Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā)

    ๔. โฆฎมุขสุตฺตวณฺณนา

    4. Ghoṭamukhasuttavaṇṇanā

    ๔๑๒. เอวํ เม สุตนฺติ โฆฎมุขสุตฺตํฯ ตตฺถ เขมิยมฺพวเนติ เอวํนามเก อมฺพวเนฯ ธมฺมิโก ปริพฺพโชติ ธมฺมิกา ปพฺพชฺชาฯ อทสฺสนาติ ตุมฺหาทิสานํ วา ปณฺฑิตานํ อทสฺสเนนฯ โย วา ปเนตฺถ ธโมฺมติ โย วา ปน เอตฺถ ธโมฺม สภาโว, ตเสฺสว วา อทสฺสเนนฯ อิมินา ‘‘อมฺหากํ กถา อปฺปมาณํ, ธโมฺมว ปมาณ’’นฺติ ทเสฺสติฯ ตโต เถโร ‘‘นวอุโปสถาคาเร วิย พหุนา กเมฺมน อิธ ภวิตพฺพ’’นฺติ จิเนฺตตฺวา จงฺกมา โอรุยฺห ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา นิสีทิฯ ตํ ทเสฺสตุํ เอวํ วุเตฺตติอาทิ วุตฺตํฯ

    412.Evaṃme sutanti ghoṭamukhasuttaṃ. Tattha khemiyambavaneti evaṃnāmake ambavane. Dhammiko paribbajoti dhammikā pabbajjā. Adassanāti tumhādisānaṃ vā paṇḍitānaṃ adassanena. Yo vā panettha dhammoti yo vā pana ettha dhammo sabhāvo, tasseva vā adassanena. Iminā ‘‘amhākaṃ kathā appamāṇaṃ, dhammova pamāṇa’’nti dasseti. Tato thero ‘‘navauposathāgāre viya bahunā kammena idha bhavitabba’’nti cintetvā caṅkamā oruyha paṇṇasālaṃ pavisitvā nisīdi. Taṃ dassetuṃ evaṃ vuttetiādi vuttaṃ.

    ๔๑๓. จตฺตาโรเม พฺราหฺมณาติ เถรสฺส กิร เอตทโหสิ – ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ‘ธมฺมิกํ ปพฺพชฺชํ อุปคโต สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา นตฺถี’ติ วทติฯ อิมสฺส จตฺตาโร ปุคฺคเล เทฺว จ ปริสา ทเสฺสตฺวา ‘จตุตฺถํ ปุคฺคลํ กตราย ปริสาย พหุลํ ปสฺสสี’ติ ปุจฺฉิสฺสามิ, ชานมาโน ‘อนาคาริยปริสาย’นฺติ วกฺขติฯ เอวเมตํ สกมุเขเนว ‘ธมฺมิโก ปริพฺพโช อตฺถี’ติ วทาเปสฺสามี’’ติ อิมํ เทสนํ อารภิฯ

    413.Cattārome brāhmaṇāti therassa kira etadahosi – ‘‘ayaṃ brāhmaṇo ‘dhammikaṃ pabbajjaṃ upagato samaṇo vā brāhmaṇo vā natthī’ti vadati. Imassa cattāro puggale dve ca parisā dassetvā ‘catutthaṃ puggalaṃ katarāya parisāya bahulaṃ passasī’ti pucchissāmi, jānamāno ‘anāgāriyaparisāya’nti vakkhati. Evametaṃ sakamukheneva ‘dhammiko paribbajo atthī’ti vadāpessāmī’’ti imaṃ desanaṃ ārabhi.

    ๔๑๔. ตตฺถ สารตฺตรตฺตาติ สุฎฺฐุ รตฺตรตฺตาฯ สานุคฺคหา วาจา ภาสิตา สการณา วาจา ภาสิตาฯ วุตฺตเญฺหตํ มยา ‘‘อมฺหากํ กถา อปฺปมาณํ, ธโมฺมว ปมาณ’’นฺติฯ

    414. Tattha sārattarattāti suṭṭhu rattarattā. Sānuggahā vācā bhāsitā sakāraṇā vācā bhāsitā. Vuttañhetaṃ mayā ‘‘amhākaṃ kathā appamāṇaṃ, dhammova pamāṇa’’nti.

    ๔๒๑. กิํ ปน เตติ คิหิ นาม กปฺปิยมฺปิ อกปฺปิยมฺปิ วเทยฺยาติ วิเวจนตฺถํ ปุจฺฉิฯ การาเปสีติ มาเปสิฯ การาเปตฺวา จ ปน กาลํ กตฺวา สเคฺค นิพฺพโตฺตฯ เอตสฺส กิร ชานนสิเปฺป มาตรมฺปิ ปิตรมฺปิ ฆาเตตฺวา อตฺตาว ฆาเตตโพฺพติ อาคจฺฉติฯ เอตํ สิปฺปํ ชานโนฺต ฐเปตฺวา เอตํ อโญฺญ สเคฺค นิพฺพโตฺต นาม นตฺถิ, เอส ปน เถรํ อุปนิสฺสาย ปุญฺญํ กตฺวา ตตฺถ นิพฺพตฺติตฺวา จ ปน ‘‘เกนาหํ กเมฺมน อิธ นิพฺพโตฺต’’ติ อาวเชฺชตฺวา ยถาภูตํ ญตฺวา เอกทิวสํ ชิณฺณาย โภชนสาลาย ปฎิสงฺขรณตฺถํ สเงฺฆ สนฺนิปติเต มนุสฺสเวเสน อาคนฺตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘กิมตฺถํ, ภเนฺต, สโงฺฆ สนฺนิปติโต’’ติ? โภชนสาลาย ปฎิสงฺขรณตฺถนฺติฯ เกเนสา การิตาติ? โฆฎมุเขนาติฯ อิทานิ โส กุหินฺติ? กาลงฺกโตติฯ อตฺถิ ปนสฺส โกจิ ญาตโกติ? อตฺถิ เอกา ภคินีติฯ ปโกฺกสาเปถ นนฺติฯ ภิกฺขู ปโกฺกสาเปสุํฯ โส ตํ อุปสงฺกมิตฺวา – ‘‘อหํ, ตว ภาตา, โฆฎมุโข นาม อิมํ สาลํ กาเรตฺวา สเคฺค นิพฺพโตฺต, อสุเก จ อสุเก จ ฐาเน มยา ฐปิตํ ธนํ อตฺถิ, ตํ คเหตฺวา อิมญฺจ โภชนสาลํ กาเรหิ, ทารเก จ โปเสหี’’ติ วตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ วนฺทิตฺวา เวหาสํ อุปฺปติตฺวา เทวโลกเมว อคมาสิฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ

    421.Kiṃ pana teti gihi nāma kappiyampi akappiyampi vadeyyāti vivecanatthaṃ pucchi. Kārāpesīti māpesi. Kārāpetvā ca pana kālaṃ katvā sagge nibbatto. Etassa kira jānanasippe mātarampi pitarampi ghātetvā attāva ghātetabboti āgacchati. Etaṃ sippaṃ jānanto ṭhapetvā etaṃ añño sagge nibbatto nāma natthi, esa pana theraṃ upanissāya puññaṃ katvā tattha nibbattitvā ca pana ‘‘kenāhaṃ kammena idha nibbatto’’ti āvajjetvā yathābhūtaṃ ñatvā ekadivasaṃ jiṇṇāya bhojanasālāya paṭisaṅkharaṇatthaṃ saṅghe sannipatite manussavesena āgantvā pucchi – ‘‘kimatthaṃ, bhante, saṅgho sannipatito’’ti? Bhojanasālāya paṭisaṅkharaṇatthanti. Kenesā kāritāti? Ghoṭamukhenāti. Idāni so kuhinti? Kālaṅkatoti. Atthi panassa koci ñātakoti? Atthi ekā bhaginīti. Pakkosāpetha nanti. Bhikkhū pakkosāpesuṃ. So taṃ upasaṅkamitvā – ‘‘ahaṃ, tava bhātā, ghoṭamukho nāma imaṃ sālaṃ kāretvā sagge nibbatto, asuke ca asuke ca ṭhāne mayā ṭhapitaṃ dhanaṃ atthi, taṃ gahetvā imañca bhojanasālaṃ kārehi, dārake ca posehī’’ti vatvā bhikkhusaṅghaṃ vanditvā vehāsaṃ uppatitvā devalokameva agamāsi. Sesaṃ sabbattha uttānamevāti.

    ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฎฺฐกถาย

    Papañcasūdaniyā majjhimanikāyaṭṭhakathāya

    โฆฎมุขสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Ghoṭamukhasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๔. โฆฎมุขสุตฺตํ • 4. Ghoṭamukhasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๔. โฆฎมุขสุตฺตวณฺณนา • 4. Ghoṭamukhasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact