Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๑๐. คิริมานนฺทสุตฺตํ
10. Girimānandasuttaṃ
๖๐. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา คิริมานโนฺท อาพาธิโก โหติ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโนฯ อถ โข อายสฺมา อานโนฺท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา อานโนฺท ภควนฺตํ เอตทโวจ –
60. Ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena āyasmā girimānando ābādhiko hoti dukkhito bāḷhagilāno. Atha kho āyasmā ānando yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā ānando bhagavantaṃ etadavoca –
‘‘อายสฺมา, ภเนฺต, คิริมานโนฺท อาพาธิโก โหติ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน ฯ สาธุ, ภเนฺต, ภควา เยนายสฺมา คิริมานโนฺท เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติฯ ‘‘สเจ โข ตฺวํ, อานนฺท, คิริมานนฺทสฺส ภิกฺขุโน ทส สญฺญา ภาเสยฺยาสิ, ฐานํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ คิริมานนฺทสฺส ภิกฺขุโน ทส สญฺญา สุตฺวา โส อาพาโธ ฐานโส ปฎิปฺปสฺสเมฺภยฺยฯ
‘‘Āyasmā, bhante, girimānando ābādhiko hoti dukkhito bāḷhagilāno . Sādhu, bhante, bhagavā yenāyasmā girimānando tenupasaṅkamatu anukampaṃ upādāyā’’ti. ‘‘Sace kho tvaṃ, ānanda, girimānandassa bhikkhuno dasa saññā bhāseyyāsi, ṭhānaṃ kho panetaṃ vijjati yaṃ girimānandassa bhikkhuno dasa saññā sutvā so ābādho ṭhānaso paṭippassambheyya.
‘‘กตมา ทส? อนิจฺจสญฺญา , อนตฺตสญฺญา, อสุภสญฺญา, อาทีนวสญฺญา, ปหานสญฺญา, วิราคสญฺญา, นิโรธสญฺญา, สพฺพโลเก อนภิรตสญฺญา 1, สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺฉาสญฺญา, อานาปานสฺสติฯ
‘‘Katamā dasa? Aniccasaññā , anattasaññā, asubhasaññā, ādīnavasaññā, pahānasaññā, virāgasaññā, nirodhasaññā, sabbaloke anabhiratasaññā 2, sabbasaṅkhāresu anicchāsaññā, ānāpānassati.
‘‘กตมา จานนฺท, อนิจฺจสญฺญา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อรญฺญคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุญฺญาคารคโต วา อิติ ปฎิสญฺจิกฺขติ – ‘รูปํ อนิจฺจํ, เวทนา อนิจฺจา , สญฺญา อนิจฺจา , สงฺขารา อนิจฺจา, วิญฺญาณํ อนิจฺจ’นฺติฯ อิติ อิเมสุ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขเนฺธสุ อนิจฺจานุปสฺสี วิหรติฯ อยํ วุจฺจตานนฺท, อนิจฺจสญฺญาฯ
‘‘Katamā cānanda, aniccasaññā? Idhānanda, bhikkhu araññagato vā rukkhamūlagato vā suññāgāragato vā iti paṭisañcikkhati – ‘rūpaṃ aniccaṃ, vedanā aniccā , saññā aniccā , saṅkhārā aniccā, viññāṇaṃ anicca’nti. Iti imesu pañcasu upādānakkhandhesu aniccānupassī viharati. Ayaṃ vuccatānanda, aniccasaññā.
‘‘กตมา จานนฺท, อนตฺตสญฺญา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อรญฺญคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุญฺญาคารคโต วา อิติ ปฎิสญฺจิกฺขติ – ‘จกฺขุ อนตฺตา, รูปา อนตฺตา, โสตํ อนตฺตา, สทฺทา อนตฺตา, ฆานํ อนตฺตา, คนฺธา อนตฺตา, ชิวฺหา อนตฺตา, รสา อนตฺตา, กายา อนตฺตา, โผฎฺฐพฺพา อนตฺตา, มโน อนตฺตา, ธมฺมา อนตฺตา’ติฯ อิติ อิเมสุ ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ อนตฺตานุปสฺสี วิหรติฯ อยํ วุจฺจตานนฺท, อนตฺตสญฺญาฯ
‘‘Katamā cānanda, anattasaññā? Idhānanda, bhikkhu araññagato vā rukkhamūlagato vā suññāgāragato vā iti paṭisañcikkhati – ‘cakkhu anattā, rūpā anattā, sotaṃ anattā, saddā anattā, ghānaṃ anattā, gandhā anattā, jivhā anattā, rasā anattā, kāyā anattā, phoṭṭhabbā anattā, mano anattā, dhammā anattā’ti. Iti imesu chasu ajjhattikabāhiresu āyatanesu anattānupassī viharati. Ayaṃ vuccatānanda, anattasaññā.
‘‘กตมา จานนฺท, อสุภสญฺญา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานาปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมิํ กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ นฺหารุ อฎฺฐิ อฎฺฐิมิญฺชํ วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุโพฺพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺต’นฺติฯ อิติ อิมสฺมิํ กาเย อสุภานุปสฺสี วิหรติฯ อยํ วุจฺจตานนฺท, อสุภสญฺญาฯ
‘‘Katamā cānanda, asubhasaññā? Idhānanda, bhikkhu imameva kāyaṃ uddhaṃ pādatalā adho kesamatthakā tacapariyantaṃ pūraṃ nānāppakārassa asucino paccavekkhati – ‘atthi imasmiṃ kāye kesā lomā nakhā dantā taco maṃsaṃ nhāru aṭṭhi aṭṭhimiñjaṃ vakkaṃ hadayaṃ yakanaṃ kilomakaṃ pihakaṃ papphāsaṃ antaṃ antaguṇaṃ udariyaṃ karīsaṃ pittaṃ semhaṃ pubbo lohitaṃ sedo medo assu vasā kheḷo siṅghāṇikā lasikā mutta’nti. Iti imasmiṃ kāye asubhānupassī viharati. Ayaṃ vuccatānanda, asubhasaññā.
‘‘กตมา จานนฺท, อาทีนวสญฺญา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อรญฺญคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุญฺญาคารคโต วา อิติ ปฎิสญฺจิกฺขติ – ‘พหุทุโกฺข โข อยํ กาโย พหุอาทีนโว? อิติ อิมสฺมิํ กาเย วิวิธา อาพาธา อุปฺปชฺชนฺติ, เสยฺยถิทํ – จกฺขุโรโค โสตโรโค ฆานโรโค ชิวฺหาโรโค กายโรโค สีสโรโค กณฺณโรโค มุขโรโค ทนฺตโรโค โอฎฺฐโรโค กาโส สาโส ปินาโส ฑาโห 3 ชโร กุจฺฉิโรโค มุจฺฉา ปกฺขนฺทิกา สูลา วิสูจิกา กุฎฺฐํ คโณฺฑ กิลาโส โสโส อปมาโร ททฺทุ กณฺฑุ กจฺฉุ นขสา วิตจฺฉิกา โลหิตํ ปิตฺตํ 4 มธุเมโห อํสา ปิฬกา ภคนฺทลา ปิตฺตสมุฎฺฐานา อาพาธา เสมฺหสมุฎฺฐานา อาพาธา วาตสมุฎฺฐานา อาพาธา สนฺนิปาติกา อาพาธา อุตุปริณามชา อาพาธา วิสมปริหารชา อาพาธา โอปกฺกมิกา อาพาธา กมฺมวิปากชา อาพาธา สีตํ อุณฺหํ ชิฆจฺฉา ปิปาสา อุจฺจาโร ปสฺสาโว’ติฯ อิติ อิมสฺมิํ กาเย อาทีนวานุปสฺสี วิหรติฯ อยํ วุจฺจตานนฺท, อาทีนวสญฺญาฯ
‘‘Katamā cānanda, ādīnavasaññā? Idhānanda, bhikkhu araññagato vā rukkhamūlagato vā suññāgāragato vā iti paṭisañcikkhati – ‘bahudukkho kho ayaṃ kāyo bahuādīnavo? Iti imasmiṃ kāye vividhā ābādhā uppajjanti, seyyathidaṃ – cakkhurogo sotarogo ghānarogo jivhārogo kāyarogo sīsarogo kaṇṇarogo mukharogo dantarogo oṭṭharogo kāso sāso pināso ḍāho 5 jaro kucchirogo mucchā pakkhandikā sūlā visūcikā kuṭṭhaṃ gaṇḍo kilāso soso apamāro daddu kaṇḍu kacchu nakhasā vitacchikā lohitaṃ pittaṃ 6 madhumeho aṃsā piḷakā bhagandalā pittasamuṭṭhānā ābādhā semhasamuṭṭhānā ābādhā vātasamuṭṭhānā ābādhā sannipātikā ābādhā utupariṇāmajā ābādhā visamaparihārajā ābādhā opakkamikā ābādhā kammavipākajā ābādhā sītaṃ uṇhaṃ jighacchā pipāsā uccāro passāvo’ti. Iti imasmiṃ kāye ādīnavānupassī viharati. Ayaṃ vuccatānanda, ādīnavasaññā.
‘‘กตมา จานนฺท, ปหานสญฺญา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ, ปชหติ , วิโนเทติ, พฺยนฺตีกโรติ, อนภาวํ คเมติฯ อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ นาธิวาเสติ, ปชหติ, วิโนเทติ, พฺยนฺตีกโรติ, อนภาวํ คเมติฯ อุปฺปนฺนํ วิหิํสาวิตกฺกํ นาธิวาเสติ, ปชหติ, วิโนเทติ, พฺยนฺตีกโรติ, อนภาวํ คเมติฯ อุปฺปนฺนุปฺปเนฺน ปาปเก อกุสเล ธเมฺม นาธิวาเสติ, ปชหติ, วิโนเทติ, พฺยนฺตีกโรติ, อนภาวํ คเมติฯ อยํ วุจฺจตานนฺท, ปหานสญฺญาฯ
‘‘Katamā cānanda, pahānasaññā? Idhānanda, bhikkhu uppannaṃ kāmavitakkaṃ nādhivāseti, pajahati , vinodeti, byantīkaroti, anabhāvaṃ gameti. Uppannaṃ byāpādavitakkaṃ nādhivāseti, pajahati, vinodeti, byantīkaroti, anabhāvaṃ gameti. Uppannaṃ vihiṃsāvitakkaṃ nādhivāseti, pajahati, vinodeti, byantīkaroti, anabhāvaṃ gameti. Uppannuppanne pāpake akusale dhamme nādhivāseti, pajahati, vinodeti, byantīkaroti, anabhāvaṃ gameti. Ayaṃ vuccatānanda, pahānasaññā.
‘‘กตมา จานนฺท, วิราคสญฺญา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อรญฺญคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุญฺญาคารคโต วา อิติ ปฎิสญฺจิกฺขติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฺปฎินิสฺสโคฺค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิพฺพาน’นฺติฯ อยํ วุจฺจตานนฺท, วิราคสญฺญาฯ
‘‘Katamā cānanda, virāgasaññā? Idhānanda, bhikkhu araññagato vā rukkhamūlagato vā suññāgāragato vā iti paṭisañcikkhati – ‘etaṃ santaṃ etaṃ paṇītaṃ yadidaṃ sabbasaṅkhārasamatho sabbūpadhippaṭinissaggo taṇhākkhayo virāgo nibbāna’nti. Ayaṃ vuccatānanda, virāgasaññā.
‘‘กตมา จานนฺท, นิโรธสญฺญา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อรญฺญคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุญฺญาคารคโต วา อิติ ปฎิสญฺจิกฺขติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฺปฎินิสฺสโคฺค ตณฺหากฺขโย นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติฯ อยํ วุจฺจตานนฺท, นิโรธสญฺญาฯ
‘‘Katamā cānanda, nirodhasaññā? Idhānanda, bhikkhu araññagato vā rukkhamūlagato vā suññāgāragato vā iti paṭisañcikkhati – ‘etaṃ santaṃ etaṃ paṇītaṃ yadidaṃ sabbasaṅkhārasamatho sabbūpadhippaṭinissaggo taṇhākkhayo nirodho nibbāna’nti. Ayaṃ vuccatānanda, nirodhasaññā.
‘‘กตมา จานนฺท, สพฺพโลเก อนภิรตสญฺญา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ เย โลเก อุปาทานา เจตโส อธิฎฺฐานาภินิเวสานุสยา, เต ปชหโนฺต วิหรติ อนุปาทิยโนฺตฯ อยํ วุจฺจตานนฺท, สพฺพโลเก อนภิรตสญฺญาฯ
‘‘Katamā cānanda, sabbaloke anabhiratasaññā? Idhānanda, bhikkhu ye loke upādānā cetaso adhiṭṭhānābhinivesānusayā, te pajahanto viharati anupādiyanto. Ayaṃ vuccatānanda, sabbaloke anabhiratasaññā.
‘‘กตมา จานนฺท, สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺฉาสญฺญา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ สพฺพสงฺขาเรสุ อฎฺฎียติ หรายติ ชิคุจฺฉติฯ อยํ วุจฺจตานนฺท, สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺฉาสญฺญาฯ
‘‘Katamā cānanda, sabbasaṅkhāresu anicchāsaññā? Idhānanda, bhikkhu sabbasaṅkhāresu aṭṭīyati harāyati jigucchati. Ayaṃ vuccatānanda, sabbasaṅkhāresu anicchāsaññā.
‘‘กตมา จานนฺท, อานาปานสฺสติ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อรญฺญคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุญฺญาคารคโต วา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สติํ อุปฎฺฐเปตฺวาฯ โส สโตว อสฺสสติ สโตว ปสฺสสติฯ ทีฆํ วา อสฺสสโนฺต ‘ทีฆํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติฯ ทีฆํ วา ปสฺสสโนฺต ‘ทีฆํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติฯ รสฺสํ วา อสฺสสโนฺต ‘รสฺสํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติฯ รสฺสํ วา ปสฺสสโนฺต ‘รสฺสํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติฯ ‘สพฺพกายปฎิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติฯ ‘สพฺพกายปฎิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติฯ ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติฯ ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติฯ ‘ปีติปฎิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติฯ ‘ปีติปฎิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติฯ ‘สุขปฎิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติฯ ‘สุขปฎิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติฯ ‘จิตฺตสงฺขารปฎิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติฯ ‘จิตฺตสงฺขารปฎิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติฯ ‘ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติฯ ‘ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติฯ ‘จิตฺตปฎิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติฯ ‘จิตฺตปฎิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ ฯ อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ…เป.… สมาทหํ จิตฺตํ…เป.… วิโมจยํ จิตฺตํ…เป.… อนิจฺจานุปสฺสี…เป.… วิราคานุปสฺสี…เป.… นิโรธานุปสฺสี…เป.… ‘ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติฯ ‘ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติฯ อยํ วุจฺจตานนฺท, อานาปานสฺสติฯ
‘‘Katamā cānanda, ānāpānassati? Idhānanda, bhikkhu araññagato vā rukkhamūlagato vā suññāgāragato vā nisīdati pallaṅkaṃ ābhujitvā ujuṃ kāyaṃ paṇidhāya parimukhaṃ satiṃ upaṭṭhapetvā. So satova assasati satova passasati. Dīghaṃ vā assasanto ‘dīghaṃ assasāmī’ti pajānāti. Dīghaṃ vā passasanto ‘dīghaṃ passasāmī’ti pajānāti. Rassaṃ vā assasanto ‘rassaṃ assasāmī’ti pajānāti. Rassaṃ vā passasanto ‘rassaṃ passasāmī’ti pajānāti. ‘Sabbakāyapaṭisaṃvedī assasissāmī’ti sikkhati. ‘Sabbakāyapaṭisaṃvedī passasissāmī’ti sikkhati. ‘Passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ assasissāmī’ti sikkhati. ‘Passambhayaṃ kāyasaṅkhāraṃ passasissāmī’ti sikkhati. ‘Pītipaṭisaṃvedī assasissāmī’ti sikkhati. ‘Pītipaṭisaṃvedī passasissāmī’ti sikkhati. ‘Sukhapaṭisaṃvedī assasissāmī’ti sikkhati. ‘Sukhapaṭisaṃvedī passasissāmī’ti sikkhati. ‘Cittasaṅkhārapaṭisaṃvedī assasissāmī’ti sikkhati. ‘Cittasaṅkhārapaṭisaṃvedī passasissāmī’ti sikkhati. ‘Passambhayaṃ cittasaṅkhāraṃ assasissāmī’ti sikkhati. ‘Passambhayaṃ cittasaṅkhāraṃ passasissāmī’ti sikkhati. ‘Cittapaṭisaṃvedī assasissāmī’ti sikkhati. ‘Cittapaṭisaṃvedī passasissāmī’ti sikkhati . Abhippamodayaṃ cittaṃ…pe… samādahaṃ cittaṃ…pe… vimocayaṃ cittaṃ…pe… aniccānupassī…pe… virāgānupassī…pe… nirodhānupassī…pe… ‘paṭinissaggānupassī assasissāmī’ti sikkhati. ‘Paṭinissaggānupassī passasissāmī’ti sikkhati. Ayaṃ vuccatānanda, ānāpānassati.
‘‘สเจ โข ตฺวํ, อานนฺท, คิริมานนฺทสฺส ภิกฺขุโน อิมา ทส สญฺญา ภาเสยฺยาสิ, ฐานํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ คิริมานนฺทสฺส ภิกฺขุโน อิมา ทส สญฺญา สุตฺวา โส อาพาโธ ฐานโส ปฎิปฺปสฺสเมฺภยฺยา’’ติฯ
‘‘Sace kho tvaṃ, ānanda, girimānandassa bhikkhuno imā dasa saññā bhāseyyāsi, ṭhānaṃ kho panetaṃ vijjati yaṃ girimānandassa bhikkhuno imā dasa saññā sutvā so ābādho ṭhānaso paṭippassambheyyā’’ti.
อถ โข อายสฺมา อานโนฺท ภควโต สนฺติเก อิมา ทส สญฺญา อุคฺคเหตฺวา เยนายสฺมา คิริมานโนฺท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมโต คิริมานนฺทสฺส อิมา ทส สญฺญา อภาสิฯ อถ โข อายสฺมโต คิริมานนฺทสฺส ทส สญฺญา สุตฺวา โส อาพาโธ ฐานโส ปฎิปฺปสฺสมฺภิฯ วุฎฺฐหิ จายสฺมา คิริมานโนฺท ตมฺหา อาพาธาฯ ตถา ปหีโน จ ปนายสฺมโต คิริมานนฺทสฺส โส อาพาโธ อโหสี’’ติฯ ทสมํฯ
Atha kho āyasmā ānando bhagavato santike imā dasa saññā uggahetvā yenāyasmā girimānando tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmato girimānandassa imā dasa saññā abhāsi. Atha kho āyasmato girimānandassa dasa saññā sutvā so ābādho ṭhānaso paṭippassambhi. Vuṭṭhahi cāyasmā girimānando tamhā ābādhā. Tathā pahīno ca panāyasmato girimānandassa so ābādho ahosī’’ti. Dasamaṃ.
สจิตฺตวโคฺค ปฐโมฯ
Sacittavaggo paṭhamo.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
สจิตฺตญฺจ สาริปุตฺต, ฐิติ จ สมเถน จ;
Sacittañca sāriputta, ṭhiti ca samathena ca;
ปริหาโน จ เทฺว สญฺญา, มูลา ปพฺพชิตํ คิรีติฯ
Parihāno ca dve saññā, mūlā pabbajitaṃ girīti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. คิริมานนฺทสุตฺตวณฺณนา • 10. Girimānandasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑-๑๐. สจิตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-10. Sacittasuttādivaṇṇanā