Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi |
๒๒๔. คิลานวตฺถุกถา
224. Gilānavatthukathā
๓๖๕. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน กุจฺฉิวิการาพาโธ โหติฯ โส สเก มุตฺตกรีเส ปลิปโนฺน เสติฯ อถ โข ภควา อายสฺมตา อานเนฺทน ปจฺฉาสมเณน เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑโนฺต เยน ตสฺส ภิกฺขุโน วิหาโร เตนุปสงฺกมิฯ อทฺทสา โข ภควา ตํ ภิกฺขุํ สเก มุตฺตกรีเส ปลิปนฺนํ สยมานํ, ทิสฺวาน เยน โส ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘กิํ เต, ภิกฺขุ, อาพาโธ’’ติ? ‘‘กุจฺฉิวิกาโร เม, ภควา’’ติฯ ‘‘อตฺถิ ปน เต, ภิกฺขุ, อุปฎฺฐาโก’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภควา’’ติ ฯ ‘‘กิสฺส ตํ ภิกฺขู น อุปเฎฺฐนฺตี’’ติ? ‘‘อหํ โข, ภเนฺต, ภิกฺขูนํ อการโก; เตน มํ ภิกฺขู น อุปเฎฺฐนฺตี’’ติฯ อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามเนฺตสิ – ‘‘คจฺฉานนฺท, อุทกํ อาหร, อิมํ ภิกฺขุํ นหาเปสฺสามา’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข อายสฺมา อานโนฺท ภควโต ปฎิสฺสุณิตฺวา อุทกํ อาหริฯ ภควา อุทกํ อาสิญฺจิฯ อายสฺมา อานโนฺท ปริโธวิฯ ภควา สีสโต อคฺคเหสิฯ อายสฺมา อานโนฺท ปาทโต อุจฺจาเรตฺวา มญฺจเก นิปาเตสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ภิกฺขู ปฎิปุจฺฉิ – ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อมุกสฺมิํ วิหาเร ภิกฺขุ คิลาโน’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภควา’’ติฯ ‘‘กิํ ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อาพาโธ’’ติ? ‘‘ตสฺส, ภเนฺต, อายสฺมโต กุจฺฉิวิการาพาโธ’’ติฯ ‘‘อตฺถิ ปน, ภิกฺขเว, ตสฺส ภิกฺขุโน อุปฎฺฐาโก’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภควา’’ติ ฯ ‘‘กิสฺส ตํ ภิกฺขู น อุปเฎฺฐนฺตี’’ติ? ‘‘เอโส, ภเนฺต, ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ อการโก; เตน ตํ ภิกฺขู น อุปเฎฺฐนฺตี’’ติฯ ‘‘นตฺถิ โว, ภิกฺขเว, มาตา, นตฺถิ ปิตา, เย โว อุปฎฺฐเหยฺยุํฯ ตุเมฺห เจ, ภิกฺขเว, อญฺญมญฺญํ น อุปฎฺฐหิสฺสถ, อถ โก จรหิ อุปฎฺฐหิสฺสติ? โย, ภิกฺขเว, มํ อุปฎฺฐเหยฺย โส คิลานํ อุปฎฺฐเหยฺยฯ สเจ อุปชฺฌาโย โหติ, อุปชฺฌาเยน ยาวชีวํ อุปฎฺฐาตโพฺพ; วุฎฺฐานมสฺส อาคเมตพฺพํฯ สเจ อาจริโย โหติ, อาจริเยน ยาวชีวํ อุปฎฺฐาตโพฺพ; วุฎฺฐานมสฺส อาคเมตพฺพํฯ สเจ สทฺธิวิหาริโก โหติ , สทฺธิวิหาริเกน ยาวชีวํ อุปฎฺฐาตโพฺพ; วุฎฺฐานมสฺส อาคเมตพฺพํฯ สเจ อเนฺตวาสิโก โหติ, อเนฺตวาสิเกน ยาวชีวํ อุปฎฺฐาตโพฺพ; วุฎฺฐานมสฺส อาคเมตพฺพํฯ สเจ สมานุปชฺฌายโก โหติ, สมานุปชฺฌายเกน ยาวชีวํ อุปฎฺฐาตโพฺพ ; วุฎฺฐานมสฺส อาคเมตพฺพํฯ สเจ สมานาจริยโก โหติ, สมานาจริยเกน ยาวชีวํ อุปฎฺฐาตโพฺพ; วุฎฺฐานมสฺส อาคเมตพฺพํฯ สเจ น โหติ อุปชฺฌาโย วา อาจริโย วา สทฺธิวิหาริโก วา อเนฺตวาสิโก วา สมานุปชฺฌายโก วา สมานาจริยโก วา สเงฺฆน อุปฎฺฐาตโพฺพฯ โน เจ อุปฎฺฐเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺส’’ฯ
365. Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno kucchivikārābādho hoti. So sake muttakarīse palipanno seti. Atha kho bhagavā āyasmatā ānandena pacchāsamaṇena senāsanacārikaṃ āhiṇḍanto yena tassa bhikkhuno vihāro tenupasaṅkami. Addasā kho bhagavā taṃ bhikkhuṃ sake muttakarīse palipannaṃ sayamānaṃ, disvāna yena so bhikkhu tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘kiṃ te, bhikkhu, ābādho’’ti? ‘‘Kucchivikāro me, bhagavā’’ti. ‘‘Atthi pana te, bhikkhu, upaṭṭhāko’’ti? ‘‘Natthi, bhagavā’’ti . ‘‘Kissa taṃ bhikkhū na upaṭṭhentī’’ti? ‘‘Ahaṃ kho, bhante, bhikkhūnaṃ akārako; tena maṃ bhikkhū na upaṭṭhentī’’ti. Atha kho bhagavā āyasmantaṃ ānandaṃ āmantesi – ‘‘gacchānanda, udakaṃ āhara, imaṃ bhikkhuṃ nahāpessāmā’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho āyasmā ānando bhagavato paṭissuṇitvā udakaṃ āhari. Bhagavā udakaṃ āsiñci. Āyasmā ānando paridhovi. Bhagavā sīsato aggahesi. Āyasmā ānando pādato uccāretvā mañcake nipātesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā bhikkhū paṭipucchi – ‘‘atthi, bhikkhave, amukasmiṃ vihāre bhikkhu gilāno’’ti? ‘‘Atthi, bhagavā’’ti. ‘‘Kiṃ tassa, bhikkhave, bhikkhuno ābādho’’ti? ‘‘Tassa, bhante, āyasmato kucchivikārābādho’’ti. ‘‘Atthi pana, bhikkhave, tassa bhikkhuno upaṭṭhāko’’ti? ‘‘Natthi, bhagavā’’ti . ‘‘Kissa taṃ bhikkhū na upaṭṭhentī’’ti? ‘‘Eso, bhante, bhikkhu bhikkhūnaṃ akārako; tena taṃ bhikkhū na upaṭṭhentī’’ti. ‘‘Natthi vo, bhikkhave, mātā, natthi pitā, ye vo upaṭṭhaheyyuṃ. Tumhe ce, bhikkhave, aññamaññaṃ na upaṭṭhahissatha, atha ko carahi upaṭṭhahissati? Yo, bhikkhave, maṃ upaṭṭhaheyya so gilānaṃ upaṭṭhaheyya. Sace upajjhāyo hoti, upajjhāyena yāvajīvaṃ upaṭṭhātabbo; vuṭṭhānamassa āgametabbaṃ. Sace ācariyo hoti, ācariyena yāvajīvaṃ upaṭṭhātabbo; vuṭṭhānamassa āgametabbaṃ. Sace saddhivihāriko hoti , saddhivihārikena yāvajīvaṃ upaṭṭhātabbo; vuṭṭhānamassa āgametabbaṃ. Sace antevāsiko hoti, antevāsikena yāvajīvaṃ upaṭṭhātabbo; vuṭṭhānamassa āgametabbaṃ. Sace samānupajjhāyako hoti, samānupajjhāyakena yāvajīvaṃ upaṭṭhātabbo ; vuṭṭhānamassa āgametabbaṃ. Sace samānācariyako hoti, samānācariyakena yāvajīvaṃ upaṭṭhātabbo; vuṭṭhānamassa āgametabbaṃ. Sace na hoti upajjhāyo vā ācariyo vā saddhivihāriko vā antevāsiko vā samānupajjhāyako vā samānācariyako vā saṅghena upaṭṭhātabbo. No ce upaṭṭhaheyya, āpatti dukkaṭassa’’.
๓๖๖. ปญฺจหิ, ภิกฺขเว, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต คิลาโน ทูปโฎฺฐ โหติ – อสปฺปายการี โหติ, สปฺปาเย มตฺตํ น ชานาติ, เภสชฺชํ น ปฎิเสวิตา โหติ, อตฺถกามสฺส คิลานุปฎฺฐากสฺส ยถาภูตํ อาพาธํ นาวิกตฺตา โหติ ‘อภิกฺกมนฺตํ วา อภิกฺกมตีติ, ปฎิกฺกมนฺตํ วา ปฎิกฺกมตีติ, ฐิตํ วา ฐิโต’ติ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฎุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อนธิวาสกชาติโก โหติฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต คิลาโน ทูปโฎฺฐ โหติฯ
366. Pañcahi, bhikkhave, aṅgehi samannāgato gilāno dūpaṭṭho hoti – asappāyakārī hoti, sappāye mattaṃ na jānāti, bhesajjaṃ na paṭisevitā hoti, atthakāmassa gilānupaṭṭhākassa yathābhūtaṃ ābādhaṃ nāvikattā hoti ‘abhikkamantaṃ vā abhikkamatīti, paṭikkamantaṃ vā paṭikkamatīti, ṭhitaṃ vā ṭhito’ti, uppannānaṃ sārīrikānaṃ vedanānaṃ dukkhānaṃ tibbānaṃ kharānaṃ kaṭukānaṃ asātānaṃ amanāpānaṃ pāṇaharānaṃ anadhivāsakajātiko hoti. Imehi kho, bhikkhave, pañcahaṅgehi samannāgato gilāno dūpaṭṭho hoti.
ปญฺจหิ, ภิกฺขเว , อเงฺคหิ สมนฺนาคโต คิลาโน สูปโฎฺฐ โหติ – สปฺปายการี โหติ, สปฺปาเย มตฺตํ ชานาติ, เภสชฺชํ ปฎิเสวิตา โหติ, อตฺถกามสฺส คิลานุปฎฺฐากสฺส ยถาภูตํ อาพาธํ อาวิกตฺตา โหติ ‘อภิกฺกมนฺตํ วา อภิกฺกมตีติ, ปฎิกฺกมนฺตํ วา ปฎิกฺกมตีติ, ฐิตํ วา ฐิโต’ติ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฎุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสกชาติโก โหติฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต คิลาโน สูปโฎฺฐ โหติฯ
Pañcahi, bhikkhave , aṅgehi samannāgato gilāno sūpaṭṭho hoti – sappāyakārī hoti, sappāye mattaṃ jānāti, bhesajjaṃ paṭisevitā hoti, atthakāmassa gilānupaṭṭhākassa yathābhūtaṃ ābādhaṃ āvikattā hoti ‘abhikkamantaṃ vā abhikkamatīti, paṭikkamantaṃ vā paṭikkamatīti, ṭhitaṃ vā ṭhito’ti, uppannānaṃ sārīrikānaṃ vedanānaṃ dukkhānaṃ tibbānaṃ kharānaṃ kaṭukānaṃ asātānaṃ amanāpānaṃ pāṇaharānaṃ adhivāsakajātiko hoti. Imehi kho, bhikkhave, pañcahaṅgehi samannāgato gilāno sūpaṭṭho hoti.
ปญฺจหิ, ภิกฺขเว, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต คิลานุปฎฺฐาโก นาลํ คิลานํ อุปฎฺฐาตุํ – น ปฎิพโล โหติ เภสชฺชํ สํวิธาตุํ, สปฺปายาสปฺปายํ น ชานาติ, อสปฺปายํ อุปนาเมติ สปฺปายํ อปนาเมติ, อามิสนฺตโร คิลานํ อุปฎฺฐาติ โน เมตฺตจิโตฺต, เชคุจฺฉี โหติ อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา เขฬํ วา วนฺตํ วา นีหาตุํ, น ปฎิพโล โหติ คิลานํ กาเลน กาลํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตุํ สมาทเปตุํ สมุเตฺตเชตุํ สมฺปหํเสตุํฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต คิลานุปฎฺฐาโก นาลํ คิลานํ อุปฎฺฐาตุํฯ
Pañcahi, bhikkhave, aṅgehi samannāgato gilānupaṭṭhāko nālaṃ gilānaṃ upaṭṭhātuṃ – na paṭibalo hoti bhesajjaṃ saṃvidhātuṃ, sappāyāsappāyaṃ na jānāti, asappāyaṃ upanāmeti sappāyaṃ apanāmeti, āmisantaro gilānaṃ upaṭṭhāti no mettacitto, jegucchī hoti uccāraṃ vā passāvaṃ vā kheḷaṃ vā vantaṃ vā nīhātuṃ, na paṭibalo hoti gilānaṃ kālena kālaṃ dhammiyā kathāya sandassetuṃ samādapetuṃ samuttejetuṃ sampahaṃsetuṃ. Imehi kho, bhikkhave, pañcahaṅgehi samannāgato gilānupaṭṭhāko nālaṃ gilānaṃ upaṭṭhātuṃ.
ปญฺจหิ , ภิกฺขเว, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต คิลานุปฎฺฐาโก อลํ คิลานํ อุปฎฺฐาตุํ – ปฎิพโล โหติ เภสชฺชํ สํวิธาตุํ, สปฺปายาสปฺปายํ ชานาติ, อสปฺปายํ อปนาเมติ สปฺปายํ อุปนาเมติ, เมตฺตจิโตฺต คิลานํ อุปฎฺฐาติ โน อามิสนฺตโร, อเชคุจฺฉี โหติ อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา เขฬํ วา วนฺตํ วา นีหาตุํ, ปฎิพโล โหติ คิลานํ กาเลน กาลํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตุํ สมาทเปตุํ สมุเตฺตเชตุํ สมฺปหํเสตุํฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต คิลานุปฎฺฐาโก อลํ คิลานํ อุปฎฺฐาตุนฺติฯ
Pañcahi , bhikkhave, aṅgehi samannāgato gilānupaṭṭhāko alaṃ gilānaṃ upaṭṭhātuṃ – paṭibalo hoti bhesajjaṃ saṃvidhātuṃ, sappāyāsappāyaṃ jānāti, asappāyaṃ apanāmeti sappāyaṃ upanāmeti, mettacitto gilānaṃ upaṭṭhāti no āmisantaro, ajegucchī hoti uccāraṃ vā passāvaṃ vā kheḷaṃ vā vantaṃ vā nīhātuṃ, paṭibalo hoti gilānaṃ kālena kālaṃ dhammiyā kathāya sandassetuṃ samādapetuṃ samuttejetuṃ sampahaṃsetuṃ. Imehi kho, bhikkhave, pañcahaṅgehi samannāgato gilānupaṭṭhāko alaṃ gilānaṃ upaṭṭhātunti.
คิลานวตฺถุกถา นิฎฺฐิตาฯ
Gilānavatthukathā niṭṭhitā.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / คิลานวตฺถุกถา • Gilānavatthukathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / คิลานวตฺถุกถาวณฺณนา • Gilānavatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / คิลานวตฺถุกถาวณฺณนา • Gilānavatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒๒๔. คิลานวตฺถุกถา • 224. Gilānavatthukathā