English Edition
    Tipiṭaka / Tipiṭaka (English) / Majjhima Nikāya, English translation

    มชฺฌิม นิกาย ๘๑

    The Middle-Length Suttas Collection 81

    ฆฏิการสุตฺต

    With Ghaṭīkāra

    เอวํ เม สุตํ—เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึฯ อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม อญฺญตรสฺมึ ปเทเส สิตํ ปาตฺวากาสิฯ

    So I have heard. At one time the Buddha was wandering in the land of the Kosalans together with a large Saṅgha of bhikkhus. Then the Buddha left the road, and at a certain spot he smiled.

    อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ: “โก นุ โข เหตุ, โก ปจฺจโย ภควโต สิตสฺส ปาตุกมฺมาย? น อการเณน ตถาคตา สิตํ ปาตุกโรนฺตี”ติฯ

    Then Venerable Ānanda thought, “What is the cause, what is the reason why the Buddha smiled? Realized Ones do not smile for no reason.”

    อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เอกํสํ จีวรํ กตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ: “โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย ภควโต สิตสฺส ปาตุกมฺมาย? น อการเณน ตถาคตา สิตํ ปาตุกโรนฺตี”ติฯ

    So Ānanda arranged his robe over one shoulder, raised his joined palms toward the Buddha, and said, “What is the cause, what is the reason why the Buddha smiled? Realized Ones do not smile for no reason.”

    “ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, อิมสฺมึ ปเทเส เวคฬิงฺคํ นาม คามนิคโม อโหสิ อิทฺโธ เจว ผีโต จ พหุชโน อากิณฺณมนุโสฺสฯ เวคฬิงฺคํ โข, อานนฺท, คามนิคมํ กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อุปนิสฺสาย วิหาสิฯ อิธ สุทํ, อานนฺท, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อาราโม อโหสิฯ อิธ สุทํ, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ นิสินฺนโก ภิกฺขุสงฺฆํ โอวทตี”ติฯ

    “Once upon a time, Ānanda, there was a market town in this spot named Vebhaliṅga. It was successful and prosperous, populous, full of people. And Kassapa, a blessed one, a perfected one, a fully awakened Buddha, lived supported by Vebhaliṅga. It was here, in fact, that he had his monastery, where he sat and advised the bhikkhu Saṅgha.”

    อถ โข อายสฺมา อานนฺโท จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปญฺญเปตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ: “เตน หิ, ภนฺเต, ภควา นิสีทตุ เอตฺถฯ อยํ ภูมิปเทโส ทฺวีหิ อรหนฺเตหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ ปริภุตฺโต ภวิสฺสตี”ติฯ นิสีทิ ภควา ปญฺญตฺเต อาสเนฯ นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ:

    Then Ānanda spread out his outer robe folded in four and said to the Buddha, “Well then, sir, may the Blessed One sit here! Then this piece of land will have been occupied by two perfected ones, fully awakened Buddhas.” The Buddha sat on the seat spread out. When he was seated he said to Venerable Ānanda:

    “ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, อิมสฺมึ ปเทเส เวคฬิงฺคํ นาม คามนิคโม อโหสิ อิทฺโธ เจว ผีโต จ พหุชโน อากิณฺณมนุโสฺสฯ เวคฬิงฺคํ โข, อานนฺท, คามนิคมํ กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อุปนิสฺสาย วิหาสิฯ อิธ สุทํ, อานนฺท, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อาราโม อโหสิฯ อิธ สุทํ, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ นิสินฺนโก ภิกฺขุสงฺฆํ โอวทติฯ

    “Once upon a time, Ānanda, there was a market town in this spot named Vebhaliṅga. It was successful and prosperous, populous, full of people. And Kassapa, a blessed one, a perfected one, a fully awakened Buddha, lived supported by Vebhaliṅga. It was here, in fact, that he had his monastery, where he sat and advised the bhikkhu Saṅgha.

    เวคฬิงฺเค โข, อานนฺท, คามนิคเม ฆฏิกาโร นาม กุมฺภกาโร กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อุปฏฺฐาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺฐาโกฯ ฆฏิการสฺส โข, อานนฺท, กุมฺภการสฺส โชติปาโล นาม มาณโว สหาโย อโหสิ ปิยสหาโยฯ อถ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ อามนฺเตสิ: ‘อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา'ติฯ

    The Buddha Kassapa had as chief supporter in Vebhaliṅga a potter named Ghaṭīkāra. Ghaṭīkāra had a dear friend named Jotipāla, a brahmin student. Then Ghaṭīkāra addressed Jotipāla, ‘Come, dear Jotipāla, let’s go to see the Blessed One Kassapa, the perfected one, the fully awakened Buddha. For I deem it holy to see that Blessed One.’

    เอวํ วุตฺเต, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฏิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ: ‘อลํ, สมฺม ฆฏิการฯ กึ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิฏฺเฐนา'ติ?

    When he said this, Jotipāla said to him, ‘Enough, dear Ghaṭīkāra. What’s the use of seeing that shaveling, that fake ascetic?’

    ทุติยมฺปิ โข, อานนฺท …เป… ตติยมฺปิ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ เอตทโวจ: ‘อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา'ติฯ

    For a second time … and a third time, Ghaṭīkāra addressed Jotipāla, ‘Come, dear Jotipāla, let’s go to see the Blessed One Kassapa, the perfected one, the fully awakened Buddha. For I deem it holy to see that Blessed One.’

    ตติยมฺปิ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฏิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ: ‘อลํ, สมฺม ฆฏิการฯ กึ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิฏฺเฐนา'ติ?

    For a third time, Jotipāla said to him, ‘Enough, dear Ghaṭīkāra. What’s the use of seeing that shaveling, that fake ascetic?’

    ‘เตน หิ, สมฺม โชติปาล, โสตฺติสินานึ อาทาย นทึ คมิสฺสาม สินายิตุนฺ'ติฯ

    ‘Well then, dear Jotipāla, let’s take some bathing paste of powdered shell and go to the river to bathe.’

    ‘เอวํ, สมฺมา'ติ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส ปจฺจโสฺสสิฯ อถ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร จ กุมฺภกาโร โชติปาโล จ มาณโว โสตฺติสินานึ อาทาย นทึ อคมํสุ สินายิตุํฯ

    ‘Yes, dear,’ replied Jotipāla. So that’s what they did.

    อถ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ อามนฺเตสิ: ‘อยํ, สมฺม โชติปาล, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อวิทูเร อาราโมฯ อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา'ติฯ

    Then Ghaṭīkāra addressed Jotipāla, ‘Dear Jotipāla, the Buddha Kassapa’s monastery is not far away. Let’s go to see the Blessed One Kassapa, the perfected one, the fully awakened Buddha. For I deem it holy to see that Blessed One.’

    เอวํ วุตฺเต, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฏิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ: ‘อลํ, สมฺม ฆฏิการฯ กึ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิฏฺเฐนา'ติ?

    When he said this, Jotipāla said to him, ‘Enough, dear Ghaṭīkāra. What’s the use of seeing that shaveling, that fake ascetic?’

    ทุติยมฺปิ โข, อานนฺท …เป… ตติยมฺปิ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ เอตทโวจ: ‘อยํ, สมฺม โชติปาล, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อวิทูเร อาราโมฯ อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา'ติฯ

    For a second time … and a third time, Ghaṭīkāra addressed Jotipāla, ‘Dear Jotipāla, the Buddha Kassapa’s monastery is not far away. Let’s go to see the Blessed One Kassapa, the perfected one, the fully awakened Buddha. For I deem it holy to see that Blessed One.’

    ตติยมฺปิ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฏิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ: ‘อลํ, สมฺม ฆฏิการฯ กึ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิฏฺเฐนา'ติ?

    For a third time, Jotipāla said to him, ‘Enough, dear Ghaṭīkāra. What’s the use of seeing that shaveling, that fake ascetic?’

    อถ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ โอวฏฺฏิกายํ ปรามสิตฺวา เอตทโวจ: ‘อยํ, สมฺม โชติปาล, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อวิทูเร อาราโมฯ อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา'ติฯ

    Then Ghaṭīkāra grabbed Jotipāla by the belt and said, ‘Dear Jotipāla, the Buddha Kassapa’s monastery is not far away. Let’s go to see the Blessed One Kassapa, the perfected one, the fully awakened Buddha. For I deem it holy to see that Blessed One.’

    อถ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว โอวฏฺฏิกํ วินิวฏฺเฏตฺวา ฆฏิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ: ‘อลํ, สมฺม ฆฏิการฯ กึ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิฏฺเฐนา'ติ?

    So Jotipāla undid his belt and said to Ghaṭīkāra, ‘Enough, dear Ghaṭīkāra. What’s the use of seeing that shaveling, that fake ascetic?’

    อถ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ สีสํนฺหาตํ เกเสสุ ปรามสิตฺวา เอตทโวจ: ‘อยํ, สมฺม โชติปาล, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อวิทูเร อาราโมฯ อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา'ติฯ

    Then Ghaṭīkāra grabbed Jotipāla by the hair of his freshly-washed head and said, ‘Dear Jotipāla, the Buddha Kassapa’s monastery is not far away. Let’s go to see the Blessed One Kassapa, the perfected one, the fully awakened Buddha. For I deem it holy to see that Blessed One.’

    อถ โข, อานนฺท, โชติปาลสฺส มาณวสฺส เอตทโหสิ: ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภฯ ยตฺร หิ นามายํ ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร อิตฺตรชจฺโจ สมาโน อมฺหากํ สีสํนฺหาตานํ เกเสสุ ปรามสิตพฺพํ มญฺญิสฺสติ; น วติทํ กิร โอรกํ มญฺเญ ภวิสฺสตี'ติ; ฆฏิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ: ‘ยาวตาโทหิปิ, สมฺม ฆฏิการา'ติ?

    Then Jotipāla thought, ‘Oh, how incredible, how amazing, how this potter Ghaṭīkāra, though born in a lower caste, should presume to grab me by the hair of my freshly-washed head! This must be no ordinary matter.’ He said to Ghaṭīkāra, ‘You’d even milk it to this extent, dear Ghaṭīkāra?’

    ‘ยาวตาโทหิปิ, สมฺม โชติปาลฯ ตถา หิ ปน เม สาธุสมฺมตํ ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา'ติฯ

    ‘I even milk it to this extent, dear Jotipāla. For that is how holy I deem it to see that Blessed One.’

    ‘เตน หิ, สมฺม ฆฏิการ, มุญฺจ; คมิสฺสามา'ติฯ

    ‘Well then, dear Ghaṭīkāra, release me, we shall go.’

    อถ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร จ กุมฺภกาโร โชติปาโล จ มาณโว เยน กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ โชติปาโล ปน มาณโว กสฺสเปน ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สทฺธึ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ

    Then Ghaṭīkāra the potter and Jotipāla the brahmin student went to the Buddha Kassapa. Ghaṭīkāra bowed and sat down to one side, but Jotipāla exchanged greetings with the Buddha and sat down to one side.

    เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ: ‘อยํ เม, ภนฺเต, โชติปาโล มาณโว สหาโย ปิยสหาโยฯ อิมสฺส ภควา ธมฺมํ เทเสตู'ติฯ อถ โข, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ฆฏิการญฺจ กุมฺภการํ โชติปาลญฺจ มาณวํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ อถ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร จ กุมฺภกาโร โชติปาโล จ มาณโว กสฺสเปน ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุฯ

    Ghaṭīkāra said to the Buddha Kassapa, ‘Sir, this is my dear friend Jotipāla, a brahmin student. Please teach him the Dhamma.’ Then the Buddha Kassapa educated, encouraged, fired up, and inspired Ghaṭīkāra and Jotipāla with a Dhamma talk. Then they got up from their seat, bowed, and respectfully circled the Buddha Kassapa, keeping him on their right, before leaving.

