Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā |
๓. คิริมานนฺทเตฺถรคาถาวณฺณนา
3. Girimānandattheragāthāvaṇṇanā
วสฺสติ เทโวติอาทิกา อายสฺมโต คิริมานนฺทเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุญฺญานิ อุปจินโนฺต สุเมธสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต ฆราวาสํ วสโนฺต อตฺตโน ภริยาย ปุเตฺต จ กาลงฺกเต โสกสลฺลสมปฺปิโต อรญฺญํ ปวิโฎฺฐ สตฺถารา ตตฺถ คนฺตฺวา ธมฺมํ กเถตฺวา โสกสเลฺล อพฺพูเฬฺห ปสนฺนมานโส สุคนฺธปุเปฺผหิ ปูเชตฺวา ปญฺจปติฎฺฐิเตน วนฺทิตฺวา สิรสิ อญฺชลิํ กตฺวา อภิตฺถวิฯ
Vassatidevotiādikā āyasmato girimānandattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave puññāni upacinanto sumedhassa bhagavato kāle kulagehe nibbattitvā vayappatto gharāvāsaṃ vasanto attano bhariyāya putte ca kālaṅkate sokasallasamappito araññaṃ paviṭṭho satthārā tattha gantvā dhammaṃ kathetvā sokasalle abbūḷhe pasannamānaso sugandhapupphehi pūjetvā pañcapatiṭṭhitena vanditvā sirasi añjaliṃ katvā abhitthavi.
โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห พิมฺพิสารรโญฺญ ปุโรหิตสฺส ปุโตฺต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, คิริมานโนฺทติสฺส นามํ อโหสิฯ โส วิญฺญุตํ ปโตฺต สตฺถุ ราชคหคมเน พุทฺธานุภาวํ ทิสฺวา ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรโนฺต กติปยํ ทิวสํ คามกาวาเส วสิตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตุํ ราชคหํ อคมาสิฯ พิมฺพิสารมหาราชา ตสฺส อาคมนํ สุตฺวา อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิเธว, ภเนฺต, วสถ, อหํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฎฺฐหามี’’ติ สมฺปวาเรตฺวา คโต พหุกิจฺจตาย น สริฯ ‘‘เถโร อโพฺภกาเส วสตี’’ติ เทวตา เถรสฺส เตมนภเยน วสฺสํ วาเรสุํฯ ราชา อวสฺสนการณํ สลฺลเกฺขตฺวา เถรสฺส กุฎิกํ การาเปสิฯ เถโร กุฎิกายํ วสโนฺต เสนาสนสปฺปายลาเภน สมาธานํ ลภิตฺวา วีริยสมตํ โยเชตฺวา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๔๐.๔๑๙-๔๔๘) –
So tena puññakammena devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde rājagahe bimbisārarañño purohitassa putto hutvā nibbatti, girimānandotissa nāmaṃ ahosi. So viññutaṃ patto satthu rājagahagamane buddhānubhāvaṃ disvā paṭiladdhasaddho pabbajitvā samaṇadhammaṃ karonto katipayaṃ divasaṃ gāmakāvāse vasitvā satthāraṃ vandituṃ rājagahaṃ agamāsi. Bimbisāramahārājā tassa āgamanaṃ sutvā upasaṅkamitvā ‘‘idheva, bhante, vasatha, ahaṃ catūhi paccayehi upaṭṭhahāmī’’ti sampavāretvā gato bahukiccatāya na sari. ‘‘Thero abbhokāse vasatī’’ti devatā therassa temanabhayena vassaṃ vāresuṃ. Rājā avassanakāraṇaṃ sallakkhetvā therassa kuṭikaṃ kārāpesi. Thero kuṭikāyaṃ vasanto senāsanasappāyalābhena samādhānaṃ labhitvā vīriyasamataṃ yojetvā vipassanaṃ ussukkāpetvā arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 1.40.419-448) –
‘‘ภริยา เม กาลงฺกตา, ปุโตฺต สิวถิกํ คโต;
‘‘Bhariyā me kālaṅkatā, putto sivathikaṃ gato;
มาตา ปิตา มตา ภาตา, เอกจิตมฺหิ ฑยฺหเรฯ
Mātā pitā matā bhātā, ekacitamhi ḍayhare.
‘‘เตน โสเกน สนฺตโตฺต, กิโส ปณฺฑุ อโหสหํ;
‘‘Tena sokena santatto, kiso paṇḍu ahosahaṃ;
จิตฺตเกฺขโป จ เม อาสิ, เตน โสเกน อฎฺฎิโตฯ
Cittakkhepo ca me āsi, tena sokena aṭṭito.
‘‘โสกสลฺลปเรโตหํ, วนนฺตมุปสงฺกมิํ;
‘‘Sokasallaparetohaṃ, vanantamupasaṅkamiṃ;
ปวตฺตผลํ ภุญฺชิตฺวา, รุกฺขมูเล วสามหํฯ
Pavattaphalaṃ bhuñjitvā, rukkhamūle vasāmahaṃ.
‘‘สุเมโธ นาม สมฺพุโทฺธ, ทุกฺขสฺสนฺตกโร ชิโน;
‘‘Sumedho nāma sambuddho, dukkhassantakaro jino;
มมุทฺธริตุกาโม โส, อาคญฺฉิ มม สนฺติกํฯ
Mamuddharitukāmo so, āgañchi mama santikaṃ.
‘‘ปทสทฺทํ สุณิตฺวาน, สุเมธสฺส มเหสิโน;
‘‘Padasaddaṃ suṇitvāna, sumedhassa mahesino;
ปคฺคเหตฺวานหํ สีสํ, อุโลฺลเกสิํ มหามุนิํฯ
Paggahetvānahaṃ sīsaṃ, ullokesiṃ mahāmuniṃ.
‘‘อุปาคเต มหาวีเร, ปีติ เม อุทปชฺชถ;
‘‘Upāgate mahāvīre, pīti me udapajjatha;
ตทาสิเมกคฺคมโน, ทิสฺวา ตํ โลกนายกํฯ
Tadāsimekaggamano, disvā taṃ lokanāyakaṃ.
‘‘สติํ ปฎิลภิตฺวาน, ปณฺณมุฎฺฐิมทาสหํ;
‘‘Satiṃ paṭilabhitvāna, paṇṇamuṭṭhimadāsahaṃ;
นิสีทิ ภควา ตตฺถ, อนุกมฺปาย จกฺขุมาฯ
Nisīdi bhagavā tattha, anukampāya cakkhumā.
‘‘นิสชฺช ตตฺถ ภควา, สุเมโธ โลกนายโก;
‘‘Nisajja tattha bhagavā, sumedho lokanāyako;
ธมฺมํ เม กถยี พุโทฺธ, โสกสลฺลวิโนทนํฯ
Dhammaṃ me kathayī buddho, sokasallavinodanaṃ.
‘‘อนวฺหิตา ตโต อาคุํ, อนนุญฺญาตา อิโต คตา;
‘‘Anavhitā tato āguṃ, ananuññātā ito gatā;
ยถาคตา ตถา คตา, ตตฺถ กา ปริเทวนาฯ
Yathāgatā tathā gatā, tattha kā paridevanā.
‘‘ยถาปิ ปถิกา สตฺตา, วสฺสมานาย วุฎฺฐิยา;
‘‘Yathāpi pathikā sattā, vassamānāya vuṭṭhiyā;
สภณฺฑา อุปคจฺฉนฺติ, วสฺสสฺสาปตนาย เตฯ
Sabhaṇḍā upagacchanti, vassassāpatanāya te.
‘‘วเสฺส จ เต โอรมิเต, สมฺปยนฺติ ยทิจฺฉกํ;
‘‘Vasse ca te oramite, sampayanti yadicchakaṃ;
เอวํ มาตา ปิตา ตุยฺหํ, ตตฺถ กา ปริเทวนาฯ
Evaṃ mātā pitā tuyhaṃ, tattha kā paridevanā.
‘‘อาคนฺตุกา ปาหุนกา, จลิเตริตกมฺปิตา;
‘‘Āgantukā pāhunakā, caliteritakampitā;
เอวํ มาตา ปิตา ตุยฺหํ, ตตฺถ กา ปริเทวนาฯ
Evaṃ mātā pitā tuyhaṃ, tattha kā paridevanā.
‘‘ยถาปิ อุรโค ชิณฺณํ, หิตฺวา คจฺฉติ สํ ตจํ;
‘‘Yathāpi urago jiṇṇaṃ, hitvā gacchati saṃ tacaṃ;
เอวํ มาตา ปิตา ตุยฺหํ, สํ ตนุํ อิธ หียเรฯ
Evaṃ mātā pitā tuyhaṃ, saṃ tanuṃ idha hīyare.
‘‘พุทฺธสฺส คิรมญฺญาย, โสกสลฺลํ วิวชฺชยิํ;
‘‘Buddhassa giramaññāya, sokasallaṃ vivajjayiṃ;
ปาโมชฺชํ ชนยิตฺวาน, พุทฺธเสฎฺฐํ อวนฺทหํฯ
Pāmojjaṃ janayitvāna, buddhaseṭṭhaṃ avandahaṃ.
‘‘วนฺทิตฺวาน มหานาคํ, ปูชยิํ คิริมญฺชริํ;
‘‘Vanditvāna mahānāgaṃ, pūjayiṃ girimañjariṃ;
ทิพฺพคนฺธํ สมฺปวนฺตํ, สุเมธํ โลกนายกํฯ
Dibbagandhaṃ sampavantaṃ, sumedhaṃ lokanāyakaṃ.
‘‘ปูชยิตฺวาน สมฺพุทฺธํ, สิเร กตฺวาน อญฺชลิํ;
‘‘Pūjayitvāna sambuddhaṃ, sire katvāna añjaliṃ;
อนุสฺสรํ คุณคฺคานิ, สนฺถวิํ โลกนายกํฯ
Anussaraṃ guṇaggāni, santhaviṃ lokanāyakaṃ.
‘‘นิตฺติโณฺณสิ มหาวีร, สพฺพญฺญุ โลกนายก;
‘‘Nittiṇṇosi mahāvīra, sabbaññu lokanāyaka;
สเพฺพ สเตฺต อุทฺธรสิ, ญาเณน ตฺวํ มหามุเนฯ
Sabbe satte uddharasi, ñāṇena tvaṃ mahāmune.
‘‘วิมติํ เทฺวฬฺหกํ วาปิ, สญฺฉินฺทสิ มหามุเน;
‘‘Vimatiṃ dveḷhakaṃ vāpi, sañchindasi mahāmune;
ปฎิปาเทสิ เม มคฺคํ, ตว ญาเณน จกฺขุมฯ
Paṭipādesi me maggaṃ, tava ñāṇena cakkhuma.
‘‘อรหา วสิปตฺตา จ, ฉฬภิญฺญา มหิทฺธิกา;
‘‘Arahā vasipattā ca, chaḷabhiññā mahiddhikā;
อนฺตลิกฺขจรา ธีรา, ปริวาเรนฺติ ตาวเทฯ
Antalikkhacarā dhīrā, parivārenti tāvade.
‘‘ปฎิปนฺนา จ เสขา จ, ผลฎฺฐา สนฺติ สาวกา;
‘‘Paṭipannā ca sekhā ca, phalaṭṭhā santi sāvakā;
สุโรทเยว ปทุมา, ปุปฺผนฺติ ตว สาวกาฯ
Surodayeva padumā, pupphanti tava sāvakā.
‘‘มหาสมุโทฺทวโกฺขโภ , อตุโลปิ ทุรุตฺตโร;
‘‘Mahāsamuddovakkhobho , atulopi duruttaro;
เอวํ ญาเณน สมฺปโนฺน, อปฺปเมโยฺยสิ จกฺขุมฯ
Evaṃ ñāṇena sampanno, appameyyosi cakkhuma.
‘‘วนฺทิตฺวาหํ โลกชินํ, จกฺขุมนฺตํ มหายสํ;
‘‘Vanditvāhaṃ lokajinaṃ, cakkhumantaṃ mahāyasaṃ;
ปุถุทิสา นมสฺสโนฺต, ปฎิกุฎิโก อาคญฺฉหํฯ
Puthudisā namassanto, paṭikuṭiko āgañchahaṃ.
‘‘เทวโลกา จวิตฺวาน, สมฺปชาโน ปติสฺสโต;
‘‘Devalokā cavitvāna, sampajāno patissato;
โอกฺกมิํ มาตุยา กุจฺฉิํ, สนฺธาวโนฺต ภวาภเวฯ
Okkamiṃ mātuyā kucchiṃ, sandhāvanto bhavābhave.
‘‘อคารา อภินิกฺขมฺม, ปพฺพชิํ อนคาริยํ;
‘‘Agārā abhinikkhamma, pabbajiṃ anagāriyaṃ;
อาตาปี นิปโก ฌายี, ปฎิสลฺลานโคจโรฯ
Ātāpī nipako jhāyī, paṭisallānagocaro.
‘‘ปธานํ ปทหิตฺวาน, โตสยิตฺวา มหามุนิํ;
‘‘Padhānaṃ padahitvāna, tosayitvā mahāmuniṃ;
จโนฺทวพฺภฆนา มุโตฺต, วิจรามิ อหํ สทาฯ
Candovabbhaghanā mutto, vicarāmi ahaṃ sadā.
‘‘วิเวกมนุยุโตฺตมฺหิ, อุปสโนฺต นิรูปธิ;
‘‘Vivekamanuyuttomhi, upasanto nirūpadhi;
สพฺพาสเว ปริญฺญาย, วิหรามิ อนาสโวฯ
Sabbāsave pariññāya, viharāmi anāsavo.
‘‘ติํสกปฺปสหสฺสมฺหิ, ยํ พุทฺธมภิปูชยิํ;
‘‘Tiṃsakappasahassamhi, yaṃ buddhamabhipūjayiṃ;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํฯ
Duggatiṃ nābhijānāmi, buddhapūjāyidaṃ phalaṃ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.
อถ เถรสฺส อรหตฺตปฺปตฺติยา หฎฺฐตุเฎฺฐ วิย เทเว วสฺสเนฺต อุปริ ตํ วสฺสเน นิโยชนมุเขน อญฺญํ พฺยากโรโนฺต –
Atha therassa arahattappattiyā haṭṭhatuṭṭhe viya deve vassante upari taṃ vassane niyojanamukhena aññaṃ byākaronto –
๓๒๕.
325.
‘‘วสฺสติ เทโว ยถาสุคีตํ, ฉนฺนา เม กุฎิกา สุขา นิวาตา;
‘‘Vassati devo yathāsugītaṃ, channā me kuṭikā sukhā nivātā;
ตสฺสํ วิหรามิ วูปสโนฺต, อถ เจ ปตฺถยสี ปวสฺส เทวฯ
Tassaṃ viharāmi vūpasanto, atha ce patthayasī pavassa deva.
๓๒๖.
326.
‘‘วสฺสติ เทโว ยถาสุคีตํ, ฉนฺนา เม กุฎิกา สุขา นิวาตา;
‘‘Vassati devo yathāsugītaṃ, channā me kuṭikā sukhā nivātā;
ตสฺสํ วิหรามิ สนฺตจิโตฺต, อถ เจ ปตฺถยสี ปวสฺส เทวฯ
Tassaṃ viharāmi santacitto, atha ce patthayasī pavassa deva.
๓๒๗.
327.
‘‘วสฺสติ เทโว…เป.… ตสฺสํ วิหรามิ วีตราโค…เป.…ฯ
‘‘Vassati devo…pe… tassaṃ viharāmi vītarāgo…pe….
๓๒๘.
328.
‘‘วสฺสติ เทโว…เป.… ตสฺสํ วิหรามิ วีตโทโส…เป.…ฯ
‘‘Vassati devo…pe… tassaṃ viharāmi vītadoso…pe….
๓๒๙.
329.
‘‘วสฺสติ เทโว…เป.… ตสฺสํ วิหรามิ วีตโมโห;
‘‘Vassati devo…pe… tassaṃ viharāmi vītamoho;
อถ เจ ปตฺถยสี ปวสฺส เทวา’’ติฯ – อิมา ปญฺจ คาถา อภาสิ;
Atha ce patthayasī pavassa devā’’ti. – imā pañca gāthā abhāsi;
ตตฺถ ยถาสุคีตนฺติ สุคีตานุรูปํ, สุนฺทรสฺส อตฺตโน เมฆคีตสฺส อนุรูปเมวาติ อโตฺถฯ วลาหโก หิ ยถา อคชฺชโนฺต เกวลํ วสฺสโนฺต น โสภติ, เอวํ สตปฎลสหสฺสปฎเลน อุฎฺฐหิตฺวา ถนยโนฺต คชฺชโนฺต วิชฺชุลฺลตา นิจฺฉาเรโนฺตปิ อวสฺสโนฺต น โสภติ, ตถาภูโต ปน หุตฺวา วสฺสโนฺต โสภตีติ วุตฺตํ ‘‘วสฺสติ เทโว ยถาสุคีต’’นฺติฯ เตนาห – ‘‘อภิตฺถนย, ปชฺชุนฺน’’ , (จริยา. ๓.๘๙; ชา. ๑.๑.๗๕) ‘‘คชฺชิตา เจว วสฺสิตา จา’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๐๑; ปุ. ป. ๑๕๗) จฯ ตสฺสํ วิหรามีติ ตสฺสํ กุฎิกายํ อริยวิหารคเพฺภน อิริยาปถวิหาเรน วิหรามิฯ วูปสนฺตจิโตฺตติ อคฺคผลสมาธินา สมฺมเทว อุปสนฺตมานโสฯ
Tattha yathāsugītanti sugītānurūpaṃ, sundarassa attano meghagītassa anurūpamevāti attho. Valāhako hi yathā agajjanto kevalaṃ vassanto na sobhati, evaṃ satapaṭalasahassapaṭalena uṭṭhahitvā thanayanto gajjanto vijjullatā nicchārentopi avassanto na sobhati, tathābhūto pana hutvā vassanto sobhatīti vuttaṃ ‘‘vassati devo yathāsugīta’’nti. Tenāha – ‘‘abhitthanaya, pajjunna’’ , (cariyā. 3.89; jā. 1.1.75) ‘‘gajjitā ceva vassitā cā’’ti (a. ni. 4.101; pu. pa. 157) ca. Tassaṃ viharāmīti tassaṃ kuṭikāyaṃ ariyavihāragabbhena iriyāpathavihārena viharāmi. Vūpasantacittoti aggaphalasamādhinā sammadeva upasantamānaso.
เอวํ เถรสฺส อเนกวารํ กตํ อุโยฺยชนํ สิรสา สมฺปฎิจฺฉโนฺต วลาหกเทวปุโตฺต นินฺนญฺจ ถลญฺจ ปูเรโนฺต มหาวสฺสํ วสฺสาเปสิฯ
Evaṃ therassa anekavāraṃ kataṃ uyyojanaṃ sirasā sampaṭicchanto valāhakadevaputto ninnañca thalañca pūrento mahāvassaṃ vassāpesi.
คิริมานนฺทเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Girimānandattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๓. คิริมานนฺทเตฺถรคาถา • 3. Girimānandattheragāthā