Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๓๒๕] ๕. โคธราชชาตกวณฺณนา

    [325] 5. Godharājajātakavaṇṇanā

    สมณํ ตํ มญฺญมาโนติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต เอกํ กุหกํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ วตฺถุ เหฎฺฐา วิตฺถาริตเมวฯ อิธาปิ ภิกฺขู ตํ ภิกฺขุํ อาเนตฺวา ‘‘อยํ, ภเนฺต, ภิกฺขุ กุหโก’’ติ สตฺถุ ทเสฺสสุํฯ สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุเพฺพเปส กุหโกเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

    Samaṇaṃ taṃ maññamānoti idaṃ satthā jetavane viharanto ekaṃ kuhakaṃ bhikkhuṃ ārabbha kathesi. Vatthu heṭṭhā vitthāritameva. Idhāpi bhikkhū taṃ bhikkhuṃ ānetvā ‘‘ayaṃ, bhante, bhikkhu kuhako’’ti satthu dassesuṃ. Satthā ‘‘na, bhikkhave, idāneva, pubbepesa kuhakoyevā’’ti vatvā atītaṃ āhari.

    อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต โคธโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต กายพเลน สมฺปโนฺน อรเญฺญ วสติ ฯ เอโก ทุสีลตาปโสปิ ตสฺส อวิทูเร ปณฺณสาลํ มาเปตฺวา วาสํ กเปฺปสิฯ โพธิสโตฺต โคจราย จรโนฺต ตํ ทิสฺวา ‘‘สีลวนฺตตาปสสฺส ปณฺณสาลา ภวิสฺสตี’’ติ ตตฺถ คนฺตฺวา ตํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน วสนฎฺฐานเมว คจฺฉติฯ อเถกทิวสํ โส กูฎตาปโส อุปฎฺฐากกุเล สมฺปาทิตํ มธุรมํสํ ลภิตฺวา ‘‘กิํ มํสํ นาเมต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘โคธมํส’’นฺติ สุตฺวา รสตณฺหาย อภิภูโต ‘‘มยฺหํ อสฺสมปทํ นิพทฺธํ อาคจฺฉมานํ โคธํ มาเรตฺวา ยถารุจิ ปจิตฺวา ขาทิสฺสามี’’ติ สปฺปิทธิกฎุกภณฺฑาทีนิ คเหตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา มุคฺครํ คเหตฺวา กาสาเวน ปฎิจฺฉาเทตฺวา โพธิสตฺตสฺส อาคมนํ โอโลเกโนฺต ปณฺณสาลทฺวาเร อุปสนฺตูปสโนฺต วิย นิสีทิฯ

    Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto godhayoniyaṃ nibbattitvā vayappatto kāyabalena sampanno araññe vasati . Eko dusīlatāpasopi tassa avidūre paṇṇasālaṃ māpetvā vāsaṃ kappesi. Bodhisatto gocarāya caranto taṃ disvā ‘‘sīlavantatāpasassa paṇṇasālā bhavissatī’’ti tattha gantvā taṃ vanditvā attano vasanaṭṭhānameva gacchati. Athekadivasaṃ so kūṭatāpaso upaṭṭhākakule sampāditaṃ madhuramaṃsaṃ labhitvā ‘‘kiṃ maṃsaṃ nāmeta’’nti pucchitvā ‘‘godhamaṃsa’’nti sutvā rasataṇhāya abhibhūto ‘‘mayhaṃ assamapadaṃ nibaddhaṃ āgacchamānaṃ godhaṃ māretvā yathāruci pacitvā khādissāmī’’ti sappidadhikaṭukabhaṇḍādīni gahetvā tattha gantvā muggaraṃ gahetvā kāsāvena paṭicchādetvā bodhisattassa āgamanaṃ olokento paṇṇasāladvāre upasantūpasanto viya nisīdi.

    โส อาคนฺตฺวา ตํ ปทุฎฺฐินฺทฺริยํ ทิสฺวา ‘‘อิมินา อมฺหากํ สชาติกมํสํ ขาทิตํ ภวิสฺสติ, ปริคฺคณฺหิสฺสามิ น’’นฺติ อโธวาเต ฐตฺวา สรีรคนฺธํ ฆายิตฺวา สชาติมํสสฺส ขาทิตภาวํ ญตฺวา ตาปสํ อนุปคมฺม ปฎิกฺกมิตฺวา จริฯ ตาปโสปิ ตสฺส อนาคมนภาวํ ญตฺวา มุคฺครํ ขิปิ, มุคฺคโร สรีเร อปติตฺวา นงฺคุฎฺฐโกฎิํ ปาปุณิฯ ตาปโส ‘‘คจฺฉ วิรโทฺธสฺมี’’ติ อาหฯ โพธิสโตฺต ‘‘มํ ตาว วิรโทฺธสิ, จตฺตาโร ปน อปาเย น วิรโทฺธสี’’ติ วตฺวา ปลายิตฺวา จงฺกมนโกฎิยํ ฐิตํ วมฺมิกํ ปวิสิตฺวา อเญฺญน ฉิเทฺทน สีสํ นีหริตฺวา เตน สทฺธิํ สลฺลปโนฺต เทฺว คาถา อภาสิ –

    So āgantvā taṃ paduṭṭhindriyaṃ disvā ‘‘iminā amhākaṃ sajātikamaṃsaṃ khāditaṃ bhavissati, pariggaṇhissāmi na’’nti adhovāte ṭhatvā sarīragandhaṃ ghāyitvā sajātimaṃsassa khāditabhāvaṃ ñatvā tāpasaṃ anupagamma paṭikkamitvā cari. Tāpasopi tassa anāgamanabhāvaṃ ñatvā muggaraṃ khipi, muggaro sarīre apatitvā naṅguṭṭhakoṭiṃ pāpuṇi. Tāpaso ‘‘gaccha viraddhosmī’’ti āha. Bodhisatto ‘‘maṃ tāva viraddhosi, cattāro pana apāye na viraddhosī’’ti vatvā palāyitvā caṅkamanakoṭiyaṃ ṭhitaṃ vammikaṃ pavisitvā aññena chiddena sīsaṃ nīharitvā tena saddhiṃ sallapanto dve gāthā abhāsi –

    ๙๗.

    97.

    ‘‘สมณํ ตํ มญฺญมาโน, อุปคจฺฉิมสญฺญตํ;

    ‘‘Samaṇaṃ taṃ maññamāno, upagacchimasaññataṃ;

    โส มํ ทเณฺฑน ปาหาสิ, ยถา อสฺสมโณ ตถาฯ

    So maṃ daṇḍena pāhāsi, yathā assamaṇo tathā.

    ๙๘.

    98.

    ‘‘กิํ เต ชฎาหิ ทุเมฺมธ, กิํ เต อชินสาฎิยา;

    ‘‘Kiṃ te jaṭāhi dummedha, kiṃ te ajinasāṭiyā;

    อพฺภนฺตรํ เต คหนํ, พาหิรํ ปริมชฺชสี’’ติฯ

    Abbhantaraṃ te gahanaṃ, bāhiraṃ parimajjasī’’ti.

    ตตฺถ อสญฺญตนฺติ อหํ กายาทีหิ อสญฺญตํ อสฺสมณเมว สมานํ ตํ ‘‘สมโณ เอโส’’ติ สมิตปาปตาย สมณํ มญฺญมาโน อุปคจฺฉิํฯ ปาหาสีติ ปหริฯ อชินสาฎิยาติ เอกํสํ กตฺวา ปารุเตน อชินจเมฺมน ตุยฺหํ โก อโตฺถฯ อพฺภนฺตรํ เต คหนนฺติ ตว สรีรพฺภนฺตรํ วิสปูรา วิย อลาพุ, คูถปูโร วิย อาวาโฎ, อาสีวิสปูโร วิย วมฺมิโก กิเลสคหนํฯ พาหิรนฺติ เกวลํ พหิสรีรํ ปริมชฺชสิ , ตํ อโนฺตผรุสตาย พหิมฎฺฐตาย หตฺถิลณฺฑํ วิย อสฺสลณฺฑํ วิย จ โหตีติฯ

    Tattha asaññatanti ahaṃ kāyādīhi asaññataṃ assamaṇameva samānaṃ taṃ ‘‘samaṇo eso’’ti samitapāpatāya samaṇaṃ maññamāno upagacchiṃ. Pāhāsīti pahari. Ajinasāṭiyāti ekaṃsaṃ katvā pārutena ajinacammena tuyhaṃ ko attho. Abbhantaraṃ te gahananti tava sarīrabbhantaraṃ visapūrā viya alābu, gūthapūro viya āvāṭo, āsīvisapūro viya vammiko kilesagahanaṃ. Bāhiranti kevalaṃ bahisarīraṃ parimajjasi, taṃ antopharusatāya bahimaṭṭhatāya hatthilaṇḍaṃ viya assalaṇḍaṃ viya ca hotīti.

    ตํ สุตฺวา ตาปโส ตติยํ คาถมาห –

    Taṃ sutvā tāpaso tatiyaṃ gāthamāha –

    ๙๙.

    99.

    ‘‘เอหิ โคธ นิวตฺตสฺสุ, ภุญฺช สาลีนโมทนํ;

    ‘‘Ehi godha nivattassu, bhuñja sālīnamodanaṃ;

    เตลํ โลณญฺจ เม อตฺถิ, ปหูตํ มยฺห ปิปฺผลี’’ติฯ

    Telaṃ loṇañca me atthi, pahūtaṃ mayha pipphalī’’ti.

    ตตฺถ ปหูตํ มยฺห ปิปฺผลีติ น เกวลํ สาลีนโมทนํ เตลโลณเมว, หิงฺคุชีรกสิงฺคิเวรลสุณมริจปิปฺผลิปฺปเภทํ กฎุกภณฺฑมฺปิ มยฺหํ พหุ อตฺถิ, เตนาภิสงฺขตํ สาลีนโมทนํ ภุญฺชาหีติฯ

    Tattha pahūtaṃ mayha pipphalīti na kevalaṃ sālīnamodanaṃ telaloṇameva, hiṅgujīrakasiṅgiveralasuṇamaricapipphalippabhedaṃ kaṭukabhaṇḍampi mayhaṃ bahu atthi, tenābhisaṅkhataṃ sālīnamodanaṃ bhuñjāhīti.

    ตํ สุตฺวา โพธิสโตฺต จตุตฺถํ คาถมาห –

    Taṃ sutvā bodhisatto catutthaṃ gāthamāha –

    ๑๐๐.

    100.

    ‘‘เอส ภิโยฺย ปเวกฺขามิ, วมฺมิกํ สตโปริสํ;

    ‘‘Esa bhiyyo pavekkhāmi, vammikaṃ sataporisaṃ;

    เตลํ โลณญฺจ กิเตฺตสิ, อหิตํ มยฺห ปิปฺผลี’’ติฯ

    Telaṃ loṇañca kittesi, ahitaṃ mayha pipphalī’’ti.

    ตตฺถ ปเวกฺขามีติ ปวิสิสฺสามิฯ อหิตนฺติ ยํ เอตํ ตว กฎุกภณฺฑสงฺขาตํ ปิปฺผลิ, เอตํ มยฺหํ อหิตํ อสปฺปายนฺติฯ

    Tattha pavekkhāmīti pavisissāmi. Ahitanti yaṃ etaṃ tava kaṭukabhaṇḍasaṅkhātaṃ pipphali, etaṃ mayhaṃ ahitaṃ asappāyanti.

    เอวญฺจ ปน วตฺวา ‘‘อเร, กูฎชฎิล, สเจ อิธ วสิสฺสสิ, โคจรคาเม มนุเสฺสเหว ตํ ‘อยํ โจโร’ติ คาหาเปตฺวา วิปฺปการํ ปาเปสฺสามิ, สีฆํ ปลายสฺสู’’ติ สนฺตเชฺชสิฯ กูฎชฎิโล ตโต ปลายิฯ

    Evañca pana vatvā ‘‘are, kūṭajaṭila, sace idha vasissasi, gocaragāme manusseheva taṃ ‘ayaṃ coro’ti gāhāpetvā vippakāraṃ pāpessāmi, sīghaṃ palāyassū’’ti santajjesi. Kūṭajaṭilo tato palāyi.

    สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กูฎชฎิโล อยํ กุหกภิกฺขุ อโหสิ, โคธราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

    Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā kūṭajaṭilo ayaṃ kuhakabhikkhu ahosi, godharājā pana ahameva ahosi’’nti.

    โคธราชชาตกวณฺณนา ปญฺจมาฯ

    Godharājajātakavaṇṇanā pañcamā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๓๒๕. โคธราชชาตกํ • 325. Godharājajātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact