Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya |
๔. ราชวโคฺค
4. Rājavaggo
๑. ฆฎิการสุตฺตํ
1. Ghaṭikārasuttaṃ
๒๘๒. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรติ มหตา ภิกฺขุสเงฺฆน สทฺธิํฯ อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม อญฺญตรสฺมิํ ปเทเส สิตํ ปาตฺวากาสิฯ อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘โก นุ โข เหตุ, โก ปจฺจโย ภควโต สิตสฺส ปาตุกมฺมาย? น อการเณน 1 ตถาคตา สิตํ ปาตุกโรนฺตี’’ติฯ อถ โข อายสฺมา อานโนฺท เอกํสํ จีวรํ 2 กตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภเนฺต, เหตุ, โก ปจฺจโย ภควโต สิตสฺส ปาตุกมฺมาย? น อการเณน ตถาคตา สิตํ ปาตุกโรนฺตี’’ติฯ ‘‘ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, อิมสฺมิํ ปเทเส เวคฬิงฺคํ 3 นาม คามนิคโม อโหสิ อิโทฺธ เจว ผีโต จ พหุชโน อากิณฺณมนุโสฺสฯ เวคฬิงฺคํ โข, อานนฺท, คามนิคมํ กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ อุปนิสฺสาย วิหาสิฯ อิธ สุทํ, อานนฺท, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อาราโม อโหสิฯ อิธ สุทํ, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ นิสินฺนโก ภิกฺขุสงฺฆํ โอวทตี’’ติฯ อถ โข อายสฺมา อานโนฺท จตุคฺคุณํ สงฺฆาฎิํ ปญฺญเปตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เตน หิ, ภเนฺต, ภควา นิสีทตุ เอตฺถฯ อยํ ภูมิปเทโส ทฺวีหิ อรหเนฺตหิ สมฺมาสมฺพุเทฺธหิ ปริภุโตฺต ภวิสฺสตี’’ติฯ นิสีทิ ภควา ปญฺญเตฺต อาสเนฯ นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามเนฺตสิ –
282. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā kosalesu cārikaṃ carati mahatā bhikkhusaṅghena saddhiṃ. Atha kho bhagavā maggā okkamma aññatarasmiṃ padese sitaṃ pātvākāsi. Atha kho āyasmato ānandassa etadahosi – ‘‘ko nu kho hetu, ko paccayo bhagavato sitassa pātukammāya? Na akāraṇena 4 tathāgatā sitaṃ pātukarontī’’ti. Atha kho āyasmā ānando ekaṃsaṃ cīvaraṃ 5 katvā yena bhagavā tenañjaliṃ paṇāmetvā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘ko nu kho, bhante, hetu, ko paccayo bhagavato sitassa pātukammāya? Na akāraṇena tathāgatā sitaṃ pātukarontī’’ti. ‘‘Bhūtapubbaṃ, ānanda, imasmiṃ padese vegaḷiṅgaṃ 6 nāma gāmanigamo ahosi iddho ceva phīto ca bahujano ākiṇṇamanusso. Vegaḷiṅgaṃ kho, ānanda, gāmanigamaṃ kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho upanissāya vihāsi. Idha sudaṃ, ānanda, kassapassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa ārāmo ahosi. Idha sudaṃ, ānanda, kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho nisinnako bhikkhusaṅghaṃ ovadatī’’ti. Atha kho āyasmā ānando catugguṇaṃ saṅghāṭiṃ paññapetvā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘tena hi, bhante, bhagavā nisīdatu ettha. Ayaṃ bhūmipadeso dvīhi arahantehi sammāsambuddhehi paribhutto bhavissatī’’ti. Nisīdi bhagavā paññatte āsane. Nisajja kho bhagavā āyasmantaṃ ānandaṃ āmantesi –
‘‘ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, อิมสฺมิํ ปเทเส เวคฬิงฺคํ นาม คามนิคโม อโหสิ อิโทฺธ เจว ผีโต จ พหุชโน อากิณฺณมนุโสฺสฯ เวคฬิงฺคํ โข, อานนฺท, คามนิคมํ กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ อุปนิสฺสาย วิหาสิฯ อิธ สุทํ, อานนฺท, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อาราโม อโหสิฯ อิธ สุทํ, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ นิสินฺนโก ภิกฺขุสงฺฆํ โอวทติฯ
‘‘Bhūtapubbaṃ, ānanda, imasmiṃ padese vegaḷiṅgaṃ nāma gāmanigamo ahosi iddho ceva phīto ca bahujano ākiṇṇamanusso. Vegaḷiṅgaṃ kho, ānanda, gāmanigamaṃ kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho upanissāya vihāsi. Idha sudaṃ, ānanda, kassapassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa ārāmo ahosi. Idha sudaṃ, ānanda, kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho nisinnako bhikkhusaṅghaṃ ovadati.
๒๘๓. ‘‘เวคฬิเงฺค โข, อานนฺท, คามนิคเม ฆฎิกาโร 7 นาม กุมฺภกาโร กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อุปฎฺฐาโก อโหสิ อคฺคุปฎฺฐาโกฯ ฆฎิการสฺส โข, อานนฺท, กุมฺภการสฺส โชติปาโล นาม มาณโว สหาโย อโหสิ ปิยสหาโยฯ อถ โข, อานนฺท, ฆฎิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ อามเนฺตสิ – ‘อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’ติฯ เอวํ วุเตฺต, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฎิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ – ‘อลํ, สมฺม ฆฎิการฯ กิํ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิเฎฺฐนา’ติ? ทุติยมฺปิ โข, อานนฺท…เป.… ตติยมฺปิ โข, อานนฺท, ฆฎิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ เอตทโวจ – ‘อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’ติฯ ตติยมฺปิ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฎิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ – ‘อลํ, สมฺม ฆฎิการฯ กิํ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิเฎฺฐนา’ติ? ‘เตน หิ, สมฺม โชติปาล, โสตฺติสินานิํ 8 อาทาย 9 นทิํ คมิสฺสาม สินายิตุ’นฺติฯ ‘เอวํ สมฺมา’ติ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฎิการสฺส กุมฺภการสฺส ปจฺจโสฺสสิฯ อถ โข, อานนฺท, ฆฎิกาโร จ กุมฺภกาโร โชติปาโล จ มาณโว โสตฺติสินานิํ อาทาย นทิํ อคมํสุ สินายิตุํ’ฯ
283. ‘‘Vegaḷiṅge kho, ānanda, gāmanigame ghaṭikāro 10 nāma kumbhakāro kassapassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa upaṭṭhāko ahosi aggupaṭṭhāko. Ghaṭikārassa kho, ānanda, kumbhakārassa jotipālo nāma māṇavo sahāyo ahosi piyasahāyo. Atha kho, ānanda, ghaṭikāro kumbhakāro jotipālaṃ māṇavaṃ āmantesi – ‘āyāma, samma jotipāla, kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ dassanāya upasaṅkamissāma. Sādhusammatañhi me tassa bhagavato dassanaṃ arahato sammāsambuddhassā’ti. Evaṃ vutte, ānanda, jotipālo māṇavo ghaṭikāraṃ kumbhakāraṃ etadavoca – ‘alaṃ, samma ghaṭikāra. Kiṃ pana tena muṇḍakena samaṇakena diṭṭhenā’ti? Dutiyampi kho, ānanda…pe… tatiyampi kho, ānanda, ghaṭikāro kumbhakāro jotipālaṃ māṇavaṃ etadavoca – ‘āyāma, samma jotipāla, kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ dassanāya upasaṅkamissāma. Sādhusammatañhi me tassa bhagavato dassanaṃ arahato sammāsambuddhassā’ti. Tatiyampi kho, ānanda, jotipālo māṇavo ghaṭikāraṃ kumbhakāraṃ etadavoca – ‘alaṃ, samma ghaṭikāra. Kiṃ pana tena muṇḍakena samaṇakena diṭṭhenā’ti? ‘Tena hi, samma jotipāla, sottisināniṃ 11 ādāya 12 nadiṃ gamissāma sināyitu’nti. ‘Evaṃ sammā’ti kho, ānanda, jotipālo māṇavo ghaṭikārassa kumbhakārassa paccassosi. Atha kho, ānanda, ghaṭikāro ca kumbhakāro jotipālo ca māṇavo sottisināniṃ ādāya nadiṃ agamaṃsu sināyituṃ’.
๒๘๔. ‘‘อถ โข, อานนฺท, ฆฎิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ อามเนฺตสิ – ‘อยํ, สมฺม โชติปาล, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อวิทูเร อาราโมฯ อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’ติฯ เอวํ วุเตฺต, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฎิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ – ‘อลํ, สมฺม ฆฎิการฯ กิํ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิเฎฺฐนา’ติ? ทุติยมฺปิ โข, อานนฺท…เป.… ตติยมฺปิ โข, อานนฺท, ฆฎิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ เอตทโวจ – ‘อยํ, สมฺม โชติปาล, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อวิทูเร อาราโมฯ อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’ติฯ ตติยมฺปิ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฎิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ – ‘อลํ, สมฺม ฆฎิการฯ กิํ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิเฎฺฐนา’ติ? อถ โข, อานนฺท, ฆฎิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ โอวฎฺฎิกายํ ปรามสิตฺวา เอตทโวจ – ‘อยํ, สมฺม โชติปาล, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อวิทูเร อาราโมฯ อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’ติฯ อถ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว โอวฎฺฎิกํ วินิวเฎฺฎตฺวา 13 ฆฎิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ – ‘อลํ, สมฺม ฆฎิการฯ กิํ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิเฎฺฐนา’ติ? อถ โข, อานนฺท, ฆฎิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ สีสํนฺหาตํ 14 เกเสสุ ปรามสิตฺวา เอตทโวจ – ‘อยํ, สมฺม โชติปาล, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อวิทูเร อาราโมฯ อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสาม ฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’ติฯ อถ โข, อานนฺท, โชติปาลสฺส มาณวสฺส เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ! ยตฺร หิ นามายํ ฆฎิกาโร กุมฺภกาโร อิตฺตรชโจฺจ สมาโน อมฺหากํ สีสํนฺหาตานํ เกเสสุ ปรามสิตพฺพํ มญฺญิสฺสติ; น วติทํ กิร โอรกํ มเญฺญ ภวิสฺสตี’ติ; ฆฎิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ – ‘ยาวตาโทหิปิ 15, สมฺม ฆฎิการา’ติ? ‘ยาวตาโทหิปิ, สมฺม โชติปาลฯ ตถา หิ ปน เม สาธุสมฺมตํ ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’ติฯ ‘เตน หิ, สมฺม ฆฎิการ, มุญฺจ; คมิสฺสามา’ติฯ
284. ‘‘Atha kho, ānanda, ghaṭikāro kumbhakāro jotipālaṃ māṇavaṃ āmantesi – ‘ayaṃ, samma jotipāla, kassapassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa avidūre ārāmo. Āyāma, samma jotipāla, kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ dassanāya upasaṅkamissāma. Sādhusammatañhi me tassa bhagavato dassanaṃ arahato sammāsambuddhassā’ti. Evaṃ vutte, ānanda, jotipālo māṇavo ghaṭikāraṃ kumbhakāraṃ etadavoca – ‘alaṃ, samma ghaṭikāra. Kiṃ pana tena muṇḍakena samaṇakena diṭṭhenā’ti? Dutiyampi kho, ānanda…pe… tatiyampi kho, ānanda, ghaṭikāro kumbhakāro jotipālaṃ māṇavaṃ etadavoca – ‘ayaṃ, samma jotipāla, kassapassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa avidūre ārāmo. Āyāma, samma jotipāla, kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ dassanāya upasaṅkamissāma. Sādhusammatañhi me tassa bhagavato dassanaṃ arahato sammāsambuddhassā’ti. Tatiyampi kho, ānanda, jotipālo māṇavo ghaṭikāraṃ kumbhakāraṃ etadavoca – ‘alaṃ, samma ghaṭikāra. Kiṃ pana tena muṇḍakena samaṇakena diṭṭhenā’ti? Atha kho, ānanda, ghaṭikāro kumbhakāro jotipālaṃ māṇavaṃ ovaṭṭikāyaṃ parāmasitvā etadavoca – ‘ayaṃ, samma jotipāla, kassapassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa avidūre ārāmo. Āyāma, samma jotipāla, kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ dassanāya upasaṅkamissāma. Sādhusammatañhi me tassa bhagavato dassanaṃ arahato sammāsambuddhassā’ti. Atha kho, ānanda, jotipālo māṇavo ovaṭṭikaṃ vinivaṭṭetvā 16 ghaṭikāraṃ kumbhakāraṃ etadavoca – ‘alaṃ, samma ghaṭikāra. Kiṃ pana tena muṇḍakena samaṇakena diṭṭhenā’ti? Atha kho, ānanda, ghaṭikāro kumbhakāro jotipālaṃ māṇavaṃ sīsaṃnhātaṃ 17 kesesu parāmasitvā etadavoca – ‘ayaṃ, samma jotipāla, kassapassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa avidūre ārāmo. Āyāma, samma jotipāla, kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ dassanāya upasaṅkamissāma . Sādhusammatañhi me tassa bhagavato dassanaṃ arahato sammāsambuddhassā’ti. Atha kho, ānanda, jotipālassa māṇavassa etadahosi – ‘acchariyaṃ vata, bho, abbhutaṃ vata, bho! Yatra hi nāmāyaṃ ghaṭikāro kumbhakāro ittarajacco samāno amhākaṃ sīsaṃnhātānaṃ kesesu parāmasitabbaṃ maññissati; na vatidaṃ kira orakaṃ maññe bhavissatī’ti; ghaṭikāraṃ kumbhakāraṃ etadavoca – ‘yāvatādohipi 18, samma ghaṭikārā’ti? ‘Yāvatādohipi, samma jotipāla. Tathā hi pana me sādhusammataṃ tassa bhagavato dassanaṃ arahato sammāsambuddhassā’ti. ‘Tena hi, samma ghaṭikāra, muñca; gamissāmā’ti.
๒๘๕. ‘‘อถ โข, อานนฺท, ฆฎิกาโร จ กุมฺภกาโร โชติปาโล จ มาณโว เยน กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ฆฎิกาโร กุมฺภกาโร กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ โชติปาโล ปน มาณโว กสฺสเปน ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข, อานนฺท, ฆฎิกาโร กุมฺภกาโร กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘อยํ เม, ภเนฺต, โชติปาโล มาณโว สหาโย ปิยสหาโยฯ อิมสฺส ภควา ธมฺมํ เทเสตู’ติฯ อถ โข, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ ฆฎิการญฺจ กุมฺภการํ โชติปาลญฺจ มาณวํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ อถ โข, อานนฺท, ฆฎิกาโร จ กุมฺภกาโร โชติปาโล จ มาณโว กสฺสเปน ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุเตฺตชิตา สมฺปหํสิตา กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมิํสุฯ
285. ‘‘Atha kho, ānanda, ghaṭikāro ca kumbhakāro jotipālo ca māṇavo yena kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā ghaṭikāro kumbhakāro kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Jotipālo pana māṇavo kassapena bhagavatā arahatā sammāsambuddhena saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho, ānanda, ghaṭikāro kumbhakāro kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ etadavoca – ‘ayaṃ me, bhante, jotipālo māṇavo sahāyo piyasahāyo. Imassa bhagavā dhammaṃ desetū’ti. Atha kho, ānanda, kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho ghaṭikārañca kumbhakāraṃ jotipālañca māṇavaṃ dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi. Atha kho, ānanda, ghaṭikāro ca kumbhakāro jotipālo ca māṇavo kassapena bhagavatā arahatā sammāsambuddhena dhammiyā kathāya sandassitā samādapitā samuttejitā sampahaṃsitā kassapassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa bhāsitaṃ abhinanditvā anumoditvā uṭṭhāyāsanā kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkamiṃsu.
๒๘๖. ‘‘อถ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฎิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ – ‘อิมํ นุ ตฺวํ, สมฺม ฆฎิการ, ธมฺมํ สุณโนฺต อถ จ ปน อคารสฺมา อนคาริยํ น ปพฺพชิสฺสสี’ติ? ‘นนุ มํ, สมฺม โชติปาล, ชานาสิ, อเนฺธ ชิเณฺณ มาตาปิตโร โปเสมี’ติ? ‘เตน หิ, สมฺม ฆฎิการ, อหํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามี’ติฯ อถ โข, อานนฺท, ฆฎิกาโร จ กุมฺภกาโร โชติปาโล จ มาณโว เยน กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ เตนุปสงฺกมิํสุ ; อุปสงฺกมิตฺวา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข, อานนฺท, ฆฎิกาโร กุมฺภกาโร กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘อยํ เม, ภเนฺต, โชติปาโล มาณโว สหาโย ปิยสหาโยฯ อิมํ ภควา ปพฺพาเชตู’ติฯ อลตฺถ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํฯ
286. ‘‘Atha kho, ānanda, jotipālo māṇavo ghaṭikāraṃ kumbhakāraṃ etadavoca – ‘imaṃ nu tvaṃ, samma ghaṭikāra, dhammaṃ suṇanto atha ca pana agārasmā anagāriyaṃ na pabbajissasī’ti? ‘Nanu maṃ, samma jotipāla, jānāsi, andhe jiṇṇe mātāpitaro posemī’ti? ‘Tena hi, samma ghaṭikāra, ahaṃ agārasmā anagāriyaṃ pabbajissāmī’ti. Atha kho, ānanda, ghaṭikāro ca kumbhakāro jotipālo ca māṇavo yena kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho tenupasaṅkamiṃsu ; upasaṅkamitvā kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinno kho, ānanda, ghaṭikāro kumbhakāro kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ etadavoca – ‘ayaṃ me, bhante, jotipālo māṇavo sahāyo piyasahāyo. Imaṃ bhagavā pabbājetū’ti. Alattha kho, ānanda, jotipālo māṇavo kassapassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa santike pabbajjaṃ, alattha upasampadaṃ.
๒๘๗. ‘‘อถ โข, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ อจิรูปสมฺปเนฺน โชติปาเล มาณเว อฑฺฒมาสุปสมฺปเนฺน เวคฬิเงฺค ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน พาราณสี เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุเพฺพน จาริกํ จรมาโน เยน พาราณสี ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเย ฯ อโสฺสสิ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา – ‘กสฺสโป กิร ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ พาราณสิํ อนุปฺปโตฺต พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเย’ติฯ อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา ภทฺรานิ ภทฺรานิ ยานานิ โยชาเปตฺวา ภทฺรํ 19 ยานํ อภิรุหิตฺวา ภเทฺรหิ ภเทฺรหิ ยาเนหิ พาราณสิยา นิยฺยาสิ มหจฺจราชานุภาเวน 20 กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนายฯ ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปโจฺจโรหิตฺวา ปตฺติโกว เยน กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข, อานนฺท, กิกิํ กาสิราชานํ กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสเปน ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุเตฺตชิโต สมฺปหํสิโต กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘อธิวาเสตุ เม, ภเนฺต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆนา’ติฯ อธิวาเสสิ โข, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ ตุณฺหีภาเวนฯ อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสปสฺส ภควโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฎิยาทาเปตฺวา ปณฺฑุปุฎกสฺส 21 สาลิโน วิคตกาฬกํ อเนกสูปํ อเนกพฺยญฺชนํ, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘กาโล, ภเนฺต, นิฎฺฐิตํ ภตฺต’นฺติฯ
287. ‘‘Atha kho, ānanda, kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho acirūpasampanne jotipāle māṇave aḍḍhamāsupasampanne vegaḷiṅge yathābhirantaṃ viharitvā yena bārāṇasī tena cārikaṃ pakkāmi. Anupubbena cārikaṃ caramāno yena bārāṇasī tadavasari. Tatra sudaṃ, ānanda, kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho bārāṇasiyaṃ viharati isipatane migadāye . Assosi kho, ānanda, kikī kāsirājā – ‘kassapo kira bhagavā arahaṃ sammāsambuddho bārāṇasiṃ anuppatto bārāṇasiyaṃ viharati isipatane migadāye’ti. Atha kho, ānanda, kikī kāsirājā bhadrāni bhadrāni yānāni yojāpetvā bhadraṃ 22 yānaṃ abhiruhitvā bhadrehi bhadrehi yānehi bārāṇasiyā niyyāsi mahaccarājānubhāvena 23 kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ dassanāya. Yāvatikā yānassa bhūmi yānena gantvā yānā paccorohitvā pattikova yena kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho, ānanda, kikiṃ kāsirājānaṃ kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi. Atha kho, ānanda, kikī kāsirājā kassapena bhagavatā arahatā sammāsambuddhena dhammiyā kathāya sandassito samādapito samuttejito sampahaṃsito kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ etadavoca – ‘adhivāsetu me, bhante, bhagavā svātanāya bhattaṃ saddhiṃ bhikkhusaṅghenā’ti. Adhivāsesi kho, ānanda, kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho tuṇhībhāvena. Atha kho, ānanda, kikī kāsirājā kassapassa bhagavato sammāsambuddhassa adhivāsanaṃ viditvā uṭṭhāyāsanā kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkāmi. Atha kho, ānanda, kikī kāsirājā tassā rattiyā accayena sake nivesane paṇītaṃ khādanīyaṃ bhojanīyaṃ paṭiyādāpetvā paṇḍupuṭakassa 24 sālino vigatakāḷakaṃ anekasūpaṃ anekabyañjanaṃ, kassapassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa kālaṃ ārocāpesi – ‘kālo, bhante, niṭṭhitaṃ bhatta’nti.
๒๘๘. ‘‘อถ โข, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน กิกิสฺส กาสิรโญฺญ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิ สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆนฯ อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตเปฺปสิ สมฺปวาเรสิฯ อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ อญฺญตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘อธิวาเสตุ เม, ภเนฺต, ภควา พาราณสิยํ วสฺสาวาสํ; เอวรูปํ สงฺฆสฺส อุปฎฺฐานํ ภวิสฺสตี’ติฯ ‘อลํ, มหาราชฯ อธิวุโตฺถ เม วสฺสาวาโส’ติฯ ทุติยมฺปิ โข, อานนฺท… ตติยมฺปิ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘อธิวาเสตุ เม, ภเนฺต, ภควา พาราณสิยํ วสฺสาวาสํ; เอวรูปํ สงฺฆสฺส อุปฎฺฐานํ ภวิสฺสตี’ติฯ ‘อลํ, มหาราชฯ อธิวุโตฺถ เม วสฺสาวาโส’ติฯ อถ โข, อานนฺท, กิกิสฺส กาสิรโญฺญ ‘น เม กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ อธิวาเสติ พาราณสิยํ วสฺสาวาส’นฺติ อหุเทว อญฺญถตฺตํ , อหุ โทมนสฺสํฯ อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘อตฺถิ นุ โข, ภเนฺต, อโญฺญ โกจิ มยา อุปฎฺฐากตโร’ติ?
288. ‘‘Atha kho, ānanda, kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena kikissa kāsirañño nivesanaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi saddhiṃ bhikkhusaṅghena. Atha kho, ānanda, kikī kāsirājā buddhappamukhaṃ bhikkhusaṅghaṃ paṇītena khādanīyena bhojanīyena sahatthā santappesi sampavāresi. Atha kho, ānanda, kikī kāsirājā kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ bhuttāviṃ onītapattapāṇiṃ aññataraṃ nīcaṃ āsanaṃ gahetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho, ānanda, kikī kāsirājā kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ etadavoca – ‘adhivāsetu me, bhante, bhagavā bārāṇasiyaṃ vassāvāsaṃ; evarūpaṃ saṅghassa upaṭṭhānaṃ bhavissatī’ti. ‘Alaṃ, mahārāja. Adhivuttho me vassāvāso’ti. Dutiyampi kho, ānanda… tatiyampi kho, ānanda, kikī kāsirājā kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ etadavoca – ‘adhivāsetu me, bhante, bhagavā bārāṇasiyaṃ vassāvāsaṃ; evarūpaṃ saṅghassa upaṭṭhānaṃ bhavissatī’ti. ‘Alaṃ, mahārāja. Adhivuttho me vassāvāso’ti. Atha kho, ānanda, kikissa kāsirañño ‘na me kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho adhivāseti bārāṇasiyaṃ vassāvāsa’nti ahudeva aññathattaṃ , ahu domanassaṃ. Atha kho, ānanda, kikī kāsirājā kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ etadavoca – ‘atthi nu kho, bhante, añño koci mayā upaṭṭhākataro’ti?
‘‘‘อตฺถิ, มหาราช, เวคฬิงฺคํ นาม คามนิคโมฯ ตตฺถ ฆฎิกาโร นาม กุมฺภกาโร; โส เม อุปฎฺฐาโก อคฺคุปฎฺฐาโกฯ ตุยฺหํ โข ปน, มหาราช, น เม กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ อธิวาเสติ พาราณสิยํ วสฺสาวาสนฺติ อเตฺถว 25 อญฺญถตฺตํ, อตฺถิ โทมนสฺสํฯ ตยิทํ ฆฎิการสฺส กุมฺภการสฺส 26 นตฺถิ จ น จ ภวิสฺสติฯ ฆฎิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร พุทฺธํ สรณํ คโต, ธมฺมํ สรณํ คโต, สงฺฆํ สรณํ คโตฯ ฆฎิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร ปาณาติปาตา ปฎิวิรโต, อทินฺนาทานา ปฎิวิรโต, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฎิวิรโต, มุสาวาทา ปฎิวิรโต, สุราเมรยมชฺชปมาทฎฺฐานา ปฎิวิรโตฯ ฆฎิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร พุเทฺธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, ธเมฺม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, สเงฺฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อริยกเนฺตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโตฯ ฆฎิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร ทุเกฺข นิกฺกโงฺข, ทุกฺขสมุทเย นิกฺกโงฺข, ทุกฺขนิโรเธ นิกฺกโงฺข, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฎิปทาย นิกฺกโงฺขฯ ฆฎิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร เอกภตฺติโก พฺรหฺมจารี สีลวา กลฺยาณธโมฺมฯ ฆฎิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร นิกฺขิตฺตมณิสุวโณฺณ อเปตชาตรูปรชโต ฯ ฆฎิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร ปนฺนมุสโล น สหตฺถา ปถวิํ ขณติ 27ฯ ยํ โหติ กูลปลุคฺคํ วา มูสิกุกฺกโร 28 วา ตํ กาเชน อาหริตฺวา ภาชนํ กริตฺวา เอวมาห – ‘‘เอตฺถ โย อิจฺฉติ ตณฺฑุลปฎิภสฺตานิ 29 วา มุคฺคปฎิภสฺตานิ วา กฬายปฎิภสฺตานิ วา นิกฺขิปิตฺวา ยํ อิจฺฉติ ตํ หรตู’’ติฯ ฆฎิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร อเนฺธ ชิเณฺณ มาตาปิตโร โปเสติฯ ฆฎิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธโมฺม ตสฺมา โลกาฯ
‘‘‘Atthi, mahārāja, vegaḷiṅgaṃ nāma gāmanigamo. Tattha ghaṭikāro nāma kumbhakāro; so me upaṭṭhāko aggupaṭṭhāko. Tuyhaṃ kho pana, mahārāja, na me kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho adhivāseti bārāṇasiyaṃ vassāvāsanti attheva 30 aññathattaṃ, atthi domanassaṃ. Tayidaṃ ghaṭikārassa kumbhakārassa 31 natthi ca na ca bhavissati. Ghaṭikāro kho, mahārāja, kumbhakāro buddhaṃ saraṇaṃ gato, dhammaṃ saraṇaṃ gato, saṅghaṃ saraṇaṃ gato. Ghaṭikāro kho, mahārāja, kumbhakāro pāṇātipātā paṭivirato, adinnādānā paṭivirato, kāmesumicchācārā paṭivirato, musāvādā paṭivirato, surāmerayamajjapamādaṭṭhānā paṭivirato. Ghaṭikāro kho, mahārāja, kumbhakāro buddhe aveccappasādena samannāgato, dhamme aveccappasādena samannāgato, saṅghe aveccappasādena samannāgato, ariyakantehi sīlehi samannāgato. Ghaṭikāro kho, mahārāja, kumbhakāro dukkhe nikkaṅkho, dukkhasamudaye nikkaṅkho, dukkhanirodhe nikkaṅkho, dukkhanirodhagāminiyā paṭipadāya nikkaṅkho. Ghaṭikāro kho, mahārāja, kumbhakāro ekabhattiko brahmacārī sīlavā kalyāṇadhammo. Ghaṭikāro kho, mahārāja, kumbhakāro nikkhittamaṇisuvaṇṇo apetajātarūparajato . Ghaṭikāro kho, mahārāja, kumbhakāro pannamusalo na sahatthā pathaviṃ khaṇati 32. Yaṃ hoti kūlapaluggaṃ vā mūsikukkaro 33 vā taṃ kājena āharitvā bhājanaṃ karitvā evamāha – ‘‘ettha yo icchati taṇḍulapaṭibhastāni 34 vā muggapaṭibhastāni vā kaḷāyapaṭibhastāni vā nikkhipitvā yaṃ icchati taṃ haratū’’ti. Ghaṭikāro kho, mahārāja, kumbhakāro andhe jiṇṇe mātāpitaro poseti. Ghaṭikāro kho, mahārāja, kumbhakāro pañcannaṃ orambhāgiyānaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā opapātiko tattha parinibbāyī anāvattidhammo tasmā lokā.
๒๘๙. ‘‘‘เอกมิทาหํ , มหาราช, สมยํ เวคฬิเงฺค นาม คามนิคเม วิหรามิฯ อถ ขฺวาหํ, มหาราช, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ฆฎิการสฺส กุมฺภการสฺส มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิํ; อุปสงฺกมิตฺวา ฆฎิการสฺส กุมฺภการสฺส มาตาปิตโร เอตทโวจํ – ‘‘หนฺท, โก นุ โข อยํ ภคฺคโว คโต’’ติ? ‘‘นิกฺขโนฺต โข เต, ภเนฺต, อุปฎฺฐาโก อโนฺตกุมฺภิยา โอทนํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชา’’ติฯ อถ ขฺวาหํ, มหาราช, กุมฺภิยา โอทนํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกมิํ 35ฯ อถ โข, มหาราช, ฆฎิกาโร กุมฺภกาโร เยน มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มาตาปิตโร เอตทโวจ – ‘‘โก กุมฺภิยา โอทนํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกโนฺต’’ติ? ‘‘กสฺสโป, ตาต, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ กุมฺภิยา โอทนํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกโนฺต’’ติ? อถ โข, มหาราช, ฆฎิการสฺส กุมฺภการสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ เอวํ อภิวิสฺสโตฺถ’’ติฯ อถ โข, มหาราช, ฆฎิการํ กุมฺภการํ อฑฺฒมาสํ ปีติสุขํ น วิชหติ 36, สตฺตาหํ มาตาปิตูนํฯ
289. ‘‘‘Ekamidāhaṃ , mahārāja, samayaṃ vegaḷiṅge nāma gāmanigame viharāmi. Atha khvāhaṃ, mahārāja, pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena ghaṭikārassa kumbhakārassa mātāpitaro tenupasaṅkamiṃ; upasaṅkamitvā ghaṭikārassa kumbhakārassa mātāpitaro etadavocaṃ – ‘‘handa, ko nu kho ayaṃ bhaggavo gato’’ti? ‘‘Nikkhanto kho te, bhante, upaṭṭhāko antokumbhiyā odanaṃ gahetvā pariyogā sūpaṃ gahetvā paribhuñjā’’ti. Atha khvāhaṃ, mahārāja, kumbhiyā odanaṃ gahetvā pariyogā sūpaṃ gahetvā paribhuñjitvā uṭṭhāyāsanā pakkamiṃ 37. Atha kho, mahārāja, ghaṭikāro kumbhakāro yena mātāpitaro tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā mātāpitaro etadavoca – ‘‘ko kumbhiyā odanaṃ gahetvā pariyogā sūpaṃ gahetvā paribhuñjitvā uṭṭhāyāsanā pakkanto’’ti? ‘‘Kassapo, tāta, bhagavā arahaṃ sammāsambuddho kumbhiyā odanaṃ gahetvā pariyogā sūpaṃ gahetvā paribhuñjitvā uṭṭhāyāsanā pakkanto’’ti? Atha kho, mahārāja, ghaṭikārassa kumbhakārassa etadahosi – ‘‘lābhā vata me, suladdhaṃ vata me, yassa me kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho evaṃ abhivissattho’’ti. Atha kho, mahārāja, ghaṭikāraṃ kumbhakāraṃ aḍḍhamāsaṃ pītisukhaṃ na vijahati 38, sattāhaṃ mātāpitūnaṃ.
๒๙๐. ‘‘‘เอกมิทาหํ, มหาราช, สมยํ ตเตฺถว เวคฬิเงฺค นาม คามนิคเม วิหรามิฯ อถ ขฺวาหํ, มหาราช, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ฆฎิการสฺส กุมฺภการสฺส มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิํ; อุปสงฺกมิตฺวา ฆฎิการสฺส กุมฺภการสฺส มาตาปิตโร เอตทโวจํ – ‘‘หนฺท, โก นุ โข อยํ ภคฺคโว คโต’’ติ? ‘‘นิกฺขโนฺต โข เต, ภเนฺต, อุปฎฺฐาโก อโนฺต กโฬปิยา กุมฺมาสํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชา’’ติฯ อถ ขฺวาหํ, มหาราช, กโฬปิยา กุมฺมาสํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกมิํฯ อถ โข, มหาราช, ฆฎิกาโร กุมฺภกาโร เยน มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มาตาปิตโร เอตทโวจ – ‘‘โก กโฬปิยา กุมฺมาสํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกโนฺต’’ติ? ‘‘กสฺสโป, ตาต, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ กโฬปิยา กุมฺมาสํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกโนฺต’’ติฯ อถ โข, มหาราช, ฆฎิการสฺส กุมฺภการสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ เอวํ อภิวิสฺสโตฺถ’’ติฯ อถ โข, มหาราช, ฆฎิการํ กุมฺภการํ อฑฺฒมาสํ ปีติสุขํ น วิชหติ, สตฺตาหํ มาตาปิตูนํฯ
290. ‘‘‘Ekamidāhaṃ, mahārāja, samayaṃ tattheva vegaḷiṅge nāma gāmanigame viharāmi. Atha khvāhaṃ, mahārāja, pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena ghaṭikārassa kumbhakārassa mātāpitaro tenupasaṅkamiṃ; upasaṅkamitvā ghaṭikārassa kumbhakārassa mātāpitaro etadavocaṃ – ‘‘handa, ko nu kho ayaṃ bhaggavo gato’’ti? ‘‘Nikkhanto kho te, bhante, upaṭṭhāko anto kaḷopiyā kummāsaṃ gahetvā pariyogā sūpaṃ gahetvā paribhuñjā’’ti. Atha khvāhaṃ, mahārāja, kaḷopiyā kummāsaṃ gahetvā pariyogā sūpaṃ gahetvā paribhuñjitvā uṭṭhāyāsanā pakkamiṃ. Atha kho, mahārāja, ghaṭikāro kumbhakāro yena mātāpitaro tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā mātāpitaro etadavoca – ‘‘ko kaḷopiyā kummāsaṃ gahetvā pariyogā sūpaṃ gahetvā paribhuñjitvā uṭṭhāyāsanā pakkanto’’ti? ‘‘Kassapo, tāta, bhagavā arahaṃ sammāsambuddho kaḷopiyā kummāsaṃ gahetvā pariyogā sūpaṃ gahetvā paribhuñjitvā uṭṭhāyāsanā pakkanto’’ti. Atha kho, mahārāja, ghaṭikārassa kumbhakārassa etadahosi – ‘‘lābhā vata me, suladdhaṃ vata me, yassa me kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho evaṃ abhivissattho’’ti. Atha kho, mahārāja, ghaṭikāraṃ kumbhakāraṃ aḍḍhamāsaṃ pītisukhaṃ na vijahati, sattāhaṃ mātāpitūnaṃ.
๒๙๑. ‘‘‘เอกมิทาหํ, มหาราช, สมยํ ตเตฺถว เวคฬิเงฺค นาม คามนิคเม วิหรามิฯ เตน โข ปน สมเยน กุฎิ 39 โอวสฺสติฯ อถ ขฺวาหํ, มหาราช, ภิกฺขู อามเนฺตสิํ – ‘‘คจฺฉถ, ภิกฺขเว, ฆฎิการสฺส กุมฺภการสฺส นิเวสเน ติณํ ชานาถา’’ติฯ เอวํ วุเตฺต, มหาราช, เต ภิกฺขู มํ เอตทโวจุํ – ‘‘นตฺถิ โข, ภเนฺต, ฆฎิการสฺส กุมฺภการสฺส นิเวสเน ติณํ, อตฺถิ จ ขฺวาสฺส อาเวสเน 40 ติณจฺฉทน’’ 41 นฺติฯ ‘‘คจฺฉถ, ภิกฺขเว, ฆฎิการสฺส กุมฺภการสฺส อาเวสนํ อุตฺติณํ กโรถา’’ติฯ อถ โข เต, มหาราช, ภิกฺขู ฆฎิการสฺส กุมฺภการสฺส อาเวสนํ อุตฺติณมกํสุฯ อถ โข, มหาราช, ฆฎิการสฺส กุมฺภการสฺส มาตาปิตโร เต ภิกฺขู เอตทโวจุํ – ‘‘เก อาเวสนํ อุตฺติณํ กโรนฺตี’’ติ? ‘‘ภิกฺขู, ภคินิ, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส กุฎิ โอวสฺสตี’’ติฯ ‘‘หรถ, ภเนฺต, หรถ, ภทฺรมุขา’’ติฯ อถ โข, มหาราช, ฆฎิกาโร กุมฺภกาโร เยน มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มาตาปิตโร เอตทโวจ – ‘‘เก อาเวสนํ อุตฺติณมกํสู’’ติ? ‘‘ภิกฺขู, ตาต, กสฺสปสฺส กิร ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส กุฎิ โอวสฺสตี’’ติฯ อถ โข, มหาราช, ฆฎิการสฺส กุมฺภการสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ เอวํ อภิวิสฺสโตฺถ’’ติฯ อถ โข, มหาราช ฆฎิการํ กุมฺภการํ อฑฺฒมาสํ ปีติสุขํ น วิชหติ, สตฺตาหํ มาตาปิตูนํฯ อถ โข, มหาราช, อาเวสนํ สพฺพนฺตํ เตมาสํ อากาสจฺฉทนํ อฎฺฐาสิ, น เทโวติวสฺสิ 42ฯ เอวรูโป จ, มหาราช, ฆฎิกาโร กุมฺภกาโร’ติฯ ‘ลาภา, ภเนฺต, ฆฎิการสฺส กุมฺภการสฺส, สุลทฺธา, ภเนฺต, ฆฎิการสฺส กุมฺภการสฺส ยสฺส ภควา เอวํ อภิวิสฺสโตฺถ’’’ติฯ
291. ‘‘‘Ekamidāhaṃ, mahārāja, samayaṃ tattheva vegaḷiṅge nāma gāmanigame viharāmi. Tena kho pana samayena kuṭi 43 ovassati. Atha khvāhaṃ, mahārāja, bhikkhū āmantesiṃ – ‘‘gacchatha, bhikkhave, ghaṭikārassa kumbhakārassa nivesane tiṇaṃ jānāthā’’ti. Evaṃ vutte, mahārāja, te bhikkhū maṃ etadavocuṃ – ‘‘natthi kho, bhante, ghaṭikārassa kumbhakārassa nivesane tiṇaṃ, atthi ca khvāssa āvesane 44 tiṇacchadana’’ 45 nti. ‘‘Gacchatha, bhikkhave, ghaṭikārassa kumbhakārassa āvesanaṃ uttiṇaṃ karothā’’ti. Atha kho te, mahārāja, bhikkhū ghaṭikārassa kumbhakārassa āvesanaṃ uttiṇamakaṃsu. Atha kho, mahārāja, ghaṭikārassa kumbhakārassa mātāpitaro te bhikkhū etadavocuṃ – ‘‘ke āvesanaṃ uttiṇaṃ karontī’’ti? ‘‘Bhikkhū, bhagini, kassapassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa kuṭi ovassatī’’ti. ‘‘Haratha, bhante, haratha, bhadramukhā’’ti. Atha kho, mahārāja, ghaṭikāro kumbhakāro yena mātāpitaro tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā mātāpitaro etadavoca – ‘‘ke āvesanaṃ uttiṇamakaṃsū’’ti? ‘‘Bhikkhū, tāta, kassapassa kira bhagavato arahato sammāsambuddhassa kuṭi ovassatī’’ti. Atha kho, mahārāja, ghaṭikārassa kumbhakārassa etadahosi – ‘‘lābhā vata me, suladdhaṃ vata me, yassa me kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho evaṃ abhivissattho’’ti. Atha kho, mahārāja ghaṭikāraṃ kumbhakāraṃ aḍḍhamāsaṃ pītisukhaṃ na vijahati, sattāhaṃ mātāpitūnaṃ. Atha kho, mahārāja, āvesanaṃ sabbantaṃ temāsaṃ ākāsacchadanaṃ aṭṭhāsi, na devotivassi 46. Evarūpo ca, mahārāja, ghaṭikāro kumbhakāro’ti. ‘Lābhā, bhante, ghaṭikārassa kumbhakārassa, suladdhā, bhante, ghaṭikārassa kumbhakārassa yassa bhagavā evaṃ abhivissattho’’’ti.
๒๙๒. ‘‘อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา ฆฎิการสฺส กุมฺภการสฺส ปญฺจมตฺตานิ ตณฺฑุลวาหสตานิ ปาเหสิ ปณฺฑุปุฎกสฺส สาลิโน ตทุปิยญฺจ สูเปยฺยํฯ อถ โข เต, อานนฺท, ราชปุริสา ฆฎิการํ กุมฺภการํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจุํ – ‘อิมานิ โข, ภเนฺต, ปญฺจมตฺตานิ ตณฺฑุลวาหสตานิ กิกินา กาสิราเชน ปหิตานิ ปณฺฑุปุฎกสฺส สาลิโน ตทุปิยญฺจ สูเปยฺยํฯ ตานิ, ภเนฺต, ปฎิคฺคณฺหถา’ติ 47ฯ ‘ราชา โข พหุกิโจฺจ พหุกรณีโยฯ อลํ เม! รโญฺญว โหตู’ติฯ สิยา โข ปน เต, อานนฺท, เอวมสฺส – ‘อโญฺญ นูน เตน สมเยน โชติปาโล มาณโว อโหสี’ติฯ น โข ปเนตํ, อานนฺท, เอวํ ทฎฺฐพฺพํฯ อหํ เตน สมเยน โชติปาโล มาณโว อโหสิ’’นฺติฯ
292. ‘‘Atha kho, ānanda, kikī kāsirājā ghaṭikārassa kumbhakārassa pañcamattāni taṇḍulavāhasatāni pāhesi paṇḍupuṭakassa sālino tadupiyañca sūpeyyaṃ. Atha kho te, ānanda, rājapurisā ghaṭikāraṃ kumbhakāraṃ upasaṅkamitvā etadavocuṃ – ‘imāni kho, bhante, pañcamattāni taṇḍulavāhasatāni kikinā kāsirājena pahitāni paṇḍupuṭakassa sālino tadupiyañca sūpeyyaṃ. Tāni, bhante, paṭiggaṇhathā’ti 48. ‘Rājā kho bahukicco bahukaraṇīyo. Alaṃ me! Raññova hotū’ti. Siyā kho pana te, ānanda, evamassa – ‘añño nūna tena samayena jotipālo māṇavo ahosī’ti. Na kho panetaṃ, ānanda, evaṃ daṭṭhabbaṃ. Ahaṃ tena samayena jotipālo māṇavo ahosi’’nti.
อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน อายสฺมา อานโนฺท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ
Idamavoca bhagavā. Attamano āyasmā ānando bhagavato bhāsitaṃ abhinandīti.
ฆฎิการสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ ปฐมํฯ
Ghaṭikārasuttaṃ niṭṭhitaṃ paṭhamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. ฆฎิการสุตฺตวณฺณนา • 1. Ghaṭikārasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๑. ฆฎิการสุตฺตวณฺณนา • 1. Ghaṭikārasuttavaṇṇanā