Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๑๘๔] ๔. คิริทตฺตชาตกวณฺณนา

    [184] 4. Giridattajātakavaṇṇanā

    ทูสิโต คิริทเตฺตนาติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรโนฺต เอกํ วิปกฺขเสวิํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ วตฺถุ เหฎฺฐา มหิฬามุขชาตเก (ชา. ๑.๑.๒๖) กถิตเมวฯ สตฺถา ปน ‘‘น, ภิกฺขเว, อยํ ภิกฺขุ อิทาเนว วิปกฺขํ เสวติ, ปุเพฺพเปส วิปกฺขเสวโกเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

    Dūsitogiridattenāti idaṃ satthā veḷuvane viharanto ekaṃ vipakkhaseviṃ bhikkhuṃ ārabbha kathesi. Vatthu heṭṭhā mahiḷāmukhajātake (jā. 1.1.26) kathitameva. Satthā pana ‘‘na, bhikkhave, ayaṃ bhikkhu idāneva vipakkhaṃ sevati, pubbepesa vipakkhasevakoyevā’’ti vatvā atītaṃ āhari.

    อตีเต พาราณสิยํ สามราชา รชฺชํ กาเรสิฯ ตทา โพธิสโตฺต อมจฺจกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต ตสฺส อตฺถธมฺมานุสาสโก อโหสิฯ รโญฺญ ปน ปณฺฑโว นาม มงฺคลโสฺส, ตสฺส คิริทโตฺต นาม อสฺสพโนฺธ, โส ขโญฺช อโหสิฯ อโสฺส มุขรชฺชุเก คเหตฺวา ตํ ปุรโต ปุรโต คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘มํ เอส สิกฺขาเปตี’’ติ สญฺญาย ตสฺส อนุสิกฺขโนฺต ขโญฺช อโหสิฯ ตสฺส อสฺสสฺส ขญฺชภาวํ รโญฺญ อาโรเจสุํ, ราชา เวเชฺช เปเสสิฯ เต คนฺตฺวา อสฺสสฺส สรีเร โรคํ อปสฺสนฺตา ‘‘โรคมสฺส น ปสฺสามา’’ติ รโญฺญ กถยิํสุฯ ราชา โพธิสตฺตํ เปเสสิ – ‘‘คจฺฉ วยสฺส, เอตฺถ การณํ ชานาหี’’ติฯ โส คนฺตฺวา ขญฺชอสฺสพนฺธสํสเคฺคน ตสฺส ขญฺชภูตภาวํ ญตฺวา รโญฺญ ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘สํสคฺคโทเสน นาม เอวํ โหตี’’ติ ทเสฺสโนฺต ปฐมํ คาถมาห –-

    Atīte bārāṇasiyaṃ sāmarājā rajjaṃ kāresi. Tadā bodhisatto amaccakule nibbattitvā vayappatto tassa atthadhammānusāsako ahosi. Rañño pana paṇḍavo nāma maṅgalasso, tassa giridatto nāma assabandho, so khañjo ahosi. Asso mukharajjuke gahetvā taṃ purato purato gacchantaṃ disvā ‘‘maṃ esa sikkhāpetī’’ti saññāya tassa anusikkhanto khañjo ahosi. Tassa assassa khañjabhāvaṃ rañño ārocesuṃ, rājā vejje pesesi. Te gantvā assassa sarīre rogaṃ apassantā ‘‘rogamassa na passāmā’’ti rañño kathayiṃsu. Rājā bodhisattaṃ pesesi – ‘‘gaccha vayassa, ettha kāraṇaṃ jānāhī’’ti. So gantvā khañjaassabandhasaṃsaggena tassa khañjabhūtabhāvaṃ ñatvā rañño tamatthaṃ ārocetvā ‘‘saṃsaggadosena nāma evaṃ hotī’’ti dassento paṭhamaṃ gāthamāha –-

    ๖๗.

    67.

    ‘‘ทูสิโต คิริทเตฺตน, หโย สามสฺส ปณฺฑโว;

    ‘‘Dūsito giridattena, hayo sāmassa paṇḍavo;

    โปราณํ ปกติํ หิตฺวา, ตเสฺสวานุวิธิยฺยตี’’ติฯ

    Porāṇaṃ pakatiṃ hitvā, tassevānuvidhiyyatī’’ti.

    ตตฺถ หโย สามสฺสาติ สามสฺส รโญฺญ มงฺคลโสฺสฯ โปราณํ ปกติํ หิตฺวาติ อตฺตโน โปราณปกติํ สิงฺคารภาวํ ปหายฯ อนุวิธิยฺยตีติ อนุสิกฺขติฯ

    Tattha hayo sāmassāti sāmassa rañño maṅgalasso. Porāṇaṃ pakatiṃ hitvāti attano porāṇapakatiṃ siṅgārabhāvaṃ pahāya. Anuvidhiyyatīti anusikkhati.

    อถ นํ ราชา ‘‘อิทานิ วยสฺส กิํ กตฺตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิฯ โพธิสโตฺต ‘‘สุนฺทรํ อสฺสพนฺธํ ลภิตฺวา ยถา โปราโณ ภวิสฺสตี’’ติ วตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

    Atha naṃ rājā ‘‘idāni vayassa kiṃ kattabba’’nti pucchi. Bodhisatto ‘‘sundaraṃ assabandhaṃ labhitvā yathā porāṇo bhavissatī’’ti vatvā dutiyaṃ gāthamāha –

    ๖๘.

    68.

    ‘‘สเจ จ ตนุโช โปโส, สิขราการกปฺปิโต;

    ‘‘Sace ca tanujo poso, sikharākārakappito;

    อานเน นํ คเหตฺวาน, มณฺฑเล ปริวตฺตเย;

    Ānane naṃ gahetvāna, maṇḍale parivattaye;

    ขิปฺปเมว ปหนฺตฺวาน, ตเสฺสวานุวิธิยฺยตี’’ติฯ

    Khippameva pahantvāna, tassevānuvidhiyyatī’’ti.

    ตตฺถ ตนุโชติ ตสฺส อนุโชฯ อนุรูปํ ชาโต หิ อนุโช, ตสฺส อนุโช ตนุโชฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ หิ, มหาราช, ตสฺส สิงฺคารสฺส อาจารสมฺปนฺนสฺส อสฺสสฺส อนุรูปํ ชาโต สิงฺคาโร อาจารสมฺปโนฺน โปโสฯ สิขราการกปฺปิโตติ สิขเรน สุนฺทเรน อากาเรน กปฺปิตเกสมสฺสุ ตํ อสฺสํ อานเน คเหตฺวา อสฺสมณฺฑเล ปริวเตฺตยฺย, ขิปฺปเมเวส ตํ ขญฺชภาวํ ปหาย ‘‘อยํ สิงฺคาโร อาจารสมฺปโนฺน อสฺสโคปโก มํ สิกฺขาเปตี’’ติ สญฺญาย ขิปฺปเมว ตสฺส อนุวิธิยฺยติ อนุสิกฺขิสฺสติ, ปกติภาเวเยว ฐสฺสตีติ อโตฺถฯ ราชา ตถา กาเรสิ, อโสฺส ปกติภาเว ปติฎฺฐาสิฯ ราชา ‘‘ติรจฺฉานานมฺปิ นาม อาสยํ ชานิสฺสตี’’ติ ตุฎฺฐจิโตฺต โพธิสตฺตสฺส มหนฺตํ ยสํ อทาสิฯ

    Tattha tanujoti tassa anujo. Anurūpaṃ jāto hi anujo, tassa anujo tanujo. Idaṃ vuttaṃ hoti – sace hi, mahārāja, tassa siṅgārassa ācārasampannassa assassa anurūpaṃ jāto siṅgāro ācārasampanno poso. Sikharākārakappitoti sikharena sundarena ākārena kappitakesamassu taṃ assaṃ ānane gahetvā assamaṇḍale parivatteyya, khippamevesa taṃ khañjabhāvaṃ pahāya ‘‘ayaṃ siṅgāro ācārasampanno assagopako maṃ sikkhāpetī’’ti saññāya khippameva tassa anuvidhiyyati anusikkhissati, pakatibhāveyeva ṭhassatīti attho. Rājā tathā kāresi, asso pakatibhāve patiṭṭhāsi. Rājā ‘‘tiracchānānampi nāma āsayaṃ jānissatī’’ti tuṭṭhacitto bodhisattassa mahantaṃ yasaṃ adāsi.

    สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา คิริทโตฺต เทวทโตฺต อโหสิ, อโสฺส วิปกฺขเสวโก ภิกฺขุ, ราชา อานโนฺท, อมจฺจปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

    Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā giridatto devadatto ahosi, asso vipakkhasevako bhikkhu, rājā ānando, amaccapaṇḍito pana ahameva ahosi’’nti.

    คิริทตฺตชาตกวณฺณนา จตุตฺถาฯ

    Giridattajātakavaṇṇanā catutthā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๑๘๔. คิริทตฺตชาตกํ • 184. Giridattajātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact