Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๑๐. คิลานทสฺสนสุตฺตํ
10. Gilānadassanasuttaṃ
๓๕๒. เตน โข ปน สมเยน จิโตฺต คหปติ อาพาธิโก โหติ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโนฯ อถ โข สมฺพหุลา อารามเทวตา วนเทวตา รุกฺขเทวตา โอสธิติณวนปฺปตีสุ อธิวตฺถา เทวตา สงฺคมฺม สมาคมฺม จิตฺตํ คหปติํ เอตทโวจุํ – ‘‘ปณิเธหิ, คหปติ, อนาคตมทฺธานํ ราชา อสฺสํ จกฺกวตฺตี’’ติฯ
352. Tena kho pana samayena citto gahapati ābādhiko hoti dukkhito bāḷhagilāno. Atha kho sambahulā ārāmadevatā vanadevatā rukkhadevatā osadhitiṇavanappatīsu adhivatthā devatā saṅgamma samāgamma cittaṃ gahapatiṃ etadavocuṃ – ‘‘paṇidhehi, gahapati, anāgatamaddhānaṃ rājā assaṃ cakkavattī’’ti.
เอวํ วุเตฺต, จิโตฺต คหปติ ตา อารามเทวตา วนเทวตา รุกฺขเทวตา โอสธิติณวนปฺปตีสุ อธิวตฺถา เทวตา เอตทโวจ – ‘‘ตมฺปิ อนิจฺจํ, ตมฺปิ อทฺธุวํ, ตมฺปิ ปหาย คมนีย’’นฺติฯ เอวํ วุเตฺต, จิตฺตสฺส คหปติโน มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา จิตฺตํ คหปติํ เอตทโวจุํ – ‘‘สติํ, อยฺยปุตฺต, อุปฎฺฐเปหิ, มา วิปฺปลปี’’ติฯ ‘‘กิํ ตาหํ วทามิ ยํ มํ ตุเมฺห เอวํ วเทถ – ‘สติํ, อยฺยปุตฺต, อุปฎฺฐเปหิ, มา วิปฺปลปี’’’ติ? ‘‘เอวํ โข ตฺวํ, อยฺยปุตฺต, วเทสิ – ‘ตมฺปิ อนิจฺจํ, ตมฺปิ อทฺธุวํ, ตมฺปิ ปหาย คมนีย’’’นฺติฯ ‘‘ตถา หิ ปน มํ อารามเทวตา วนเทวตา รุกฺขเทวตา โอสธิติณวนปฺปตีสุ อธิวตฺถา เทวตา เอวมาหํสุ – ‘ปณิเธหิ, คหปติ, อนาคตมทฺธานํ ราชา อสฺสํ จกฺกวตฺตี’ติฯ ตาหํ เอวํ วทามิ – ‘ตมฺปิ อนิจฺจํ…เป.… ตมฺปิ ปหาย คมนีย’’’นฺติฯ ‘‘กิํ ปน ตา, อยฺยปุตฺต, อารามเทวตา วนเทวตา รุกฺขเทวตา โอสธิติณวนปฺปตีสุ อธิวตฺถา เทวตา อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา เอวมาหํสุ – ‘ปณิเธหิ, คหปติ, อนาคตมทฺธานํ ราชา อสฺสํ จกฺกวตฺตี’’’ติ? ‘‘ตาสํ โข อารามเทวตานํ วนเทวตานํ รุกฺขเทวตานํ โอสธิติณวนปฺปตีสุ อธิวตฺถานํ เทวตานํ เอวํ โหติ – ‘อยํ โข จิโตฺต คหปติ, สีลวา 1 กลฺยาณธโมฺมฯ สเจ ปณิทหิสฺสติ – อนาคตมทฺธานํ ราชา อสฺสํ จกฺกวตฺตี’ติ, ‘ตสฺส โข อยํ อิชฺฌิสฺสติ, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา ธมฺมิโก ธมฺมิกํ ผลํ อนุปสฺสตี’ติฯ อิมํ โข ตา อารามเทวตา วนเทวตา รุกฺขเทวตา โอสธิติณวนปฺปตีสุ อธิวตฺถา เทวตา อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา เอวมาหํสุ – ‘ปณิเธหิ, คหปติ, อนาคตมทฺธานํ ราชา อสฺสํ จกฺกวตฺตี’ติฯ ตาหํ เอวํ วทามิ – ‘ตมฺปิ อนิจฺจํ, ตมฺปิ อทฺธุวํ, ตมฺปิ ปหาย คมนีย’’’นฺติฯ
Evaṃ vutte, citto gahapati tā ārāmadevatā vanadevatā rukkhadevatā osadhitiṇavanappatīsu adhivatthā devatā etadavoca – ‘‘tampi aniccaṃ, tampi addhuvaṃ, tampi pahāya gamanīya’’nti. Evaṃ vutte, cittassa gahapatino mittāmaccā ñātisālohitā cittaṃ gahapatiṃ etadavocuṃ – ‘‘satiṃ, ayyaputta, upaṭṭhapehi, mā vippalapī’’ti. ‘‘Kiṃ tāhaṃ vadāmi yaṃ maṃ tumhe evaṃ vadetha – ‘satiṃ, ayyaputta, upaṭṭhapehi, mā vippalapī’’’ti? ‘‘Evaṃ kho tvaṃ, ayyaputta, vadesi – ‘tampi aniccaṃ, tampi addhuvaṃ, tampi pahāya gamanīya’’’nti. ‘‘Tathā hi pana maṃ ārāmadevatā vanadevatā rukkhadevatā osadhitiṇavanappatīsu adhivatthā devatā evamāhaṃsu – ‘paṇidhehi, gahapati, anāgatamaddhānaṃ rājā assaṃ cakkavattī’ti. Tāhaṃ evaṃ vadāmi – ‘tampi aniccaṃ…pe… tampi pahāya gamanīya’’’nti. ‘‘Kiṃ pana tā, ayyaputta, ārāmadevatā vanadevatā rukkhadevatā osadhitiṇavanappatīsu adhivatthā devatā atthavasaṃ sampassamānā evamāhaṃsu – ‘paṇidhehi, gahapati, anāgatamaddhānaṃ rājā assaṃ cakkavattī’’’ti? ‘‘Tāsaṃ kho ārāmadevatānaṃ vanadevatānaṃ rukkhadevatānaṃ osadhitiṇavanappatīsu adhivatthānaṃ devatānaṃ evaṃ hoti – ‘ayaṃ kho citto gahapati, sīlavā 2 kalyāṇadhammo. Sace paṇidahissati – anāgatamaddhānaṃ rājā assaṃ cakkavattī’ti, ‘tassa kho ayaṃ ijjhissati, sīlavato cetopaṇidhi visuddhattā dhammiko dhammikaṃ phalaṃ anupassatī’ti. Imaṃ kho tā ārāmadevatā vanadevatā rukkhadevatā osadhitiṇavanappatīsu adhivatthā devatā atthavasaṃ sampassamānā evamāhaṃsu – ‘paṇidhehi, gahapati, anāgatamaddhānaṃ rājā assaṃ cakkavattī’ti. Tāhaṃ evaṃ vadāmi – ‘tampi aniccaṃ, tampi addhuvaṃ, tampi pahāya gamanīya’’’nti.
‘‘เตน หิ, อยฺยปุตฺต, อเมฺหปิ โอวทาหี’’ติฯ ‘‘ตสฺมา หิ โว เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – พุเทฺธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา ภวิสฺสาม – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ วิชฺชาจรณสมฺปโนฺน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควา’ติฯ ธเมฺม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา ภวิสฺสาม – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธโมฺม สนฺทิฎฺฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตโพฺพ วิญฺญูหี’ติฯ สเงฺฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา ภวิสฺสาม – ‘สุปฺปฎิปโนฺน ภควโต สาวกสโงฺฆ, อุชุปฺปฎิปโนฺน ภควโต สาวกสโงฺฆ, ญายปฺปฎิปโนฺน ภควโต สาวกสโงฺฆ, สามีจิปฺปฎิปโนฺน ภควโต สาวกสโงฺฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฎฺฐ ปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสโงฺฆ อาหุเนโยฺย ปาหุเนโยฺย ทกฺขิเณโยฺย อญฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุญฺญเกฺขตฺตํ โลกสฺสา’ติฯ ยํ โข ปน กิญฺจิ กุเล เทยฺยธมฺมํ สพฺพํ ตํ อปฺปฎิวิภตฺตํ ภวิสฺสติ สีลวเนฺตหิ กลฺยาณธเมฺมหีติ เอวญฺหิ โว สิกฺขิตพฺพ’’นฺติฯ อถ โข จิโตฺต คหปติ มิตฺตามเจฺจ ญาติสาโลหิเต พุเทฺธ จ ธเมฺม จ สเงฺฆ จ จาเค จ สมาทเปตฺวา กาลมกาสีติฯ ทสมํฯ
‘‘Tena hi, ayyaputta, amhepi ovadāhī’’ti. ‘‘Tasmā hi vo evaṃ sikkhitabbaṃ – buddhe aveccappasādena samannāgatā bhavissāma – ‘itipi so bhagavā arahaṃ sammāsambuddho vijjācaraṇasampanno sugato lokavidū anuttaro purisadammasārathi satthā devamanussānaṃ buddho bhagavā’ti. Dhamme aveccappasādena samannāgatā bhavissāma – ‘svākkhāto bhagavatā dhammo sandiṭṭhiko akāliko ehipassiko opaneyyiko paccattaṃ veditabbo viññūhī’ti. Saṅghe aveccappasādena samannāgatā bhavissāma – ‘suppaṭipanno bhagavato sāvakasaṅgho, ujuppaṭipanno bhagavato sāvakasaṅgho, ñāyappaṭipanno bhagavato sāvakasaṅgho, sāmīcippaṭipanno bhagavato sāvakasaṅgho, yadidaṃ cattāri purisayugāni aṭṭha purisapuggalā esa bhagavato sāvakasaṅgho āhuneyyo pāhuneyyo dakkhiṇeyyo añjalikaraṇīyo anuttaraṃ puññakkhettaṃ lokassā’ti. Yaṃ kho pana kiñci kule deyyadhammaṃ sabbaṃ taṃ appaṭivibhattaṃ bhavissati sīlavantehi kalyāṇadhammehīti evañhi vo sikkhitabba’’nti. Atha kho citto gahapati mittāmacce ñātisālohite buddhe ca dhamme ca saṅghe ca cāge ca samādapetvā kālamakāsīti. Dasamaṃ.
จิตฺตสํยุตฺตํ สมตฺตํฯ
Cittasaṃyuttaṃ samattaṃ.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
สํโยชนํ เทฺว อิสิทตฺตา, มหโก กามภูปิ จ;
Saṃyojanaṃ dve isidattā, mahako kāmabhūpi ca;
โคทโตฺต จ นิคโณฺฐ จ, อเจเลน คิลานทสฺสนนฺติฯ
Godatto ca nigaṇṭho ca, acelena gilānadassananti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. คิลานทสฺสนสุตฺตวณฺณนา • 10. Gilānadassanasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑๐. คิลานทสฺสนสุตฺตวณฺณนา • 10. Gilānadassanasuttavaṇṇanā