Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā)

    ๗. โคทตฺตสุตฺตวณฺณนา

    7. Godattasuttavaṇṇanā

    ๓๔๙. สตฺตเม นานตฺถา เจว นานาพฺยญฺชนา จาติ พฺยญฺชนมฺปิ เนสํ นานํ, อโตฺถปิฯ ตตฺถ พฺยญฺชนสฺส นานตา ปากฎาฯ อโตฺถ ปน อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ ภูมนฺตรโต มหคฺคตา โหติ รูปาวจรา, อารมฺมณโต สตฺตปณฺณตฺติอารมฺมณาฯ อากิญฺจญฺญา ภูมนฺตรโต มหคฺคตา อรูปาวจรา, อารมฺมณโต นวตฺตพฺพารมฺมณาฯ สุญฺญตา ภูมนฺตรโต กามาวจรา, อารมฺมณโต สงฺขารารมฺมณาฯ วิปสฺสนา หิ เอตฺถ สุญฺญตาติ อธิเปฺปตาฯ อนิมิตฺตา ภูมนฺตรโต โลกุตฺตรา, อารมฺมณโต นิพฺพานารมฺมณาฯ

    349. Sattame nānatthā ceva nānābyañjanā cāti byañjanampi nesaṃ nānaṃ, atthopi. Tattha byañjanassa nānatā pākaṭā. Attho pana appamāṇā cetovimutti bhūmantarato mahaggatā hoti rūpāvacarā, ārammaṇato sattapaṇṇattiārammaṇā. Ākiñcaññā bhūmantarato mahaggatā arūpāvacarā, ārammaṇato navattabbārammaṇā. Suññatā bhūmantarato kāmāvacarā, ārammaṇato saṅkhārārammaṇā. Vipassanā hi ettha suññatāti adhippetā. Animittā bhūmantarato lokuttarā, ārammaṇato nibbānārammaṇā.

    ราโค โข ภเนฺต ปมาณกรโณติอาทีสุ ยถา ปพฺพตปาเท ปูติปณฺณกสฎอุทกํ นาม โหติ กาฬวณฺณํ, โอโลเกนฺตานํ พฺยามสตคมฺภีรํ วิย ขายติ, ยฎฺฐิํ วา รชฺชุํ วา คเหตฺวา มินนฺตสฺส ปิฎฺฐิปาโทตฺถรณมตฺตมฺปิ น โหติ; เอวเมว ยาว ราคาทโย นุปฺปชฺชนฺติ, ตาว ปุคฺคลํ สญฺชานิตุํ น สกฺกา โหติ, โสตาปโนฺน วิย สกทาคามี วิย อนาคามี วิย จ ขายติฯ ยทา ปนสฺส ราคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, ตทา รโตฺต ทุโฎฺฐ มูโฬฺหติ ปญฺญายติฯ อิติ เต ‘‘เอตฺตโก อย’’นฺติ ปุคฺคลสฺส ปมาณํ ทเสฺสนฺตาว อุปฺปชฺชนฺตีติ ปมาณกรณา นาม วุตฺตาฯ

    Rāgo kho bhante pamāṇakaraṇotiādīsu yathā pabbatapāde pūtipaṇṇakasaṭaudakaṃ nāma hoti kāḷavaṇṇaṃ, olokentānaṃ byāmasatagambhīraṃ viya khāyati, yaṭṭhiṃ vā rajjuṃ vā gahetvā minantassa piṭṭhipādottharaṇamattampi na hoti; evameva yāva rāgādayo nuppajjanti, tāva puggalaṃ sañjānituṃ na sakkā hoti, sotāpanno viya sakadāgāmī viya anāgāmī viya ca khāyati. Yadā panassa rāgādayo uppajjanti, tadā ratto duṭṭho mūḷhoti paññāyati. Iti te ‘‘ettako aya’’nti puggalassa pamāṇaṃ dassentāva uppajjantīti pamāṇakaraṇā nāma vuttā.

    ยาวตา โข ภเนฺต อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติโยติ ยตฺตกา อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติโยฯ กิตฺตกา ปน ตา? จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา, จตฺตาโร มคฺคา, จตฺตาริ ผลานีติ ทฺวาทสฯ ตตฺร พฺรหฺมวิหารา ผรณอปฺปมาณตาย อปฺปมาณา, เสสา ปมาณการกานํ กิเลสานํ อภาเวน นิพฺพานมฺปิ อปฺปมาณเมว, เจโตวิมุตฺติ ปน น โหติ, ตสฺมา น คหิตํฯ อกุปฺปาติ อรหตฺตผลเจโตวิมุตฺติฯ สา หิ ตาสํ สพฺพเชฎฺฐิกา, ตสฺมา ‘‘อคฺคมกฺขายตี’’ติ วุตฺตาฯ ราโค โข ภเนฺต กิญฺจนนฺติ ราโค อุปฺปชฺชิตฺวา ปุคฺคลํ กิญฺจติ มทฺทติ ปลิพุนฺธติ, ตสฺมา กิญฺจนนฺติ วุโตฺตฯ มนุสฺสา กิร โคเณหิ ขลํ มทฺทาเปนฺตา ‘‘กิเญฺจหิ กปิล กิเญฺจหิ กาฬกา’’ติ วทนฺติฯ เอวํ มทฺทนโฎฺฐ กิญฺจนโฎฺฐติ เวทิตโพฺพฯ โทสโมเหสุปิเอเสว นโยฯ

    Yāvatā kho bhante appamāṇā cetovimuttiyoti yattakā appamāṇā cetovimuttiyo. Kittakā pana tā? Cattāro brahmavihārā, cattāro maggā, cattāri phalānīti dvādasa. Tatra brahmavihārā pharaṇaappamāṇatāya appamāṇā, sesā pamāṇakārakānaṃ kilesānaṃ abhāvena nibbānampi appamāṇameva, cetovimutti pana na hoti, tasmā na gahitaṃ. Akuppāti arahattaphalacetovimutti. Sā hi tāsaṃ sabbajeṭṭhikā, tasmā ‘‘aggamakkhāyatī’’ti vuttā. Rāgokho bhante kiñcananti rāgo uppajjitvā puggalaṃ kiñcati maddati palibundhati, tasmā kiñcananti vutto. Manussā kira goṇehi khalaṃ maddāpentā ‘‘kiñcehi kapila kiñcehi kāḷakā’’ti vadanti. Evaṃ maddanaṭṭho kiñcanaṭṭhoti veditabbo. Dosamohesupieseva nayo.

    อากิญฺจญฺญา เจโตวิมุตฺติโย นาม นว ธมฺมา อากิญฺจญฺญายตนํ มคฺคผลานิ จฯ ตตฺถ อากิญฺจญฺญายตนํ กิญฺจนํ อารมฺมณํ อสฺส นตฺถีติ อากิญฺจญฺญํฯ มคฺคผลานิ กิญฺจนานํ มทฺทนปลิพุนฺธนกิเลสานํ นตฺถิตาย อากิญฺจญฺญานิ, นิพฺพานมฺปิ อากิญฺจญฺญํ, เจโตวิมุตฺติ ปน น โหติ, ตสฺมา น คหิตํฯ

    Ākiñcaññā cetovimuttiyo nāma nava dhammā ākiñcaññāyatanaṃ maggaphalāni ca. Tattha ākiñcaññāyatanaṃ kiñcanaṃ ārammaṇaṃ assa natthīti ākiñcaññaṃ. Maggaphalāni kiñcanānaṃ maddanapalibundhanakilesānaṃ natthitāya ākiñcaññāni, nibbānampi ākiñcaññaṃ, cetovimutti pana na hoti, tasmā na gahitaṃ.

    ราโค โข ภเนฺต นิมิตฺตกรโณติอาทีสุ ยถา นาม ทฺวินฺนํ กุลานํ สทิสา เทฺว วจฺฉกา โหนฺติฯ ยาว เตสํ ลกฺขณํ น กตํ โหติ, ตาว ‘‘อยํ อสุกกุลสฺส วจฺฉโก, อยํ อสุกกุลสฺสา’’ติ น สกฺกา โหติ ชานิตุํฯ ยทา ปน เตสํ ติสูลาทีสุ อญฺญตรํ ลกฺขณํ กตํ โหติ, ตทา สกฺกา โหติ ชานิตุํฯ เอวเมว ยาว ปุคฺคลสฺส ราโค นุปฺปชฺชติ, ตาว น สกฺกา โหติ ชานิตุํ ‘‘อริโย วา ปุถุชฺชโน วา’’ติฯ ราโค ปนสฺส อุปฺปชฺชมาโนว ‘‘สราโค นาม อยํ ปุคฺคโล’’ติ สญฺชานนนิมิตฺตํ กโรโนฺต วิย อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา นิมิตฺตกรโณติ วุโตฺตฯ โทสโมเหสุปิ เอเสว นโยฯ

    Rāgo kho bhante nimittakaraṇotiādīsu yathā nāma dvinnaṃ kulānaṃ sadisā dve vacchakā honti. Yāva tesaṃ lakkhaṇaṃ na kataṃ hoti, tāva ‘‘ayaṃ asukakulassa vacchako, ayaṃ asukakulassā’’ti na sakkā hoti jānituṃ. Yadā pana tesaṃ tisūlādīsu aññataraṃ lakkhaṇaṃ kataṃ hoti, tadā sakkā hoti jānituṃ. Evameva yāva puggalassa rāgo nuppajjati, tāva na sakkā hoti jānituṃ ‘‘ariyo vā puthujjano vā’’ti. Rāgo panassa uppajjamānova ‘‘sarāgo nāma ayaṃ puggalo’’ti sañjānananimittaṃ karonto viya uppajjati, tasmā nimittakaraṇoti vutto. Dosamohesupi eseva nayo.

    อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติโย นาม เตรส ธมฺมา วิปสฺสนา, จตฺตาโร อารุปฺปา, จตฺตาโร มคฺคา, จตฺตาริ ผลานิฯ ตตฺถ วิปสฺสนา นิจฺจนิมิตฺตํ สุขนิมิตฺตํ อตฺตนิมิตฺตํ อุคฺฆาเฎตีติ อนิมิตฺตา นามฯ จตฺตาโร อารุปฺปา รูปนิมิตฺตสฺส อภาวา อนิมิตฺตา นามฯ มคฺคผลานิ นิมิตฺตกรานํ กิเลสานํ อภาเวน อนิมิตฺตานิ, นิพฺพานมฺปิ อนิมิตฺตเมว, ตํ ปน เจโตวิมุตฺติ น โหติ, ตสฺมา น คหิตํฯ อถ กสฺมา สุญฺญตา เจโตวิมุตฺติ น คหิตาติ? สา ‘‘สุญฺญา ราเคนา’’ติอาทิวจนโต สพฺพตฺถ อนุปวิฎฺฐาว, ตสฺมา วิสุํ น คหิตาติฯ

    Animittā cetovimuttiyo nāma terasa dhammā vipassanā, cattāro āruppā, cattāro maggā, cattāri phalāni. Tattha vipassanā niccanimittaṃ sukhanimittaṃ attanimittaṃ ugghāṭetīti animittā nāma. Cattāro āruppā rūpanimittassa abhāvā animittā nāma. Maggaphalāni nimittakarānaṃ kilesānaṃ abhāvena animittāni, nibbānampi animittameva, taṃ pana cetovimutti na hoti, tasmā na gahitaṃ. Atha kasmā suññatā cetovimutti na gahitāti? Sā ‘‘suññā rāgenā’’tiādivacanato sabbattha anupaviṭṭhāva, tasmā visuṃ na gahitāti.

    เอกตฺถาติ อารมฺมณวเสน เอกตฺถา ‘‘อปฺปมาณํ อากิญฺจญฺญํ สุญฺญตํ อนิมิตฺต’’นฺติ หิ สพฺพาเนตานิ นิพฺพานเสฺสว นามานิฯ อิติ อิมินา ปริยาเยน เอกตฺถาฯ อญฺญสฺมิํ ปน ฐาเน อปฺปมาณาปิ โหติ, อญฺญสฺมิํ อากิญฺจญฺญา, อญฺญสฺมิํ สุญฺญตา, อญฺญสฺมิํ อนิมิตฺตาติ อิมินา ปริยาเยน นานาพฺยญฺชนาติฯ

    Ekatthāti ārammaṇavasena ekatthā ‘‘appamāṇaṃ ākiñcaññaṃ suññataṃ animitta’’nti hi sabbānetāni nibbānasseva nāmāni. Iti iminā pariyāyena ekatthā. Aññasmiṃ pana ṭhāne appamāṇāpi hoti, aññasmiṃ ākiñcaññā, aññasmiṃ suññatā, aññasmiṃ animittāti iminā pariyāyena nānābyañjanāti.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๗. โคทตฺตสุตฺตํ • 7. Godattasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๗. โคทตฺตสุตฺตวณฺณนา • 7. Godattasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact