Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๙. คิลานสุตฺตวณฺณนา
9. Gilānasuttavaṇṇanā
๓๗๕. ปาทคาโมติ นครสฺส ปทสทิโส มหนฺตคาโมฯ เตเนวาห ‘‘เวสาลิยํ วิหรติ เวฬุวคามเก’’ติฯ อหิตนิเสธน-หิตนิโยชน-พฺยสนปริจฺจชน-ลกฺขโณ มิตฺตภาโว เยสุ อตฺถิ, เต มิตฺตาฯ เย ปน ทิฎฺฐมตฺตสหายา, เต สนฺทิฎฺฐาฯ เย สวิเสสํ ภตฺติมโนฺต, เต สมฺภตฺตาติ ทเสฺสโนฺต ‘‘มิตฺตาติ มิตฺตาวา’’ติอาทิมาหฯ อสฺสาติ ภควโตฯ ปญฺจมิยํ อฎฺฐมิยํ จาตุทฺทสิยํ ปญฺจทสิยนฺติ เอเกกสฺมิํ ปเกฺข จตฺตาโร วาเร กตฺวา มาสสฺส อฎฺฐวาเรฯ
375.Pādagāmoti nagarassa padasadiso mahantagāmo. Tenevāha ‘‘vesāliyaṃ viharati veḷuvagāmake’’ti. Ahitanisedhana-hitaniyojana-byasanapariccajana-lakkhaṇo mittabhāvo yesu atthi, te mittā. Ye pana diṭṭhamattasahāyā, te sandiṭṭhā. Ye savisesaṃ bhattimanto, te sambhattāti dassento ‘‘mittāti mittāvā’’tiādimāha. Assāti bhagavato. Pañcamiyaṃ aṭṭhamiyaṃ cātuddasiyaṃ pañcadasiyanti ekekasmiṃ pakkhe cattāro vāre katvā māsassa aṭṭhavāre.
เวทนานํ พลวภาเวน ขโร ผรุโส กกฺขโฬฯ อาพาโธติ ปุพฺพกมฺมเหตุตาย กมฺมสมุฎฺฐาโน อาพาโธ สงฺขารทุกฺขตาสงฺขาโต สพฺพกาลิกตฺตา สรีรสฺส สภาคโรโค นามฯ นายมีทิโส อาพาโธ, อยํ ปน พหลตรพฺยาธิตาย ‘‘วิสภาคโรโค’’ติ วุโตฺตฯ อนฺต-สโทฺท สมีปปวโตฺตติ อาห – ‘‘มรณนฺตํ มรณสนฺติก’’นฺติฯ เวทนา…เป.… อกโรโนฺต อุกฺกํสคตภาวิตกายาทิตายฯ อปีฬิยมาโนติ อปีฬิยมาโน วิยฯ โอวาทเมว ภิกฺขุสงฺฆสฺส อปโลกนนฺติ อาห – ‘‘โอวาทานุสาสนิํ อทตฺวาติ วุตฺตํ โหตี’’ติฯ ปุพฺพภาควีริยํ นาม ผลสมาปตฺติยา ปริกมฺมภูตวิปสฺสนาวีริยํฯ ชีวิตมฺปิ ชีวิตสงฺขาโร ปติตุํ อทตฺวา อตฺตภาวสฺส อภิสงฺขรณโตฯ
Vedanānaṃ balavabhāvena kharo pharuso kakkhaḷo. Ābādhoti pubbakammahetutāya kammasamuṭṭhāno ābādho saṅkhāradukkhatāsaṅkhāto sabbakālikattā sarīrassa sabhāgarogo nāma. Nāyamīdiso ābādho, ayaṃ pana bahalatarabyādhitāya ‘‘visabhāgarogo’’ti vutto. Anta-saddo samīpapavattoti āha – ‘‘maraṇantaṃ maraṇasantika’’nti. Vedanā…pe… akaronto ukkaṃsagatabhāvitakāyāditāya. Apīḷiyamānoti apīḷiyamāno viya. Ovādameva bhikkhusaṅghassa apalokananti āha – ‘‘ovādānusāsaniṃ adatvāti vuttaṃ hotī’’ti. Pubbabhāgavīriyaṃ nāma phalasamāpattiyā parikammabhūtavipassanāvīriyaṃ. Jīvitampi jīvitasaṅkhāro patituṃ adatvā attabhāvassa abhisaṅkharaṇato.
‘‘เอตฺตกํ กาลํ อติกฺกมิตฺวา วุฎฺฐหิสฺสามี’’ติ ขณปริเจฺฉทวตี สมาปตฺติ ขณิกสมาปตฺติฯ นิคฺคุมฺพํ นิชฺชฎํ กตฺวาติ รูปสตฺตการูปสตฺตกวเสน ปวตฺติยมานํ วิปสฺสนาภาวนํ สพฺพโส ขิลวิรเหน นิคฺคุมฺพํ, อพฺยากุลตาย นิชฺชฎํ กตฺวาฯ มหาวิปสฺสนาวเสนาติ ปเจฺจกํ สวิเสสํ วิตฺถาริตานํ อฎฺฐารสาทีนํ มหาวิปสฺสนานํ วเสน วิปสฺสิตฺวา สมาปนฺนา ยา สมาปตฺติ, สา สุฎฺฐุ วิกฺขเมฺภติ เวทนํ มหาพลวตาย ปุพฺพารมฺมณสฺส, มหานุภาวตาย ตถาปวตฺติตวิปสฺสนาวีริยสฺสฯ ยถา นามาติอาทินา ตสฺส นิทสฺสนํ ทเสฺสติฯ เวทนาติ ทุกฺขเวทนาฯ จุทฺทสหากาเรหีติ ตเสฺสว สตฺตกทฺวยสฺส วเสน วทติฯ สเนฺนตฺวาติ อนฺตรนฺตรา สมาปนฺนชฺฌานสมาปตฺติสมฺภูเตน วิปสฺสนาปีติสิเนเหน เตเมตฺวาฯ สมาปตฺตีติ ผลสมาปตฺติฯ
‘‘Ettakaṃ kālaṃ atikkamitvā vuṭṭhahissāmī’’ti khaṇaparicchedavatī samāpatti khaṇikasamāpatti. Niggumbaṃ nijjaṭaṃ katvāti rūpasattakārūpasattakavasena pavattiyamānaṃ vipassanābhāvanaṃ sabbaso khilavirahena niggumbaṃ, abyākulatāya nijjaṭaṃ katvā. Mahāvipassanāvasenāti paccekaṃ savisesaṃ vitthāritānaṃ aṭṭhārasādīnaṃ mahāvipassanānaṃ vasena vipassitvā samāpannā yā samāpatti, sā suṭṭhu vikkhambheti vedanaṃ mahābalavatāya pubbārammaṇassa, mahānubhāvatāya tathāpavattitavipassanāvīriyassa. Yathānāmātiādinā tassa nidassanaṃ dasseti. Vedanāti dukkhavedanā. Cuddasahākārehīti tasseva sattakadvayassa vasena vadati. Sannetvāti antarantarā samāpannajjhānasamāpattisambhūtena vipassanāpītisinehena temetvā. Samāpattīti phalasamāpatti.
คิลานา วุฎฺฐิโตติ คิลานภาวโต วุฎฺฐิโตฯ สรีรสฺส ครุถทฺธภาวปฺปตฺติ มธุรกตาติ อาห – ‘‘สญฺชาตครุภาโว สญฺชาตถทฺธภาโว’’ติฯ นานาการโตติ ปุรตฺถิมาทิเภทโตฯ สติปฎฺฐานธมฺมาติ ปุเพฺพ อตฺตนา ภาวิยมานา สติปฎฺฐานธมฺมาฯ ปากฎา น โหนฺติ กายจิตฺตานํ อกมฺมญฺญตายฯ ตนฺติ ธมฺมาติ ปริยตฺติธมฺมา น ญายนฺติฯ
Gilānā vuṭṭhitoti gilānabhāvato vuṭṭhito. Sarīrassa garuthaddhabhāvappatti madhurakatāti āha – ‘‘sañjātagarubhāvo sañjātathaddhabhāvo’’ti. Nānākāratoti puratthimādibhedato. Satipaṭṭhānadhammāti pubbe attanā bhāviyamānā satipaṭṭhānadhammā. Pākaṭā na honti kāyacittānaṃ akammaññatāya. Tanti dhammāti pariyattidhammā na ñāyanti.
อนนฺตรํ อพาหิรนฺติ ธมฺมวเสน ปุคฺคลวเสน จ อนฺตรพาหิรํ อกตฺวาฯ เอตฺตกนฺติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ วิวรติฯ ทหรกาเลติ อตฺตโน ทหรกาเลฯ น เอวํ โหตีติ ‘‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามี’’ติอาทิโก มานตณฺหามูลโก อิสฺสามจฺฉริยานํ ปวตฺติอากาโร ตถาคตสฺส น โหติ, นเตฺถว ปเคว เตสํ สมุจฺฉินฺนตฺตาติ อาห – ‘‘โพธิปลฺลเงฺกเยวา’’ติอาทิฯ ปฎิสงฺขรเณน เวเฐน มิสฺสเกนฯ มเญฺญติ ยถาวุตฺตํ ปฎิสงฺขรณสญฺญิเตน เวฐมิสฺสเกน วิย ชรสกฎํฯ อรหตฺตผลเวเฐนาติ อรหตฺตผลสมาปตฺติสญฺญิเตน อตฺถภาวเวเฐนฯ
Anantaraṃ abāhiranti dhammavasena puggalavasena ca antarabāhiraṃ akatvā. Ettakantiādinā vuttamevatthaṃ vivarati. Daharakāleti attano daharakāle. Na evaṃ hotīti ‘‘ahaṃ bhikkhusaṅghaṃ pariharissāmī’’tiādiko mānataṇhāmūlako issāmacchariyānaṃ pavattiākāro tathāgatassa na hoti, nattheva pageva tesaṃ samucchinnattāti āha – ‘‘bodhipallaṅkeyevā’’tiādi. Paṭisaṅkharaṇena veṭhena missakena. Maññeti yathāvuttaṃ paṭisaṅkharaṇasaññitena veṭhamissakena viya jarasakaṭaṃ. Arahattaphalaveṭhenāti arahattaphalasamāpattisaññitena atthabhāvaveṭhena.
ผลสมาปตฺติยา อธิเปฺปตตฺตา ‘‘เอกจฺจานํ เวทนานนฺติ โลกิยานํ เวทนาน’’นฺติ วุตฺตํฯ อตฺตทีปาติ เอตฺถ อตฺต-สเทฺทน ธโมฺม เอว วุโตฺต, สฺวายมโตฺถ เหฎฺฐา วิภาวิโต เอวฯ นววิโธ โลกุตฺตรธโมฺม เวทิตโพฺพฯ โส หิ จตูหิ โอเฆหิ อนโชฺฌตฺถรณียโต ‘‘ทีโป’’ติ วุโตฺตฯ ตมอเคฺคติ ตมโยคาภาเวน สเทวกสฺส โลกสฺส อเคฺคฯ สเพฺพสนฺติ สเพฺพสํ สิกฺขากามานํฯ เต ‘‘ธมฺมทีปา วิหรถา’’ติ วุตฺตา จตุสติปฎฺฐานโคจราว ภิกฺขู อเคฺค ภวิสฺสนฺติฯ
Phalasamāpattiyā adhippetattā ‘‘ekaccānaṃ vedanānanti lokiyānaṃ vedanāna’’nti vuttaṃ. Attadīpāti ettha atta-saddena dhammo eva vutto, svāyamattho heṭṭhā vibhāvito eva. Navavidho lokuttaradhammo veditabbo. So hi catūhi oghehi anajjhottharaṇīyato ‘‘dīpo’’ti vutto. Tamaaggeti tamayogābhāvena sadevakassa lokassa agge. Sabbesanti sabbesaṃ sikkhākāmānaṃ. Te ‘‘dhammadīpā viharathā’’ti vuttā catusatipaṭṭhānagocarāva bhikkhū agge bhavissanti.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๙. คิลานสุตฺตํ • 9. Gilānasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๙. คิลานสุตฺตวณฺณนา • 9. Gilānasuttavaṇṇanā