    อถ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฏิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ: ‘อิมํ นุ ตฺวํ, สมฺม ฆฏิการ, ธมฺมํ สุณนฺโต อถ จ ปน อคารสฺมา อนคาริยํ น ปพฺพชิสฺสสี'ติ?

    Then Jotipāla said to Ghatīkāra, ‘Dear Ghaṭīkāra, you have heard this teaching, so why don’t you go forth from the lay life to homelessness?’

    ‘นนุ มํ, สมฺม โชติปาล, ชานาสิ, อนฺเธ ชิณฺเณ มาตาปิตโร โปเสมี'ติ?

    ‘Don’t you know, dear Jotipāla, that I look after my blind old parents?’

    ‘เตน หิ, สมฺม ฆฏิการ, อหํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามี'ติฯ

    ‘Well then, dear Ghaṭīkāra, I shall go forth from the lay life to homelessness.’

    อถ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร จ กุมฺภกาโร โชติปาโล จ มาณโว เยน กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ: ‘อยํ เม, ภนฺเต, โชติปาโล มาณโว สหาโย ปิยสหาโยฯ อิมํ ภควา ปพฺพาเชตู'ติฯ อลตฺถ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํฯ

    Then Ghaṭīkāra and Jotipāla went to the Buddha Kassapa, bowed and sat down to one side. Ghaṭīkāra said to the Buddha Kassapa, ‘Sir, this is my dear friend Jotipāla, a brahmin student. Please give him the going forth.’ And Jotipāla the brahmin student received the going forth, the ordination in the Buddha’s presence.

    อถ โข, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อจิรูปสมฺปนฺเน โชติปาเล มาณเว อฑฺฒมาสุปสมฺปนฺเน เวคฬิงฺเค ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน พาราณสี เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน พาราณสี ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเยฯ อโสฺสสิ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา: ‘กสฺสโป กิร ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พาราณสึ อนุปฺปตฺโต พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเย'ติฯ อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา ภทฺรานิ ภทฺรานิ ยานานิ โยชาเปตฺวา ภทฺรํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภเทฺรหิ ภเทฺรหิ ยาเนหิ พาราณสิยา นิยฺยาสิ มหจฺจราชานุภาเวน กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนายฯ ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติโกว เยน กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข, อานนฺท, กิกึ กาสิราชานํ กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ

    Not long after Jotipāla’s ordination, a fortnight later, the Buddha Kassapa—having stayed in Vebhaliṅga as long as he pleased—set out for Varanasi. Traveling stage by stage, he arrived at Varanasi, where he stayed near Varanasi, in the deer park at Isipatana. King Kikī of Kāsi heard that he had arrived. He had the finest carriages harnessed. He then mounted a fine carriage and, along with other fine carriages, set out in full royal pomp from Varanasi to see the Buddha Kassapa. He went by carriage as far as the terrain allowed, then descended and approached the Buddha Kassapa on foot. He bowed and sat down to one side. The Buddha educated, encouraged, fired up, and inspired him with a Dhamma talk.

    อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสเปน ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ: ‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา'ติฯ อธิวาเสสิ โข, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตุณฺหีภาเวนฯ

    Then King Kikī said to the Buddha, ‘Sir, would the Buddha together with the bhikkhu Saṅgha please accept tomorrow’s meal from me?’ The Buddha Kassapa consented with silence.

    อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสปสฺส ภควโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ปณฺฑุปุฏกสฺส สาลิโน วิคตกาฬกํ อเนกสูปํ อเนกพฺยญฺชนํ, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส กาลํ อาโรจาเปสิ: ‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺฐิตํ ภตฺตนฺ'ติฯ

    Then, knowing that the Buddha had consented, King Kikī got up from his seat, bowed, and respectfully circled the Buddha, keeping him on his right, before leaving. And when the night had passed, King Kikī had delicious fresh and cooked foods prepared in his own home—soft saffron rice with the dark grains picked out, served with many soups and sauces. Then he had the Buddha informed of the time, saying, ‘Sir, it’s time. The meal is ready.’

    อถ โข, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน กิกิสฺส กาสิรญฺโญ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนฯ อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิฯ

    Then Kassapa Buddha robed up in the morning and, taking his bowl and robe, went to the home of King Kikī, where he sat on the seat spread out, together with the Saṅgha of bhikkhus. Then King Kikī served and satisfied the bhikkhu Saṅgha headed by the Buddha with his own hands with delicious fresh and cooked foods.

    อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อญฺญตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ: ‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา พาราณสิยํ วสฺสาวาสํ; เอวรูปํ สงฺฆสฺส อุปฏฺฐานํ ภวิสฺสตี'ติฯ

    When the Buddha Kassapa had eaten and washed his hand and bowl, King Kikī took a low seat and sat to one side. There he said to the Buddha Kassapa, ‘Sir, may the Buddha please accept my invitation to reside in Varanasi for the rainy season. The Saṅgha will be looked after in the same style.’

    ‘อลํ, มหาราชฯ อธิวุตฺโถ เม วสฺสาวาโส'ติฯ

    ‘Enough, great king. I have already accepted an invitation for the rains residence.’

    ทุติยมฺปิ โข, อานนฺท … ตติยมฺปิ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ: ‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา พาราณสิยํ วสฺสาวาสํ; เอวรูปํ สงฺฆสฺส อุปฏฺฐานํ ภวิสฺสตี'ติฯ

    For a second time … and a third time King Kikī said to the Buddha Kassapa, ‘Sir, may the Buddha please accept my invitation to reside in Varanasi for the rainy season. The Saṅgha will be looked after in the same style.’

    ‘อลํ, มหาราชฯ อธิวุตฺโถ เม วสฺสาวาโส'ติฯ

    ‘Enough, Great King. I have already accepted an invitation for the rains residence.’

    อถ โข, อานนฺท, กิกิสฺส กาสิรญฺโญ ‘น เม กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อธิวาเสติ พาราณสิยํ วสฺสาวาสนฺ'ติ อหุเทว อญฺญถตฺตํ, อหุ โทมนสฺสํฯ อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ: ‘อตฺถิ นุ โข, ภนฺเต, อญฺโญ โกจิ มยา อุปฏฺฐากตโร'ติ?

    Then King Kikī, thinking, ‘The Buddha does not accept my invitation to reside for the rains in Varanasi,’ became sad and upset. Then King Kikī said to the Buddha Kassapa, ‘Sir, do you have another supporter better than me?’

    ‘อตฺถิ, มหาราช, เวคฬิงฺคํ นาม คามนิคโมฯ ตตฺถ ฆฏิกาโร นาม กุมฺภกาโร; โส เม อุปฏฺฐาโก อคฺคุปฏฺฐาโกฯ ตุยฺหํ โข ปน, มหาราช, น เม กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อธิวาเสติ พาราณสิยํ วสฺสาวาสนฺติ อตฺเถว อญฺญถตฺตํ, อตฺถิ โทมนสฺสํฯ ตยิทํ ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส นตฺถิ จ น จ ภวิสฺสติฯ

    ‘Great king, there is a market town named Vebhaliṅga, where there’s a potter named Ghaṭīkāra. He is my chief supporter. Now, great king, you thought, “The Buddha does not accept my invitation to reside for the rains in Varanasi,” and you became sad and upset. But Ghaṭīkāra doesn’t get upset, nor will he.

    ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร พุทฺธํ สรณํ คโต, ธมฺมํ สรณํ คโต, สงฺฆํ สรณํ คโตฯ ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต, มุสาวาทา ปฏิวิรโต, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา ปฏิวิรโตฯ ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโตฯ ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร ทุกฺเข นิกฺกงฺโข, ทุกฺขสมุทเย นิกฺกงฺโข, ทุกฺขนิโรเธ นิกฺกงฺโข, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย นิกฺกงฺโขฯ ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร เอกภตฺติโก พฺรหฺมจารี สีลวา กลฺยาณธมฺโมฯ ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร นิกฺขิตฺตมณิสุวณฺโณ อเปตชาตรูปรชโตฯ ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร ปนฺนมุสโล น สหตฺถา ปถวึ ขณติฯ ยํ โหติ กูลปลุคฺคํ วา มูสิกุกฺกโร วา ตํ กาเชน อาหริตฺวา ภาชนํ กริตฺวา เอวมาห: “เอตฺถ โย อิจฺฉติ ตณฺฑุลปฏิภสฺตานิ วา มุคฺคปฏิภสฺตานิ วา กฬายปฏิภสฺตานิ วา นิกฺขิปิตฺวา ยํ อิจฺฉติ ตํ หรตู”ติฯ ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร อนฺเธ ชิณฺเณ มาตาปิตโร โปเสติฯ ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกาฯ

    Ghaṭīkāra has gone for refuge to the Buddha, the teaching, and the Saṅgha. He doesn’t kill living creatures, steal, commit sexual misconduct, lie, or take alcoholic drinks that cause negligence. He has experiential confidence in the Buddha, the teaching, and the Saṅgha, and has the ethics loved by the noble ones. He is free of doubt regarding suffering, its origin, its cessation, and the practice that leads to its cessation. He eats in one part of the day; he’s celibate, ethical, and of good character. He has set aside gems and gold, and rejected gold and money. He’s put down the shovel and doesn’t dig the earth with his own hands. He takes what has crumbled off by a riverbank or been dug up by mice, and brings it back in a carrier. When he has made a pot, he says, “Anyone may leave bagged sesame, mung beans, or chickpeas here and take what they wish.” He looks after his blind old parents. And since he has ended the five lower fetters, Ghaṭīkāra will be reborn spontaneously and will become extinguished there, not liable to return from that world.

    เอกมิทาหํ, มหาราช, สมยํ เวคฬิงฺเค นาม คามนิคเม วิหรามิฯ อถ ขฺวาหํ, มหาราช, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส มาตาปิตโร เอตทโวจํ: “หนฺท โก นุ โข อยํ ภคฺคโว คโต”ติ?

    This one time, great king, I was staying near the market town of Vebhaliṅga. Then I robed up in the morning and, taking my bowl and robe, went to the home of Ghaṭīkāra’s parents, where I said to them, “Excuse me, where has Bhaggava gone?”

    “นิกฺขนฺโต โข เต, ภนฺเต, อุปฏฺฐาโก อนฺโตกุมฺภิยา โอทนํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชา”ติฯ อถ ขฺวาหํ, มหาราช, กุมฺภิยา โอทนํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกมึฯ

    “Your supporter has gone out, sir. But take rice from the pot and sauce from the pan and eat.” So that’s what I did. And after eating I got up from my seat and left.

    อถ โข, มหาราช, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร เยน มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มาตาปิตโร เอตทโวจ: “โก กุมฺภิยา โอทนํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกนฺโต”ติ?

    Then Ghaṭīkāra went up to his parents and said, “Who took rice from the pot and sauce from the pan, ate it, and left?”

    “กสฺสโป, ตาต, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ กุมฺภิยา โอทนํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกนฺโต”ติ?

    “It was the Buddha Kassapa, my dear.”

    อถ โข, มหาราช, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส เอตทโหสิ: “ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอวํ อภิวิสฺสตฺโถ”ติฯ อถ โข, มหาราช, ฆฏิการํ กุมฺภการํ อฑฺฒมาสํ ปีติสุขํ น วิชหติ, สตฺตาหํ มาตาปิตูนํฯ

    Then Ghaṭīkāra thought, “I’m so fortunate, so very fortunate, in that the Buddha Kassapa trusts me so much!” Then joy and happiness did not leave him for a fortnight, or his parents for a week.

    เอกมิทาหํ, มหาราช, สมยํ ตตฺเถว เวคฬิงฺเค นาม คามนิคเม วิหรามิฯ อถ ขฺวาหํ, มหาราช, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส มาตาปิตโร เอตทโวจํ: “หนฺท โก นุ โข อยํ ภคฺคโว คโต”ติ?

    Another time, great king, I was staying near that same market town of Vebhaliṅga. Then I robed up in the morning and, taking my bowl and robe, went to the home of Ghaṭīkāra’s parents, where I said to them, “Excuse me, where has Bhaggava gone?”

    “นิกฺขนฺโต โข เต, ภนฺเต, อุปฏฺฐาโก อนฺโต กโฬปิยา กุมฺมาสํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชา”ติฯ อถ ขฺวาหํ, มหาราช, กโฬปิยา กุมฺมาสํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกมึฯ

    “Your supporter has gone out, sir. But take porridge from the pot and sauce from the pan and eat.” So that’s what I did. And after eating I got up from my seat and left.

    อถ โข, มหาราช, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร เยน มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มาตาปิตโร เอตทโวจ: “โก กโฬปิยา กุมฺมาสํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกนฺโต”ติ?

    Then Ghaṭīkāra went up to his parents and said, “Who took porridge from the pot and sauce from the pan, ate it, and left?”

    “กสฺสโป, ตาต, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ กโฬปิยา กุมฺมาสํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกนฺโต”ติฯ

    “It was the Buddha Kassapa, my dear.”

    อถ โข, มหาราช, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส เอตทโหสิ: “ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอวํ อภิวิสฺสตฺโถ”ติฯ อถ โข, มหาราช, ฆฏิการํ กุมฺภการํ อฑฺฒมาสํ ปีติสุขํ น วิชหติ, สตฺตาหํ มาตาปิตูนํฯ

    Then Ghaṭīkāra thought, “I’m so fortunate, so very fortunate, to be trusted so much by the Buddha Kassapa!” Then joy and happiness did not leave him for a fortnight, or his parents for a week.

    เอกมิทาหํ, มหาราช, สมยํ ตตฺเถว เวคฬิงฺเค นาม คามนิคเม วิหรามิฯ เตน โข ปน สมเยน กุฏิ โอวสฺสติฯ อถ ขฺวาหํ, มหาราช, ภิกฺขู อามนฺเตสึ:

    Another time, great king, I was staying near that same market town of Vebhaliṅga. Now at that time my hut leaked. So I addressed the bhikkhus,

    “คจฺฉถ, ภิกฺขเว, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส นิเวสเน ติณํ ชานาถา”ติฯ

    “Bhikkhus, go to Ghaṭīkāra’s home and find some grass.”

    เอวํ วุตฺเต, มหาราช, เต ภิกฺขู มํ เอตทโวจุํ: “นตฺถิ โข, ภนฺเต, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส นิเวสเน ติณํ, อตฺถิ จ ขฺวาสฺส อาเวสเน ติณจฺฉทนนฺ”ติฯ

    When I said this, those bhikkhus said to me, “Sir, there’s no grass there, but his workshop has a grass roof.”

    “คจฺฉถ, ภิกฺขเว, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส อาเวสนํ อุตฺติณํ กโรถา”ติฯ อถ โข เต, มหาราช, ภิกฺขู ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส อาเวสนํ อุตฺติณมกํสุฯ

    “Then go to the workshop and strip the grass.” So that’s what they did.

    อถ โข, มหาราช, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส มาตาปิตโร เต ภิกฺขู เอตทโวจุํ: “เก อาเวสนํ อุตฺติณํ กโรนฺตี”ติ?

    Then Ghaṭīkāra’s parents said to those bhikkhus, “Who’s stripping the grass from the workshop?”

    “ภิกฺขู, ภคินิ, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส กุฏิ โอวสฺสตี”ติฯ

    “It’s the bhikkhus, sister. The Buddha’s hut is leaking.”

    “หรถ, ภนฺเต, หรถ, ภทฺรมุขา”ติฯ

    “Take it, sirs! Take it, my dears!”

    อถ โข, มหาราช, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร เยน มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มาตาปิตโร เอตทโวจ: “เก อาเวสนํ อุตฺติณมกํสู”ติ?

    Then Ghaṭīkāra went up to his parents and said, “Who stripped the grass from the workshop?”

    “ภิกฺขู, ตาต, กสฺสปสฺส กิร ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส กุฏิ โอวสฺสตี”ติฯ

    “It was the bhikkhus, dear. It seems the Buddha’s hut is leaking.”

    อถ โข, มหาราช, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส เอตทโหสิ: “ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอวํ อภิวิสฺสตฺโถ”ติฯ อถ โข, มหาราช, ฆฏิการํ กุมฺภการํ อฑฺฒมาสํ ปีติสุขํ น วิชหติ, สตฺตาหํ มาตาปิตูนํฯ

    Then Ghaṭīkāra thought, “I’m so fortunate, so very fortunate, to be trusted so much by the Buddha Kassapa!” Then joy and happiness did not leave him for a fortnight, or his parents for a week.

    อถ โข, มหาราช, อาเวสนํ สพฺพนฺตํ เตมาสํ อากาสจฺฉทนํ อฏฺฐาสิ, น เทโวติวสฺสิฯ เอวรูโป จ, มหาราช, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร'ติฯ

    Then the workshop remained with the sky for a roof for the whole three months, but no rain fell on it. And that, great king, is what Ghaṭīkāra the potter is like.’

    ‘ลาภา, ภนฺเต, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส, สุลทฺธา, ภนฺเต, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส ยสฺส ภควา เอวํ อภิวิสฺสตฺโถ'ติฯ

    ‘Ghaṭīkāra the potter is fortunate, very fortunate, to be so trusted by the Buddha Kassapa.’

    อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส ปญฺจมตฺตานิ ตณฺฑุลวาหสตานิ ปาเหสิ ปณฺฑุปุฏกสฺส สาลิโน ตทุปิยญฺจ สูเปยฺยํฯ อถ โข เต, อานนฺท, ราชปุริสา ฆฏิการํ กุมฺภการํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจุํ: ‘อิมานิ โข, ภนฺเต, ปญฺจมตฺตานิ ตณฺฑุลวาหสตานิ กิกินา กาสิราเชน ปหิตานิ ปณฺฑุปุฏกสฺส สาลิโน ตทุปิยญฺจ สูเปยฺยํฯ ตานิ, ภนฺเต, ปฏิคฺคณฺหถา'ติฯ

    Then King Kikī sent around five hundred cartloads of rice, soft saffron rice, and suitable sauce to Ghaṭīkāra. Then one of the king’s men approached Ghaṭīkāra and said, ‘Sir, these five hundred cartloads of rice, soft saffron rice, and suitable sauce have been sent to you by King Kikī of Kāsi. Please accept them.’

    ‘ราชา โข พหุกิจฺโจ พหุกรณีโยฯ อลํ เมฯ รญฺโญว โหตู'ติฯ

    ‘The king has many duties, and much to do. I have enough. Let this be for the king himself.’

    สิยา โข ปน เต, อานนฺท, เอวมสฺส: ‘อญฺโญ นูน เตน สมเยน โชติปาโล มาณโว อโหสี'ติฯ น โข ปเนตํ, อานนฺท, เอวํ ทฏฺฐพฺพํฯ อหํ เตน สมเยน โชติปาโล มาณโว อโหสินฺ”ติฯ

    Ānanda, you might think: ‘Surely the brahmin student Jotipāla must have been someone else at that time?’ But you should not see it like this. I myself was the student Jotipāla at that time.”

    อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ

    That is what the Buddha said. Satisfied, Venerable Ānanda was happy with what the Buddha said.

    ฆฏิการสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ปฐมํฯ





    The authoritative text of the Majjhima Nikāya is the Pāli text. The English translation is provided as an aid to the study of the original Pāli text. [CREDITS »]


    © 1991-2024 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact