Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi |
๓. คิหิปพฺพชิตสมฺมาปฎิปตฺติปโญฺห
3. Gihipabbajitasammāpaṭipattipañho
[๓] ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ภาสิตเมฺปตํ ภควตา ‘คิหิโน วาหํ, ภิกฺขเว, ปพฺพชิตสฺส วา สมฺมาปฎิปตฺติํ วเณฺณมิ, คิหี วา ภิกฺขเว ปพฺพชิโต วา สมฺมาปฎิปโนฺน สมฺมาปฎิปตฺตาธิกรณเหตุ อาราธโก โหติ ญายํ ธมฺมํ กุสล’’นฺติฯ ยทิ, ภเนฺต นาคเสน, คิหี โอทาตวสโน กามโภคี ปุตฺตทารสมฺพาธสยนํ อชฺฌาวสโนฺต กาสิกจนฺทนํ ปจฺจนุโภโนฺต มาลาคนฺธวิเลปนํ ธาเรโนฺต ชาตรูปรชตํ สาทิยโนฺต มณิกุณฺฑล 1 วิจิตฺตโมฬิพโทฺธ สมฺมาปฎิปโนฺน อาราธโก โหติ ญายํ ธมฺมํ กุสลํ, ปพฺพชิโตปิ ภณฺฑุกาสาววตฺถวสโน ปรปิณฺฑมชฺฌุปคโต จตูสุ สีลกฺขเนฺธสุ สมฺมาปริปูรการี ทิยเฑฺฒสุ สิกฺขาปทสเตสุ สมาทาย วตฺตโนฺต เตรสสุ ธุตคุเณสุ อนวเสสํ วตฺตโนฺต สมฺมาปฎิปโนฺน อาราธโก โหติ ญายํ ธมฺมํ กุสลํฯ ตตฺถ, ภเนฺต, โก วิเสโส คิหิโน วา ปพฺพชิตสฺส วา? อผลํ โหติ ตโปกมฺมํ, นิรตฺถกา ปพฺพชฺชาฯ วญฺฌา สิกฺขาปทโคปนา, โมฆํ ธุตคุณสมาทานํ, กิํ ตตฺถ ทุกฺขมนุจิเณฺณน, นนุ นาม สุเขเนว สุขํ อธิคนฺตพฺพ’’นฺติฯ
[3] ‘‘Bhante nāgasena, bhāsitampetaṃ bhagavatā ‘gihino vāhaṃ, bhikkhave, pabbajitassa vā sammāpaṭipattiṃ vaṇṇemi, gihī vā bhikkhave pabbajito vā sammāpaṭipanno sammāpaṭipattādhikaraṇahetu ārādhako hoti ñāyaṃ dhammaṃ kusala’’nti. Yadi, bhante nāgasena, gihī odātavasano kāmabhogī puttadārasambādhasayanaṃ ajjhāvasanto kāsikacandanaṃ paccanubhonto mālāgandhavilepanaṃ dhārento jātarūparajataṃ sādiyanto maṇikuṇḍala 2 vicittamoḷibaddho sammāpaṭipanno ārādhako hoti ñāyaṃ dhammaṃ kusalaṃ, pabbajitopi bhaṇḍukāsāvavatthavasano parapiṇḍamajjhupagato catūsu sīlakkhandhesu sammāparipūrakārī diyaḍḍhesu sikkhāpadasatesu samādāya vattanto terasasu dhutaguṇesu anavasesaṃ vattanto sammāpaṭipanno ārādhako hoti ñāyaṃ dhammaṃ kusalaṃ. Tattha, bhante, ko viseso gihino vā pabbajitassa vā? Aphalaṃ hoti tapokammaṃ, niratthakā pabbajjā. Vañjhā sikkhāpadagopanā, moghaṃ dhutaguṇasamādānaṃ, kiṃ tattha dukkhamanuciṇṇena, nanu nāma sukheneva sukhaṃ adhigantabba’’nti.
‘‘ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, ภควตา ‘คิหิโน วาหํ, ภิกฺขเว, ปพฺพชิตสฺส วา สมฺมาปฎิปตฺติํ วเณฺณมิ, คิหี วา, ภิกฺขเว, ปพฺพชิโต วา สมฺมาปฎิปโนฺน สมฺมาปฎิปตฺตาธิกรณเหตุ อาราธโก โหติ ญายํ ธมฺมํ กุสล’’นฺติฯ เอวเมตํ, มหาราช, สมฺมาปฎิปโนฺนว เสโฎฺฐ, ปพฺพชิโตปิ, มหาราช, ‘ปพฺพชิโตมฺหี’ติ น สมฺมา ปฎิปเชฺชยฺย, อถ โข โส อารกาว สามญฺญา, อารกาว พฺรหฺมญฺญา, ปเคว คิหี โอทาตวสโนฯ คิหีปิ, มหาราช, สมฺมาปฎิปโนฺน อาราธโก โหติ ญายํ ธมฺมํ กุสลํ, ปพฺพชิโตปิ, มหาราช, สมฺมาปฎิปโนฺน อาราธโก โหติ ญายํ ธมฺมํ กุสลํฯ
‘‘Bhāsitampetaṃ, mahārāja, bhagavatā ‘gihino vāhaṃ, bhikkhave, pabbajitassa vā sammāpaṭipattiṃ vaṇṇemi, gihī vā, bhikkhave, pabbajito vā sammāpaṭipanno sammāpaṭipattādhikaraṇahetu ārādhako hoti ñāyaṃ dhammaṃ kusala’’nti. Evametaṃ, mahārāja, sammāpaṭipannova seṭṭho, pabbajitopi, mahārāja, ‘pabbajitomhī’ti na sammā paṭipajjeyya, atha kho so ārakāva sāmaññā, ārakāva brahmaññā, pageva gihī odātavasano. Gihīpi, mahārāja, sammāpaṭipanno ārādhako hoti ñāyaṃ dhammaṃ kusalaṃ, pabbajitopi, mahārāja, sammāpaṭipanno ārādhako hoti ñāyaṃ dhammaṃ kusalaṃ.
‘‘อปิ จ โข, มหาราช, ปพฺพชิโตว สามญฺญสฺส อิสฺสโร อธิปติ; ปพฺพชฺชา, มหาราช, พหุคุณา อเนกคุณา อปฺปมาณคุณา, น สกฺกา ปพฺพชฺชาย คุณํ ปริมาณํ กาตุํฯ
‘‘Api ca kho, mahārāja, pabbajitova sāmaññassa issaro adhipati; pabbajjā, mahārāja, bahuguṇā anekaguṇā appamāṇaguṇā, na sakkā pabbajjāya guṇaṃ parimāṇaṃ kātuṃ.
‘‘ยถา, มหาราช, กามททสฺส มณิรตนสฺส น สกฺกา ธเนน อโคฺฆ ปริมาณํ กาตุํ ‘เอตฺตกํ มณิรตนสฺส มูล’นฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, ปพฺพชฺชา พหุคุณา อเนกคุณา อปฺปมาณคุณา, น สกฺกา ปพฺพชฺชาย คุณํ ปริมาณํ กาตุํฯ
‘‘Yathā, mahārāja, kāmadadassa maṇiratanassa na sakkā dhanena aggho parimāṇaṃ kātuṃ ‘ettakaṃ maṇiratanassa mūla’nti, evameva kho, mahārāja, pabbajjā bahuguṇā anekaguṇā appamāṇaguṇā, na sakkā pabbajjāya guṇaṃ parimāṇaṃ kātuṃ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, มหาสมุเทฺท อูมิโย น สกฺกา ปริมาณํ กาตุํ ‘เอตฺตกา มหาสมุเทฺท อูมิโย’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, ปพฺพชฺชา พหุคุณา อเนกคุณา อปฺปมาณคุณา, น สกฺกา ปพฺพชฺชาย คุณํ ปริมาณํ กาตุํฯ
‘‘Yathā vā pana, mahārāja, mahāsamudde ūmiyo na sakkā parimāṇaṃ kātuṃ ‘ettakā mahāsamudde ūmiyo’ti, evameva kho, mahārāja, pabbajjā bahuguṇā anekaguṇā appamāṇaguṇā, na sakkā pabbajjāya guṇaṃ parimāṇaṃ kātuṃ.
‘‘ปพฺพชิตสฺส, มหาราช, ยํ กิญฺจิ กรณียํ, สพฺพํ ตํ ขิปฺปเมว สมิชฺฌติ โน จิรรตฺตายฯ กิํ การณา? ปพฺพชิโต, มหาราช, อปฺปิโจฺฉ โหติ สนฺตุโฎฺฐ ปวิวิโตฺต อสํสโฎฺฐ อารทฺธวีริโย นิราลโย อนิเกโต ปริปุณฺณสีโล สเลฺลขิตาจาโร ธุตปฺปฎิปตฺติกุสโล โหติ, ตํ การณา ปพฺพชิตสฺส ยํ กิญฺจิ กรณียํ, สพฺพํ ตํ ขิปฺปเมว สมิชฺฌติ โน จิรรตฺตายฯ ยถา, มหาราช, นิคฺคณฺฐิสมสุโธตอุชุวิมลนาราโจ สุสชฺชิโต สมฺมา วหติ, เอวเมว โข, มหาราช, ปพฺพชิตสฺส ยํ กิญฺจิ กรณียํ, สพฺพํ ตํ ขิปฺปเมว สมิชฺฌติ โน จิรรตฺตายา’’ติฯ ‘‘สาธุ, ภเนฺต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฎิจฺฉามี’’ติฯ
‘‘Pabbajitassa, mahārāja, yaṃ kiñci karaṇīyaṃ, sabbaṃ taṃ khippameva samijjhati no cirarattāya. Kiṃ kāraṇā? Pabbajito, mahārāja, appiccho hoti santuṭṭho pavivitto asaṃsaṭṭho āraddhavīriyo nirālayo aniketo paripuṇṇasīlo sallekhitācāro dhutappaṭipattikusalo hoti, taṃ kāraṇā pabbajitassa yaṃ kiñci karaṇīyaṃ, sabbaṃ taṃ khippameva samijjhati no cirarattāya. Yathā, mahārāja, niggaṇṭhisamasudhotaujuvimalanārāco susajjito sammā vahati, evameva kho, mahārāja, pabbajitassa yaṃ kiñci karaṇīyaṃ, sabbaṃ taṃ khippameva samijjhati no cirarattāyā’’ti. ‘‘Sādhu, bhante nāgasena, evametaṃ tathā sampaṭicchāmī’’ti.
คิหิปพฺพชิตสมฺมาปฎิปตฺติปโญฺห ตติโยฯ
Gihipabbajitasammāpaṭipattipañho tatiyo.
Footnotes: