Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๓. ฆฎสุตฺตวณฺณนา
3. Ghaṭasuttavaṇṇanā
๒๓๗. ตติเย เอกวิหาเรติ เอกสฺมิํ คเพฺภฯ ตทา กิร พหู อาคนฺตุกา ภิกฺขู สนฺนิปติํสุฯ ตสฺมิํ ปริเวณเคฺคน วา วิหารเคฺคน วา เสนาสเนสุ อปาปุณเนฺตสุ ทฺวินฺนํ เถรานํ เอโก คโพฺภ สมฺปโตฺตฯ เต ทิวา ปาฎิเยเกฺกสุ ฐาเนสุ นิสีทนฺติ, รตฺติํ ปน เนสํ อนฺตเร จีวรสาณิํ ปสาเรนฺติฯ เต อตฺตโน อตฺตโน ปตฺตปตฺตฎฺฐาเนเยว นิสีทนฺติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘เอกวิหาเร’’ติฯ โอฬาริเกนาติ อิทํ โอฬาริการมฺมณตํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ทิพฺพจกฺขุทิพฺพโสตธาตุวิหาเรน หิ โส วิหาสิ, เตสญฺจ รูปายตนสทฺทายตนสงฺขาตํ โอฬาริกํ อารมฺมณํฯ อิติ ทิพฺพจกฺขุนา รูปสฺส ทิฎฺฐตฺตา ทิพฺพาย จ โสตธาตุยา สทฺทสฺส สุตตฺตา โส วิหาโร โอฬาริโก นาม ชาโตฯ ทิพฺพจกฺขุ วิสุชฺฌีติ ภควโต รูปทสฺสนตฺถาย วิสุทฺธํ อโหสิฯ ทิพฺพา จ โสตธาตูติ สาปิ ภควโต สทฺทสุณนตฺถํ วิสุชฺฌิ ฯ ภควโตปิ เถรสฺส รูปทสฺสนตฺถเญฺจว สทฺทสุณนตฺถญฺจ ตทุภยํ วิสุชฺฌิฯ ตทา กิร เถโร ‘‘กถํ นุ โข เอตรหิ สตฺถา วิหรตี’’ติ อาโลกํ วเฑฺฒตฺวา ทิเพฺพน จกฺขุนา สตฺถารํ เชตวเน วิหาเร คนฺธกุฎิยํ นิสินฺนํ ทิสฺวา ตสฺส ทิพฺพาย โสตธาตุยา สทฺทํ สุณิฯ สตฺถาปิ ตเถว อกาสิฯ เอวํ เต อญฺญมญฺญํ ปสฺสิํสุ เจว, สทฺทญฺจ อโสฺสสุํฯ
237. Tatiye ekavihāreti ekasmiṃ gabbhe. Tadā kira bahū āgantukā bhikkhū sannipatiṃsu. Tasmiṃ pariveṇaggena vā vihāraggena vā senāsanesu apāpuṇantesu dvinnaṃ therānaṃ eko gabbho sampatto. Te divā pāṭiyekkesu ṭhānesu nisīdanti, rattiṃ pana nesaṃ antare cīvarasāṇiṃ pasārenti. Te attano attano pattapattaṭṭhāneyeva nisīdanti. Tena vuttaṃ ‘‘ekavihāre’’ti. Oḷārikenāti idaṃ oḷārikārammaṇataṃ sandhāya vuttaṃ. Dibbacakkhudibbasotadhātuvihārena hi so vihāsi, tesañca rūpāyatanasaddāyatanasaṅkhātaṃ oḷārikaṃ ārammaṇaṃ. Iti dibbacakkhunā rūpassa diṭṭhattā dibbāya ca sotadhātuyā saddassa sutattā so vihāro oḷāriko nāma jāto. Dibbacakkhu visujjhīti bhagavato rūpadassanatthāya visuddhaṃ ahosi. Dibbā ca sotadhātūti sāpi bhagavato saddasuṇanatthaṃ visujjhi . Bhagavatopi therassa rūpadassanatthañceva saddasuṇanatthañca tadubhayaṃ visujjhi. Tadā kira thero ‘‘kathaṃ nu kho etarahi satthā viharatī’’ti ālokaṃ vaḍḍhetvā dibbena cakkhunā satthāraṃ jetavane vihāre gandhakuṭiyaṃ nisinnaṃ disvā tassa dibbāya sotadhātuyā saddaṃ suṇi. Satthāpi tatheva akāsi. Evaṃ te aññamaññaṃ passiṃsu ceva, saddañca assosuṃ.
อารทฺธวีริโยติ ปริปุณฺณวีริโย ปคฺคหิตวีริโยฯ ยาวเทว อุปนิเกฺขปนมตฺตายาติ ติโยชนสหสฺสวิตฺถารสฺส หิมวโต สนฺติเก ฐปิตา สาสปมตฺตา ปาสาณสกฺขรา ‘‘หิมวา นุ โข มหา, อยํ นุ โข ปาสาณสกฺขรา’’ติ เอวํ ยาว อุปนิเกฺขปนมตฺตเสฺสว อตฺถาย ภเวยฺยาติ วุตฺตํ โหติฯ ปรโตปิ เอเสว นโยฯ กปฺปนฺติ อายุกปฺปํฯ โลณฆฎายาติ จกฺกวาฬมุขวฎฺฎิยา อาธารกํ กตฺวา มุขวฎฺฎิยา พฺรหฺมโลกํ อาหจฺจ ฐิตาย โลณจาฎิยาติ ทเสฺสติฯ
Āraddhavīriyoti paripuṇṇavīriyo paggahitavīriyo. Yāvadeva upanikkhepanamattāyāti tiyojanasahassavitthārassa himavato santike ṭhapitā sāsapamattā pāsāṇasakkharā ‘‘himavā nu kho mahā, ayaṃ nu kho pāsāṇasakkharā’’ti evaṃ yāva upanikkhepanamattasseva atthāya bhaveyyāti vuttaṃ hoti. Paratopi eseva nayo. Kappanti āyukappaṃ. Loṇaghaṭāyāti cakkavāḷamukhavaṭṭiyā ādhārakaṃ katvā mukhavaṭṭiyā brahmalokaṃ āhacca ṭhitāya loṇacāṭiyāti dasseti.
อิเม ปน เถรา อุปมํ อาหรนฺตา สริกฺขเกเนว จ วิชฺชมานคุเณน จ อาหริํสุฯ กถํ? อยญฺหิ อิทฺธิ นาม อจฺจุคฺคตเฎฺฐน เจว วิปุลเฎฺฐน จ หิมวนฺตสทิสา, ปญฺญา จตุภูมกธเมฺม อนุปวิสิตฺวา ฐิตเฎฺฐน สพฺพพฺยญฺชเนสุ อนุปวิฎฺฐโลณรสสทิสาฯ เอวํ ตาว สริกฺขกเฎฺฐน อาหริํสุฯ สมาธิลกฺขณํ ปน มหาโมคฺคลฺลานเตฺถรสฺส วิภูตํ ปากฎํฯ กิญฺจาปิ สาริปุตฺตเตฺถรสฺส อวิชฺชมานอิทฺธิ นาม นตฺถิ, ภควตา ปน ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ อิทฺธิมนฺตานํ ยทิทํ มหาโมคฺคลฺลาโน’’ติ อยเมว เอตทเคฺค ฐปิโตฯ วิปสฺสนาลกฺขณํ ปน สาริปุตฺตเตฺถรสฺส วิภูตํ ปากฎํฯ กิญฺจาปิ มหาโมคฺคลฺลานเตฺถรสฺสาปิ ปญฺญา อตฺถิ, ภควตา ปน ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ มหาปญฺญานํ ยทิทํ สาริปุโตฺต’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๙) อยเมว เอตทเคฺค ฐปิโตฯ ตสฺมา ยถา เอเต อญฺญมญฺญสฺส ธุรํ น ปาปุณนฺติ, เอวํ วิชฺชมานคุเณน อาหริํสุฯ สมาธิลกฺขณสฺมิญฺหิ มหาโมคฺคลฺลาโน นิปฺผตฺติํ คโต, วิปสฺสนาลกฺขเณ สาริปุตฺตเตฺถโร, ทฺวีสุปิ เอเตสุ สมฺมาสมฺพุโทฺธติฯ ตติยํฯ
Ime pana therā upamaṃ āharantā sarikkhakeneva ca vijjamānaguṇena ca āhariṃsu. Kathaṃ? Ayañhi iddhi nāma accuggataṭṭhena ceva vipulaṭṭhena ca himavantasadisā, paññā catubhūmakadhamme anupavisitvā ṭhitaṭṭhena sabbabyañjanesu anupaviṭṭhaloṇarasasadisā. Evaṃ tāva sarikkhakaṭṭhena āhariṃsu. Samādhilakkhaṇaṃ pana mahāmoggallānattherassa vibhūtaṃ pākaṭaṃ. Kiñcāpi sāriputtattherassa avijjamānaiddhi nāma natthi, bhagavatā pana ‘‘etadaggaṃ, bhikkhave, mama sāvakānaṃ bhikkhūnaṃ iddhimantānaṃ yadidaṃ mahāmoggallāno’’ti ayameva etadagge ṭhapito. Vipassanālakkhaṇaṃ pana sāriputtattherassa vibhūtaṃ pākaṭaṃ. Kiñcāpi mahāmoggallānattherassāpi paññā atthi, bhagavatā pana ‘‘etadaggaṃ, bhikkhave, mama sāvakānaṃ bhikkhūnaṃ mahāpaññānaṃ yadidaṃ sāriputto’’ti (a. ni. 1.189) ayameva etadagge ṭhapito. Tasmā yathā ete aññamaññassa dhuraṃ na pāpuṇanti, evaṃ vijjamānaguṇena āhariṃsu. Samādhilakkhaṇasmiñhi mahāmoggallāno nipphattiṃ gato, vipassanālakkhaṇe sāriputtatthero, dvīsupi etesu sammāsambuddhoti. Tatiyaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๓. ฆฎสุตฺตํ • 3. Ghaṭasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๓. ฆฎสุตฺตวณฺณนา • 3. Ghaṭasuttavaṇṇanā