Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๑๓๘] ๘. โคธาชาตกวณฺณนา
[138] 8. Godhājātakavaṇṇanā
กิํ เต ชฎาหิ ทุเมฺมธาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต เอกํ กุหกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ เหฎฺฐา กถิตสทิสเมวฯ
Kiṃ te jaṭāhi dummedhāti idaṃ satthā jetavane viharanto ekaṃ kuhakabhikkhuṃ ārabbha kathesi. Paccuppannavatthu heṭṭhā kathitasadisameva.
อตีเต ปน พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต โคธาโยนิยํ ปฎิสนฺธิํ คณฺหิฯ ตทา เอโก ปญฺจาภิโญฺญ อุคฺคตโป ตาปโส เอกํ ปจฺจนฺตคามํ นิสฺสาย อรญฺญายตเน ปณฺณสาลายํ วสติ, คามวาสิโน ตาปสํ สกฺกจฺจํ อุปฎฺฐหนฺติฯ โพธิสโตฺต ตสฺส จงฺกมนโกฎิยํ เอกสฺมิํ วมฺมิเก วสติ, วสโนฺต จ ปน ทิวเส ทิวเส เทฺว ตโย วาเร ตาปสํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมูปสํหิตํ อตฺถูปสํหิตญฺจ วจนํ สุตฺวา ตาปสํ วนฺทิตฺวา วสนฎฺฐานเมว คจฺฉติฯ อปรภาเค ตาปโส คามวาสิโน อาปุจฺฉิตฺวา ปกฺกามิฯ ปกฺกมเนฺต จ ปน ตสฺมิํ สีลวตสมฺปเนฺน ตาปเส อโญฺญ กูฎตาปโส อาคนฺตฺวา ตสฺมิํ อสฺสมปเท วาสํ กเปฺปสิฯ โพธิสโตฺต ‘‘อยมฺปิ สีลวา’’ติ สลฺลเกฺขตฺวา ปุริมนเยเนว ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิฯ
Atīte pana bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto godhāyoniyaṃ paṭisandhiṃ gaṇhi. Tadā eko pañcābhiñño uggatapo tāpaso ekaṃ paccantagāmaṃ nissāya araññāyatane paṇṇasālāyaṃ vasati, gāmavāsino tāpasaṃ sakkaccaṃ upaṭṭhahanti. Bodhisatto tassa caṅkamanakoṭiyaṃ ekasmiṃ vammike vasati, vasanto ca pana divase divase dve tayo vāre tāpasaṃ upasaṅkamitvā dhammūpasaṃhitaṃ atthūpasaṃhitañca vacanaṃ sutvā tāpasaṃ vanditvā vasanaṭṭhānameva gacchati. Aparabhāge tāpaso gāmavāsino āpucchitvā pakkāmi. Pakkamante ca pana tasmiṃ sīlavatasampanne tāpase añño kūṭatāpaso āgantvā tasmiṃ assamapade vāsaṃ kappesi. Bodhisatto ‘‘ayampi sīlavā’’ti sallakkhetvā purimanayeneva tassa santikaṃ agamāsi.
อเถกทิวสํ นิทาฆสมเย อกาลเมเฆ วุเฎฺฐ วมฺมิเกหิ มกฺขิกา นิกฺขมิํสุ, ตาสํ ขาทนตฺถํ โคธา อาหิณฺฑิํสุฯ คามวาสิโน นิกฺขมิตฺวา มกฺขิกาขาทกา โคธา คเหตฺวา สินิทฺธสมฺภารสํยุตฺตํ อมฺพิลานมฺพิลํ โคธามํสํ สมฺปาเทตฺวา ตาปสสฺส อทํสุฯ ตาปโส โคธามํสํ ขาทิตฺวา รสตณฺหาย พโทฺธ ‘‘อิทํ มํสํ อติมธุรํ, กิสฺส มํสํ นาเมต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘โคธามํส’’นฺติ สุตฺวา ‘‘มม สนฺติกํ มหาโคธา อาคจฺฉติ, ตํ มาเรตฺวา มํสํ ขาทิสฺสามี’’ติ จิเนฺตสิฯ จิเนฺตตฺวา จ ปน ภาชนญฺจ สปฺปิโลณาทีนิ จ อาหราเปตฺวา เอกมเนฺต ฐเปตฺวา มุคฺครมาทาย กาสาเวน ปฎิจฺฉาเทตฺวา ปณฺณสาลาทฺวาเร โพธิสตฺตสฺส อาคมนํ โอโลกยมาโน อุปสนฺตูปสโนฺต วิย หุตฺวา นิสีทิ โพธิสโตฺต สายนฺหสมเย ‘‘ตาปสสฺส สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ นิกฺขมิตฺวา อุปสงฺกมโนฺตว ตสฺส อินฺทฺริยวิปฺปการํ ทิสฺวา จิเนฺตสิ ‘‘นายํ ตาปโส อเญฺญสุ ทิวเสสุ นิสีทนากาเรน นิสิโนฺน, อเชฺชส มํ โอโลเกโนฺตปิ ทุฎฺฐินฺทฺริโย หุตฺวา โอโลเกติ, ปริคฺคณฺหิสฺสามิ น’’นฺติฯ โส ตาปสสฺส เหฎฺฐาวาเต ฐตฺวา โคธามํสคนฺธํ ฆายิตฺวา ‘‘อิมินา กูฎตาปเสน อชฺช โคธามํสํ ขาทิตํ ภวิสฺสติ, เตเนส รสตณฺหาย พโทฺธ อชฺช มํ อตฺตโน สนฺติกํ อุปสงฺกมนฺตํ มุคฺคเรน ปหริตฺวา มํสํ ปจิตฺวา ขาทิตุกาโม ภวิสฺสตี’’ติ ตสฺส สนฺติกํ อนุปคนฺตฺวาว ปฎิกฺกมิตฺวา วิจรติฯ
Athekadivasaṃ nidāghasamaye akālameghe vuṭṭhe vammikehi makkhikā nikkhamiṃsu, tāsaṃ khādanatthaṃ godhā āhiṇḍiṃsu. Gāmavāsino nikkhamitvā makkhikākhādakā godhā gahetvā siniddhasambhārasaṃyuttaṃ ambilānambilaṃ godhāmaṃsaṃ sampādetvā tāpasassa adaṃsu. Tāpaso godhāmaṃsaṃ khāditvā rasataṇhāya baddho ‘‘idaṃ maṃsaṃ atimadhuraṃ, kissa maṃsaṃ nāmeta’’nti pucchitvā ‘‘godhāmaṃsa’’nti sutvā ‘‘mama santikaṃ mahāgodhā āgacchati, taṃ māretvā maṃsaṃ khādissāmī’’ti cintesi. Cintetvā ca pana bhājanañca sappiloṇādīni ca āharāpetvā ekamante ṭhapetvā muggaramādāya kāsāvena paṭicchādetvā paṇṇasālādvāre bodhisattassa āgamanaṃ olokayamāno upasantūpasanto viya hutvā nisīdi bodhisatto sāyanhasamaye ‘‘tāpasassa santikaṃ gamissāmī’’ti nikkhamitvā upasaṅkamantova tassa indriyavippakāraṃ disvā cintesi ‘‘nāyaṃ tāpaso aññesu divasesu nisīdanākārena nisinno, ajjesa maṃ olokentopi duṭṭhindriyo hutvā oloketi, pariggaṇhissāmi na’’nti. So tāpasassa heṭṭhāvāte ṭhatvā godhāmaṃsagandhaṃ ghāyitvā ‘‘iminā kūṭatāpasena ajja godhāmaṃsaṃ khāditaṃ bhavissati, tenesa rasataṇhāya baddho ajja maṃ attano santikaṃ upasaṅkamantaṃ muggarena paharitvā maṃsaṃ pacitvā khāditukāmo bhavissatī’’ti tassa santikaṃ anupagantvāva paṭikkamitvā vicarati.
ตาปโส โพธิสตฺตสฺส อนาคมนภาวํ ญตฺวา ‘‘อิมินา ‘อยํ มํ ปหริตุกาโม’ติ ญาตํ ภวิสฺสติ, เตน การเณน นาคจฺฉติ, อนาคจฺฉนฺตสฺสาปิสฺส กุโต มุตฺตี’’ติ มุคฺครํ นีหริตฺวา ขิปิฯ โส ตสฺส อคฺคนงฺคุฎฺฐเมว อาสาเทสิฯ โพธิสโตฺต เวเคน วมฺมิกํ ปวิสิตฺวา อเญฺญน ฉิเทฺทน สีสํ อุกฺขิปิตฺวา ‘‘อโมฺภ กูฎชฎิล, อหํ ตว สนฺติกํ อุปสงฺกมโนฺต ‘สีลวา’ติ สญฺญาย อุปสงฺกมิํ, อิทานิ ปน เต มยา กูฎภาโว ญาโต, ตาทิสสฺส มหาโจรสฺส กิํ อิมินา ปพฺพชฺชาลิเงฺคนา’’ติ วตฺวา ตํ ครหโนฺต อิมํ คาถมาห –
Tāpaso bodhisattassa anāgamanabhāvaṃ ñatvā ‘‘iminā ‘ayaṃ maṃ paharitukāmo’ti ñātaṃ bhavissati, tena kāraṇena nāgacchati, anāgacchantassāpissa kuto muttī’’ti muggaraṃ nīharitvā khipi. So tassa agganaṅguṭṭhameva āsādesi. Bodhisatto vegena vammikaṃ pavisitvā aññena chiddena sīsaṃ ukkhipitvā ‘‘ambho kūṭajaṭila, ahaṃ tava santikaṃ upasaṅkamanto ‘sīlavā’ti saññāya upasaṅkamiṃ, idāni pana te mayā kūṭabhāvo ñāto, tādisassa mahācorassa kiṃ iminā pabbajjāliṅgenā’’ti vatvā taṃ garahanto imaṃ gāthamāha –
๑๓๘.
138.
‘‘กิํ เต ชฎาหิ ทุเมฺมธ, กิํ เต อชินสาฎิยา;
‘‘Kiṃ te jaṭāhi dummedha, kiṃ te ajinasāṭiyā;
อพฺภนฺตรํ เต คหนํ, พาหิรํ ปริมชฺชสี’’ติฯ
Abbhantaraṃ te gahanaṃ, bāhiraṃ parimajjasī’’ti.
ตตฺถ กิํ เต ชฎาหิ ทุเมฺมธาติ อโมฺภ ทุเมฺมธ, นิปฺปญฺญ เอตา ปพฺพชิเตน ธาเรตพฺพา ชฎา, ปพฺพชฺชาคุณรหิตสฺส กิํ เต ตาหิ ชฎาหีติ อโตฺถฯ กิํ เต อชินสาฎิยาติ อชินสาฎิยา อนุจฺฉวิกสฺส สํวรสฺส อภาวกาลโต ปฎฺฐาย กิํ เต อชินสาฎิยาฯ อพฺภนฺตรํ เต คหนนฺติ ตว อพฺภนฺตรํ หทยํ ราคโทสโมหคหเนน คหนํ ปฎิจฺฉนฺนํฯ พาหิรํ ปริมชฺชสีติ โส ตฺวํ อพฺภนฺตเร คหเน นฺหานาทีหิ เจว ลิงฺคคหเนน จ พาหิรํ ปริมชฺชสิ, ตํ ปริมชฺชโนฺต กญฺชิกปูริตลาพุ วิย วิสปูริตจาฎิ วิย อาสีวิสปูริตวมฺมิโก วิย คูถปูริตจิตฺตฆโฎ วิย จ พหิมโฎฺฐว โหสิ, กิํ ตยา โจเรน อิธ วสเนฺตน, สีฆํ อิโต ปลายาหิ, โน เจ ปลายสิ, คามวาสีนํ เต อาจิกฺขิตฺวา นิคฺคหํ การาเปสฺสามีติฯ
Tattha kiṃ te jaṭāhi dummedhāti ambho dummedha, nippañña etā pabbajitena dhāretabbā jaṭā, pabbajjāguṇarahitassa kiṃ te tāhi jaṭāhīti attho. Kiṃ te ajinasāṭiyāti ajinasāṭiyā anucchavikassa saṃvarassa abhāvakālato paṭṭhāya kiṃ te ajinasāṭiyā. Abbhantaraṃ te gahananti tava abbhantaraṃ hadayaṃ rāgadosamohagahanena gahanaṃ paṭicchannaṃ. Bāhiraṃ parimajjasīti so tvaṃ abbhantare gahane nhānādīhi ceva liṅgagahanena ca bāhiraṃ parimajjasi, taṃ parimajjanto kañjikapūritalābu viya visapūritacāṭi viya āsīvisapūritavammiko viya gūthapūritacittaghaṭo viya ca bahimaṭṭhova hosi, kiṃ tayā corena idha vasantena, sīghaṃ ito palāyāhi, no ce palāyasi, gāmavāsīnaṃ te ācikkhitvā niggahaṃ kārāpessāmīti.
เอวํ โพธิสโตฺต กูฎตาปสํ ตเชฺชตฺวา วมฺมิกเมว ปาวิสิ, กูฎตาปโสปิ ตโต ปกฺกามิฯ
Evaṃ bodhisatto kūṭatāpasaṃ tajjetvā vammikameva pāvisi, kūṭatāpasopi tato pakkāmi.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กูฎตาปโส อยํ กุหโก อโหสิ, ปุริโม สีลวนฺตตาปโส สาริปุโตฺต, โคธาปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā kūṭatāpaso ayaṃ kuhako ahosi, purimo sīlavantatāpaso sāriputto, godhāpaṇḍito pana ahameva ahosi’’nti.
โคธาชาตกวณฺณนา อฎฺฐมาฯ
Godhājātakavaṇṇanā aṭṭhamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๑๓๘. โคธชาตกํ • 138. Godhajātakaṃ