṇḍukisabhāvādikaṃ sokamūlakaṃ byasanaṃ na āgamissati. Evaṃ diṭṭhapadoti yathā taṃ byasanaṃ nāgacchati, evaṃ mayā jhānapadaṃ diṭṭhaṃ. ‘‘Aṭṭhalokadhammapada’’ntipi vadantiyeva . Pāḷiyaṃ pana ‘‘na mattaṃ nāgamissatī’’ti likhitaṃ, taṃ aṭṭhakathāyaṃ natthi. Pariyosānagāthāya icchitapatthitatthena jhānasukhasaṅkhātaṃ sabbakāmarasaṃ āharatīti sabbakāmarasāharo. Idaṃ vuttaṃ hoti – yassa rañño pahāya aññasahāye attāva eko sabbakāmarasāharo nālaṃ, sabbaṃ jhānasukhasaṅkhātaṃ kāmarasaṃ āharituṃ asamattho, tassa rañño sabbāpi pathavī na sukhaṃ āvahissati. Kāmāturassa hi sukhaṃ nāma natthi, yo pana kilesadaratharahitaṃ jhānasukhaṃ āharituṃ samattho, so rājā sukhī hotīti. Yo panetāya gāthāya ‘‘yassatthā nālameko’’tipi pāṭho, tassattho na dissati.

    อิติ ธโงฺก อิมา จตโสฺส คาถา สุตฺวา โพธิสตฺตํ ขมาเปตฺวา รชฺชํ ปฎิจฺฉาเปตฺวา ปกฺกามิฯ โพธิสโตฺตปิ รชฺชํ อมจฺจานํ ปฎินิยฺยาเทตฺวา หิมวนฺตปเทสํ คนฺตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อปริหีนชฺฌาโน พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิฯ

    Iti dhaṅko imā catasso gāthā sutvā bodhisattaṃ khamāpetvā rajjaṃ paṭicchāpetvā pakkāmi. Bodhisattopi rajjaṃ amaccānaṃ paṭiniyyādetvā himavantapadesaṃ gantvā isipabbajjaṃ pabbajitvā aparihīnajjhāno brahmalokaparāyaṇo ahosi.

    สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ธงฺกราชา อานโนฺท อโหสิ, ฆฎราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

    Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā dhaṅkarājā ānando ahosi, ghaṭarājā pana ahameva ahosi’’nti.

    ฆฎชาตกวณฺณนา ปญฺจมาฯ

    Ghaṭajātakavaṇṇanā pañcamā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๓๕๕. ฆฎชาตกํ • 355. Ghaṭajātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact